ตอนที่ 453 จักรพรรดิทรูหยัน
สะพานสวรรค์ที่ยืนออกไปยังเส้นขอบฟ้า ขณะที่หมอกได้กลืนกินมัน
หลัวเฟิงได้เข้าสู่สะพาน 9 จักรวาล เสียงบาบาต้าดังขึ้นภายในใจของเขา “หลัวเฟิง เราเพิ่งได้รับจดหมายจากองค์กรจักรวาลเสมือน”
“มันว่ายังไง” หลัวเฟิงถาม
“มันเป็นระบบคะแนนสะสม” บาบาต้ากล่าว
“คะแนนอะไร?”
หลัวเฟิงยืนอยู่บนสะพานกำลังรู้สึกตื่นเต้น มีหลายรายการที่มีค่ามากภายในองค์กรจักรวาลเสมือน เช่น อาวุธวิญญาณระดับ 5 มีมูลค่าน้อยที่สุดเพียงแค่ 10 คะแนน แม้กระทั่งผลไม้ชีวิตก็มีให้แลกเปลี่ยน
แต่ว่าต้องมีคะแนนในการแลกเปลี่ยนพวกมัน ถึงแม้จะมีความมั่งคั่ง
จำนวนมาก แต่ภายในองค์กรจักรวาลเสมือนใช้ระบบคะแนนเท่านั้น
“ระบบคะแนนในการแลกเปลี่ยนมีหลายวิธีทำให้ได้รับคะแนนมากขึ้น”
“ตอนนี้ในเมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล มี 1 วิธีที่จะได้รับคะแนน
คือการผ่านสะพานสวรรค์” บาบาต้ากล่าว
“ผ่านระดับ 1 คุณจะได้ 100 คะแนน”
“ผ่านระดับที่ 2 ได้รับ 200 คะแนน”
“ผ่านระดับที่ 3 ได้รับ 400 คะแนน”
“ถ้าสูงขึ้นไปอีกจะเป็น 800…1,600…3,200…”
หลัวเฟิงรีบคำนวนอย่างรวดเร็ว ถ้าผ่านไป 10 ระดับ 20 ระดับ มันจะเป็นคะแนนที่บ้ามาก
ทว่าการผ่านระดับที่ 21 จะกลายเป็นหนึ่งผู้นำ จักรวรรดิ แสดงให้เห็นถึงความยากที่จะได้รับคะแนน
“หลัวเฟิง จดหมายบอกว่าคุณเป็นคนใหม่ของปฐมนครแห่งความโกลาหล อัจฉริยะรุ่นเยาว์ขององค์กรจักรวาลเสมือน มีระบบรางวัลพิเศษ ตราบเท่าที่ผ่านแต่ละระดับภายใน 30 ปี แรก ในการอยู่อาศัยพวกเขาจะได้รับรางวัล 10 เท่า หมายความว่า…”
“ในช่วง 30 ปี ถ้าผ่านระดับที่ 1 คุณจะได้รับคะแนน 1,000 คะแนน
ระดับสองจะเป็น 2,000 คะแนน รางวัล 10 เท่านี้มีเฉพาะผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ครั้งแรก ถ้าคุณกลับมาในอนาคตจะไม่มีสิ่งดีๆ เช่นนี้”
หลัวเฟิงพยักหน้า
นี่เป็นรางวัลพิเศษสำหรับเยาวชน แต่ทว่าเยาวชนหลายคนเพิ่งเริ่มเข้าใจกฎต้นกำเนิด
ในสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์กล่าวก่อนหน้า จาก 1,000 อัจฉริยะที่เขามามี 900 คนได้พยายามที่จะผ่าน คนอื่นๆ นอกจากโบแลน ไม่มีใครสามารถผ่านระดับที่ 1
หลัวเฟิงมองไปที่สะพานสวรรค์ที่ขยายออกไปไม่สิ้นสุด ในที่สุดเขาหยีตาแล้วกลายเป็นลำแสงพุ่งไปข้างหน้า
………..
“ถ้าใครอยากจะเป็นสมาชิกชั่วนิรันดรของเมืองปฐมนครแห่งความ
โกลาหลมีหลายวิธี แต่ผลงานในการผ่านสะพานสวรรค์ระดับ 18 พวกเขา สามารถเปิดนิกายย่อยของตัวเองภายในเมืองได้” เจียโมพูดเสียงดัง
“52 นิกาย มีหลายนิกายย่อย” เฉวียนฉวีพยักหน้า
“ภายในนิกาย พวกเขามีความสำเร็จสูงมาก เพื่อให้สามารถเข้าไปใน
นิกายย่อยเหล่านี้ เพื่อฟังบทเรียนของนักสู้ที่แข็งแกร่ง อย่างน้อยต้อง
ผ่านระดับที่ 3”
นี่เป็นสถานที่ฝึกฝนอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติ ด้วย 52 นิกายใหญ่
และทุกๆ นิกายมีนักสู้ที่แข็งแกร่งหลายคนที่มีนิกายย่อยของตัวเอง มีสิทธิ์ที่จะสร้างนิกายย่อยของตัวเองต้องผ่านสะพานระดับ 18
ผู้นำ นิกายเหล่านี้จะให้บทเรียนอย่างบริสุทธิ์ใจ
พวกลูกศิษย์อยากจะไปฟัง
อย่างแรกต้องผ่านระดับ 3 ถึงได้รับสิทธิ์เข้าฟังในชั้นเรียน ถ้าไม่ผ่าน
ระดับ 3 ก็จะไม่มีสิทธิ์ใดๆ เลย
“52 จารึกแห่งความสับสน มีระดับที่แตกต่างกัน” เจียโมกล่าว “บางที่
มี 21 ระดับ บางที่มี 24 ระดับ สูงสุดคือ 32 ระดับ มีเพียงจารึกสะพานสวรรค์ขวานยักษ์ที่มี 32 ระดับ”
ระดับของสะพานสะท้อนความลึกซึ้งของจารึกแห่งความสับสน
การผ่านระดับ 21 ในแต่ละสะพานทั้งหมด อาจจะกลายเป็นผู้นำ
จักรวรรดิจักรวาล
“สิ่งที่ลึกซึ้งกว่า ไม่ใช่ว่ามันจะดีกว่า” เฉวียนฉวีส่ายหัว “การสร้าง
ผู้นำ จักรวรรดิ เป็นเรื่องยากมาก นับล้านล้านอัจฉริยะแทบไม่มีผู้ใดผ่านระดับ 21 ถ้าใครที่สามารถผ่านระดับ 21 ได้ คงเป็นส่วนของจารึกขวานยักษ์”
“ใช่” เจียโมพยักหน้า
ภายใน 52 จารึกแห่งความสับสน จารึก 9 จักรวาลถือได้ว่ามีความลึกซึ้งเป็นอันดับที่ 5
ก่อนที่จะกลายเป็นผู้นำ จักรวรรดิ หากพูดถึงความลึกซึ้งของจารึกนั้นไม่มีความหมายเลย เช่นเดียวกับ 3 ภาพสุดท้ายของจารึก 9 จักรวาล
หลัวเฟิงไม่รู้สึกถึงอะไรในพวกมันเลย แม้แต่ร่องรอยของกฎต้นกำเนิด
———
ปฐมนครแห่งความโกลาหล ภายในเจดีย์ 9 ชั้น
ปฐมนครแห่งความโกลาหลถูกสร้างขึ้นด้วยสิ่งก่อสร้างเหมือนกันมาก
ที่สุด และพื้นที่การฝึกฝน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งก่อสร้างพิเศษหลายแห่ง แสดงถึงพื้นที่พิเศษและสถานะ
ชั้น 7 ของเจดีย์ 9 ชั้น
ผู้หญิงที่สวมชุดผ้าฝ้ายสีดำ นั่งไขว้ขา ครึ่งล่างของร่างกายของเธอเป็นหางงูขนาดใหญ่ หางงูขดเป็นวงยอมให้เธอนั่งไขว้ขา
(TL คนแต่งเขาว่างี้ก็ตามนี้…ถึงจะงงก็เถอะ)
การแสดงออกของเธอยากที่จะเข้าใจและยากที่แยกแยะ ดวงตาของเธอสดใส เกือบจะเหมือนกับดาวฤกษ์ เหมือนกาแลคซีทั้งหมดอยู่ในนั้น มันน่าหลงไหล
“คุณมา” เสียงแหบแห้งสะท้อนออกมาจากสาวหางงู
“ฮ่า ฮ่า”
ชายสูงกำยำ สวมใส่เกราะสีทอง กับขนสีทองบนใบหน้า มนุษย์ลิงที่ดู
แข็งแกร่งปรากฎภายในเจดีย์ หัวเราะเสียงดัง “วูนิ คุณเป็นผู้นำ นิยายย่อยภายในนิกาย 9 จักรวาล ไม่ใช่ว่าคุณต้องเปิดประตูและสอนบทเรียนบางอย่าง ให้คำแนะนำ แก่รุ่นต่อๆ ไปบ้าง”
เสียงแหบของสาวหางงู “ จักรพรรดิทรูหยัน ตอนนี้ภายในนิกาย 9
จักรวาล ในหมู่ผู้นำ นิกายย่อยทั้งหลาย คุณแข็งแกร่งที่สุด ด้วยการสอนในชั้นเรียนของคุณ ข้าไม่จำเป็นต้องทำเลย”
“ฮ่า ฮ่า…” มนุษย์ลิงหัวเราะลั่น “เราทั้งคู่ได้ฝึกฝนนับล้านๆ ปี เลิก
ปิดบังตัวเองได้แล้ว และการฝึกฝนเพียงอย่างเดียวย่อมไร้ประโยชน์ แต่ถ้ามีแรงบันดาลใจบางครั้งอาจมีผลกระทบบางอย่าง”
“จากสิ่งที่ผมเห็น อย่าขังตัวเองอยู่ภายในเจดีย์ 9 จักรวาลนี้ เมื่อเราสร้างหอ 9 จักรวาลตอนแรก เราบอกว่าเราเดินไปสู่การเข้าใจทั้ง 9 ภาพ”
เป็นนักสู้ระดับอมตะเหมือนกันแต่สถานะแตกต่างกัน
เป็นธรรมดาที่นักสู้ระดับอมตะจะเป็นนายพล หรือผู้นำ กองทัพ
ชื่อที่ดูแข็งแกร่งเช่นจักรพรรดิ เหมือนจักรพรรดิทรูหยันหรือจักรพรรดิหมอกดำ พวกเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบในหมู่ระดับอมตะ เปิดนิกายย่อยของตัวเองและสอนคนรุ่นต่อไป
“ออกไปกันเถอะ จากกลุ่มอัจฉริยะใหม่ล่าสุดขององค์กรจักรวาล
เสมือนของผม มี 12 คนที่เลือกจารึก 9 จักรวาล ลองดูว่ามีต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมรึไม่ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผมยังคงเป็นจักรพรรดิทรูหยันขององค์กรจักรวาลเสมือน” ชายมนุษย์ลิงหัวเราะ
“คุณมาจากองค์กรจักรวาลเสมือน ฉันมาจากสำนักขวานยักษ์ ทำไมฉันควรไปกับคุณ” สาวหางงูบ่น
“จริงๆ คุณไม่ต้องการให้ผมเห็นหน้า?” มนุษย์ลิงถลึงตา
แม้ทั้งสองคนมีพลังแตกต่างกัน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้ง ทั้งสองคนได้เปิดนิกายย่อยของตัวเองในปฐมนครแห่งความโกลาหล
ทั้งสองได้ศึกษาจารึก 9 จักรวาลเหมือนกัน พูดถึงการเข้าใจเกี่ยวกับกฎต้นกำเนิดของพวกเขา มันเกิดขึ้นเมื่อในยุคที่ 18 กลายเป็นตำนานภายในเมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล
การพูดคุยหลายครั้งของทั้งคู่ เกี่ยวกับการทำลายสถิติของพวกเขา
“ไปเถอะ” สาวหางงูชำเลืองมองไปที่ชายมนุษย์ลิง
“ฮ่า ฮ่า…” มนุษย์ลิงหัวเราะ
องค์กรจักรวาลเสมือน สะพานสวรรค์
มนุษย์ลิงและสาวหางงู สองคนปรากฎขึ้นในอากาศเหนือเกาะ อำนาจจิตและพลังงานไหลออกมาจากทั้งคู่อย่างรวดเร็วโดยธรรมชาติ ทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับอวกาศอันไม่สิ้นสุดตรงหน้าพวกเขา
“จักรพรรดิทรูหยันและจักรพรรดิหมอกดำ” ผู้สังเกตการณ์ทำความ
เคารพอย่างสุภาพ
“ผลการทดสอบในนิกาย 9 จักรวาล เป็นอย่างไร?” มนุษย์ลิงมองไปที่ผู้สังเกตการณ์ ด้วยความเคารพ “มีทั้งหมด 12 คนในตอนนี้ ในขณะนี้ทั้ง 11 คนได้สิ้นสุดการทดสอบ ตอนนี้คนสุดท้ายกำลังไป น่าจะเป็นคนที่มีความหวังมากที่สุดในบรรดา 12 คน เขาเรียกว่า หลัวเฟิง”
“คนที่มีความหวังมากที่สุด?” มนุษย์ลิงขนสีทองย่นคิ้วเล็กน้อย
“อือ 11 คนก่อนหน้านี้ทั้งหมดล้มเหลว ไม่มีใครสามารถผ่านระดับ 1”
ผู้สังเกตการณ์กล่าว
“ล้มเหลวไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย” มนุษย์ลิงยิ้ม “บางคนแพ้ทันที บ้างก็
พยายามก่อนที่จะแพ้ บ้างก็เกือบที่จะชนะ นี่แสดงให้เห็นถึงความ
แตกต่างในความแข็งแกร่งของพวกเขา ส่งภาพทั้ง 11 คนก่อนหน้า
ในขณะที่ส่งภาพการต่อสู้ของหลัวเฟิงด้วย”
“ครับ” ผู้สังเกตการณ์ หยิบภาพทั้ง 11 ออกมาทันที
ด้วยสถานะของผู้สังเกตการณ์ มักจะมีหลายเรื่องที่ต้องดูแล เช่น ภาพการทดสอบสะพานสวรรค์ของคนอื่น
11 ฉากการต่อสู้ปรากฎตรงหน้า จักรพรรดิทรูหยัน เขาสนใจฉากการ
ต่อสู้จำลองที่กำลังเล่นทันที
“ฮืม” จักรพรรดิทรูหยันถูคางและลูบเคราสีทองของเขาแล้วปากสีทองกระตุก
เวลานั้น หลัวเฟิงสิ้นสุดการทดสอบระดับ 1 ของสะพาย 9 จักรวาล
“เลือกคู่ต่อสู้ของคุณ คุณสามารถเลือกนักสู้หรือนักสู้จิตวิญญาณ ถ้าคุณชนะฝ่ายตรงข้ามของคุณจะผ่านระดับที่ 1”
เบื้องหน้าหลัวเฟิง เกิดหมอกควันขนาดใหญ่ จากนั้นเสียงระเบิดออกมา
ตามข้อมูลที่หลัวเฟิงได้รับมา
เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ก่อนที่หมอกกระจาย และสามารถเข้าสู่ระดับที่ 2
“ผมเลือก…ผู้อ่านจิตวิญญาณสายควบคุม” หลัวเฟิงตะโกน
จากหมอกปลิวออกมาปรากฎเป็นของเหลวสีดำ ของเหลวสีดำ เริ่มหดตัวและรวมตัวกันกลางอากาศ สร้างเป็นรูปร่างมนุษย์ลึกลับพร้อม
หน้ากากสีดำ
ชายลึกลับยืนบนกระสวยเมฆดำ พกอาวุธนันเชียน ดวงตาเย็นชา
เบื้องหลังหน้ากากจ้องมองหลัวเฟิง และตะโกนว่า “เริ่มการต่อสู้”