Skip to content

Swallowed Star 467

ตอนที่ 467 พลังที่เหมาะสม

โหลจู อยู่ในพื้นที่ฝึกฝนอันหรูหราของจักรวาลปฐมกาล

ภายในระเบียงของตึกระฟ้า

“มันเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เรามาถึงปฐมนครแห่งความโกลาหล”

โหลจูกับเท้าเปล่าและผมอันยุ่งเหยิง เขากวัดแกว่งดาบในมืออย่าง

รุนแรง ขณะที่ยืนอยู่บนสุดของตึกระฟ้า และกำลังสำรวจเมืองด้านล่าง มันคือเมืองที่เขาคุ้นเคยมากและมีความทรงจำมากมาย

“พ่อ พ่อ…” โหลจูพึมพำ “จะใช้เวลานานเท่าไรที่จะกลายเป็นระดับอมตะ และผมจะได้กลับไปใช้ชื่อทูแมน อีกครั้ง…อีกนานแค่ไหนที่จะฆ่าไอ้เลวนั่นได้”

“พ่อ มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมเสียใจมาก” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วย

น้ำตา

“ผมต้องอดทนกันมัน”

“ในองค์กรจักรวาลเสมือน ผมจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่น ถ้า

เทียบกับโบแลนผมอาจจะอ่อนแอกว่า แต่ผมจะตามเขาให้ทันในอีก 50 ปี 100 ปี หรือ 1,000 ปี”

“จนถึงขั้นที่แข็งแกร่งจนสามารถฆ่าไอ้เลวนั้นได้ด้วยตัวเอง ผมจะไป

ดาวเคราะห์จักรวรรดิ บุกเข้าไปในเมืองเทพ ผมจะทำลายทุกอย่างที่

เป็นของมัน ทำให้มันเสียใจจนตาย”

เขากำมือแน่นขณะที่มีหยดน้ำตา

ความเสียใจนี้ได้ฝังลึกลงไปในจิตวิญญาณ และเขาต้องระบายออกมา

บางครั้ง

โหลจูสะบัดมือของเขาและภาพจำลองก็หายไปในทันที กลับไปเป็น

สนามฝึกอันไม่สิ้นสุด สนามฝึกนี้ใหญ่กว่าของหลัวเฟิง

“อาจารย์ได้แสดงรูปแบบที่ 1 ให้ผม และถ้าผมผ่านระดับที่ 3 ผม

สามารถเข้าฟังชั้นเรียนคนอื่นในนิกายขวานยักษ์ มันจะเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของผมขึ้นมากในอนาคต” โหลจู คิด

“ด้วยความแข็งแกร่งของผม ผมควรจะผ่านระดับ 3ได้ในอีก 2 ปี

ข้างหน้า”

“ตอนนี้ เป้าหมายเดียวของผมคือการก้าวข้ามโบแลน”

ขณะที่คนอื่นๆ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกต้องกังวลเลยขณะที่เขาผ่านระดับที่ 2 ในปีที่ 4 ความเร็วของเขาไกลเกินกว่าคนอื่นๆ

“ฮืม” โหลจูมองไปที่หน้าจอที่แขนของเขา มันแสดงข้อความใหม่ที่ทำให้เขาต้องคาใจ

“มันเป็นจดหมายจากผู้สังเกตการณ์สะพานสวรรค์ มีคนอื่นที่ประสบ

ความสำเร็จ? คนที่ผ่านระดับที่ 2 นอกจากผม? ระดับที่ 3 นั้นยากกว่าระดับที่ 2 มาก เขาไม่น่าผ่านได้เร็วกว่าผม หรือว่าเป็นโบแลน แต่เขาเพิ่งผ่านระดับที่ 4 เมื่อครึ่งปี ที่ผ่านมา ยิ่งเดินหน้าต่อไปมันยิ่งลำบากมาก…มันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีกว่าเขาจะผ่านระดับที่ 5”

โหลจูเต็มไปด้วยความสงสัย “เปิด”

“หลัวเฟิง ซึ่งพยายามผ่านสะพานสวรรค์ครั้งแรกในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เขาได้ผ่านระดับที่ 2 และ 3 ตอนนี้เขากำลังพยายามผ่านระดับที่ 4”

โหลจูเบิกตากว้าง

“ระดับที่ 3 เขาผ่านระดับที่ 3 แล้วเหรอ” โหลจูไม่อยากจะเชื่อมัน “ผมสามารถผ่านระดับที่ 1 และ 2 เร็วกว่า และผมมีอาจารย์ชี้แนะ แต่เขา…มันจะเป็นไปได้อย่างไร…”

“คนบ้า คนบ้า…” โหลจูจ้องตาค้าง เขาเต็มไปด้วยความตกใจ

———

เขตสวรรค์และพื้นดิน

คฤหาสน์ในสวนพิเศษ จาไลซี่ในชุดดำปรากฎตัวขึ้นกลางอากาศ

“มีจดหมายอะไร?” จาไลซี่ชี้ไปที่หน้าจอกลางอากาศที่ปรากฎ เขา

เคาะเบาๆ แล้วจดหมายก็เปิดออกมา

รายละเอียดจดหมายนั้นง่ายๆ

“หลัวเฟิง ซึ่งพยายามผ่านสะพานสวรรค์ครั้งแรกในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เขาได้ผ่านระดับที่ 2 และ 3 ตอนนี้เขากำลังพยายามผ่านระดับที่ 4”

———

“นี่มันยังไงกัน” ในคฤหาสน์ ชายที่อยู่ข้างจาไลซี่ นักสู้รูปร่างใหญ่ เต๋ามองหน้าจอและคำรามออกมาด้วยความโกรธ

“คนบ้านั่นพยายามจะผ่านสะพานสวรรค์ครั้งแรกในรอบ 10 ปี และเขาผ่านทั้งระดับ 2และ 3 ได้ สมกับเป็นคนบ้าจริงๆ”

———

“เป็นไปไม่ได้” เจียโม สมาชิกจุดเริ่มต้นที่แท้จริง แสดงใบหน้าที่เต็ม

ไปด้วยความตกใจ เมื่อมองไปที่หน้าจอ “ผมยังไม่ผ่านระดับที่ 2 แต่เขาผ่านระดับที่ 3 จริงเหรอ?”

———

“เป็นไปไม่ได้”

“คนบ้านี้พัฒนาไปมากแค่ไหน”

“เขตสวรรค์และพื้นดินมีคนเกือบ 100 คนที่ไม่แตกต่างจากหลัวเฟิงมากนักแต่มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร”

เมื่อข่าวเกี่ยวกับหลัวเฟิงกระจายออกไป ทำให้กลุ่มอัจฉริยะที่แอบแข่งขันกันตกตะลึงที่หลัวเฟิง ได้เริ่มทดสอบระดับที่ 4 แล้ว

ท่ามกลางพายุอันมืดมิด สะพานปกคลุมไปด้วยพายุที่บ้าคลั่ง

หลัวเฟิงยืนอยู่บนสะพานจับจ้องพายุที่อยู่ปลายสุด ภายในนั้นมีเสียงดังออกมา “เลือกฝ่ายตรงข้าม นักสู้ ควบคุม หรือสะกดจิต การเอาชนะพวกเขาทำให้คุณไประดับ 5”

“ควบคุม” หลัวเฟิงกล่าว

เงาของมนุษย์พุ่งออกมาจากพายุ สวมใส่ชุดเกราะสีเงินขาว บูทสีขาว

และยืนอยู่บนกระสวยเมฆดำ กำลังแบกแท่งยาวสีทองบนหลัง ดวงตาใต้หน้ากากสีเงินกำลังจับจ้องมาที่หลัวเฟิง

“ตามการคำนวณของสะบัดเลือด มันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปไกล

ผมไม่ทราบความแข็งแกร่งของระดับ 4 นี้”

ขณะที่สะบัดเลือดมีรายละเอียดเกี่ยวกับสะพานสวรรค์เป็นจำนวนมาก

หลัวเฟิงกำลังประเมินบางอย่างอยู่ภายใน เขามั่นใจที่จะผ่านระดับที่ 3 ก่อนหน้านี้ สำหรับระดับที่ 4…เขาไม่มีความมั่นใจเลย

ถึงแม้จะไม่มีเขายังต้องสู้

“บุรุษชุดเงิน ผมหวังว่าคุณจะใช้ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณ” หลัวเฟิงตะโกน

“แข็งแกร่งที่สุด?” ชายชุดเงินบนกระสวยเมฆดำพูดอย่างเคร่งครึม “ผมจะใช้การเคลื่อนไหวเดียว ถ้าคุณสามารถป้องกันได้ ผมจะยอมแพ้”

“คุณจะใช้การเคลื่อนไหวเดียว?” หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ

“ผมยอมรับมัน”

ชายชุดเงินชี้มาที่หลัวเฟิง พร้อมกันนั้นแท่งยาวสีทองบนหลังก็ปล่อยใบมีดเล็กๆ ออกมา ใบมีดที่พร่ามัวลอยมาตรงหน้าเขา มันผสมด้วยเส้นด้ายแห่งกฎต้นกำเนิดทองถักทอรวมพวกมันไว้ด้วยกัน

“1,600 ใบมีดสีทองขนาดเล็ก” หลัวเฟิงกวาดตานับอย่างรวดเร็ว

เมื่อใครก็ตามที่มีจิตสำนึกในระดับเดียวกับหลัวเฟิง แม้สมองจะไม่ใช่

ระดับเดียวกับ AI แต่อย่างน้อยมันต้องไม่แพ้คอมพิวเตอร์บนโลก

“ทั้งหมด 10,081 ใบมีดขนาดเล็กของอาวุธนันเซียน ระดับ 9 จะใช้

ใบมีดทั้งหมด นั่นเป็นการโจมตีที่น่ากลัว”

“เขาใช้ทั้งหมด 1,600ใบมีด มันควรเป็นรูปแบบที่ 4”

รูปแบบที่ 3 ดาบสวรรค์ใช้ 9 ใบมีด ที่แท้จริงประกอบไปด้วย 81 ใบมีดขนาดเล็ก ดังนั้นรูปแบบที่ 3 ใช้ใบมีดขนาดเล็ก 729 ใบมีด

พลังที่เหมาะสมสำหรับรูปแบบที่ 4 ต้องการใบมีดขนาดเล็ก 1,600

ใบมีด รูปแบบนี้ใกล้ๆ กับเสาสีทองสูง 10 เมตร ถ้าสามารถใช้ในระดับจักรวาลขั้น 1 ได้ ก็ยากจะหาคู่ต่อสู้ได้ ถือเป็นระดับอยู่ยงคงกระพันแน่นอน

ด้านหน้าชายชุดเงินมีมีดเล็กๆ 1,600 ใบ ลอยอยู่ ถักท้อด้วยเส้นด้ายสีทองอันซับซ้อนเข้าด้วยกัน มีรูปลักษณ์เหมือนเสาโทเท็ม

(TL “เสาโทเทม” (Totem pole) คือ สัญลักษณ์อนุสรณ์ด้วยประติมากรรมจากไม้แกะสลักขนาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมพื้นเมืองที่ปรากฎอยู่ในชนเผ่าอินเดียนแดง แถบชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ สามารถพบเห็นเสาโทเทมได้ในชุมชนชนเผ่าพื้นเมือง ในแคนาดา และสหรัฐอเมริกา
ลักษณะของเสาโทเทม จะแกะสลักขึ้นมาจากลำต้นไม้ขนาดใหญ่เพียงต้นเดียว ส่วนใหญ่ไม้ที่นำมาแกะสลักนั้นคือ ไม้จากต้นซีดาร์ (Cedar tree) ซึ่งเป็นไม้ที่มีอยู่อย่างชุกชุมในป่าไม้ชายฝั่งทะเลตะวันตก
รูป และลวดลายที่แกะสลักมีทั้งภาพใบหน้าของมนุษย์ และสัตว์ต่างๆ ตามจินตนาการ แต่ที่นิยมกันมากมักเป็นภาพ นกดุเหว่า เหยี่ยว และนกอินทรี โดยมากมักมีส่วนของ จงอยปาก ยื่นยาวออกมาข้างหน้า และมักสยายปีกแผ่ออกด้านข้างอย่างสง่างาม รวมทั้งอาจมีภาพจากธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว รวมอยู่ในนั้น และภาพประติมากรรมต่างๆ จะเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขึ้นสู่ด้านบนของหัวเสาเสมอ สุดท้ายจะระบายสีตกแต่งอย่างสวยงาม สีสันต่างๆ แม้จะฉูดฉาดบาดตา แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณในแบบอย่างวัฒนธรรมของชาวอินเดียนแดง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การแกะสลักเสาโทเทมนั้นจึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ทักษะฝีมือ และความชำนาญสูง ใช้เวลาในการแกะสลักนานตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ดังนั้น เสาโทเทมจึงไม่ใช่เสาธรรมดาๆ ที่มีแต่ความสวยงาม แต่มันมีความหมาย และความสำคัญมากกว่านั้น)

อาวุธนันเชียนรูปแบบที่ 4 อำนาจ

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะใช้เพียงการเคลื่อนไหวเดียว” หลัวเฟิงจ้องตาค้าง

การจะสร้างรูปแบบที่ 4 นั้นยากมาก ต้องการกฎอวกาศและทองใน

ระดับที่สูง มันใส่พื้นที่ดาบลงไปทั้งหมดในเสาโทเท็ม

เสาโทเท็มมีพลังอำนาจมาก

ด้วยการเคลื่อนไหวของรูปแบบนี้ จะทำลายภูเขาหรือมหาสมุทร

“รับมัน” ชายชุดเงินคำราม

“ผมเห็นแต่เพียงความแข็งแกร่งในการเคลื่อนไหวนี้” หลัวเฟิงที่อยู่บนกระสวยเมฆดำปลดปล่อยการเคลื่อนไหว 100 เส้นทาง การเคลื่อนไหวของเขานั้นสมบูรณ์แบบแล้ว ขณะที่เขาหลบก็ปล่อยดาบสวรรค์ออกมาแทงไปที่ชายชุดเงิน

ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับรากฐานกฎอวกาศ การโจมตีของหลัวเฟิงจึงมีความรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ เขาใช้ 7 ดาบลวงตาผ่านระดับที่ 2 ด้วยความเร็วจนฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถตอบสนองได้ทันทำให้มันดูเหมือนง่าย

ระดับที่ 3 เขาใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งทางจิตในการเอาชนะฝ่ายตรงข้าม

เสาโทเท็มขนาดใหญ่เริ่มต้นหมุน พื้นที่โดยรอบเริ่มบิดเบี้ยว

ด้วยเสาขนาดใหญ่ มันหมุนเข้าใกล้ดาบขนาดใหญ่ของหลัวเฟิง แล้วมันก็กระแทกกระเด็นออกไปในทันที

เสาโทเท็มขนาดใหญ่กวาดเอาพื้นที่โดยรอบส่งผลกระทบต่อการ

เคลื่อนไหวของหลัวเฟิง และปะทะเข้ากับร่างของเขา

“มันเร็วเกินไป”

ระดับ 4 ล้มเหลว

ใจกลางเกาะสะพานสวรรค์

จักรพรรดิทรูหยัน จักรพรรดิทงหนัน จักรพรรดิหยก เฝ้ามองหน้าจอที่ลอยอยู่ตรงหน้า การต่อสู้นั้นสั้นมากภายในเวลาไม่กี่วินาทีก็จบ

“มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะพ่ายแพ้” ทรูหยันพยักหน้า

“อืม” ทงหนันเห็นด้วย

“อาวุธนันเชียนแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลัก คือ 1-3 , 4-6 , 7-9 รูปแบบที่ 3 ยังแค่ระดับพื้นฐาน ส่วนระดับที่ 4 อำนาจจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมาก มันเป็นธรรมดาที่เขาจะพ่ายแพ้”

“เขาเพิ่งได้รับการฝึกในปฐมนครแห่งความโกลาหลเพียง 10 ปี เราไม่อาจคาดหวังอะไรเขาได้มากนัก” หยกยิ้ม

“เพียง 10 ปี เขาเข้าถึงแกนแท้ของกฎอวกาศ และระดับจิตสำนึกเขา

แข็งแกร่งมาก หลัวเฟิง ทำให้ฉันแปลกใจในการเดินทางมาที่นี่ เขา

แข็งแกร่งกว่าโหลจู”

“จากที่ผมเห็น เขาสามารถเหนือกว่า โบแลนได้ในอนาคต” ทรูหยัน

กล่าว

“ฮ่า ฮ่า”

“มันยังเร็วเกินไปที่จะอวด โบแลนนั้นยังนำเขาไปไกลมาก”

จักรพรรดิทงหนันและจักรพรรดิหยกต่างหัวเราะ

“ยังไงก็ตาม ผมก็คาดหวังที่เขา” ทรูหยัน กล่าว

ที่ศูนย์กลางของเกาะ อัจฉริยะคนอื่นๆ เริ่มปรากฎตัวขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!