ตอนที่ 926 โจมตีด้วยดวงดาว
ลึกเข้าไปในหิมะทางตะวันออกนรกน้ำแข็ง หลัวเฟิงยืนขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างมีความสุข
“ในที่สุดก็ได้เริ่มต้นก้าวเดินหลังจากฝึกมา 100 ปี”
“ขอแสดงความยินดีด้วยนายท่าน” ใจมั่นกล่าว
“ตอนนี้นายท่านสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตจำนวนมากและได้รับแท็กใน
นรกน้ำแข็ง นายท่านสามารถเก็บรวบรวม 1 หมื่นแท็กได้แล้ว”
“ข้าไม่ได้ปล่อยให้เจ้าสองคนออกมาเพียงเพื่อประจบหรอกนะ” หลัวเฟิงหัวเราะ
“ข้าต้องการให้เจ้าสองคนให้คำแนะนำแก่ข้าบ้าง”
“คำแนะนำ?” จักรพรรดิใจมั่น และจักรพรรดิจินหง มองหน้ากัน
“ข้าได้สร้างการเคลื่อนไหวระดับสูงอย่างวิถีดวงจันทร์ เพื่อการต่อสู้
ระยะประชิด ตอนนี้ข้าได้สร้างอีกหนึ่งชุดสำหรับอาวุธจิต
วิญญาณ พวกเจ้าคิดว่าข้าควรตั้งชื่อแบบไหนได้” หลัวเฟิงถาม
เขาได้คัดชื่ออื่นๆ อีกมากมาย ก่อนที่จะมาจบที่ วิถีดวงจันทร์ มันยากที่จะหาชื่อที่เหมาะสม
“เนื่องจากสำหรับอาวุธจิตวิญญาณ เนื่องจากนายท่านใช้ดวงดาว และสร้างในนรกน้ำแข็ง ทำไมไม่เรียกว่า ดาวนรก” จักรพรรดิใจมั่น กล่าว
“นั่นยังไม่ดี” จักรพรรดิจินหงกล่าว
“นรกน้ำแข็งเป็นเพียงแค่ที่อยู่ชั่วคราวสำหรับนายท่าน แต่เทคนิคลับ
จะติดตามนายท่านไป แล้วชื่อเสียงจะกระจายออกไปเมื่อมันประสบ
ความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับ นรกน้ำแข็งไม่เป็นอะไรที่ใกล้เคียง”
“จากมุมมองของข้า คิดว่าเทพอสูร จะมีความเหมาะสมมาก เมื่อ
เป็นไปตามเส้นทางเทพอสูรของนายท่าน และสามารถใช้เทพอสูรกับ
อาวุธจิตวิญญาณ ถึงแม้ว่าเทพอสูรจะฟังดูบ้าบิ่นไปบ้าง มันยังแสดงถึงเป้าหมายเทพอสูรของนายท่าน มันเป็นสิ่งที่ดีที่มอบชื่อเทพอสูรให้”
หลัวเฟิงก็ยังคงส่ายหัว
———-
ขณะที่จักรพรรดิใจมั่น และจักรพรรดิจินหงให้คำแนะนำ กับหลัวเฟิง หลัวเฟิงกำลังครุ่นคิด มีชื่อหนึ่งเข้ามาแล้วก็ตามด้วยอีกชื่อ บ้างก็ดูเกินไป บ้างก็ดูเก่าไปหน่อย มันยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับหลัวเฟิง
แล้วหลัวเฟิงก็ตกลงชื่อที่เรียบง่ายธรรมดาสำหรับเขา
“ข้าจะเรียกมัน 10,000 แผนที่ดวงดาว” มีความคาดหวังในสายตา
หลัวเฟิง มีเพียง 1 หมื่นดาวในหอคอยดวงดาว ตามสิ่งที่อาจารย์บอกไว้
“การเคลื่อนไหวที่หนึ่งคือความเร็ว”
“ข้าจะเรียกมันว่า ดาวความเร็วแสง”
หลัวเฟิงคิดว่าชื่อนี้ดี การเคลื่อนไหวที่หนึ่งของ 10,000 แผนที่ดวงดาว ชื่อว่า ดาวความเร็วแสง
มันใช้เวลา 100 ปี เพื่อสร้างการเคลื่อนไหวนี้ ก่อนหน้านี้เขาต้องใช้เวลามากกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาระดับสูงขึ้นกว่าเดิมแล้ว แล้วการเคลื่อนไหวของ 10,000 แผนที่ดวงดาวได้รับมาจากขั้นแรกของ การใช้อาวุธนันเชียน ทั้งเจ็ดรูปแบบ โดยรวมเข้ากับพลังเทพอสูร
การสร้างการเคลื่อนไหวที่ 1 เป็นสิ่งที่ยากมาก สองก็จะง่ายขึ้นถ้ามีหนึ่ง
———-
หลัวเฟิงนำจักรพรรดิใจมั่น และจักรพรรดิจินหงกลับไปยังแหวนโลก แล้วตัดสินใจเดินออกจากถ้ำ
“ข้าสร้างการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มพลังของตัวเอง”
“ข้าจะลองมันตอนนี้ หลังจากการต่อสู้สิบครั้งข้าจะไปพบอาจารย์” หลัวเฟิงมาถึงทางออกถ้ำ ก็ได้ขมวดคิ้ว
“ทำไมอาจารย์ถึงให้ข้าไปหาหลังจากการต่อสู้สิบครั้ง แล้วเขาก็ไม่ได้
พูดอะไรอีกเลย แทนที่จะชมเชย แต่กลับให้ข้าไปหาหลังจากการต่อสู้
10 ครั้ง”
“อาจจะหมายความว่าเขาไม่พอใจกับการสร้างการเคลื่อนไหวสำหรับ
อาวุธของข้า”
หลัวเฟิงคิดถึงเหตุผลที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่เขาได้ยิน เขาไม่ได้เจาะลึกลงไปในคำพูดของผู้นำเมือง เพราะเขากำลังมีความสุขจากการประสบความสำเร็จในการสร้างการเคลื่อนไหวแรกหลังจาก 100 ปี
“ไม่พอใจ เพราะข้ายังไม่ตั้งใจพอหรือไม่”
หลัวเฟิงหาเหตุผลออกมา เห็นได้ชัดว่าควรจะเป็นความรู้สึกตามปกติ ผู้ทรงพลังจะให้ความสำคัญกับหนึ่งการเคลื่อนไหว และพวกเขาจะมีสมาธิบนการเคลื่อนไหวเดียวโดยไม่สนว่าพวกเขาจะมีพรสวรรค์แค่ไหน การแบ่งมันออกเป็นสอง จะได้รับรู้ในเส้นทางที่ถูกต้องหลังจากผ่านการต่อสู้ที่รุนแรง
“เขาไม่พอใจที่ข้าได้สร้างการเคลื่อนไหวสำหรับอาวุธจิตวิญญาณ นั่นก็หมายความว่า เขาต้องการให้ข้าเดิมตามเส้นทางของนักสู้”
“ข้ามีการขยายพลังทางจิตวิญญาณสูง ข้าเหมาะสำหรับเส้นทางจิต
วิญญาณ ผู้นำเมืองก็รู้เกี่ยวกับมัน ทำไมเขาถึงอยากให้ข้าไปตามเส้นทางนักสู้”
หลัวเฟิงมีพรสวรรค์มากพอที่จะไปตามเส้นทางนักสู้และผู้อ่านจิตวิญญาณ ซึ่งเส้นทางไหนควรจะเลือก?
แต่ผู้นำเมืองต้องการให้หลัวเฟิงเดินไปตามเส้นทางนักสู้
“อาจารย์คงจะมีความลับบางอย่าง” หลัวเฟิงคิด
“แต่อาจารย์ ผู้มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่พูดไว้ว่าข้าควรไปตามเส้นทางผู้อ่านจิตวิญญาณ และนั่นคือเหตุผลที่เขาได้มอบเกราะแม่ทัพ และหอคอย
ดวงดาว โดยเฉพาะหอคอยดวงดาวเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล มันจะกลายเป็นขยะทั้งหมดถ้าข้าไม่เรียนรู้เส้นทางผู้อ่านจิตวิญญาณ”
นอกจากนี้เขาก็ยังไม่มีสมบัติสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด
หลัวเฟิงคิดว่ามันไม่สำคัญ อาจารย์ ผู้มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่นั้นเป็นผู้ทรงพลังที่สุดในจักรวาล เขาจะต้องรู้มากกว่าผู้นำเมือง นอกจากนี้ชาวโลกได้ถูกสอนแนะนำ โดยผู้มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่ ตอนนี้เขาควรจะมีศักยภาพมากขึ้นในเส้นทางผู้อ่านจิตวิญญาณ
“นอกจากนี้มันใช้เวลาเล็กน้อยในการศึกษา ข้าจะศึกษาพวกเขาในเวลาเดียวกัน และจะเลือกหนึ่งในพวกเขาหากมีความลับอะไรบางอย่างที่ข้าไม่รู้”
หลัวเฟิงจัดการกับจิตใจของตัวเองก่อนที่จะก้าวออกจากถ้ำ
หลัวเฟิงพุ่งสูงขึ้นไปเหนือหิมะ และหยุดอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะลงมายังพื้นหิมะ
———-
หลัวเฟิงขึ้นไปบินฟ้าเหนือพื้นดินที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง เขาได้ทำการมองไปรอบๆ
“ข้าต้องการพบใครบางคนเพื่อต่อสู้ด้วย มันคงต้องใช้โชคที่จะหาใคร
บางคน ถ้าพวกเขาทั้งหมดกำลังหลบซ่อนอยู่”
หลัวเฟิงบินจนเป็นลำแสง
———-
ภายในวังที่ตั้งบนยอดภูเขาน้ำแข็งทางเหนือของนรกน้ำแข็ง 1 ใน 5
จักรพรรดิคงกระพัน ตาสีเงิน ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์เช่นประติมากรรม เขาดูเฉยเมยมากขึ้นจากช่วงเวลาที่ผ่านไปในนรกน้ำแข็ง บางครั้งเขาก็ไม่เคลื่อนไหวเลยนับหมื่นปี
ด้านนอกที่ประตูวังมีจักรพรรดิใรชุดเกราะสีดำ คอยเฝ้า หนึ่งในทาสของตาสีเงินได้ปรากฎตัวขึ้นมา
“เจ้าพบมนุษย์แล้วหรือ”
“ยังไม่มีใครพบนับตั้งแต่ที่เขาได้ต่อสู้กับจักรพรรดิกระดูก เขาก็
หายไปอย่างไร้ร่องรอย”
สองทาสพูดคุยกัน เขาออกไปค้นหาหลัวเฟิงและมารายงานตัวถ้าพวกเขาค้นพบ
“ปกป้องนายท่าน ข้าจะออกไปค้นหาข้างนอก” หลังจากพูดจบเขาก็
เทเลพอตหายไป
———-
หลัวเฟิงที่หลบซ่อนมา 100 ปี ทำให้คนที่ต้องการสู้กับเขาในตอนแรกเริ่มย้อมแพ้ไปชั่วคราว
“ข้าหาใครไม่ได้สักคน” หลัวเฟิงบ่นขณะบินผ่านพื้นที่ตะวันออกของ
นรกน้ำแข็ง และได้หยุดลงเหนือทะเลน้ำแข็ง
“ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตทรงพลังมักจะซ่อนตัว ข้าต้องมีวิธีพิเศษเพื่อให้
พวกเขาออกมา”
หลัวเฟิงมองไปที่ทะเลน้ำแข็งด้วยสายตาคม
“ทำลาย”
พลังงานวิญญาณของหลัวเฟิงตรงไปยังน้ำแข็ง พลังงานจิตวิญญาณของหลัวเฟิงตอนนี้ สามารถที่จะทำลายดาวขนาดเล็กได้อย่างง่ายๆ คงคาดเดาได้ว่าน้ำแข็งจะเป็นอย่างไรเมื่อเจอพลังของเขา
น้ำแข็งทั้งหมดภายในระยะหมื่นกิโลเมตรได้หายไป มันถูกบดขยี้ราว
กับอยู่ใต้พลังของสัตว์ประหลาด
คลื่นระเบิดได้แพร่กระจายออกไป
สิ่งมีชีวิตทรงพลังจะสังเกตเห็นหลัวเฟิงในทันที
“สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในนรกน้ำแข็งจะต้องออกมา” หลัวเฟิงคิด
———-
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในนรกน้ำแข็งในสิบล้านกิโลเมตรต่างรับรู้
“คลื่นพลังงาน…ใครกำลังต่อสู้” สิ่งมีชีวิตได้ออกมาจากน้ำแข็งแล้ว
มองไปยังเงา
“มนุษย์”
สิ่งมีชีวิตตกใจแล้วรีบกลับลงไปในทะเล
“มนุษย์ปรากฎตัว”
“พวกจักรพรรดิระดับขีดจำกัดทั้งสิบ กับ 5 จักรพรรดิคงกระพัน ต่างก็ออกค้นหาเขามาตลอด ทำไมเขายังกล้าที่จะปรากฎตัว”
สิ่งมีชีวิตกำลังประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะไปทดสอบหลัวเฟิง เขารู้ดีกว่าตัวเองไม่ใช้คู่ต่อสู้กับมนุษย์ เนื่องจากเขาสามารถหลบหนี
จักรพรรดิกระดูกได้ แล้วเขายังเร็วที่สุดจากคำพูดของจักรพรรดิกระดูก เขาควรจะบอกหรือเก็บเป็นความลับ มันอาจจะกลับกันก็ได้ถ้าเขาบอกตาสีเงิน มันอาจทำให้เขาถูกฆ่าหรือไม่ก็ได้
———-
คลื่นได้กระจายออกไปทั่ว สิ่งมีชีวิตทรงพลังได้เห็นมัน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะปรากฎตัว เพราะรู้เกี่ยวกับมนุษย์ ที่มีชื่อเสียงอยู่ระดับสูง
คลื่นพลังงานค่อยหายไป
“ไม่มีใครเลย?” หลัวเฟิงที่ยืนอยู่กลางอากาศเป็นเวลานานก็ยังไม่
สามารถหาใครพบ
“ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครเลยที่จะไม่ปรากฎตัวออกมา”
หลัวเฟิงมองออกไปไกล และทิ้งระเบิดพลังงานจิตวิญญาณบนน้ำแข็ง
มันเป็นครั้งที่สามที่เขาทำ และนั่นก็ได้รับการตอบรับจากสิ่งมีชีวิตที่
ทรงพลังจากคำท้าทายของเขา