ตอนที่ 912 แบ่งร่างเทพ
บาบาต้าพึมพำ พร้อมกับปล่อยอารมณ์ที่ถูกเก็บไว้นับหมื่นปี ออกมา
ความเจ็บปวดจากความตายของเจ้านาย ความตื่นเต้นจากการแก้แค้น และความทรงจาที่ผ่านมา…
“หลัวเฟิง ข้าดีขึ้นแล้ว ขอบคุณ” บาบาต้ามองที่หลัวเฟิง
“ข้าเป็นหนี้ยูฮันโบต้องตอบแทน แล้วที่สำคัญเขาได้เป็นอาจารย์ของ
ข้า แล้วนี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ”
“บาบาต้ากลับไปยังแหวนโลกได้ไหม”
“ในแหวน ข้าสามารถได้รับคำแนะนำ จากเหล่าจักรพรรดิ ข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อจะได้เป็นอมตะให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” บาบาต้าพยักหน้า
“ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้มันจะส่งผลกับเจ้า แต่ข้าสามารถ
ติดต่อเจ้าผ่าน AI ช่วยเหลือ”
หลัวเฟิงนำ บาบาต้า เข้าไปยังแหวนโลกด้วยการใช้ความคิด
ด้วยหัวใจวิวัฒนาการ บาบาต้าจะคล้ายกับเผ่าพันธุ์หุ่นยนต์ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าถึงระดับห้วงมิติ แต่การที่จะเป็นอมตะนั้นเป็นเรื่องที่ยาก
หลัวเฟิงมองไปยังผู้คนด้านล่างที่กำลังสั่นและคุกเขาต่อหน้าเขา ก่อนที่เขาจะเทเลพอตหายไปจากดาวมือปีศาจ
“เขาไปแล้ว”
“เทพเกราะทองหายไปแล้ว”
“มันน่ากลัวเกินไป จักรพรรดิมือปีศาจ ไม่มีทางที่จะต่อด้านใดๆ เลย
ข้าได้ยินว่าอมตะมีร่างกายอมตะ แต่กลับถูกฆ่าอย่างง่ายดาย”
“จักรพรรดิมือปีศาจ ตายไปแล้ว เราไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป อาณาเขตดวงดาวนี้เป็นของเรา ฮ่า ฮ่า”
อำนาจในดวงดาวมือปีศาจได้เปลี่ยนไปในทันที
———–
ในอาณาเขตดวงดาวอันห่างไกลจากดินแดนเผ่าพันธุ์มนุษย์ ภายในดาวฤกษ์ทั่วไป สามารถเห็นเงารูปร่างมนุษย์อยู่ในเปลวไฟอันไม่สิ้นสุด เงาที่กำลังนั่งไขว้ขาอยู่
“นักสู้นั้นฆ่าข้าจริงๆ” เสียงเย็นชาดังขึ้นจากเงา
เงาที่กำลังนั่งอยู่นั้นคือจักรพรรดิมือปีศาจ เขานั่งไขว้ขาในดาวฤกษ์โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบกับเขา
“เขาแข็งแกร่ง และยังซ่อนตัวตนไว้ เขาน่าจะถูกส่งมาโดยหลัวเฟิง ข้าคาดเดาไว้นานแล้วว่าวันนี้จะมาถึง”
ในช่วงนั้นหลัวเฟิงเป็นที่โดดเด่นในการต่อสู้อัจฉริยะ แล้วถูกรับไปโดยองค์กรจักรวาลเสมือน มือปีศาจก็คอยสังเกตหลัวเฟิงหลังจากนั้น
เขาสงสัยว่าหลัวเฟิงได้รับมรดกจากยูฮันโบ
“ตอนที่ฆ่ายูฮันโบ ข้าได้ใช้เทคนิคจิตวิญญาณเพื่อให้แน่ใจว่าเขาตาย
แน่ ตอนนั้นเขาได้หลบหนีไปในจักรวาลมืดในทันที มันทำให้ยากที่จะ
ตามล่า”
“เขามีจุดหลบซ่อนหลายจุด แล้วใครจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“5 หมื่นปี ต่อมา หลัวเฟิงก็เพิ่มพูนพลังอำนาจขึ้น เขาสามารถซื้อดาวเคราะห์โลก ทั้งที่เป็นพวกพื้นเมือง…โดยที่ไม่มีการพบเจอสิ่งพิเศษ แล้วจะพอจ่ายได้ยังไง”
“ข้าสงสัยว่าเขามีจุดเชื่อมโยงกับยูฮันโบ แต่เขาก็อยู่ในเมืองแห่งความโกลาหลเป็นเวลานาน ข้าเลยทำอะไรเขาไม่ได้”
“ในที่สุดเขาก็กลับมาจักรวรรดิแกนวูหลังจากกลายเป็นระดับขอบเขต แล้วยานที่เขาใช้ก็เป็นยานดาวเคราะห์ยุนโม ฮ่า ฮ่า ข้าจึงยืนยันในข้อสงสัยว่าเขาเป็นศิษย์ของยูฮันโบ”
“เวลานั้นเขาเป็นผู้ตรวจสอบขององค์กรจักรวาลเสมือน ถ้าข้า
เคลื่อนไหวและถูกพบ…ข้าจะต้องตายแน่”
“ข้าได้พนันไว้ว่ายูฮันโบไม่มีข้อมูลของผู้ที่ฆ่าเขา แต่ดูเหมือนว่าข้าเดาผิด”
“เขาได้ทิ้งบางอย่างไว้กับหลัวเฟิง”
“ด้วยสถานะที่สูงของหลัวเฟิง มันง่ายที่จะให้นักสู้ทรงพลังช่วยเหลือ นักสู้ได้ซ่อนตัวตนของเขาก่อนที่จะฆ่าข้า” มือปีศาจได้นั่งไขว้ขาในทะเลเพลิงด้วยดวงตาที่ดุร้าย
“โชคดีของข้าในการการเดิมพัน ข้าได้แยกร่างเทพออกเป็น 40%และ 60%”
“ข้าได้ทิ้งร่างที่อ่อนแอเพื่อแสร้งทำเป็นบาดเจ็บหนัก แล้วอีกร่างหลบ
อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ข้าเพียงอดทนรอในแผนอีก 1 ล้านปี จะไม่มีอันตรายอีก ก่อนที่จะแสดงตัว”
“นักสู้เกราะทองนั้น…แม้จะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ข้ารับประกันได้เลยว่า
จะต้องถูกส่งมาโดยหลัวเฟิง ถ้าไม่ใช่เขา ก็ไม่มีทางส่งตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้มาได้”
“หลัวเฟิง ข้าอาจจะไม่ชนะแกในตอนนี้ แต่ข้าจะกลับไปยังดินแดนมนุษย์แน่นอน”
มือปีศาจส่งเสียงคำรามจนเกิดระลอกคลื่นทั่วดาวฤกษ์
การแยกร่างเทพไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ทั่วไปกล้าจะทำ
มือปีศาจได้แยกร่างออกเป็น 60% และ 40% ซึ่งร่างที่มี 60% นั้นมีความแข็งแกร่งเพียง 10% ของร่างสมบูรณ์ ส่วนร่าง 40% นั้นอ่อนแอกว่ามาก มันจะทำให้อยู่ในสภาพที่ความแข็งแกร่งตกลงไปมาก
อีกความเสี่ยงหนึ่ง ถ้าร่างไหนถูกควบคุมจิตวิญญาณ ก็จะถูกควบคุม
ทั้งหมด ด้วยสองความเสี่ยง ทำให้อ่อนแอและง่ายจะถูกควบคุม แต่ก็เป็นโอกาสที่จะทำให้เขารอดชีวิต
เป็นการแยกสองร่างออกจากกันมันจึงไม่ฟื้นฟูกลับมาใหม่ ต้องให้อีก
ด้านตาย แล้วอีกด้านก็จะฟื้นฟูพลังกลับคืน
———-
ยานอวกาศรูปร่างแมลงได้บินในจักรวาลมือด้วยความเร็ว 80 เท่าของความเร็วแสง
ภายในห้องควบคุมมีโต๊ะทำด้วยคริสตัล และนักสู้ทั้ง 12 กำลังนั่งอยู่
รอบๆ โต๊ะ หลัวเฟิงได้นั่งอยู่บนบัลลังก์หลัก
“หลังเดินทางมากว่า 2 ปี แล้ว พรุ่งนี้เราจะถึงดินแดนลับที่เป็นเป้าหมายของเรา ไชโย”
“ยินดีด้วยนายท่าน” 12 นักสู้ได้ปรับขนาดร่างกายตัวเองให้เท่ากับ
ขนาดมนุษย์ ได้ยกแก้วขึ้น
พวกเขากำลังดื่มฉลอง
ในเวลานี้หลัวเฟิงยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฆ่าส่วนหนึ่งของร่างมือปีศาจ ถึงจะรู้ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอีกส่วนหนึ่งถูกซ่อนไว้ในพื้นที่ห่างไกล แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้นเขาก็ไม่กลัว
มันต้องใช้เวลานับล้านล้านปี ในการเป็นจักรพรรดิระดับต่ำ สิบสองทาสของหลัวเฟิงล้วนเป็นจักรพรรดิระดับขีดจำกัดหรือจุดสุดยอดด้านการใช้จิตวิญญาณ จักรพรรดิธรรมดาไม่มีสิทธิ์แม้จะเป็นทาสของเขา
หลัวเฟิงได้ยกแก้วขึ้น “จักรวาล…นั้นใหญ่เกินไป ขนาดพึ่งพาจักรวรรดิเทพในการเทเลพอต ก็ยังห่างจากพื้นที่ลับ 2 พันล้านปีแสง แม้จะใช้ความเร็ว 80 เท่าความเร็วแสงก็ยังต้องใช้เวลา 2 ปี”
“นายท่าน ดินแดนลับดอกไม้ดำนั้นเป็นพื้นที่โดดเดี่ยว ไม่มีใครอยู่ที่
นั้น” ศรคลั่งยิ้ม
“มีดินแดนลับมากมายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด พื้นที่
สงครามที่เข้าร่วมไม่ถือว่าไกลจากดินแดนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าจะมีทาสจำนวนมากแต่ก็ไม่ใครสักคนที่เข้าถึงดินแดนดอกไม้ดำ จึงทำให้เราต้องบินเป็นเวลานาน” ฟูฉี กล่าวเสริม
หลัวเฟิงพยักหน้า
ผู้มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่ได้วางแผ่นโลหะสีดำ ไว้ในดาวนรกน้ำแข็ง มันทั้ง
อันตรายและโดดเดี่ยวจากเผ่ามนุษย์ ถ้าต้องใช้การบินเพียงอย่างเดียวด้วย 80 เท่าของความเร็วแสงยังต้องใช้เวลานับร้อยปี แต่โชคดีที่มีทาสที่สามารถเทเลพอตเข้าไปใกล้ที่สุด จึงช่วยประหยัดเวลาเดินทาง
“และโชคดีที่ยานลำนี้เร็วกว่ายานดาวเคราะห์ยุนโม” หลัวเฟิงคิด
มีคลื่นพลังกระจายออกมาจากด้านนอก
“มันเป็นการปล้น”
“มีอีกหนึ่ง”
ทุกคนรวมทั้งหลัวเฟิงหัวเราะ
จักรวาลมืดในอาณาเขตของมนุษย์นั้นค่อนข้างปลอดภัย มีเล็กน้อย
เท่านั้นที่จะพยายามปล้นจากผู้อื่น แต่ภายนอกนั้นเป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้น
“มันเพียงแค่อมตะระดับผู้บัญชาการ” จินหง ใช้พลังงานเทพ
ตรวจสอบศัตรู และหัวเราะ
“เราได้บินมา 2 ปี ได้พบเจอบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลงมือ” เทียนเฉิน กล่าว
“พวกเขาไม่ได้โง่ทั้งหมด แม้ว่าระดับยานจะไม่เห็นได้จากภายนอก
แต่การบินด้วยความเร็ว 80 เท่าของความเร็วแสง แม้จักรพรรดิก็มีเพียงไม่กี่คนที่จะมียานแบบนี้ พวกเขาจะกล้าหาเรื่องงั้นเหรอ”
“ฮ่า ฮ่า…”
“น่าสนใจจริงๆ”
“เรื่องนี้เราต้องได้รับการตัดสินใจจากนายท่าน”
หลัวเฟิงหัวเราะด้วย มันต้องฆ่านักสู้หลายคนถึงได้ยานที่บินเร็วที่สุดนี้
ความเร็วสูงสุดของยานดาวเคราะห์ยุนโมเพียงแค่ 50 เท่าของความเร็วแสง หลังจากที่ได้รับการแก้ไขจากองค์กรจักรวาลเสมือน แล้วมันยากที่อัพเกรดให้ได้ความเร็วมากกว่าความเร็วแสง 80 เท่า
“ไม่ต้องรีบร้อน เมื่อไปถึงดินแดนลับ พวกเจ้าจะได้สู้” หลังเฟิงยิ้ม