Skip to content

Swallowed Star 464

ตอนที่ 464 จักรพรรดิหยก

ปฐมนครแห่งความโกลาหล

ในฐานะที่เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติที่คงอยู่มาเป็นล้านๆ ปี ภายในระยะเวลา 10 ปี แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

พลังงานแห่งความสับสนยังคงปกคลุมไปทั่ว และยังคงมีนักสู้จำนวน

มากอยู่บนระเบียง

ถ้ามีกล้องบันทึกภาพในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ของนักสู้จะไม่

เคลื่อนไหวเลย

“เขากำลังมา”

“ฮืม”

กลางอากาศเหนือปฐมนครแห่งความโกลาหล มี 2 คน ที่แข็งแกร่ง

ปรากฎตัวขึ้น หนึ่งคือมนุษย์ลิงเกราะสีทอง ดวงตาของเขาลึกล้ำเหมือนกับห้วงอวกาศ

ข้างๆ เขา เป็นชายผอมผิวสีซีดในเกราะสีขาว เขามี 2 เขาสีดำ พื้นที่

รอบๆ ตัวเขามีการแปรปรวน สิ่งที่ประหลาดคือเขากำลังหลับตา

ยานอวกาศทรงโค้งสีน้ำเงินเข้มปรากฏ พร้อมกับเสียงที่ดังก้อง

“ทรูหยัน ทงหนัน” เสียงสดใสดังขึ้น สาวสวยในชุดเกราะสีน้ำเงิน

เข้มกับผมสีม่วงยาวบินออกมาจากประตูยานอวกาศ

“หยก” เสียงของทรูหยันร่าเริง

ชายร่างผอมยิ้มและตะโกนว่า “หยก เรามาได้สักพักหนึ่งแล้ว”

“คุณสองคนศึกษาอยู่ในปฐมนครแห่งความโกลาหล ไม่ค่อยเข้าสู่

จักรวาลเสมือน และฉันอยู่ในจักรวาลที่แท้จริง แล้วจะพบพวกคุณได้

อย่างไร?” หยกยิ้ม

การดำรงอยู่ของเธอเหมือนดั่งรูปปั้นหยก ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน ราวกับว่าเธอไม่ได้อยู่ในพื้นที่และเวลาเดียวกัน

“มา…ผมจะพาไปที่พัก” ชายร่างผอมชุดขาวยิ้ม

ต่อมา

มันเหมือนพลังงานที่ไม่เข้ากัน มันดูแปลกประหลาด นั่นคือแสงและ

ความมืด

จักรพรรดิทรูหยัน จักรพรรดิทงหนัน จักรพรรดิหยก การดำรงอยู่ของ

ทั้งสามนั้นทรงพลัง

ภายในจักรวาลเสมือน พวกเขากำลังนั่งล้อมวงกัน

“อร่อยดี” หยกยกแก้วคริสตัลขึ้นมาจิบไวน์ ของเหลวที่มีดวงดาว

ไหลเวียนอยู่ภายในมองดูสวยงามมาก

“เครื่องดื่มกาแลคซี 5 ดารา ข้าได้รับกำไรจากหยกแล้ว” ทรูหยันกลืน

ไวน์และลูบคางอย่างนิ่มนวล ตาของเขากว้างขึ้นและกล่าวเสริมว่า “เจ้าคนตาบอดทงหนัน เขาอยู่กับข้ามานานกว่าร้อยล้านปี เขาให้ข้าดื่มเพียงแค่ครั้งเดียว”

“มันมีราคาแพงมาก” ทงหนันกล่าวเบาๆ “เจ้ากำลังดื่ม 30,000

องค์ประกอบ”

“อย่าขี้บ่นไปหน่อยเลย ข้าให้เจ้ามากกว่านี้อีก ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่

เจ้าอยู่ในพื้นที่จักรวาลลับ เจ้าก็ได้รับไปไม่น้อย แค่ไวน์นิด

หน่อย อย่าทำเป็นพวกช่างเหน็บแนม” ทรูหยันหัวเราะล้อเลียนและยกขวดอีกครั้ง

ขวดไวน์ทั้งหมดอยู่บนโต๊ะ ทงหนันไม่ได้หยุดเขา ทรูหยันก็คว้ามันไว้

ทรูหยันจ้องไปที่หยก “หยก ชื่อเสียงของคุณยังคงยิ่งใหญ่”

หยกยิ้มและกำลังมองที่ทงหนัน

สิ่งมีชีวิตนิรันที่ดำรงอยู่เป็นเวลานาน ได้คอยช่วยเหลือครอบครัวนาน

กว่า 1,000 รุ่น เวลาของพวกเขาไหลเช่นสายน้ำ คนใกล้ชิดพวกเขาตายไปทีละคน

พวกเขาทั้ง 3 ไม่มีครอบครัวแล้ว เพื่อนเหล่านี้เป็นเหมือนครอบครัวของพวกเขา เป็นทีมที่ดีที่ผ่านสถานการณ์เป็นตายร่วมกัน

พวกเขามีประสบการณ์ผ่านอันตรายร่วมกันหลายครั้ง

ความรู้สึกของทั้งคู่ ระหว่างทงหนันและหยกมีร่องรอยของความรัก

พวกเขาเข้าใจความคิดของกันและกัน แต่พวกเขายังคงรักษาระยะห่างไว้ กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและคู่หู

“การมาถึงของคุณครั้งนี้ มีเป้าหมายที่อะไร” ทงหนันถาม

“ตามคำสั่งอัศวิน” หยกกล่าว

“อัศวิน 9 ดาบ?” ทรูหยัน พูดเชิงตกใจ “อัศวินให้คุณมาทำอะไรที่นี่”

“อัศวิน ให้ความสนใจกับนักสู้ชุดใหม่นี้ พวกเขาต้องอยู่ภายในเมือง 30 ปี และเวลา 1 ใน 3 ได้ผ่านไปแล้ว ควรมีความคืบหน้าบ้าง” หยกยิ้ม

“และอัศวินจะมาวันสุดท้าย เพื่อรับนักสู้ชุดใหม่นี้ เป็นธรรมดาที่เขาจะส่งคนที่อยู่ใต้เขาเพื่อมาดูแล เขาจึงได้ส่งฉันมา”

“อา” ทงหนันส่ายหัว “นักสู้ชุดใหม่นี้ถูกคัดเลือกโดยอัศวิน 9 ดาบ ถ้า

มีนักสู้ที่แข็งแกร่งปรากฎตัวขึ้น เขาก็จะอยู่ภายใต้อัศวิน 9 ดาบ”

“ใช่” หยกยิ้ม “ถึงแม้ว่าโอกาสที่พวกเขาจะกลายเป็นระดับอมตะจะ

ต่ำ แต่ยังคงมีโอกาสอยู่บ้าง ด้วยความสามารถของพวกเขาและการ

ดูแลขององค์กรจักรวาลเสมือน”

“ตอนที่พวกเขาได้กลายเป็นระดับอมตะ พวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าระดับอมตะทั่วไป เป็นธรรมดาที่ท่านอัศวินจะต้องสนใจในลูกน้องในอนาคตของเขา”

ทุกๆ การต่อสู้ของการต่อสู้อัจฉริยะและการต่อสู้ของนักสู้ องค์กร

จักรวาลเสมือนจะส่งอัศวินเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน

ใครก็ตามที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันอัจฉริยะ เมื่ออัจฉริยะเหล่านี้

กลายเป็นระดับอมตะจะไปอยู่ภายใต้เจ้าภาพนั้น ด้วยสถานะอัศวิน เขาจะมาส่งพวกเขาภายในปฐมนครแห่งความโกลาหลนี้ และมารับพวกเขาอีกครั้ง

“นักสู้ชุดใหม่นี้ก็ไม่ได้แย่ โดยเฉพาะโบแลน ครึ่งปี มานี้เขาได้ผ่าน

ระดับที่ 4” ทงหนันยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเบาๆ

“จากทั้งหมด 7 คนได้ผ่านระดับที่ 2 ที่เหลือได้ผ่านระดับ 1 ทั้งหมดแล้วและ 7 คนนั้นคือ กูซีลัว…ลงยู…จาไลซี่…เต๋า…เฉียงฉี…วูก้า…โหลจู”

“โหลจูผ่านระดับที่ 2 ในปีที่ 4…เต๋าในปีที่ 7 กูซีลัว ลงยู จาไลซี่ ผ่าน

ในปี ที่ 8…วูก้า เฉียงฉี ในปี ที่ 9”ทรูหยันยิ้ม

หยกยิ้ม “ฉันรู้ว่าในเรื่องความแข็งแกร่ง โบแลนเป็นอันดับที่ 1 โหลจู

อันดับที่ 2 อีก 6 คนที่ตามหลังเขา ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก”

“บางที เต๋าน่าจะนำอยู่นิดหน่อย โอใช่…ไม่ได้มีหลัวเฟิงที่เคยทำผลงานได้ดีก่อนหน้านี้หรือ?”

“ไม่แน่ใจ” ทงหนันส่ายหัว “ทรูหยันน่าจะรู้ดี เขากำลังติดตามเจ้าหนู

นั้น”

“ทรูหยัน” หยกมองไปที่นักสู้มนุษย์ลิง

“หลัวเฟิงนี้…” ทรูหยันเกาคางและหัว ขณะที่กำลังขมวดคิ้ว

“ผมควรจะเริ่มมันยังไง การปฏิบัติของเขาทำได้ดี ทว่า 10 ปี นี้ มันน่าประหลาด เขาได้ออกล่าสัตว์ประหลาดข้างนอก หลังจากนั้นเขาก็นั่งเรียนรู้อยู่บนระเบียง ไม่เคยพยายามทดสอบที่สะพานอีกเลย”

“อา” หยกพยักหน้าขณะยิ้ม “ฉันมาครั้งนี้เพื่อสังเกตพวกเขา เป้าหมายแรกคือ โบแลน”

“ท่านอัศวินเสริมเกี่ยวกับโบแลนว่า ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะใช้เวลา 20 ปี ในการผ่านระดับที่ 4 ใครจะคิดว่าเขาจะทำแบบนั้นในเวลาแค่ 10 ปี” หยกอธิบายและยิ้ม

“อันดับที่ 2 โหลจู เขาเป็นหมายเลข 2 ในชุดนี้ ฉันเดาว่าเขาจะผ่านในระดับที่ 3 ในอีกไม่กี่ปีนี้”

“อืม”

“ใช่”

ทรูหยันและทงหนันพยักหน้า

“ปีนี้เขาพยายาม 2 ครั้งแล้ว เขาอยู่ไม่ไกลจากระดับ 3 มากนัก” ทรู

หยันหัวเราะ

“เมื่อมีผู้นำจักรวรรดิหยวนเฉินเป็นอาจารย์ส่วนตัวของเขาแล้ว การ

พัฒนาของเขาจะช้าลงได้อย่างไร?”

แม้ว่าพวกเขาจะชมเชยโหลจู แต่พวกเขาก็ยังไม่ค่อยพอใจ

มันเป็นเพราะโหลจูและโบแลนไม่ได้มาจากนิกาย 9 จักรวาล

“ในนิกายของผม หลัวเฟิงกำลังเรียนสะบัดเลือด มันมีผิดพลาดหรือเปล่า? การทำความเข้าใจส่วนสำคัญของกฎอวกาศ มันเป็นเรื่องยาก มันอาจทำให้เขาชะลอตัวรึไม่?” ทรูหยันกังวลอยู่ภายใน

การเดินไปในเส้นทางที่ผิดพลาดเป็นการเสียเวลา ถ้าหลัวเฟิงไม่ผ่าน

เส้นทางนั้น

———

จักรพรรดิหยก อยู่ภายใต้อัศวิน 9 ดาบ ได้รับคำสั่งให้คอยมาดูอัจฉริยะชุดใหม่นี้

ด้วยความแข็งแกร่งของจักรพรรดิหยก สามารถที่จะสังเกตพวกเขาจากระยะไกลได้โดยที่พวกเขาไม่สามารถตรวจจับได้เลย

“นี่คือโบแลน!ไม่เลวเลย แน่นอนที่เขาเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ในรอบ 10 ล้านปี”

หยกลอยอยู่ท่ามกลางพลังงานแห่งความสับสน กำลังมองโบแลนฝึกฝนในดินแดนรกร้าง สายตาของโบแลนดูมั่นคงราวกับไม่มีอะไรจะส่งผลกระทบกับเขาได้

———

“โหลจู เป็นนักสู้ที่เกิดมาตามธรรมชาติ แต่อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดผู้นำ

จักรวรรดิทั้งสอง?” หยกกำลังยืนอยู่กลางอากาศสำรวจที่ระเบียงจาก

ระยะไกล โหลจูกำลังฝึกฝนในแบบของเขา บางครั้งก็มองขึ้นไปบน

อากาศเพื่อดูกฎจักรวาลที่ไหลเวียนอยู่

——–

“ลงยู เขาค่อนข้างมั่นคงมาก ถ้าเขาตั้งใจฝึกฝนให้หนัก อนาคตของเขาต้องไร้ขีดจำกัด”

———

“วูก้า เขาเป็นอัจฉริยะในรุ่นนี้ของเผ่าแมนก้า ความสามารถในการต่อสู้เขาไม่ได้ห่างจากความสามารถของโหลจูเลย”

———

หยกสังเกตอัจฉริยะชุดใหม่นี้ช้าๆ เตรียมพร้อมที่จะรายงานกลับไปให้อัศวิน 9 ดาบ

“นี่คือหลัวเฟิง?” หยกเดินเข้าไปในซอยของปฐมนครแห่งความโกลาหล กำลังมองที่ชายหนุ่มผมดำในเกราะสีเทาบนระเบียง เขาหลับตาและนั่งนิ่งๆ เป็นเวลา 10 ปี ทำให้ผมเขายาวจนทับไหล่

“การเรียนรู้ของเขามาถึงทางแยกหรือไม่?” จักรพรรดิหยกคิด

นักสู้ในจักรวาลที่กำลังเรียนรู้กฎต้นกำเนิดจักรวาล บางครั้งอาจจะเกิดความผิดพลาดในการเรียนรู้ของพวกเขา บางครั้งก็จะรับรู้ถึง

ข้อผิดพลาดของพวกเขาหลังจากไม่กี่ปี

ทางแยกในการเรียนรู้นี้…ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ เผ่าพันธุ์มากมาย

มักจะพบสิ่งนี้บ่อยครั้ง

พวกเขาไม่กลัวทางแยกเหล่านี้ แต่พวกเขากลัวหันผิดและไม่เข้าใจมัน

“30 ปีนี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับคุณ” จักรพรรดิหยกหันกลับและ

ออกไป

หลัวเฟิงกำลังนั่งไขว้ขาบนระเบียง ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับโลกภายในของเขา

เผ่าโมชานกำลังฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่ง รวมเป็นเวลา 10 ปี ที่ไม่เคยหยุด

เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ได้เข้าใจแกนแท้ของกฎต้นกำเนิด

จักรวาล โดยไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไป

“ตูม”

บนระเบียงที่หลัวเฟิงกำลังนั่งอยู่เงียบๆ พลังงานล้อมรอบเขาทำให้ฝุ่นกระจัดกระจาย และเขาก็ลืมตาขึ้น

เขามองไกลออกไปที่ปฐมนครแห่งความโกลาหล มันไม่มีร่องรอยของ

เวลาเลย มันยังคงเหมือนเดิม

“ผมฝึกนานแค่ไหนแล้ว” หลัวเฟิงถาม

“เวลาผ่านไป 3 ปี 9 เดือน” บาบาต้าตอบ

หลัวเฟิงโบกมือ ทิ้งเป็นภาพไว้ในอวกาศ เขากำลังยิ้ม “ถ้าผมไม่เข้าใจเรื่องนี้ภายใน 20 ปี ผมจะยอมแพ้ แต่โชคดีที่มันเพียง 10 ปี ในที่สุดผมก็เข้าใจรูปแบบดาบที่ 1 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างน้อยที่สุดผมมีสิทธิ์ที่จะฝึกฝนสะบัดเลือดนี้ ผมควรจะไปทดสอบที่สะพานสวรรค์”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!