ตอนที่ 173 : เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ

บริเวณมุมหนึ่งของล็อบบี้

“หลัวเฟิง คุณต้องการที่จะรับอะไรดี?” หยางฮุยยิ้มขณะที่เขามอบเมนูจากพนักงานเสิร์ฟไปยังหลัวเฟิง

“โอ้?”

หลัวเฟิงรับมาด้วยความอยากรู้ เขาเปิดเมนูและดู อาหารทุกจานและ

เครื่องดื่มมีคำอธิบายภาษาอังกฤษและภาษาจีน ด้านหลังมีราคา ที่เขียนขึ้นในรูปดอลลาร์โลก ดอลลาร์จีน ดอลล่าร์ยูโร รูเบิ้ล (รัสเซีย) และรูปี(อินเดีย)

“ไวน์ 1 แก้ว ราคาเกือบ 100,000 ดอลลาร์?”

“หูมังกรคืออะไร ราคามันตั้ง 880,000 ดอลล่าร์?”

“อืม อาหารจานเหล่านี้อร่อยดีเหมือนกัน ราคาจานละ 100,000 ดอลล่าร์จีน”

หลัวเฟิงรู้สึกตกใจและไม่สามารถยิ้มให้กับเทพสงครามข้างๆ เขาได้ เขายิ้มในขณะที่เขากล่าวว่า “ทุกคนนี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่พระราชวังเทพสงคราม แต่ผมคิดว่าราคาอาหารที่นี่ค่อนข้างแพง”

อาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่เสมือนเป็นเพียงของเสมือนจริง แต่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้อในโลกจริง

“ราคาแพง แต่ไม่เป็นไร” ครูใหญ่ด้านข้างส่ายศีรษะ ขณะที่เขาถอน

หายใจ และกล่าวด้วยภาษาจีนที่เพี้ยนๆ ของเขาว่า “อาหารและ

เครื่องดื่มในพระราชวังเทพสงครามนี้ หาซื้อที่อื่นไม่ได้! แม้ว่าอาหาร

และเครื่องดื่มในพื้นที่เสมือนจริงจะเสมือนจริง 100% แต่มันก็ให้

ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังรับประทานอาหารจริงๆ ตราบเท่าที่คุณไม่

ต้องการที่จะกินให้อิ่ม มันจะคุ้มค่าที่ได้ลิ้มลอง”

เทพสงครามทั่วไปจะทดลองสั่งอาหารและเครื่องดื่ม บางครั้งพวกเขาก็เสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินหลายล้านเหรียญจีน

ถ้ามันเป็นอาหารที่ฟุ่มเฟือยแล้ว มันอาจจะมีราคามากกว่าสิบล้าน

เหรียญจีน!

เฉพาะคนร่ำรวยที่สุดในโลก เช่น ‘เทพสงคราม’ เท่านั้น ที่สามารถจะใช้จ่ายเงินเช่นนี้ได้ คนร่ำรวยทั่วไปไม่กล้าที่จะฟุ่มเฟือยเช่นนี้ สำหรับเทพสงคราม แม้ว่าพวกเขาจะทำงานให้กับองค์กรบางแห่ง เงินเดือน

ประจำปีประมาณห้าพันล้านเหรียญก็เป็นเรื่องปกติ สำหรับเทพสงครามที่แข็งแกร่งอย่างหลัวเฟิง เขาก็ต้องล่าสัตว์ประหลาดในระดับของ ‘T-Rex’ หรือมังกรเกราะเหล็ก เพื่อหารายได้ 1 หมื่นล้าน…

พวกเขาจะต้องเป็นห่วง เรื่องค่าอาหารอยู่ไหม?

“รสชาติมันเหมือนจริง…” หลัวเฟิงเอ่ยปากชม

“สำหรับรสชาติแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงจะสามารถเปรียบเทียบกับ

พื้นที่เสมือนได้อย่างไร” หยางฮุยหัวเราะ

หลัวเฟิงถามกลุ่มนี้ว่า “ผมเคยสงสัยเกี่ยวกับจำนวนตัวแทนที่อยู่ใน

พระราชวังเทพสงคราม พวกเขาอยู่ตลอดเวลาหรือไม่”

หากคุณเป็นตัวแทน คุณก็มีฐานะเกินกว่าระดับเทพสงครามมากขึ้น

“ตัวแทนทั้งหมด 52 คน และประธานใหญ่ห้าคน” จือเต๋าหัวเราะ

“ตัวแทน 52 คน คนมีจำนวนมากเพียงนี้?” หลัวเฟิงรู้สึกตกใจมาก

“มาก?”

ครูที่ด้านข้างส่ายหัว “ภายใต้ประธานใหญ่ทั้งห้าคน มีตัวแทนเพียง 52 คนเท่านั้น มีประชากรกว่า 7 พันล้านคนทั่วโลก จะมีตัวแทน 1 คนต่อประชากรทุกๆ 100 ล้านคน และ สำนักขีดสุด “สามผู้นำ” และ “ห้าผู้ตรวจการณ์ ” ได้ยึดตำแหน่งไปถึงแปดตำแหน่งแล้ว!”

“ขณะที่ สำนักสายฟ้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีจำนวนมากเท่าที่เรา แต่ก็มีตัวแทนถึง 6 คนด้วยกัน”

“นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ไม่เต็มใจที่จะทำงานให้กับคนอื่นและได้สร้างกลุ่ม

ทหารรับจ้างของพวกเขาเอง พวกเขามีตัวแทนเจ็ดหรือแปดคน อีกห้าหรือหกคนอยู่ที่พันธมิตร HR หากนับรวมแล้ว ก็มีประมาณ 25-30 คนแล้ว” ครูส่ายหน้าเล็กน้อย จากการพยายามพูดภาษาจีนทั้งหมด

“นอกจากนี้ ห้าประเทศที่แข็งแกร่ง และอีก 23 เมืองใหญ่ พวกเขาก็มี

ตัวแทนอีก 20 คน! และยังมีตัวแทนที่ไม่ค่อยแสดงตน พวกเขามักจะ

หลบซ่อนตัวจากโลกที่วุ่นวาย ละเว้นทุกองค์กรอีกเป็นจำนวนมาก”

หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ ขณะที่เขาฟัง

สำนักขีดสุด, สำนักสายฟ้า, กลุ่มทหารรับจ้างที่หลากหลายและ

พันธมิตร HR รวมแล้วมีจำนวนตัวแทนมากกว่าครึ่ง

“สำหรับตัวแทนที่จงรักภักดีและยินดีที่จะให้บริการในประเทศของตน

เช่น จีนจะมีประมาณสามหรือสี่คน” หยางฮุยยิ้ม “แน่นอนว่าอำนาจ

ของประเทศไม่สามารถถูกมองข้ามได้ ตัวอย่างเช่น ตัวแทนบางคนของสำนักขีดสุดของเราเป็นชาวจีน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของสำนักขีดสุด หากประเทศจีนขอความช่วยเหลือมา… พวกเขาก็จะยินดีช่วย”

หลัวเฟิงพยักหน้า

ตัวแทนอาจอยู่ในกลุ่มพันธมิตร HR หรือกลายเป็นทหารรับจ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ช่วยประเทศแม่ของพวกเขาเมื่อถึงเวลา! เนื่องจากเป็นประเทศแม่ของพวกเขา! ดังนั้นในประเทศหนึ่งอาจมีตัวแทนอยู่ได้สามถึงสี่คน แต่จริงๆ แล้วสามารถเรียกตัวแทนได้มากเจ็ดถึงแปดคน

“หลัวเฟิง พวกเราไปที่ร้านของพระราชวังเทพสงครามสักหน่อยไหม? สิ่งที่ขายที่นั้นมีราคาถูกกว่าภายนอก” หยางฮุยแนะนำ

หลัวเฟิงสนใจมากขึ้น ขณะที่เขาถามว่า “มีบ้านประมูลที่นี่ใช่มั้ย?”

“แน่นอน”

จือเต๋าถือแก้วไวน์ไว้ด้านข้าง ขณะที่พูดด้วยความตื่นเต้น “การประมูลรายเดือนน่าสนใจมากทีเดียว! เทพสงครามกว่า 90% บนโลก จะมาในวันนั้น!… แม้แต่การประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังมีปัญหาในการรวบรวมผู้คนจากทุกองค์กร มีเพียงแค่พระราชวังเทพสงคราม เท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้!”

หลัวเฟิงพยักหน้า แต่ละเมืองใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่โดยเฉพาะในทวีปต่างๆ จะถูกแยกออกเพราะทะเล รูปแบบการขนส่งเพียงอย่างเดียวคือเครื่องบินพาณิชย์ซึ่งค่อนข้างลำบาก

อย่างไรก็ตามพระราชวังเทพสงคราม… ช่วยให้นักสู้ที่มีอำนาจทุกคน

ในโลกสามารถมารวมตัวกันได้

“การประมูลที่นี่สามารถรวบรวมผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีสิ่งที่

น่าสนใจมากมาย” หยางฮุยอธิบาย “เรายังสามารถตั้งค่าสิ่งของของเราในการประมูลเองได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามมีเงื่อนไขบางประการ…

วัตถุที่คุณต้องการประมูลจะต้องมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งพันล้านเหรียญ ไม่มีข้อจำกัดราคาขาย”

“มียาอายุวัฒนะหรือไม่?” หลัวเฟิงถามโดยตรง

“ในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่าน มียาอายุวัฒนะออกประมูล 5 ครั้ง” หยางฮุย

กล่าวว่า “ถ้าความจำของผมยังไม่ผิดเพี้ยน ก็จะมียาอายุวัฒนะในการ

ประมูลในเดือนนี้ด้วย”

หลัวเฟิงรู้สึกดีใจและสับสน

ทำไมถึงมียาอายุวัฒนะจำนวนมาก? ไม่ใช่ว่ารัฐบาลอเมริกันต้องการให้ยาอายุวัฒนะเป็นของหายาก?

“รัฐบาลอเมริกันเปิดประมูลยาอายุวัฒนะจำนวนมากได้อย่างไร?” หลัวเฟิงถามด้วยเสียงที่สับสน

“ยาอายุวัฒนะดูเหมือนมีคุณค่าในโลกภายนอก” หยางฮุยหัวเราะพลางกล่าวว่า “ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะมีการประมูลเปิดสำหรับนักสู้ทุกคน และจะมียาอายุวัฒนะเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น! อย่างไรก็ตาม…นี่คือพระราชวังเทพสงคราม!”

“ในพระราชวังเทพสงคราม มีของมีค่าจำนวนมากที่จะออกประมูลทุก

เดือน สิ่งที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญและนับหมื่นล้านเหรียญ! หาก

รัฐบาลอเมริกันขายยาอายุวัฒนะเพียงส่วนหนึ่งตลอดปี พวกเขาจะทำเงินได้มากแค่ไหน?”

“โลกภายนอกไม่ได้รู้เรื่องการประมูลในพระราชวังเทพสงคราม ดังนั้นหากพวกเขาขายสินค้าให้มากขึ้น พวกเขาจะหาเงินได้มากขึ้นหรือไม่?” หยางฮุยยิ้มให้

หลัวเฟิงพยักหน้า

“ในการประมูลก่อนหน้านี้ มันมีราคาเท่าไหร่?” หลัวเฟิงถาม

“ราคาเริ่มต้นคือ 1 หมื่นล้านเหรียญจีน ในที่สุดก็ขายได้ประมาณ 2

หมื่นล้านเหรียญจีน” หยางฮุยหัวเราะ “บางทีมันอาจถึง 3 หมื่นล้านในการประมูลทั่วไป แต่ไม่มีใครในพระราชวังเทพสงครามโง่…ถ้าราคาสูงไป ก็ไม่มีใครต้องการมัน”

หลัวเฟิงมีความสุขมาก เทพสงครามแต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์กัน

พระราชวังเทพสงคราม คือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของเทพสงครามในโลก ดังนั้นจึงกลายเป็นตลาดใหญ่ๆ ตัวอย่างเช่น ถ้ารัฐบาลอเมริกันต้องการสร้างรายได้ด้วย ‘ยาอายุวัฒนะ’ เขาจะต้องขายมันภายในพระราชวังเทพสงคราม

“การประมูลในเดือนนี้จะเริ่มต้นเมื่อไหร่” หลัวเฟิงถาม

“ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้” หยางฮุยกล่าว “การประมูลจะมีทุกเดือนและ

ทุกวันที่ 15 ของเดือน”

หลัวเฟิงพยักหน้า

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม น้องชายของเขาจะสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

อีกเพียงไม่กี่วัน…

ที่ล็อบบี้ของพระราชวังเทพสงคราม มีคนบางคนกำลังเดินลงบันไดมา

“ใครคือหลัวเฟิง?” ชายชราคนหนึ่งที่สวมชุดขาว เดินไปทางกลุ่มเพื่อนของเขาและนั่งลงขณะที่เขาถามอย่างเบาๆ

“เขาอยู่ข้างๆ หยางฮุยและคนอื่นๆ” ชายหัวโล้น กล่าวเบาๆ “ดูนั้น?

เทพสงครามของสำนักขีดสุดกำลังคุยกับหลัวเฟิง”

นับตั้งแต่หลัวเฟิงเปิดเผยตัวเอง เทพสงครามทุกคนรีบรายงานต่อเจ้านายของพวกเขา

“ชายหนุ่มคนนั้น?” ชายชราชุดขาวมองเขาอย่างระมัดระวังและพยักหน้า “กลิ่นอายของเขาแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มองตาคู่นั้น …”

ดวงตาเป็นหน้าต่างของจิตวิญญาณ ถ้า “จิตวิญญาณ” ของคนปกติดี ดวงตาของพวกเขาจะสดใส ถ้าวิญญาณของพวกเขาเหน็ดเหนื่อย ดวงตาของพวกเขาจะสลัว

สำหรับผู้อ่านจิตวิญญาณ… เมื่อพวกเขาสงบ ดวงตาของพวกเขาจะนิ่งสงบลึกเหมือนหนองน้ำ ที่ไม่สามารถมองเห็นก้นได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาโกรธ พวกเขาอาจทำให้นักสู้ที่ไม่แข็งแกร่ง รู้สึกสั่นสะท้านได้ ดังนั้นผู้อ่านจิตวิญญาณทุกคนจะมีออร่าที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเกิดจากพลังทางจิตวิญญาณที่ทรงพลัง

“หาเวลาไปติดต่อกับเขา” ชายชุดขาวคนหนึ่งพูดอย่างเบาๆ ว่า “ใน

อนาคตเราจะสามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้ เมื่อเราประสบปัญหา โอ้ ใช่… ก่อนที่ผมจะมาที่นี้ ผมได้รับคำขอร้องจาก สำนักขีดสุด ขอให้รัฐบาลช่วยค้นหาญาติของพ่อแม่ของหลัวเฟิง นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ใกล้ชิดเขา ดังนั้นเราควรจะรีบลงมือสร้างผลงานด้วย”

“ตกลง”

เทพสงครามคนอื่นๆ ก็พยักหน้าด้วย

“สำนักที่ 11 ของเราจะได้รับประโยชน์อย่างมาก กับความช่วยเหลือ

ของหลัวเฟิง” ชายชราอีกคนยิ้ม

หลัวเฟิงได้รับตำแหน่ง ‘เทพสงครามระดับอยู่ยงคงกระพัน’ เขาอยู่ใน

ตำแหน่งที่สูงของสำนักขีดสุด ข่าวนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งคู่รัก หลีเย่าและเวนีน่าที่อยู่ในยุโรป ยังได้รับข่าวนี้จากเพื่อนของพวกเขา

…..

ในวิลล่าอันเงียบสงบและมืดมน คู่รักหลีเย่าและเวนีน่ากำลังยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ขณะรอ

เวนีน่าตอบอย่างเงียบๆ

“แน่นอน” สายตาของหลีเย่าจ้องไปข้างหน้า ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น

เวนีน่าถอนหายใจขณะที่เธอได้เห็นเรื่องนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่เกาะหมอก หลีเย่า เปลี่ยนเป็นคนที่ดื่มเหล้าอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นเขากลายเป็นคนเงียบขรึม เขาจมอยู่กับความเกลียดชัง เขาคิดแต่การแก้แค้นเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม… พวกเขาไม่มีความสามารถในการฆ่าหลัวเฟิง!

“เซอร์ มาดาม” ชายชราสวมสูทเรียก “นายท่านอยู่ชั้นบน รอให้คุณสองคนขึ้นไป”

หลีเย่าและเวนีน่าก็ตกใจแล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง ชายชราในชุด

สูทพูดอย่างเย็นชาว่า “ตามผมมา”

เขาเดินนำทั้งสองคนเข้าห้อง

หลังจากที่เขาพาพวกเขาไปที่ห้องที่เงียบสงบและเปิดประตู ชายชราในชุดสูทหันไปมองหลีเย่าและเวนีน่า ทั้งสองหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเดินเข้าไปข้างใน

ห้องเงียบสงบ พื้นที่ส่วนใหญ่ว่างเปล่า

มีเพียงกลิ่นของไม้จันทน์ที่กระจายอยู่ในอากาศของห้องที่เงียบสงบ

ชายชรานั่งไขว้กันอยู่ในห้องเงียบๆ ทรงผมยาวลงไปถึงเอว และเขาดูเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว

“ผู้อาวุโส” หลีเย่าโค้งคำนับ

“ตัวแทนหย่า” เวนีน่ายังโค้งคำนับ

“นั่ง” เสียงต่ำตอบรับ ชายชราผมขาวลืมตาและมองไปที่หลีเย่าและเวนีน่า ตาของชายชราคนนี้พร่ามัว ราวกับว่าเขาเป็นชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจ เขาไม่มีร่องรอยของการเป็นนักสู้ที่มีพลัง แต่ หลีเย่าและเวนีน่ายังไม่กล้าที่จะไม่สุภาพกับเขา

หลีเย่าก็ทรุดตัวลง กราบลงบนพื้นขณะที่เขากระแทกหน้าผากของเขากับพื้นดิน น้ำตาไหลรดหน้า

“น้องเย่า มีเรื่องอะไรร้ายแรงที่ทำให้คุณร้องไห้ได้?” ชายชราถาม

อย่างสงบ

“ผู้อาวุโส” หลีเย่าก้มหน้าขณะที่พูดว่า “ลูกชายคนเดียวของผมถูกฆ่า

โดยชายหนุ่มที่ชื่อหลัวเฟิง ผมต้องการแก้แค้น แก้แค้นให้กับลูกของผม! อย่างไรก็ตาม ผมไม่มีความสามารถที่จะทำได้ เนื่องจากความ

แข็งแกร่งของหลัวเฟิงอยู่ในระดับเทพสงคราม ขั้นอยู่ยงคงกระพัน ผมไม่สามารถสู้กับเขาได้ แต่ว่า…ลูกของผม…”

หลีเย่ากำหมัดของเขา เล็บของเขาจมเข้าไปในฝ่ามือของเขา ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย

“ผมไม่สนใจอะไรในโลกนี้ แต่ลูกของผม…” เสียงของหลีเย่าเริ่มสั่น

เขาเป็นคนโหดเหี้ยม ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับฉายาอีแร้ง เมื่อตอนที่เขายังเด็ก เขาได้ผ่านประสบการณ์ในช่วงยุคมหานิพพาน นั้นจึงทำให้เขามีความโหดเหี้ยม แต่ในหัวใจของเขา เขาเป็นคนที่รักครอบครัวมาก!

ลูกชายคนเดียวของเขา…

เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างของเขา! หลังจากที่เลี้ยงดูมาประมาณ 20 ปี

ความรู้สึกเหล่านี้ได้ถูกแกะสลักไว้ในจิตวิญญาณของเขาแล้ว

“ผมขอ…ผู้อาวุโส คุณช่วยฆ่าหลัวเฟิง ผมยินดีที่จะเป็นทาสของผู้อาวุโสตลอดชีวิตที่เหลือของผม” หลีเย่าโขกหน้าผากของเขาบนพื้นและก้มศีรษะไว้

ชายชรานิ่งเงียบ มองหลีเย่า

หลีเย่าก้มศีรษะลงบนพื้น เหมือนที่เขารอคำตอบของชายชรา แม้เวนีน่าก็ก้มศีรษะของเธอบนพื้นด้วยเช่นกัน

“แม้ว่าเจ้าและข้าได้ผ่านอะไรมามากมายด้วยกัน…แต่เบื้องหลังของ

หลัวเฟิงนี้” ชายชรากล่าวเบาๆ

ศีรษะของหลีเย่ายังคงอยู่บนพื้นขณะที่เขาตอบ “หลัวเฟิง ผู้อ่านวิญญาณระดับสูง อายุ 19 ปี จากเมืองเจียงหนาน ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักขีดสุด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ‘ผู้ตรวจสอบ’ ของเมืองเจียงหนาน

ชายชรากำลังขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้!” ชายชราคนนั้นพูด

หลีเย่าเงยศีรษะขึ้นทันที เขามองไปยังชายชราคนนี้ด้วยความไม่เชื่อ…

นี่เป็นความหวังสุดท้ายของเขา เขาและนักสู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าเหล่านี้มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขาได้ผ่านยุคมหานิพพานมาด้วยกัน

หลีเย่าอาจจะเห็นแก่ตัวและโหดร้าย แต่เขาก็ภูมิใจมากดังนั้น เขาจึงไม่เคยขอร้องให้ผู้อาวุโสคนนี้ช่วยมาก่อน

“เพราะหง?” หลีเย่าไม่สามารถห้ามความคิดได้ เขาถาม

“ถูกต้อง” ชายชราตอบอย่างไม่ลังเลเลย

เขามีพลังมากและเคยต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งประธานของพระราชวังเทพสงคราม แม้ว่าเขาจะล้มเหลวก็ตาม…

ไม่ใช่เขาคนเดียวในโลกที่ไม่กล้าเป็นศัตรูกับหง หงเป็นเหมือนพระเจ้าที่มองดูนักสู้ทั้งหมด! อาจจะมีเพียงประธานคนที่สองคือ เทพสายฟ้าซึ่งมีพลังใกล้เคียงกับหง สำหรับประธานที่สาม, สี่และห้า ไม่มีใครกล้าพอที่จะโจมตีหงได้

ดังนั้นอย่าแม้แต่จะพูดถึงตัวแทนหย่า แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์พิเศษกับหลีเย่า แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาจะท้าทายหง

ชายหนุ่มอายุ 19 ปี ที่เป็นเทพสงครามระดับอยู่ยงคงกระพัน ถึงแม้จะเป็นคนปัญญาอ่อน ก็ยังรู้ว่าหงจะดูแลเขาด้วยความระมัดระวัง

หลีเย่ากำหมัดแน่น มือของเขากลายเป็นสีขาวซีด และมีเลือดไหลออกจากฝ่ามือของเขา เขาจ้องไปที่ชายชราตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

เมื่อชายชราเห็นเรื่องนี้… ดูเหมือนว่าเขาจะได้เห็นชายหนุ่มที่บ้าคลั่ง

ในยุคมหานิพพานกลับมาอีกครั้ง เขาถอนหายใจเบาๆ

“คุณต้องการที่จะฆ่าหลัวเฟิง คุณจะยอมตายในการแก้แค้นนี้หรือ?” ชายชราคนนั้นพูดเบาๆ

“ใช่” เสียงของหลีเย่าหนักแน่น

“ถ้าเช่นนั้น ก็ฝึกฝนให้ทะลุระดับที่แข็งแกร่งขึ้น และกลายเป็นผู้ที่มี

อำนาจมากขึ้น” ชายชราพูดต่อ “ด้วยวิธีนี้คุณจะมีโอกาสที่จะฆ่าเขา

แน่นอน…คุณต้องเผชิญกับความโกรธของหง หงอาจจะสูญเสียคนที่

มีพรสวรรค์และปล่อยคุณไป แต่เขาก็อาจ…ฆ่าคุณเพราะความโกรธ”

ดวงตาของหลีเย่าแน่วแน่ “ผู้อาวุโส ได้โปรดช่วยผมด้วย”

“นี่คือบันทึกการฝึกฝนของฉัน เทคนิคที่ฉันฝึกอยู่ในนั้น…นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ที่พิเศษของฉันด้วย” ชายชรายื่นหนังสือที่

เขียนด้วยลายมือ “ฉันหวังว่ามันจะช่วยคุณได้”

ขณะที่เขากล่าวจบเขาโยนมันออกไป

หลีเย่ายื่นมือขึ้นแล้วรับไป

“จำไว้ว่า…”

“การพัฒนาและกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง กุญแจสำคัญอยู่ที่ ‘จิตวิญญาณ’ และ ‘การเปลี่ยนจิตวิญญาณ’ ”

ชายชราหลับตา “พวกคุณสามารถออกไปได้!”

หลีเย่าและเวนีน่าก้มหัวของพวกเขาลงบนพื้น ด้วยความขอบคุณและ

ออกไปทันที