ตอนที่ 902 หลัวเฟิง VS แบล็คที

ในตอนที่ผนึกดวงดาวตกลงมา แบล็คที ไม่ได้อยู่ด้วยแต่มันไม่ได้ส่งผลต่อชื่อเสียงของเขา

กองทัพทั้งสี่ด้านนอกเขตสงครามนั้นแล้วแต่มีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่าง

ชีวิตมืดมน ดาลอง เจ็ดดาบ เนียลฉาง สุสานดำ และอีกมากมาย พวกเขาต่างก็เป็นบุคคลมีชื่อเสียง แบล็คที คือหนึ่งในนั้นด้วย แม้ว่าเขาจะมาจากกองทัพมนุษย์แต่เขาก็มาจากจักรวาลแสนไกลและไม่ได้มาจากพันธมิตรหง

เขามีค้อนที่เป็นสมบัติที่แท้จริงชื่อ แบล็คที เหมือนกับชื่อของเขา

“นั่น แบล็คที!”

“เขาอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วยและยังเร็วอย่างมากด้วย”

“ดาบสายน้ำ ตกที่นั่งลำบากแล้วด้วยความแข็งแกร่งของ แบล็คที ตอนที่เขาสู้กับ ดาลอง มาสักพัก ทั้งคู่นั้นตัดสินใจที่จะหยุดในตอนสุดท้ายในสนามรบแห่งที่เจ็ด แบล็คที แน่นอนว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ดาบสายน้ำ เสียเปรียบแล้ว”

“ถ้า แบล็คที มาที่นี่ งั้นสมบัติของ ดาบสายน้ำ คงไม่ถึงมือเราแล้ว”

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้สมบัติของ ดาบสายน้ำ ไปรึไง? ด้วยการกระพือปีกทีเดียว เขาก็สามารถทิ้งเจ้าไว้ไกลได้”

…

คนอื่นๆ ต่างก็ยอมแพ้ พวกเขารู้ถึงระดับของตัวเองดี แม้ว่าจะร่วมมือกัน แต่ก็ต้องถอยกลับมาได้ง่ายๆ ดังนั้นนักรบคนอื่นๆ จึงถอยออกมาและจับตาดูการต่อสู้ของทั้งสองแทน

เงาสองเงาได้บินไปมาในมิติที่ห่างออกไป

เงาหนึ่งใหญ่ อีกอันดูเล็กไปเลย

แต่พลังงานที่ทั้งสองปล่อยออกมารอบๆ นั้นทำให้พวกเขาต้องสั่น

สะท้าน

“เขาดูเหมือนจะแข็งแกร่ง” เสียงของ แบล็คที ดังขึ้นมา “การรับ

ค้อนของข้าได้ เขาต้องแข็งแกร่งอย่างแน่นอน”

“ตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาในเขตนอกสงคราม นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ารับมือกับ

นักรบระดับนี้ มันทำให้เลือดของข้าร้อนขึ้นมา มา มาดูกันว่าชื่อเสียงที่เจ้าได้รับนั้นสมควรรึเปล่า” หลัวเฟิง มองไปอีกด้านและพูดขึ้นมา ทั้งสองฝั่งต่างก็แผ่พลังของตัวเองออกมา

ทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่ง!

การสู้กับนักรบแข็งแกร่งอีกคนและไล่ตามขีดจำกัดของจักรวาลนั้นคือ

ความทะเยอทะยานของ หลัวเฟิง

“ดี! ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าข้าคือของจริง!” เสียงของ แบล็คที ดัง

ก้อง เขาพุ่งขึ้นมาข้างหน้าทันที

ฟิ้ว!

เขากลายเป็นสายฟ้าและความเร็วของเขาก็น่ากลัวอย่างมาก

ถ้าเขาขว้างค้อนออกมา ค้อนนั่น…ความเร็วมันต้องมากจนทำให้แม้แต่หลัวเฟิง ช็อก แต่ความเร็วของเขาเองก็ไม่ใช่น้อย ด้วย ปีกซือหวู๋อ ความเร็วของเขาในการออกตัวนั้นมากกว่าความเร็วของ แบล็คที

ฟิ้ว!

หลัวเฟิง กระพือปีกตัวเองแล้วบินห่างออกไปได้อย่างง่ายดาย ท่ามกลางเศษมิติ ความเร็วที่ถือว่าเป็นปิศาจของเขาสามารถหลบและเปลี่ยนทิศทางได้ง่ายๆ

“ไป!” ลูกบอลทั้งแปดลอยอยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขา

ลูกบอลทั้งแปดนั้นหมุนวนรอบตัวและกฎของอวกาศก็ได้ส่องแสงสี

ทองออกมา พลังจิตใจอันน่ากลัวของ หลัวเฟิง นั้นมากว่าอัศวินที่เปิดใช้งานกฎและทันใดนั้นก็เกิดร่างเทพอสูรสูงกว่าร้อยเมตรปรากฏตัวขึ้นมา

“กรร” เทพอสูรคำรามออกมา จริงๆ แล้วมันเป็นอาวุธวิญญาณที่สร้างร่างนี้ขึ้นมาและความเร็วของมันก็สูงอย่างมาก

ฉัวะ!

มันไปโผล่ตรงหน้า แบล็คที และฟาดหางใส่เขาทันที

“ฮึ่ม” แบล็คที เหวี่ยงคอนและก้าวมาข้างหน้าทำให้เศษมิตินั้นแตก

ละเอียด เขาเหวี่ยงค้อนตัวเองอย่างแรง เขาขว้างมันออกมา ก่อนหน้านี้มันแค่เบาๆ แต่ครั้งนี้เขาเหวี่ยงมันออกมาเต็มแรง

เปร๊ง!

หางนั้นหดกลับไป และหลบการปะทะกับค้อน ก่อนจะฟาดไปที่หลัง

ของ แบล็คที

“เร็วจริงๆ” แบล็คที ช็อก เขาได้ใช้แรงเต็มที่ในการเหวี่ยงค้อน ดังนั้น

เขาจึงไม่สามารถดึงมันกลับมาได้ทันเพื่อทำการป้องกัน เขาคำรามออกมาแล้วยกหมัดซ้ายต่อยออกไป มีเหล็กสีดำแดงครอบคลุมมือของเขา มันเหมือนกับหมัดพิเศษที่เปิดใช้กฎซึ่งทำให้อวกาศนั้นแตกเป็นชิ้นๆ

ปัง!

หมัดเข้าปะทะกับหาง หมัดของ แบล็คที สามารถที่จะทะลุผ่านดวงดาวได้ง่ายๆ แต่เขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดมหาศาลจากการปะทะครั้งนี้!

“ดี!” เขาคำรามออกมาและยิ่งบ้าคลั่งขึ้น

“ฮ่า ฮ่า…แบล็คที ความเร็วค้อนเจ้าดูเหมือนจะช้ากว่าเก่า” หลัวเฟิง ที่อยู่ห่างออกไปควบคุมเทพอสูรให้โจมตีอีกครั้ง

ในกลางอากาศ เทพอสูรได้พุ่งเข้าไปอีกครั้ง ในตอนที่มันพุ่งเข้าไป หางของมันก็เริ่มดูโหดร้ายกว่าเดิม บางครั้งมันก็ได้ฟาดออกไป บางครั้งก็หดกลับเข้ามา มันรวดเร็วอย่างมากและมันทำให้ศัตรูไม่อาจจะคาดเดาได้ ยังไงซะแม้แต่สัตว์ธรรมดา…การฟาดหางของมันก็รวดเร็วอย่างมาก เทพอสูรเองก็เช่นกัน!

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

แบล็คที ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา

การเหวี่ยงค้อนของเขาเข้าปะทะกับหางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งในการ

โจมตี มันได้ผลักลูกบอลทั้งแปดให้กระเด็นออกมไป สิ่งเดียวคือ

เนื่องจาก หลัวเฟิง เป็นผู้อ่านจิตวิญญาณ แม้ว่าผนึกดวงดาวทั้งแปดจะกระเด็นกลับไปแต่มันก็สามารถกลับมารวบรวมกันได้ทันทีและสร้างภาพเทพอสูรขึ้นมาโจมตีได้อีกครั้ง นี่คือความต่างของผู้อ่านจิตวิญญาณ และนักสู้

นักสู้นั้นไม่สามารถดึงอาวุธกลับมาได้ในตอนที่อาวุธกระเด็นกลับไป

ร่างกายของเขาต้องรับการโจมตี

ผู้อ่านนั้นแม้ว่าอาวุธจะกระเด็นกลับไปแต่เพราะเขามักจะโจมตีจากที่

ไกลๆ เขาก็ยังคงสร้างรูปแบบอาวุธขึ้นใหม่และโจมตีได้ทันที

“เขาจะกันมันซ้ำแล้วซ้ำเล่ารึไง?” หลัวเฟิง ช็อกพร้อมกับควบคุมผนึกดวงดาวทั้งแปด “การใช้ค้อนของเขาเองก็เปลี่ยนไปด้วย ทุกการ

โจมตีนั้นมีแรงหมัดวนและแต่ละการโจมตีแรงนั้นก็มากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าข้าจะทำให้หางหลบและโจมตีได้แต่เขาก็ยังสามารถที่จะป้องกัน

มันได้”

…

ปัง! ปัง! ปัง!

แบล็คที คำรามออกมาและพุ่งใส่ หลัวเฟิง พร้อมกับค้อนของเขา ทุกก้าวนั้นรวดเร็วดั่งสายฟ้า แม้ว่าหางเทพอสูรจะฟาดมาที่เขาแต่เขาก็กันมันได้อย่างง่ายดายด้วยการเหวี่ยงค้อน มันเกือบจะเหมือนรถขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามาชนกับจักรยานแต่จักรยานนี้สร้างขึ้นมาใหม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“พลังอะไรกัน” สีหน้าของ หลัวเฟิง เปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ถึงความต่างของเขากับ แบล็คที คนที่เหลือที่ดูการต่อสู้เองก็รู้สึกแบบเดียวกัน

“การเหวี่ยงก่อนหน้านี้…ข้าอาจจะทนมันได้ บางทีเพราะเขาไม่ได้ใช้แรงมากแต่แรก ตอนนี้เขาเอาจริงแล้ว แต่ละการโจมตีนั้นเหมือนกับภูเขาถล่ม แม้แต่ผนึกดวงดาวทั้งแปดของข้าก็ยังกระเด็นกลับมาได้อย่างง่ายดาย!”

“แม้ว่าจะมีผนึกดวงดาวทั้งแปดแต่ข้าก็ยังจะแพ้ ข้าลดความเร็วของเขาได้เพียงเล็กน้อย”

จักรยานอาจจะโดนชนกระเด็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่มันก็ยังส่งผลต่อ

ความเร็วของรถ

“ข้าเทียบเขาไม่ได้”

“ถ้าข้าทุ่มสุดตัวและให้ ฟูฉี ใช้ ตาข่ายน้ำแข็ง กับเขา มันก็จะยังมี

โอกาสแต่เขาน่ะไม่ได้แม้แต่เผาร่างกายอมตะของตัวเอง ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่คิดที่จะทุ่มสุดตัวกับข้า” หลัวเฟิง คิด “ตั้งแต่ที่เราทดสอบความแข็งแกร่งกัน มันก็ได้เวลาไปแล้วแต่ก่อนหน้านั้น…”

สายตาของเขามองไปที่ เขาหิมะ เขาไม่ลืมคนที่เขาอยากฆ่ามากที่สุด

“ข้าต้องจัดการกับมันก่อน”

******

จำนวนนักรบรอบๆ นั้นมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต่างก็มากับทีมตัวเองและพากันแห่มาดูการต่อสู้จากไกลๆ

แบล็คที นั้นแข็งแกร่ง แม้ด้วยการโจมตีเต็มแรงของ ดาบสายน้ำ เขาก็สามารถปัดมันออกได้ง่ายๆ แต่ ดาบสายน้ำ นั้นยังคงอยู่ห่างออกไปและแบล็คที ไม่มีทางเข้าใกล้ได้ แม้ว่าจะพุ่งมาข้างหน้าแต่ ดาบสายน้ำ ก็สามารถที่จะหนีไปได้อย่างง่ายดาย

“แม้ว่า ดาบสายน้ำ จะสามารถจัดการกับ จักรพรรดิระดับขีดกำจัด ได้ง่ายดายแต่เขาก็ยังคงเทียบกับ แบล็คที ไม่ได้”

“ความแข็งแกร่งของ แบล็คที นั้นสูงส่ง แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะกดดัน ดาบสายน้ำ เอาไว้แต่ความเร็วของอีกฝ่ายนั้นไม่ได้ลดลงเลย”

นักรบรอบๆ ต่างก็รู้

“ฮ่า ฮ่า…แน่นอนว่าเจ้า แบล็คที แข็งแกร่งจนน่าเคารพ! แต่ข้าคงต้อง

ขอตัวก่อน!”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณซึ่งดังก้องไปทั่วอวกาศ

ฉัวะ!

หลัวเฟิง กระพือปีกของเขาและสร้างแสงสีเงินขึ้นมา แค่แว๊บเดียวเขาก็ได้ไปถึงตัว เขาหิมะ อีกครั้ง

“เจ้า…” เขาหิมะ ที่ซึ่งอยู่กับเพื่อนในทีมได้เปลี่ยนสีหน้าทันที

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะเอาสมบัติข้าได้งั้นรึ? เจ้าคงไม่รู้พื้นที่ของตัวเอง!”

ลูกบอลทั้งหกได้สร้างภาพเทพอสูรขึ้นมาและคำรามก่อนจะพุ่งเข้าใส่

เขาหิมะ เพื่อนร่วมทีมของเขาต่างก็หลบเมื่อเห็นพลังนี้ ไม่มีสักคนที่

กล้าคุกคาม ดาบสายน้ำ

ฉีก!

ในตอนที่กรงเล็บฉีก เขาหิมะ ออกเป็นชิ้นๆ ลูกบอลทั้งหกก็พุ่งทะลุ

ทำลายพลังงานของเขากว่า 30%

“ดาบสายน้ำ!! ข้าจะแก้แค้น!!!!” เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธ

ทันใดนั้นเขาก็ระเบิดตัวเอง เขารู้ว่าเขาเทียบกับ ดาบสายน้ำ ไม่ได้แต่เขาก็ยังคงเป็น จักรพรรดิระดับขีดกำจัด แน่นอนว่าเขาน่ะจะฟื้นคืนชีพอีกในอนาคตแต่ถ้าเขาต้องอยู่ในอาการสาหัสและถูกพาตัวไป งั้นเขาก็ไม่มีหวังที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก

ปัง…

แรงของคลื่นได้แผ่ออกไปทั่วทิศทาง ระเบิดด้วยพลัง 30% ของร่าง

อมตะนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่ จักรพรรดิระดับขีดจำกัด สามารถทนได้หากอยู่ร่วมกัน มีแค่ จักรพรรดิระดับสูงสุด ไม่กี่คนที่ได้รับบาดเจ็บหนักแต่ไม่มีสักคนที่ตายเพราะแบบนั้น เขาหิมะ จึงได้ตายลงไป!

…

ฟิ้ง!

ด้วยการที่มีนักรบมากมายจับตาดูเขา ดาบสายน้ำ กลับหลบออกไป

ได้ ก่อนที่เขาจะออกไปเขายังฆ่า เขาหิมะ และความเร็วที่เขาแสดง

ออกมานั้น…ทำให้นักรบรอบๆ ต้องส่ายหน้าและถอนหายใจ แม้แต่

แบล็คที ก็จะตาม ทำได้แค่การขว้างค้อนเข้าใส่

แต่เขาเองก็รู้ดีว่าในตอนที่เขาขว้างค้อนออกไป หลัวเฟิง จะใช้อูสรเทพในการป้องกัน มันจะไม่ส่งผลต่อการหนีของเขาเลย

ทันใดนั้น….ดาบสายน้ำ ก็ได้บินออกไปจากมิติที่ถูกล็อคนี้และได้ทำการเทเลพอร์ทหายไปจากสายตาทุกคน

“พลังและความเร็วที่น่ากลัวจริงๆ” เสียงของ แบล็คที ดังขึ้นมา เขา

ถอนหายใจก่อนจะกลายเป็นลำแสงแล้วหายไปจากตรงนั้นเช่นกัน