ตอนที่ 987 เดินไปสู่ความตายด้วยตัวเอง
หลังจากคำสั่งของเจ้าชาย วงกลมเริ่มแคบลง
วงกลมมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 200 ล้านกิโลเมตร แล้วมีนักสู้พื้นเมือง 100 ล้านคน อมตะทุกคนจะมี 1 พันนักสู้ระดับห้วงมิติ แม้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะให้นักสู้ระดับห้วงมิติหยุดหลัวเฟิง แต่พวกเขาก็ยังคงส่งข้อมูลได้
มันจะต้องใช้เวลาสองสามวันที่หลัวเฟิงจะฝ่าวงล้อม
วงล้อมมีทั้งหมด 9 ชั้น และ 8 ชั้นในทั้งหมดเป็นระดับห้วงมิติ อมตะและอัศวินอยู่ชั้นนอกสุด
“เขาไม่สามารถหลบหนีได้” หนึ่งในนายพลกล่าว
“เขาได้ติดกับดักแล้ว การถูกจับคือชะตาเดียวของเขา” เจ้าชายกล่าว
นักสู้ระดับห้วงมิติอยู่ในแต่ละจุดห่างกัน หมื่นกิโลเมตรในทุกเส้นทาง
พวกเขามุ่งหน้าเข้ามาหลัวเฟิง พวกเขาปล่อยพลังงานโลกเชื่อมต่อกับพลังงานโลก 9 กว้างไกล มันกำลังกวาดไปทั้งพื้นจนไม่มีทางที่สิ่งมีชีวิตใดซ่อนจากมันได้
วงกลมกำลังเล็กลง
หลังจากผ่านไปสามชม. นักสู้ระดับห้วงมิติที่บินด้วยความเร็วสูงก็หยุดลง เขามองไปด้านล่างและร้องตะโกนออกมา “เผ่าพันธุ์อื่น ผู้บุกรุกเผ่าพันธุ์อื่น”
พื้นดินถูกฉีกออก เงาในชุดเกราะสีเงินได้บินพุ่งออกมา พร้อมกระจายพลังงานที่ทรงพลัง
นักสู้ระดับห้วงมิติได้ทำการเข้าจับเขา แต่มันช้าเกินไปหากจะเทียบกัน
นักสู้ระดับห้วงมิติเริ่มไล่หลัวเฟิงมาจากทุกทิศทาง แต่พวกเขาก็เห็นเพียงเงาสีเงินที่บินออกไปนอกวง
“เขาไม่สามารถหลุดไปได้ เราเพียงแค่ชั้นในสุดของวงเท่านั้น พวกเรามี 9 ชั้น”
นักสู้ระดับห้วงมิติเริ่มกลับไปยังตำแหน่งของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน นักสู้จากทางเหนือของวงก็หยุดเดินหน้าต่อ ชั้นที่สองถึงชั้นที่แปดที่มีนักสู้ระดับห้วงมิติ ก็เริ่มตามผู้บุกรุก
ชุดเกราะสีเงินปีกสีเงินได้ผ่านนักสู้ระดับห้วงมิติ
“เขาเร็วมาก” นักสู้คนหนึ่งกล่าว
“เร็วจริงๆ” อีกคนกล่าว
นักสู้อมตะเริ่มรวมตัวที่ชั้นนอกสุด นักสู้ระดับห้วงมิติพยายามหาตำแหน่งผู้บุกรุก เพื่อระบุตำแหน่งสำคัญให้กับชั้นนอกสุด
จากชั้นที่ 9 จนถึงชั้นที่ 1 ผู้บุกรุกเกาะสีเงินกับปีกสีเงินได้บินมาเกือบ 30 นาที
นักสู้อมตะ 800 คนได้กระจายออกเป็นสามทีม เตรียมพร้อมเข้าต่อสู้
“เขาบินผ่านชั้นที่ 8 มาแล้ว เขาจะมาถึงในไม่ช้า”
“ทุกคนคอยระวังให้ดี เขาเร็วมาก แม้แต่หัวหน้าเราก็ตามเขาไม่ได้ แต่ละทีมเข้าล้อมเขาไว้”
30 นาทีเพียงพอให้นักสู้อมตะบินได้ไกล 100 ล้านกิโลเมตร นักสู้อมตะทั้งหมดได้กระจายอยู่ร้อยล้านตารางกิโลเมตร
เจ้าชายยืนอยู่ข้างวงล้อม
“เขาบินไปทิศทางนั้น มันน่าเสียดายที่ไม่สามารถสู้กับเขาได้ แต่ข้าหวังว่าเขาจะรักษาร่างอมตะไว้ได้ 20-30% จากการโจมตีของนักสู้อมตะทั้ง 800 ของเราได้”
“ฝ่าบาท ผู้บุกรุกนี้ไม่ธรรมดา เขาไม่เพียงแต่หนีจากวงล้อมนนักสู้อมตะทั้ง 800 ของเรา แต่เขายังคงสามารถอยู่รอดได้”
มีประกายแสงเข้าตาของเจ้าชาย เขาสามารถเห็นทุกอย่างได้จากการถ่ายทอดผ่านโลกเสมือน
“เริ่มได้” เจ้าชายออกคำสั่ง
สามกองทัพที่มีนักสู้มอตะราว 800 คน
“ผู้บุกรุกมาถึงแล้ว ทำการโจมตี” อมตะระดับสูงในกลุ่มนักสู้อมตะให้คำสั่ง
นักสู้อมตะทั้งหมดได้ยกแขนขวาขึ้น แขนของพวกเขาเริ่มรวบรวมพลังงานอมตะจากการเผาผลาญร่างอมตะ พลังงานส่องแสงสีแดงเลือดออกมา
การไหลของอากาศสีแดงสามารถที่จะเห็นได้ชัดเจน การไหลเวียนของอากาศได้สร้างร่างของดาบที่มองไม่ชัดขึ้นมาที่แขนขวาของนักสู้อมตะ
สองร้อยนักสู้อมตะที่อยู่เหนือขึ้นมาได้สร้างรูปร่างของดาบสีเลือดขนาดใหญ่ที่มองไม่ชัดเจนขึ้นมา ใบมีดขนาดใหญ่ได้อยู่เหนือกลุ่มกองทัพอมตะทั้งสาม
ร่างชุดเกราะสีเงินและปีกสีเงินได้ปรากฎตัว เขาเห็นทีมอมตะจากระยะไกล และเริ่มหลบหนีไปทิศตรงกันข้ามด้วยความตื่นตระหนก มันน่าเศร้าที่นักสู้อมตะได้อยู่ทุกทิศทาง จนเขาถอยไม่ได้
“โจมตี” ผู้ออกคำสั่ง
ใบมีดสีเลือดถูกยิงออกมา ไม่มีใครคิดจะหยุดดาบขนาดมหึมาทั้งสาม ได้ตามติดร่างเกราะสีเงินปีกสีเงิน เขาได้ปล่อย
พลังออกมาเพื่อทำการหลบหนี แต่ความเร็วของเขาเทียบกับใบมีดสีเลือดนี้ไม่ได้ ใบมีดสีแดงเลือดนับพันที่บินมาได้สัมผัสกัน พวกมันเกิดการระเบิดขึ้นพร้อมกัน
พลังที่รุนแรงของมันเทียบได้กับการทำลายตัวเองของสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ พลังได้กวาดร่างของคนชุดเกราะสีเงินปีกเงิน
เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นมาจากการทำลายล้างของใบมีดสีเลือดที่ทรงพลัง
นักสู้อมตะทั้ง 800 ที่รวมตัวกันได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ด้วยพลังงานอมตะของพวกเขา
“ผู้บุกรุก…ตาย มีเพียงอาวุธทั่วไปของอมตะกับแหวนโลกที่เหลืออยู่”
เจ้าชายได้รับรายงานข่าวในทันที
“ตาย?” เจ้าชายประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน นักสู้อมตะจากเผ่าพันธุ์อื่นนั้นเร็วกว่ากัปตันระดับอมตะ แม้ในโลกที่เผ่าพันธุ์ของเขามีอำนาจมากที่สุด เผ่าพันธุ์อื่นจะถูกขัดขวางแล้วถูกฆ่าอย่างรวดเร็ว แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาคำนวณไว้
“ฝ่าบาท นักสู้อมตะเราเป็นตัวเร่งปฎิกิริยาการโจมตีรวมของพลัง 9 กว้างไกล พลังงานโลกได้อยู่ข้างเรา มันไม่แปลกที่ผู้บุกรุกจะถูกฆ่าตาย ถ้าหากมีนักสู้อมตะเพียงพอและกระตุ้นพลังงานของโลก นักสู้ระดับอัศวินพวกเราก็สามารถฆ่าได้”
“ตรวจสอบแหวนโลก” เจ้าชายสั่งผ่านโลกเสมือน
ซักพักก็มีรายงานเข้ามา ไม่มีสิ่งมีค่าใดในแหวนโลก มันเป็นเพียงวัตถุทั่วไปที่อยู่ภายใน มันแค่ขยะสำหรับเจ้าชาย
เจ้าชายส่ายหัว “มันเป็นของปลอม ผู้บุกรุกที่ตายไปเป็นแค่ตัวลวง ถ้าเขาสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ากัปตันระดับอมตะของข้า เขาต้องมีสิ่งพิเศษอยู่ในแหวนโลก ใครก็ตามที่มีสถานะสูงย่อมมีสมบัติบ้าง”
“บางทีการหนีจะเป็นทักษะเดียวของเขา” อัศวินที่อ่อนแอกว่าตอบ
“ทำการตรวจสอบอีกครั้ง” เจ้าชายออกคำสั่ง
“นักสู้อมตะทั้งหมดกลับประจำตำแหน่ง และทำให้วงแคบลง”
800 นักสู้อมตะทำการถอย พวกเขาใช้เวลาราว 30 นาทีในการรวมตัว พวกเขาจึงใช้เวลากลับไปยังตำแหน่งเดิมใน 30 นาที มันเป็นเวลา 1 ชั่วโมงที่เขาสูญเสียให้กับผู้บุกรุกชุดเกราะสีเงิน
———-
สองชั่วโมงต่อมา
“พบผู้บุกรุก ข้าพบผู้บุกรุก”
“อะไรกัน อีกแล้วงั้นเหรอ”
“ทำไมเขายังไม่ตาย”
เจ้าชายส่งเสียงหัวเราะ “ข้ารู้ดีว่าไม่สามารถประมาทผู้บุกรุกได้ เขาต้องใช้ทาสอมตะของเขาในรูปลักษณ์ของตัวเอง เพื่อล่อให้เราไปติดกับดักของเขา”
“ฝ่าบาทเราควรทำไงในตอนนี้ นี้ไม่ควรจะใช่ผู้บุกรุกที่แท้จริงเช่นกัน”
สองอัศวินมองมาที่เจ้าชาย พวกเขาได้มีความคิดบางอย่างอยู่ แต่พวกเขารอการตัดสินใจของเจ้าชายเพราะสถานะที่สูงกว่า
“ตามแผนเดิม เราจำเป็นต้องระวังกับผู้บุกรุกทุกคนที่ปรากฎตัวออกมา เราอาจปล่อยเขาหนีไปถ้าเราไม่ทำตามแผน”
“แต่กระบวนการทั้งหมดจะช้าลง” หนึ่งในอัศวินกล่าว
“ข้าคิดว่าช้าดีกว่าพลาด ฆ่าผู้บุกรุกทุกคนที่เจ้าพบ อย่าปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว แม้ตัวจริงก็หลบหนีไม่ได้”
———-
ในขณะที่หลัวเฟิงซ่อนตัวก็ได้คิดแผน ผู้บุกรุกทั้งสองถูกส่งมาโดยหลัวเฟิง
ทาสอมตะของหลัวเฟิงได้เดินทางผ่านวงล้อม ทำให้นักสู้อมตะรวมตัวกันเพื่อฆ่าทาสของเขาทั้งหมด อมตะที่ทำการรวมตัวจะใช้เวลา 1-2 ชม.ในแต่ละครั้ง
“เป็นโชคดีที่มีทาสจำนวนมาก ทาสวิญญาณยังมีทาสของตัวเองกว่า 100 ทาส”
หลัวเฟิงไม่กังวลเกี่ยวกับทาสเหล่านี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเร็วกว่าชาวพื้นเมืองระดับห้วงมิติ พวกเขาเผาผลาญพลังอมตะของพวกเขา ความแข็งแกร่งก็มากขึ้นนับ 1 พันเท่า ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่านักสู้ระดับห้วงมิติไปไกล
หนึ่งทาสอมตะเดินทางหลังจากอีกหนึ่งทาสได้ตาย พวกเขาทำการซื้อเวลา
“เร็ว เร็ว เร็วเข้า” หลัวเฟิงรู้สึกกังวล
“ต้องส่งทาสไปอีกด้านของวงล้อมให้ช้าลง สามกองทัพยังคงเดินหน้าต่ออย่างรวดเร็ว ข้าต้องการให้พวกเขาช้าลงทั้งสี่ด้าน”
“ต้องให้ทาสขวางไว้มากกว่าหนึ่งวัน” หลัวเฟิงคิด
“ทาสอมตะมีประโยชน์สำหรับการขนส่งผ่านจักรวรรดิเทพหรือเหยื่อ ข้าเสียพวกเขาอย่างประมาทไม่ได้”
หลัวเฟิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าตรงจุดที่ร่างโมชานได้ใช้เทคนิคพรสวรรค์ดิ่งผ่านกระแสอากาศสีเลือดลงมาหาเขา ร่างโมชานได้ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“เร็วเข้า การหลบหนีขึ้นอยู่กับร่างเผ่าโมชาน รีบมาก่อนที่วงล้อมจะแคบลงหมด” หลัวเฟิงบ่น
ตามแผนเดิม หลัวเฟิงใช้ทาสอมตะของเขาให้หนีออกไปนอกวง เพื่อให้นักสู้อมตะรวมกันข้างนอก เขาจะได้อิสระและหลุดรอดออกมา แผนครั้งที่สองของเขาก็ยังไม่สำเร็จ
วงล้อมได้ถูกสร้างมาอย่างประณีต มันมีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นทำหน้าที่เหมือนฟันเฟืองที่แข็งแรง นักสู้อมตะที่อยู่ห่างเป็นแนวกั้น แม้นักสู้อมตะจะถูกดึงดูดจากแผนของเขา ยังมีบางส่วนที่คอยอยู่ด้านหลัง ผลัดกับด้านหน้า เป็นการทำให้หลัวเฟิงไม่สามารถหลบหนีได้ใน 1-2 ชม.
“ถ้าโชคไม่ดีวิ่งไปเจออัศวินมันคงจบ” หลัวเฟิงคิด
“วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือให้ร่างโมชานทำหน้าที่หลบหนี มันเป็นวิธีดีที่สุด ทำให้ได้รับอิสระ”
หลัวเฟิงมองดูท้องฟ้าอย่างหงุดหงิด