ตอนที่ 66 ทดสอบพลัง

ในบ้านของหลัวเฟิง ‘เขตหมิงเยว่’ เมืองหยางโจว

ภายในห้องรับรองแขก หลัวเฟิงทานมื้อเย็นกับพ่อแม่และน้องชายเของเขาอย่างมีความสุข หลัวเฟิงอยู่ในแดนเถื่อนเพียง 7-8 วันในรอบแรก แต่ทว่า ครั้งนี้เขาไปเกือบจะ 2 เดือน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโทรหากันได้ แต่การได้มานั่งทานข้าวคุยกันแบบนี้ย่อมดีกว่าโทรหากันเป็นไหนๆ

หลังจากมื้อค่ำ ในห้องของหลัวเฟิง…

“หลัวฮว๋า พิมพ์อะไรอยู่น่ะ?” หลัวเฟิงถามยิ้มๆ ขณะเห็นข้อความในโปรแกรม word จากโน๊ตบุ๊คของน้องชายเขา

“ตรวจสอบหุ้นเสียของเดือนที่แล้วกับปรับปรุงแนวทางในตลาดหุ้นน่ะครับ” หลัวฮว๋าหัวเราะพลางตอบ “พี่ครับ แนวทางหลักของผมคงจะต้องใช้เวลาอีกซักสองสามเดือนถึงจะเห็นผล แต่ยังไงซะ เพื่อประสิทธิภาพจริงมันคงจะต้องใช้เวลาอยู่นานพอสมควร”

หลัวเฟิงหัวเราะ “หลัวฮว๋า ถึงจะบอกเรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้เรื่องหรอก ว่าแต่…หุ้นนายเป็นไงบ้างล่ะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา?”

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ ตกลงไป 10% แต่ยังดีว่าหุ้นตัวที่ผมเลือกยังดูดีอยู่ เพราะงั้นช่วงที่ผ่านมา 3 เดือน ผมได้รับอยู่ราวๆ 50% เหมือนกัน” หลัวฮว๋ากล่าวอย่างมั่นใจ

หลังจากที่ได้ยินดังนั้นหลัวเฟิงก็ยิ้มออกมา จริงๆ แล้ว หลัวเฟิงก็พอจะศึกษาเรื่องหุ้นมาบ้างเหมือนกันจากอินเตอร์เน็ต

ในปัจจุบัน ตลาดหุ้นมีระบบทันสมัยในทุกๆ ด้าน แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน ตลาดหุ้นสามารถยุบตัวลงทั้งหมดและแต่ละที่อาจดำเนินกิจการแตกต่างกันไป บางพื้นที่อาจถูกโจมตีจากสัตว์ประหลาดและอาจต้องประสบกับภาวะเงินฝืด

ภายใต้สถานการณ์แตกต่างหลากหลาย จึงเป็นการยากพอสมควรที่จะค้ากำไรได้จากตลาดหุ้น

“โอ้ ก็หมายความว่า…นายทำเงินไปได้ 10 ล้านแล้ว?” หลัวเฟิงกล่าวอย่างตื่นเต้น

เนื่องจากหลัวเฟิงทำเงินได้มากจากการ ‘ล่า’ มาถึง 3 เดือน เขาให้น้องชายยืมเงินไป 20 ล้าน ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นในตัวน้องชายแต่มันก็เสี่ยงมากที่ให้ยืมเงินมากขนาดนั้น

“อืม…เยี่ยม”

หลัวเฟิงหยิบมือถือออกมาแล้วก็เข้าไปที่ธนาคารออนไลน์ จากนั้นกดโอนเงิน

ปี๊บ!

หลัวฮว๋าหยิบมือถือออกมาดูก็ถึงกับตกใจ เขาได้รับข้อความที่บอกว่ายอดเงินในบัญชีของเขาเคลื่อนไหว…

“ยอดเงินในบัญชีของคุณเพิ่มขึ้น 50 ล้าน เมื่อ 11/30 21.51”

“พี่ครับ 50 ล้าน?” หลัวฮว๋าพูดออกมาอย่างตกใจขณะที่มองมายังหลัวเฟิง…

50 ล้านมันไม่ใช่น้อยๆ เลย ในปัจจุบัน เงินหยวนมีค่าค่อนข้างมาก อัตราการแลกเปลี่ยนกับดอลลาร์สากลคือราวๆ 3.5 เท่านั้น แม้แต่นักธุรกิจและห้างร้านยังยากที่จะถอนเงิน 50 ล้านออกมาใช้

“หลัวฮว๋า พยายามต่อไปนะ ฉันเชื่อว่านายทำได้” หลัวเฟิงหัวเราะ

หลัวฮว๋าตาเป็นประกายและพยักหน้ารับอย่างจริงจัง

การได้ควบคุมเงินจำนวนมากขนาดนี้ในการเล่นหุ้นทำให้หลัวฮว๋ารู้สึกประสบความสำเร็จขึ้นไปอีก สำหรับคนพิการอย่างเขา เขาได้ศึกษาและเล่นหุ้นเป็นอาชีพมานานพอสมควร เขาเคยลองเล่นมาทุกตัวแล้วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และในที่สุดเขาก็เกิดความมั่นใจในสิ่งที่เขาทำ

สามารถพูดได้ว่า เขามีพื้นฐานอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม แม้แต่นักเล่นหุ้นก็ยังสามารถผิดพลาดในตลาดหุ้นได้ เพราะเหตุนี้ จึงมีแรงกดดันทางจิตวิทยาค่อนข้างมากทีเดียว

“อย่านอนดึกมากนักล่ะ” หลัวเฟิงหัวเราะและเดินลงไปชั้นล่าง

50 ล้าน หลัวเฟิงไม่ได้ยี่หระอะไรเลย การฝึกฝนของเขาในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเขาทำเงินได้มากว่า 80 ล้านทีเดียว จำนวนเงินที่เขาทำได้นั้นได้รับคำชมมากมายจากเหล่านักสู้ แต่โชคไม่ดีนักที่พวกเขาไม่อาจเรียนรู้วิธีการของหลัวเฟิงได้…เพราะหลัวเฟิงเป็นนักอ่านจิต ถ้าหลัวเฟิงต้องการจะทำเงินจริงๆ เขาก็สามารถใช้พลังจิตฆ่าสัตว์ประหลาดระดับบัญชาการจำนวนมากๆ ได้นั่นเอง

…………..

เมื่อคืนที่ผ่านมาพายุกระหน่ำ แต่คืนนี้ ท้องฟ้าสว่างพร่างพราวไปด้วยดวงดาวน้อยใหญ่ แสงดาวส่องผ่านกระจกลงมายังพื้นของโรงฝึกบนชั้นที่ 2 หลัวเฟิงกำลังกวัดแกว่งดาบไปมาอย่างรวดเร็วสุดขั้ว และทุกครั้งที่เขากวัดแกว่ง เขาผลักดันตัวเองให้ถึงขีดจำกัดเพื่อปลดปล่อยวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ และเนื่องจากเขาฝึกหนักประมาณ 20 ชั่วโมงเสมอตอนอยู่ที่ฐานเติมเสบียง การกวัดแกว่งดาบของเขาจึงมีความถี่สูงมากและทำให้เขาเหนื่อยได้ใน 30 นาที

หลังจากนั้น หลัวเฟิงก็ดำเนินการฝึกเทคนิคเต๋าอินในส่วนของ ‘รวมพลัง 9 ขั้น’

ในขั้นสุดท้าย เขาก็ฝึกพลังพันธุกรรม ‘ห้าหัวใจสู่นภา’

“ฟู่ๆ…” หลัวเฟิงกำลังฝึก ‘ห้าหัวใจสู่นภา’ เขานั่งขัดสมาธิและมีสีหน้าเป็นสุข เขารับรู้ความรู้สึกของเซลล์ทั้งหมดภายในกายที่กำลังกลืนกินพลังจักรวารอย่างบ้าคลั่ง “หลังจากสำเร็จขั้นแรกของ ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ อัตราการฝึกของเราก็เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว! และตอนนี้ หลังจากที่สำเร็จขั้นที่ 2 ทุกๆ เซลล์ในร่างกายของเราก็จะยิ่งหิวโหยและดูดซับพลังพันธุกรรมได้มากขึ้นไปอีก”

เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า

หลังจากนั้นไม่นาน

ราวกับว่าเซลล์ในร่างกายของเขาจะอิ่มหนำสำราญแล้ว พวกมันไม่สามารถดูดซับพลังใดๆ ได้อีกแล้ว

“หลังจากสำเร็จขั้นแรก อัตราการฝึกของเราเพิ่มขึ้นเท่าตัว! หลังจากสำเร็จขั้นที่ 2 แม้ว่าอัตราการฝึกจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับครั้งแรก แต่มันก็ยังเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 30%!”

หลัวเฟิงรู้สึกทึ่ง ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ เป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์หาที่เปรียบไม่ได้ ด้วยเทคนิคเต๋าอิน การฝึกของเขามีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“เราฝึกฝนที่บ้านอย่างหนักหน่วงมาแล้วเป็นเดือน แล้วก็เข้าไปฝึกในแดนเถื่อนอีก 2 เดือน สงสัยจริงว่าความแข็งแกร่งของเราจะเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ในช่วง 3 เดือนนี้” หลัวเฟิงนึกลุ้นๆ อยู่ในใจ

อันที่จริง หลัวเฟิงกำลังพัฒนาขึ้นในทุกๆ วันในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา

เพราะเขาเป็นนักอ่านจิต พลังจิตของเขาจึงทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างชาญฉลาด นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนักอ่านจิตจึงเติบโตขึ้นเร็วมาก ทั้งนี้หลัวเฟิงยังได้ฝึกฝน ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ซ้ำยังได้ฝึกต่อสู้เสี่ยงตายมาแล้วถึง 2 เดือนอีกด้วย

และด้วยปัจจัยทั้ง 3 อย่างนี้ทำให้อัตราการเติบโตของหลัวเฟิงเพิ่มขึ้นเร็วกว่านักสู้ทั่วๆ ไป ราว 5-6 เท่า

“พรุ่งนี้เราจะต้องไปทดสอบดูที่ที่ทำการสมาคมขีดสุดซักหน่อยแล้ว” หลัวเฟิงรู้สึกอยากเห็นผลลัพธ์ของการฝึกฝนอันหนักหน่วงของเขา

…………..

รุ่งเช้า…ราวๆ ตี 5 หลัวเฟิงมุ่งหน้าไปที่ที่ทำการสมาคมขีดสุด

“เจ้าบ้า…มาแต่เช้าจัง?” นักสู้สองสามคนกำลังฝึกอยู่ในตอนเช้าเอ่ยทักเขา

“เจ้าบ้า ได้ยินว่านายรับเละเลยนี่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา”

“มาๆ มาเลี้ยงซะดีๆ หาอะไรอร่อยๆ ทานกันดีกว่า”

นักสู้เหล่านั้นพากันทักทายอย่างเฮฮา

มีคนไม่มากนักที่รู้จักหลัวเฟิงจากการฆ่า ‘หมาป่าพระจันทร์เงิน’ แต่มีนักสู้อีกมากทีเดียวที่ได้รู้จักกับหลัวเฟิงจากการสังหารอย่างบ้าคลั่ง การฆ่าสัตว์ประหลาดระดับไพร่พล 10,000 ตัวภายใน 2 เดือน มันเป็นสถิติที่ ‘บ้าบิ่น’ ชัดๆ

ดังนั้น การได้ฉายา ‘เจ้าบ้า’ จึงไม่แปลกเลย

ด้วยสิ่งนี้ หลัวเฟิงจึงได้รับการยอมรับจากทุกๆ คน ไม่ว่าใครคนนั้นจะโง่ซักแค่ไหน การฆ่าสัตว์ประหลาด 10,000 ตัวก็จะทำให้เขาได้ประสบการณ์สุดขั้วอยู่แล้ว แต่นี่เขาทำได้สมบูรณ์แบบอีกต่างหาก

“ได้ๆ ไม่มีปัญหา คืนนี้ละกัน” หลัวเฟิงหัวเราะ

หลังจากเข้าไปในที่ทำการสมาคมขีดสุด พนักงานสาวต้อนรับพอเห็นหลัวเฟิงก็เอ่ยทัก “คุณหลัวเฟิง มาแต่เช้าเลย ตอนนี้ยังไม่มีใครมา รับเครื่องดื่มอะไรไหมคะ?”

“ยังหรอกครับ แต่ยังไงก็เตรียมน้ำชากับของหวานไว้ล่ะกัน เดี๋ยวผมจะลงมากิน” หลัวเฟิงหัวเราะแล้วก็ตรงขึ้นไปชั้นบน

ชันที่ 6 ของที่ทำการสมาคมขีดสุด…

หลัวเฟิงรู้สึกดีใจมากขณะที่มองดูโรงฝึกขนาดใหญ่บนชั้น 6 ที่นี่คือที่ที่เขาผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้ ใครจะรู้ว่า ในพริบตาเดียว เตรียมนักสู้คนนั้นจะกลายมาเป็นนักสู้ชั้นหัวกะทิจริงๆ ตอนนี้หลัวเฟิงกดปุ่มเปิดเครื่องทดสอบพลังหมัดและเครื่องทดสอบความเร็วแล้ว

หลังจากนั้น เขาก็ขึ้นไปยืนบนลู่วิ่ง

“ไหนลองดูซิ” หลัวเฟิงทำตัวผ่อนคลาย และทันใดนั้น เฟี้ยว

ราวกับลูกธนู…ในพริบตาเดียวเขาก็วิ่งผ่านลู่ไปแล้ว และค่อยๆ ลดความเร็วลง

หลัวเฟิงมองดูที่หน้าจอแสดงผล… “78.6 เมตรต่อวินาที”

“ไม่เลว” หลัวเฟิงตาเป็นประกาย

โดยปกติ 60 เมตรต่อวินาทีคือระดับที่เป็นมาตรฐานของนักรบขั้นสูง และ 90 เมตรต่อวินาทีก็ถือว่าเข้าขั้นแม่ทัพขั้นต้นแล้ว

“ไหนลองดูพลังหมัดซิ” หลัวเฟิงเดินไปหยุดอยู่หน้าเครื่องทดสอบพลังหมัด เขาสูดหายใจเข้าลึก และก็ระเบิดพลังหมัดออกมา!

ตูม!

หมัดของเขาปะทะเข้ากับเครื่องทดสอบราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่และสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หน้าจอแสดงผล… “6,121 กิโลกรัม”

โดยปกติ 4,000 กิโลกรัม ก็ถือว่าอยู่ในระดับนักรบขั้นสูงแล้ว และ 8,000 กิโลกรัมก็อยู่ในเกณฑ์ของแม่ทัพขั้นต้นนั่นเอง แน่นอน นี่เป็นเพียงตัวแลขประมาณการความแข็งแกร่ง ทักษะที่แท้จริงจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่สมรรถภาพร่างกาย แต่จะขึ้นอยู่กับจำนวนสัตว์ประหลาดที่ฆ่าได้ต่างหาก

สมรรถภาพร่างกายเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

“เอาล่ะ เดี๋ยวลองทดสอบ ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ดูซะหน่อย”

หลัวเฟิงสูดหายใจลึกและลืมตาขึ้นทันที เขาถ่ายพลังทั้งหมดไปที่ 2 เท้า เป็นเหตุให้พื้นทั้งโรงฝึกสั่นสะเทือนเล็กน้อย พลังนั้นถ่ายมาสู่บั้นเอวอย่างรวดเร็ว วืดดด…

กระดูกสันหลังของเขาแต่ละท่อนตั้งตรง แล้วพลังก็ไหลเวียนเข้าสู่แขนขวาของเขา

ในขณะเดียวกัน บั้นเอวและหลังก็ออกแรงเชื่อมต่อกันเหมือนกับคลื่นน้ำในแอ่งน้ำ

เชื่อมต่อ!

ขั้นที่ 2 ของ ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ พลัง 210% ระเบิดออกมา!

ขณะที่หมัดของหลัวเฟิงเคลื่อนที่ มีอัตราเร่งอย่างต่อเนื่องสร้างคลื่นกระแทกตามมาขณะที่ตรงเข้าปะทะกับเครื่องทดสอบ

ตูมมมม… เป้าทดสอบล้มลงและค่อยๆ ดีดตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ

หน้าจอแสดงผลชะงักไปนิดนึงก่อนจะค่อยๆ แสดงตัวเลขขึ้นมา… “12,928 กิโลกรัม”

“ใช้ได้!” หลังเฟิงยิ้มออกมาได้ 6,121 กิโลกรัม 2.1 เท่าคือ 12,928 กิโลกรัม แต่อย่างไรก็ตาม พลังหมัดก็เป็นแค่ตัวเลขประมาณการ ดังนั้น มันอาจจะสูงกว่าหรือต่ำกว่านี้ก็เป็นได้ ว่าง่ายๆ คือ พลังสูงสุดของหลัวเฟิงตอนนี้อยู่ที่เกือบ 13,000 กิโลกรัมนั่นเอง

โดยความจริง สมรรถภาพร่างกายของเขาอยู่ในระดับนักรบขั้นสูง

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วย ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ เขาได้เข้าถึงระดับแม่ทัพขั้นต้นแล้ว และเขาก็ผ่านเกณฑ์ 8,000 กิโลกรัมแล้ว โดยปกติพลังหมัดของแม่ทัพขั้นต้นจะอยู่ที่ระหว่าง 8,000-16,000 กิโลกรัม

“สุดท้าย ก็ทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบสินะ”

หลังเฟิงเข้าไปในห้องของเครื่องทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบและเปิดสวิตซ์ไปที่โหมดการทดสอบ ‘แม่ทัพขั้นต้น’ และตั้งค่าให้เริ่มภายใน ‘5 วินาที’ หลังจากที่กดปุ่มสีแดง หลัวเฟิงก็วิ่งเข้าไปในวงกลมอย่างรวดเร็ว

ภายในวงกลม…

หลังจากราวๆ 5 วินาที ปี๊บ…ปี๊บ…

ปืนใหญ่ของเครื่องทดสอบก็เริ่มหมุน และก็หมุนเร็วขึ้นจนแตะความเร็วตามที่ตั้งค่า จากนั้นมันก็พ่นห่ากระสุนยางลูกเล็กพุ่งตรงมายังวงกลมนั้นอย่างรวดเร็ว

“เร็วมาก” หลัวเฟิงยืนอยู่ตรงกลางของวงกลมและเริ่มเคลื่อนไหวอย่างว่องไว

เขาก้าวเท้าไวราวกับแสง และผ่อนคลายมากๆ

หากสามารถตามหาคนที่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเท่ากับหลัวเฟิง พวกเขาอาจจะไม่ผ่อนคลายได้แบบนี้ เพราะว่า…เทคนิคของหลัวเฟิงเข้าถึงวิชา ‘ประณีต’ แล้ว ด้วยเทคนิคนี้ หลัวเฟิงจึงสามารถใช้ความสามารถหลบหลีกได้อย่างสูงสุด

ปุ๊! ปุ๊!

กระสุน 2 นัดปะทะโดนตัวหลัวเฟิงแต่เขาไม่ได้ลังเลและยังหลบหลีกต่อไป

1 นาทีผ่านไป ปืนใหญ่ก็ค่อยๆ หยุดหมุนลง

หลัวเฟิงเดินไปดูที่หน้าจอแสดงผลอย่างลุ้นๆ “หือ? 60 วินาที โดน 21 ครั้ง เหยียบเส้นสีแดง 0 ครั้ง ยอดเยี่ยม?”

หลัวเฟิงทึ่งกับผลคะแนน เขาสามารถได้คะแนนยอดเยี่ยมในการทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบในระดับแม่ทัพขั้นต้น! สามารถเห็นผลลัพธ์ของวิชา ‘ประณีต’ ได้อย่างชัดเจนทีเดียว!

อันที่จริง ‘เครื่องทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบ’ นี้ เป็นการทดสอบการหลบหลีกในเชิงเทคนิคเท่านั้น!

การหลบหลีกจะต้องขึ้นอยู่กับความเร็ว ปฏิกิริยาโต้ตอบ สติสัมปชัญญะ… แต่ยังไงซะมันก็ถือว่าเป็นวิธีทดสอบที่ดีสุดแล้ว

“78.6 เมตรต่อวินาที”

“พลังหมัด 6,121 กิโลกรัม และที่ดีที่สุดเกือบ 13,000”

“ปฏิกิริยาโต้ตอบอยู่ในระดับแม่ทัพขั้นต้น ระดับยอดเยี่ยม!”

หลัวเฟิงรู้สึกพอใจกับผลคะแนนอย่างมาก เขารู้ชัดแล้วว่าระดับสมรรถภาพร่างกายของเขาควรจะอยู่ในระดับนักรบขั้นสูง แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ และวิชา ‘ประณีต’ เขาสามารถเพิ่มพลังขึ้นไปอยู่ในระดับแม่ทัพขั้นต้นได้เลยทีเดียว

หลังจากการทดสอบ หลัวเฟิงก็เดินลงมาอย่างอารมณ์ดี ในล็อบบี้ชั้นแรก มีนักสู้สองสามคนกำลังยืนสนทนากันอยู่

“เจ้าบ้า”

“หลัวเฟิง” อาจารย์อูทงอยู่ที่นั่นและพูดยิ้มๆ “นายมาเช้าขนาดนี้ อยากดูการทดสอบเตรียมนักสู้เหรอ? นายไม่ได้มาดูหลายครั้งแล้วนี่นา ดีล่ะ มาก็ดีแล้ว มาดูหน้าใหม่เข้าทดสอบสิ มาช่วยกันดูหน่อยนะ”

หลัวเฟิงงันไป

การทดสอบเตรียมนักสู้?

ใช่ วันนี้เป็นวันที่ 1 เดือนธันวาคม ในทุกๆ วันแรกของเดือนเป็นวันทดสอบเตรียมนักสู้