ตอนที่ 932 ความห่วงใย

หลัวเฟิงกำลังสับสน อาจารย์ผู้นำเมืองได้เรียกเขาไปพบหลังจากต่อสู้ไป 10 ครั้ง แต่เพียงสองการต่อสู้ ผู้นำเมืองก็ทนไม่ไหว จนต้องมาพบกับเขา

“เจ้ากำลังสร้างการ เคลื่อนไหวที่สอง?” ผู้นำเมืองถาม และมองหลัวเฟิง

“ครับ” หลัวเฟิงตอบด้วยความเคารพ

“ข้าไม่คิดว่าการเคลื่อนไหวชุดแรกนั้นเพียงพอสำหรับวิถีดวงจันทร์

และแผนที่ดวงดาว ข้าจึงได้สร้างการเคลื่อนไหวที่สอง”

“เจ้ากำลังศึกษาพวกมันทั้งคู่?”

“ครับ” หลัวเฟิงตอบโดยไม่ลังเล

ผู้นำเมืองขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงจากลำคอ “เจ้าได้ทำการต่อสู้มา

บ้างแล้ว”

“สองครั้ง ข้าเกือบจะไม่ชนะคนแรก แต่แพ้ในครั้งที่สอง”

“แล้วเจ้าได้อะไรจากการต่อสู้นั้น” ผู้นำเมืองถาม

“ข้าได้ตระหนักถึงสองสิ่ง ความแข็งแกร่งและสมบัติ” หลัวเฟิงกล่าว

“สำหรับสมบัติ มันจะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างดี ถ้าเจ้าของไม่

แข็งแกร่งพอ มันจะเสียเปรียบในการต่อสู้กับศัตรูในระดับเดียวกันถ้า

ไม่มีสมบัติ สำหรับข้าที่มีสมบัติเพียงพอ แต่ในขณะที่ข้ายังต้องเพิ่ม

พลังของตัวเอง”

หลัวเฟิงและผู้นำเมืองอยู่ท่ามกลางดวงดาวในสนามฝึกซ้อม ได้ทำการถามตอบร่วมกัน

 “การต่อสู้ไม่ช่วยให้เจ้าได้คิด? เจ้ากำลังเสียเวลาของเจ้าในการ

พยายามเดินตามเส้นทางของผู้อ่านจิตวิญญาณหรือ” ผู้นำเมืองตำหนิ

หลัวเฟิงด้วยเสียงเข้มงวด

เสียงตรงเข้ามายังจิตใจหลัวเฟิง ด้วยวิธีที่พิเศษ

“เสียเวลา?” หลัวเฟิงส่ายหัว

“ไม่ ข้ารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว และมันเป็นเส้นทางที่

ถูกต้องสำหรับข้า”

หลัวเฟิงกำลังคิดว่าผู้นำเมืองได้ล้อเขาเล่น แผนที่ดวงดาวเป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้อ่านจิตวิญญาณเพื่อใช้ในการโจมตี เขาไม่สามารถเอาชนะจักรพรรดิระดับขีดจำกัดด้วยพลังของตัวเอง ขณะที่เขาสามารถใช้พลังจัดการกับจักรพรรดิเหยียบสายฟ้าด้วยแผนที่ดวงดาว

ผู้นำเมืองส่ายหัว “ควรจะปล่อยเส้นทางสำหรับผู้อ่านจิตวิญญาณและ

ไปตามเส้นทางของนักสู้”

ผู้นำเมืองถอนหายใจ

หลัวเฟิงยังคงสับสนและคอยจ้องไปยังผู้นำเมืองที่คอยแนะนำ เขาตลอด

“ทำไม” หลัวเฟิงถาม

“ ข้าได้รับสืบทอดมรดกจากบันทึกปีศาจ ทำให้ขยายพลังจิตวิญญาณ

ข้าสามารถบรรลุตามเส้นทางผู้อ่านจิตวิญญาณได้”

“แต่เจ้าจะบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ในเส้นทางของนักสู้” ผู้นำเมือง

กล่าว

“ท่านอาจารย์ ท่านช่วยอธิบายได้หรือไม่” หลัวเฟิงโค้งคำนับ

ผู้นำเมืองได้มองศิษย์ของเขา แล้วเข้าใจว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ด้วยเพียงประโยคเดียว

“ข้าจะอธิบายรายละเอียดเพิ่ม” ผู้นำเมืองพูดจริงจัง

“อย่างแรกคือนักรบดำ อย่างที่สองคือเส้นทางเทพอสูร”

หลัวเฟิง ฟังอย่างตั้งใจ

 “นักรบดำ ถือเป็นตำนานในดินแดนแม่น้ำเลือด”

“นักรบดำ หมายถึงยีนของเจ้าจะถูกพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้นได้ ถ้าใช้เลือดเทพอสูรในอนาคต รากฐานของยีนจะทำให้เจ้าแข็งแกร่ง

กว่าเดิม 1 พันเท่า แล้วศัตรูของเจ้าจะสู้กับเจ้าได้ยังไง”

“นอกจากนี้ เทพอสูรที่ตายในดินแดนแม่น้ำเลือดมุ่งสู่การต่อสู้แบบประชิด แล้วจำไว้ว่า ผู้อ่านจิตวิญญาณจะไม่สามารถเข้าถึงระดับสูงเมื่อเดินตามเส้นทางเทพอสูร”

ผู้นำเมืองได้มองไปยังหลัวเฟิงที่กำลังสับสน

“เจ้าต้องเดินตามเส้นทางของนักสู้เพื่อให้เข้ากับระดับของเทพอสูร” ผู้นำเมืองกล่าว

“เจ้าเป็นนักรบดำที่หาได้ยาก เจ้าจะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วในเส้นทางเทพอสูร เจ้าจะทำให้มันเสียเปล่ารึ? เจ้าสามารถกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ถ้าเจ้าเดินตามเส้นทางของนักสู้ ถึงมันจะยากแต่

รับประกันความสำเร็จ ถ้าเจ้าทำตามความต้องการตัวเอง มันเกือบจะ

เป็นไปไม่ได้สำหรับเจ้าที่จะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล”

หลัวเฟิง ตกลงสู่ความเงียบ

“บางเผ่าพันธุ์เล็กๆ ไม่รู้ความลับนี้” ผู้นำเมืองกล่าว

“บางคนได้พยายามสองเส้นทางเช่นเดียวกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไร้สาระ

เพราะพวกเขาไม่ไปถึงระดับสูงได้ เพียงแค่ดูฉิงหลูเต๋า เป็นตัวอย่าง เขาติดอยู่กับความท้าทายสุดท้าย โดยไม่อาจก้าวข้ามได้” ผู้นำเมืองมองหลัวเฟิง

“คิดให้ดี และให้คำตอบกับข้าเมื่อเจ้าตัดสินใจ”

ผู้นำเมืองหันออกไป หลัวเฟิงยังคงเงียบ

เขาต้องไปตามเส้นทางของนักสู้เท่านั้น

“ถ้าจะจับคู่เข้ากับเทพอสูร การเป็นนักรบดำ หมายถึงยีนสอดคล้องกับเทพอสูร นั้นก็ถูก ข้าได้ศึกษาคู่มือ 9 ขั้น ทำให้ยีนของข้าได้พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ามนุษย์ มันทำให้ข้าดูดซับคริสตัลแม่น้ำเลือดได้สิบชิ้น เส้นทางที่อาจารย์ผู้นำเมืองให้ คือต้องตามเส้นทางของนักสู้และเทพอสูร ข้ามีสิทธิ์ที่จะมีอำนาจเหมือนเทพอสูร ซึ่งหมายความว่าข้าจะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลได้ เส้นทางแห่งผู้อ่านจิตวิญญาณถูกแนะนำ โดยอาจารย์ผู้มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่ ข้าต้องรับคู่มือ 9 ขั้นโดยไม่จำเป็นต้องสร้างเทคนิคลับใดๆ และจัดการกับหอคอยดาว เมื่อข้ามีพลังมากขึ้นในอนาคต ลูกศิษย์ทั้งสองของอาจารย์ ผู้มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่นั้นเป็นเจ้าแห่งจักรวาล นั้นมันหมายความว่า…ข้า

จะต้องเป็นเจ้าแห่งจักรวาลเมื่อไปตามเส้นทางนี้ โดยที่ไม่ต้องพูดถึง

สมบัติที่มีพลังที่สุดอย่างหอคอยดวงดาว”

“ข้าควรจะเลือกอะไร” หลัวเฟิงนึกถึงภาพที่แตกต่างกันในใจ

หลัวเฟิงหัวเราะ ทำไมเขาจะต้องทุกข์ใจด้วย เขาจะทำตามสองเส้นทางเนื่องด้วยแต่ละเส้นทางจะทำให้เขามีโอกาสกลายเป็นเจ้าแห่งจักนวาลได้ เขาไม่ใช่โบแลน ที่เลือกจะเรียนรู้กฎพร้อมกันทั้งสอง แม้ว่าจะเหมือนเดินสองเส้นทางพร้อมกัน แต่ยังอยู่อยู่ในเส้นทางเทพอสูรเป็นหลัก และเรียนรู้ทั้งสองวิธีร่วมกัน

ผู้นำเมืองยืนอยู่ในช่องว่างท่ามกลางดวงดาวเป็นเวลานาน

“อาจารย์” หลัวเฟิงกล่าวพร้อมทำความเคารพ

“เจ้าได้ตัดสินใจแล้ว?” ผู้นำเมืองยังคงสงบ

“ครับ” หลัวเฟิงพูดขณะที่มองไปที่ตาของผู้นำเมือง

“ข้าตัดสินใจจะไปทั้งสองเส้นทาง และข้าจะมุ่งเน้นหนึ่งในนั้น

ขึ้น เมื่อข้าคิดว่าได้ตัดสินใจผิดในอนาคต”

ผู้นำเมืองหันกลับมาหาหลัวเฟิง

“ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะเจ้าได้ตัดสินใจแล้ว ข้าจะคอยดู

ว่าเจ้าจะไปไกลได้แค่ไหนโดยทำตามสองเส้นทาง”

หลัวเฟิงมองไปที่อาจารย์

“ดี มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะรู้จักความผิดพลาด สิ่งสำคัญจริงๆ คือ เจ้า

สามารถอดทนและใส่ใจกับมันได้หรือไม่” ผู้นำเมืองกล่าว

หลัวเฟิงคุกเข่า “ขอบคุณ ท่านอาจารย์”

หลัวเฟิงที่กำลังคุกเขาได้รู้สึกขอบคุณด้วยใจจริง เขารู้ว่าผู้นำเมืองได้

สนับสนุนเขาแม้ว่าเขาจะต่อต้าน ยังคงให้คำแนะนำ กับเขา คอยจัดหาคู่ต่อสู้ให้กับเขาเพื่อใช้ฝึกฝนเทคนิคลับที่ต้องใช้เวลานาน

แม้ผู้นำเมืองจะได้ให้ค่ากับหลัวเฟิงเพราะเผ่าพันธุ์ของเขา หลัวเฟิงก็ยังคิดว่าเป็นหนี้เขามาก เขาจะจำความเมตตาและจะตอบแทนเมื่อเขามีโอกาส

“มาเริ่มกันเลย”

หลัวเฟิงหายไป และอสูรเขาทองปรากฎตัว หลัวเฟิงได้ทำตามแผนที่วางไว้ตามเดิม โดยเริ่มจากวิถีดวงจันทร์ และตามด้วย 10,000 แผนที่ดวงดาว

———–

พื้นที่ลับดอกไม้ดำ ในนรกน้ำแข็ง ข่าวเกี่ยวกับหลัวเฟิงที่รอดจากเทคนิคของตาสีเงินได้กระจายออกไป แต่ภายในนรกน้ำแข็งไม่มีการสื่อสารขั้นสูง เครื่องตรวจจับหลัวเฟิงถูกขัดขวางเมื่อทำการสร้างโลกเสมือนในนรกน้ำแข็ง

การสื่อสารภายในแย่

นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตต่างๆ ภายในล้วนเป็นศัตรูกัน พวกเขาจะต่อสู้กัน

ตลอดเวลาเมื่อพบกัน พวกเขาอาจจะมีเพื่อนบ้างเล็กน้อย ส่งผลให้หนึ่งในสามของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนรกน้ำแข็ง ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับหลัวเฟิงต่อเมื่อผ่านไปแล้วครึ่งปี

———-

ทางใต้ของนรกน้ำแข็งมีวังที่ดูงดงามตั้งอยู่ มันมีก้อนน้ำแข็งเรียงรายอยู่รอบๆ มันถูกสร้างขึ้นจากเผ่าพันธุ์มารที่เป็นผู้จัดอันดับในนรกน้ำแข็ง มันคือที่อยู่ของ 1 ใน 5 จักรพรรดิคงกระพัน หมาป่านภา

เขาได้สร้างการจัดอันดับเพื่อบรรเทาความโดดเดี่ยว มีการบอกกล่าวกันว่าหมาป่านภาเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยม ในขณะที่หมาป่านภาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยความสงบ แต่เขาก็ยังคงฆ่าเมื่อเขาหงุดหงิด

บัลลังก์น้ำแข็งขนาดใหญ่ มีเผ่ามารยาว 15 กิโลเมตรนั่งอยู่ ขนของมันปกคลุมไปด้วยหิมะและท้อง มีรัศมีปรากฏออกมารอบๆ เขา มีสามรูปแบบการแกะสลักประหลาดอยู่บนหน้าผาก

“นายท่าน ดูเหมือนอันดับมีการเปลี่ยนแปลง”

“มีการต่อสู่ใหม่หรือไง”

“ครับ มันเป็นมนุษย์ที่ได้ต่อสู้กับจักรพรรดิเหยียบสายฟ้า และตาสีเงิน”

5 คนรับใช้ที่มีเกล็ดยืนอยู่ในวัง พวกเขาอยู่ในระดับผู้บัญชาการ หมาป่านภาพาพวกเขามาเมื่อถูกคุมขัง

หมาป่านภาเงยหน้าขึ้นและจ้องมองคนรับใช้ “มนุษย์อยู่ที่ไหน ค้นหา

มนุษย์ตอนนี้เลย”

คนรับใช้รู้สึกทึ่ง “นายท่าน การต่อสู้ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว”

“มากกว่าครึ่งปี?”

เมื่อมนุษย์ได้ปรากฎตัวขึ้น ตาสีเงินได้ออกตามหาเขาไปทั่ว แล้วในช่วงเวลาเดียวกันหมาป่านภาก็ส่งคนรับใช้ออกตามหาอย่างลับๆ และในที่สุดเขาก็ได้ปรากฏตัวออกมา

หมาป่านภาไม่ได้คาดว่าข่าวนี้จะออกมากว่าครึ่งปีแล้ว

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ปล่อยผ่านไปได้” หมาป่านภากล่าว

หมาป่านภาได้ยืนขึ้นด้วยสี่กรงเล็บจากบนบัลลังก์ คนรับใช้ของเขาต่างคุกเข่าลงด้วยความกลัว