Skip to content

Swallowed Star 58

ตอนที่ 58 แผนของอนาคต

แต่หลัวเฟิงก็รู้ดีว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะหาเงินได้ถึง 3 หมื่นล้าน!

สัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงขั้นต่ำมีมูลค่า 500-1000 ล้านหยวน ต่อให้จะล่าพวกมันเพียงลำพังและฆ่าได้ 10 ตัวในปีเดียว…ก็อาจจะทำเงินได้ถึงราวๆ 5-6 พันล้าน ต้องรู้ไว้ว่ายังเป็นสิ่งที่ยากมากๆ สำหรับนักสู้ระดับเทพสงครามด้วยซ้ำที่จะฆ่าสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงจำนวนมากขนาดนั้น

โดยเฉลี่ยแล้วเทพสงครามจะทำเงินได้อยู่ราวๆ 5-6 พันล้านต่อปี

ถึงจะเป็นแบบนี้ ก็จะต้องทำงานหนักเป็นเวลา 6-7 ปีเลยทีเดียว

ยิ่งกว่านั้น เขายังไม่ได้เป็นแม้แต่นักสู้ระดับเทพสงครามเลยด้วยซ้ำ ก็แค่โชคดีที่ไปเจอ ‘นักล่า’ ที่บาดเจ็บหนักคราวนี้ และเขาจะโชคดีไปทุกครั้งได้อย่างไร

“ทำเงินได้ 3 หมื่นล้านหยวน ถึงมันจะยาก ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้กับพลังจิตที่กำลังหลับใหลอยู่ในตัวเรา”

“แต่การฆ่ามังกรเจ้าพิภพ…” หลัวเฟิงหัวเราะอยู่ในใจ

สัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูง…มันน่ากลัวสุดๆ

แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือระดับจ่าฝูงล่ะ…ระดับจักรพรรดิ สัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก! มนุษย์ที่อยู่เหนือระดับเทพสงครามก็มีด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ‘อาจารย์หง’ และอันดับสอง ‘เทพสายฟ้า’ ทั้งคู่อยู่เหนือระดับเทพสงคราม แต่อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้หาได้ยากมาก!

การฆ่ามังกรเจ้าพิภพ!

แม้แต่นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยังไม่สามารถจัดการมันได้ 100% เลย

“ฮ่าๆ ยาอายุวัฒนะ? หัวหน้า หากมีใครซักคนในพวกเราเข้าถึงระดับนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแบบ ‘อาจารย์หง’ แล้วก็โยนเงินมาให้ฉันซื้อยาอายุวัฒนะซักหน่อยนะ” จางเคอหัวเราะ

คนอื่นในทีมก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย ถึงระดับ ‘อาจารย์หง’ งั้นเหรอ?

บุคคลแบบนั้นสามารถต่อกรกับกองทัพของรัฐบาลได้เพียงลำพังคนเดียว คนประเภทนี้ เงิน 3 หมื่นล้านคงจะจิ๊บจ๊อยไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม จะมีซักกี่คนในโลกนี้ล่ะที่ก้าวไปถึงขั้นนั้น!

“ไป หาอะไรกินกันดีกว่า!” เกาเฟิงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

ในร้านอาหารบนชั้น 3 ของตลาดพันธมิตรใต้ดิน บนโต๊ะมีถ้วยจานอาหารเยอะแยะไปหมดพร้อมกับเหล่าสมาชิกของทีมค้อนอัคคีที่กำลังนั่งล้อมวงที่หน้าจอแล็ปท็อปที่ตั้งอยู่ข้างๆ หัวหน้าเกาเฟิงสแกนลายนิ้วมือบนเครื่องสแกนอย่างรวดเร็ว กดรหัสผ่าน 3 ตัวแล้วเขาไปในบัญชีรวมของทีมค้อนอัคคี

“800 ล้านหยวน ตามที่ตกลงกันไว้แล้ว หลัวเฟิงเหมางานนี้ไปคนเดียว ฉะนั้น เขาจะได้รับสูงที่สุด ‘80%’ และที่เหลือ 20% พวกเราแบ่งกัน ไม่มีใครท้วงติงนะ” เกาเฟิงมองดูลูกทีม

ทุกคนพยักหน้า หลัวเฟิงก็ยิ้มทันที

ทีมนักสู้มีกฎของทีม ในเมื่อพยายามทำให้สมาชิกแข่งขันกันก็ต้องพยายามให้สามัคคีกันด้วย

“หลัวเฟิงได้รับ 640 ล้าน ส่วนที่เหลือ 32 ล้านของพวกเราแบ่งกัน” เกาเฟิงโอนเงินอย่างรวดเร็ว

“ปี๊บ”

“การโอนเสร็จสมบูรณ์”

คำแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอของแล็ปท็อป หลัวเฟิงก้มมองดูที่หน้าจอของนาฬิกาสื่อสาร ซึ่งแจ้งว่ายอดเงินของเขาเพิ่มขึ้น 640 ล้าน

“วันนี้ หลัวเฟิงเลี้ยงนะ…” เกาเฟิงหัวเราะพร้อมกับตะโกน

“ใช่แล้ว ให้คนรวยจ่ายดีกว่าวันนี้” เฉินกู่มองหน้าหลัวเฟิงอย่างหยอกเย้า “อิจฉาจริงๆ แค่ครั้งเดียวหาได้เกือบเท่าที่ฉันหาได้ตลอดหลายปีนี้เลยวุ้ย”

สมาชิกทีมค้อนอัคคีต่างก็ดื่มกินและสนทนากันอย่างสนุกสนานเฮฮา

ทุกครั้งที่พวกเขาออกมาจากแดนเถื่อน พวกเขาก็ออกมาจากเส้นแห่งความเป็นความตาย ในแดนเถื่อน โดยเฉพาะในเมืองร้างจะต้องระวังอยู่เสมอ ไม่มีใครกล้าประมาทในเมืองเหล่านั้น…

เพราะว่าที่นั่นมีสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงและระดับบัญชาการอยู่มากมายนั่นเอง

“เอ้าดื่ม!”

“มาพี่น้อง มาดื่มด้วยกัน”

“ทำใจสบายๆ สหายจาง เราอยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปี ไม่รู้ว่าช่วยชีวิตฉันตั้งกี่ครั้งแล้วในสนามรบ เอาล่ะไม่พูดอะไรให้มากความ มา ชน!”

ทุกคนที่ล้อมลงกันต่างก็รู้สึกเศร้าที่จางเคอกำลังจะวางมือ แต่พวกเยาก็ยังมีความหวังอันเต็มเปี่ยมจากหลัวเฟิงผู้เป็นนักอ่านจิต หลายความรู้สึกพรั่งพรูอยู่ในหัวของทุกคน ดังนั้น พวกเขาจึงทั้งดื่มและกินกันจนเพลิดเพลินกระทั่งราวๆ 3 ทุ่ม พวกเขาก็หาห้องพักใกล้ๆ กับร้านน้ำชาแห่งหนึ่งเพื่อพักผ่อน

ภายในห้อง ทุกคนดื่มน้ำชาจนหมดถ้วย

“จางเคอกำลังจะกลายเป็น ‘อาจารย์’ ที่สำนัก” เกาเฟิงกล่าวกับทุกคน “ในอนาคต ทีมค้อนอัคคีของเราจะมีสมาชิกแค่ 5 คน! ฉัน หลัวเฟิง เฉินกู่ เว่ยเถี่ยและเว่ยชิง! และเนื่องจากหลัวเฟิงเป็นนักอ่านจิต ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้เหนือกว่าฉัน ฉันมั่นใจว่าในอนาคตเขาจะต้องเติบโตขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์”

ไม่มีใครไม่ดีใจกับความแข็งแกร่งของหลัวเฟิง

การมีนักสู้ที่แข็งแกร่งภายในทีมหมายถึงโอกาสที่จะรอดชีวิตของทีมก็สูงขึ้นด้วย! ทีมจะสามารถล่าสัตว์ประหลาดได้ง่ายขึ้นและทำเงินได้มากขึ้น!

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหลัวเฟิงไม่ฆ่านักล่าในครั้งนี้ สมาชิกคนอื่นๆ ก็จะไม่ได้รับเงินส่วนแบ่ง 32 ล้านนี้เลย ถึงแม้ว่าหลัวเฟิงจะได้รับเงินส่วนมากไป พวกเขาก็ยังได้รับเงินมากอยู่ดีเมื่อรวมจากที่ได้รับก่อนหน้านี้

“แต่ยังไงก็เถอะ พวกเราทั้ง 5 คน หลัวเฟิงคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด ฉันหวังว่า พวกเราจะไม่เป็นภาระของเขานะ” เกาเฟิงกล่าว

สีหน้าของ 2 พี่น้องเว่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ทั้งคู่เป็น ‘นักสู้ระดับนักรบขั้นสูง’ ดังนั้น พวกเขาจึงรู้สึกเป็นภาระอยู่บ้าง

“หัวหน้า ผมก็ยังเป็นน้องใหม่นะครับ” หลัวเฟิงอดกล่าวไม่ได้

“หลัวเฟิง ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เกาเฟิงยิ้มเล็กน้อย “เว่ยเถี่ย เว่ยชิง พวกนายก็อย่าคิดมากเกินไป… สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือ เราควรจะยกระดับเป้าหมายของเราในการล่าสัตว์ประหลาดขึ้นอีกในอนาคต! เพราะงั้น เป้าหมายแรกของทีมค้อนอัคคีของเราก็คือ… การทำให้สมาชิกทุกคนเป็นนักสู้ระดับแม่ทัพให้หมด!”

“หัวหน้า…” เว่ยเถี่ยหลุดปาก “น้องชายกับผมยังเหลืออีกขั้นกว่าจะถึงระดับแม่ทัพนะครับ”

“นั่นน่ะฉันรู้” เกาเฟิงหัวเราะด้วยความมั่นใจ “ฉันมีไอเดีย พวกนายจะว่าไง”

หลัวเฟิงพยักหน้า แล้วเว่ยเถี่ย เว่ยชิงและเฉินกู่ก็เข้ามาฟัง

“เว่ยเถี่ย เว่ยชิงกับเฉินกู่ พวกนาย 3 คนก็ไปซื้อยาพันธุกรรมเกรด A ซักชุดสิ” เกาเฟิงว่า “ด้วยวิธีนี้ สมรรถภาพร่างกายของเว่ยเถี่ยและเว่ยชิงก็จะไต่ขึ้นไปถึงระดับ ‘แม่ทัพขั้นต้น’ ได้โดยตรง ส่วนพลังและความเร็วของเฉินกู่ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น จนเกือบจะระดับแม่ทัพเลยทีเดียว”

หลัวเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในปัจจุบันมียาทางพันธุกรรมอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ เกรด A และเกรด B เกรด B ใช้กับบุคคลทั่วไป โดยจะทำให้กลายเป็นนักสู้ได้! แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ต้องพึ่งยาในการกลายเป็นนักสู้จะมีความแข็งแรงตามค่าเฉลี่ยทั่วๆ ไปเท่านั้น

ยาพันธุกรรมเกรด A มีไว้ให้นักสู้ใช้ หลังจากที่ใช้ยา ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าในหลายๆ ส่วน! แน่นอน ถ้าความแข็งแกร่งสูงมากๆ อยู่แล้ว ยาพันธุกรรมเหล่านั้นก็จะไม่ส่งผลใดๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ยาพันธุกรรมเกรด A หนึ่งชุด แม้จะซื้อครึ่งราคาที่สำนัก ราคาก็ยังตั้ง 360 ล้านหยวน!

“หัวหน้า ผมทำงานหนักมาหลายปี และถึงแม้ผมจะรวมเงินกับของวันนี้แล้ว ผมก็มีเงินแค่ 430 ล้านหยวนเท่านั้น” เว่ยเถี่ยขมวดคิ้ว “ด้วยอัตราการเติบโตของผม ดูเหมือนว่าระดับแม่ทัพขั้นต้นจะเป็นขีดจำกัดของผมแล้ว ในอนาคต ผมอาจจะไม่มีหนทางที่ทำงานได้ เพราะงั้นถ้าผมทุ่มเงินไปหมดตอนนี้ แล้วผมจะเหลือเงินแค่ไหนตอนที่ผมวางมือ”

คนทุกคนย่อมคิดถึงอนาคตเป็นธรรมดา

เงินหาได้ยาก หลังจากทำงานเป็นเวลา 10 ปีหรือมากกว่านั้น เขามีเงินเพียงแค่ 430 ล้าน และถ้าใช้ 360 ล้านเพื่อซื้อยาพันธุกรรมล่ะ? จะไม่เป็นการลงทุนที่มากเกินไปหรือ?

“หัวหน้า ฉันใช้อาวุธร้อน การใช้จ่ายก็สูงมากอยู่แล้วนะ 360 ล้านมัน…” เฉินกู่เริ่มลังเล

“ไม่ต้องกังวล” เกาเฟิงยิ้มบางๆ “พวกนายไม่ต้องใช้เงินซื้อยาพันธุกรรมเกรด A มากขนาดนั้นหรอก ตอนที่ฉันกลายเป็นนักสู้ ฉันก็เป็นน้องใหม่เหมือนกัน ในตอนนั้น ฉันเข้าร่วมทีมกับนักสู้และมีพี่ที่นับถืออยู่คนหนึ่ง ในตอนนั้น พี่ชายคนนั้นเป็นนักสู้ระดับแม่ทัพขั้นสูง! เขามีเส้นสายพอที่จะซื้อยาพันธุกรรมได้ในราคา 200 ล้าน”

“200 ล้าน?” เว่ยเถี่ย เว่ยชิง และเฉินกู่ช็อคไป

“แค่ 200 ล้านเหรอครับ?” หลัวเฟิงช็อคไปเหมือนกัน

ครึ่งราคาในตลาดออนไลน์ของบ้านแห่งขีดสุดเป็นราคาที่ต่ำที่สุดแล้วเท่าที่จะซื้อได้ แม้จะเป็นครึ่งราคาก็ยังตั้ง 360 ล้าน แต่เกาเฟิงสามารถซื้อได้ในราคาแค่ 200 ล้าน?

“เดี๋ยวฉันจะติดต่อเขาเพื่อซื้อให้พวกนาย แล้วเดี๋ยวพวกนายค่อยมาจ่ายให้ฉันหลังจากได้รับยาแล้ว เรื่องนี้ เชื่อมือฉันเถอะ” เกาเฟิงหัวเราะ แต่อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่เขาไม่ได้บอกออกมา นั่นคือมีเฉพาะองค์กรภายใจของพี่ชายคนนั้นของเขาเท่านั้นที่จะซื้อในราคานี้ได้

และห้ามให้สมาชิกในองค์กรทำการขาย เพราะถ้ายิ่งซื้อมากขึ้น ภายในองค์กรก็จะขึ้นราคาตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม…

เกาเฟิงยินดีออกเงินให้ และไม่อยากให้เฉินกู่ เว่ยเถี่ยและเว่ยชิงออกเงินอีก อย่างไรเสียเขาก็ทำเงินได้มากกว่าทุกคนในทีมมาก

“ในอนาคต ทุกคนในทีมจะกลายเป็นนักสู้ระดับแม่ทัพ” เกาเฟิงยิ้มเล็กน้อย “เฉินกู่จะรับผิดชอบในส่วนการปราบปรามยับยั้ง เว่ยเถี่ยและเว่ยชิงจะรับผิดชอบในส่วนการเก็บกวาดพวกระดับไพร่พล ส่วนฉันกับหลัวเฟิงจะจัดการกับพวกระดับบัญชาการ! ด้วยประสิทธิภาพของทีมเรา เราจะสามารถจัดการกับพวกระดับบัญชาการได้มากมาย เราจะทำเงินได้มากขึ้นอย่างน้อยๆ 10 เท่าจากที่เราเคยทำได้มาก่อนแน่นอน”

หลัวเฟิงรู้สึกตื่นเต้นอยู่ลึกๆ

ตามที่เกาเฟิงพูด ทุกคนในทีมค้อนอัคคีจะกลายเป็นหัวกะทิ ทีมที่เต็มไปด้วยแม่ทัพ แถมมีนักอ่านจิตด้วย…พลังของทีมนี้คงสุดยอดมากแน่ๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!