ตอนที่ 318 คํานับดวงวิญญาณ
ดวงอาทิตย์แย้มเผยออกมา ดังนั้นฉินมู่จึงลุกขึ้น เขาเสียบกระบี่ไร้กังวลเข้าไปในฝักใหม่ที่เพิ่งแกะสลักเมื่อวานนี้ เตะตูดกิเลนมังกรหนึ่งที เขาปลุกมันและค้างคาวขาวสองพี่น้อง
กิเลนมังกรลุกคลานขึ้นมา ดวงตาของเขาเปี่ยมประกาย “จ้าว ลัทธิ อาหารวันนี้ล่ะ?”
ฉินมู่คุ้ยหาในถุงเต๋าตี้ เขามียาวิญญาณเพลิงฉานเหลืออยู่ไม่ มาก แต่ก็ยังคงให้อาหารเต็มชุดแก่กิเลนมังกร
ค้างคาวขาวทั้ง 2 ปล่อยคานหลังคาที่พวกเขายึดเกาะอยู่แล้ว ร่อนลงมายังพื้น หลวงจีนปีศาจทั้ง 3 ก็ลืมตาขึ้นมาและนํานํ้า สะอาดกับเสบียงก้อนออกมากิน เสบียงก้อนของพวกเขานั้นทํา จากแมลงบด
หลวงจีนจากวัดน้อยฟ้าคํารามนั้นเป็นเผ่าปีศาจ ดังนั้นพวก เขาจึงไม่ยึดมั่นกับการกินเจ และไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย เท่ากับหลวงจีนแห่งวัดใหญ่ฟ้าคําราม พวกเขาทั้ง 3 เป็นสัตว์ พิสดารจําพวกนก ดังนั้นพวกเขายังชื่นชอบการกินแมลงอยู่ และ เพื่อสะดวกแก่การพกพาติดตัว พวกเขาจึงบดแมลงปั้นเป็นก้อน แล้วอบแห้งให้เป็นก้อนเสบียง
ติ้งเจว่หักก้อนเสบียงแมลงออกครึ่งหนึ่งแล้วยื่นให้แก่ฉินมู่ซึ่งก็ รับมาลองชิมดู เขาพบว่ารสชาตินั้นไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งมีกลิ่น หอมและกรอบอร่อย
ฝูงสัตว์พิสดารเริ่มย้ายออกจากที่นี่ และผู้คนในซากโบราณก็ ตามฝูงสัตว์พิสดารออกไป ทุกๆ คนตื่นตัวระแวงภัยกันอย่างถึงขีด สุด มีก็แต่ฉินมู่ที่ดูค่อนข้างใจลอย สถานที่นี้ติดกับขอบแดนทิศใต้ ของแดนโบราณวินาศและเขาอยากจะเห็นจริงๆ ว่าความมืดหาย ลับไปทางไหน
ในเมื่อความมืดในแดนโบราณวินาศท่วมท้นไหลบ่ามาจากทิศ ตะวันตก ปลายสุดทางตะวันตกก็น่าจะเป็นแหล่งที่มาของพวกมัน หากว่าฉินมู่ค้นพบสถานที่นั้น เขาก็อาจจะค้นพบต้นสายปลายเหตุ
ของภัยพิบัติอันคลี่คลุมแดนโบราณวินาศนี้อยู่
ฝูงสัตว์ทั้งหลายเดินออกจากซากโบราณ และฉินมู่หันหลัง กลับไปมอง เขาเห็นว่ารถม้าก็แล่นออกมาด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่ เห็นหญิงสาวที่ประดับดอกไม้แดงเล็กๆ บนเรือนผม และชายหนุ่ม โพกผ้าขาวอีกต่อไป เขาเห็นก็แต่กวาง 2 ตัวที่มีลายดอกท้อทั่ว ตัวลากรถม้ามาอยู่
เขาของกวางตัวผู้มีผ้าขาวพันเอาไว้ ส่วนกวางตัวเมียมีผ้าดํา พันที่หู และยังมีโซ่เงินโซ่ทองห้อยจากหน้าอกของมัน ที่หัวของมัน ยังประดับไว้ด้วยดอกไม้สีแดงดอกเล็กๆ ส่วนเท้าหน้าของมันมี กําไลหยก เงิน และทองมากกว่าสิบวงสวมใส่อยู่
“ที่แท้พวกเขาก็เป็นปีศาจ”
เมื่อวานเขาดูไม่ออกว่าชายหนุ่มหญิงสาวคู่นี้คือสัตว์พิสดารคู่ หนึ่ง รอบตัวพวกเขาไม่มีปราณปีศาจ ดังนั้นเขาจึงไม่คาดคิดว่า จริงๆ แล้วทั้งคู่จะเป็นกวาง 2 ตัวที่ฝึกบําเพ็ญจนกระทั่งพวกเขา สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์
วิชาเช่นนี้วิเศษเหนือธรรมดาจริงๆ มันน่าจะเป็นวิชาฝึกปรือ ของฝ่ายเที่ยงธรรม หรือพวกเขาจะเป็นอาคันตุกะจากแผ่นดิน ตะวันตก? ฉินมู่คิดในใจ
เมื่อฉินมู่มองไปข้างหลังกวาง 2 ตัวนี้ เขาก็เห็นผู้ฝึกวิชาเทวะ เป็นร้อยคนติดตามมาข้างหลังรถม้าอย่างเงียบงัน ศีรษะเล็กๆ ที่มี ผมเปีย 2 เส้นโผล่ขึ้นมาจากรถม้าและมองไปข้างหลัง แล้วก็มี 2 มือขาวผ่องดึงเอาหัวเล็กๆ นั้นกลับเข้าไปก่อนจะปิดหน้าต่าง รถม้า
ฉินมู่ถอนสายตาออกไป เขานั่งอยู่บนหลังกิเลนมังกร กระบี่ไร้ กังวลพร้อมที่จะหลุดออกมาจากฝักได้ทุกเมื่อ และกระบี่บิน ทั้งหลายของเขาในถุงเต๋าตี้ก็สั่นเทิ้มพร้อมแก่การใช้งาน
จีวรของหลวงจีนปีศาจทั้ง 3 ปลิวไสวไปตามลมเมื่อพวกเขา เคลื่อนที่ไปด้วยระยะยาวๆ ดุจเหินบินทุกครั้งที่กรงเล็บของเขาแตะพื้น
ผานกงสั่วมองไปรอบๆ ด้วยประกายตาวูบวาบ ในฝูงสัตว์ พิสดารรอบๆ ตัวเขา มีตัวตนที่แข็งแกร่งอย่างอัศจรรย์หลายต่อ หลายตน และยังมีกฎเกณฑ์ท่ามกลางสัตว์พิสดารว่าหากมีใครจู่ โจมใครตอนนี้และสร้างความแตกตื่นแก่ฝูง มันผู้นั้นก็จะตกเป็นเป้า โจมตีของทุกๆ คน
ไม่นานนัก ฝูงสัตว์ก็แยกย้ายกระจายไป
ในจังหวะนั้นเอง กวาง 2 ตัวที่ลากรถม้าอยู่ก็เริ่มตะกุยกีบวิ่ง ตะบึง ดึงรถม้าไปด้วยความเร็วสูง ข้างหลังพวกเขา ผู้ฝึกวิชาเทวะ ร้อยคนก็เร่งความเร็วเพื่อไล่ล่าด้วยเช่นกัน
“ไหน่ขุย อย่าหนีนะ!”
ปราณชีวิตแผ่พุ่งออกมาจากรถ และต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วน ก็งอกเงยขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ยืดดกรกเรื้อปิดบังเส้นทาง พื้นที่ป่าอันกว้างกว่า 4 ไร่ก็ราวกับมีชีวิตขึ้นมา
ต้นไม้โบราณพลันดึงรากของมันออกจากพื้น กลายเป็นยักษ์ ใหญ่ที่เดินได้ เมื่อพวกมันยกรากขึ้นและลงบนพื้น แผ่นดินก็สั่นสะเทือนไปหมด จากนั้น กิ่งลําก็แปรเปลี่ยนเป็นกําปั้นใหญ่ที่ซัด
ต่อยผู้ไล่ล่าทุกคนให้กระเจิดกระเจิงไป
ต้นไม้ในแดนโบราณวินาศใหญ่โตมโหฬาร ส่วนใหญ่แล้วจะ สูงกว่า 15 วา แต่ก็มีต้นที่สูงเทียมยอดเขาอยู่มากมายเช่นกัน ด้วยทักษะเทวะอันมหัศจรรย์ของหญิงสาวในรถม้า ต้นไม้เหล่านี้ก็ ยิ่งดูใหญ่โตขึ้นมาอีกและครอบครองพละกําลังอันไร้ประมาณ!
เถาวัลย์ในป่าก็กลายเป็นสิ่งคล้ายปีศาจ พวกมันม้วนรัดผู้ฝึก วิชาเทวะทั้งหลายราวกับอสรพิษ บีบรัดพวกเขาให้ตาย!
หางตาฉินมู่กระตุกรัวๆ จากภาพที่เห็น ทักษะเทวะเช่นนี้ยากที่ จะพบดูได้และค่อนข้างคล้ายคลึงกับวิชาดินอสงไขยเสกสรร ซํ้ายัง เขื่องโขทรงพลานุภาพมากกว่าเสียอีก!
แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นและภูเขาก็สั่นสะท้านเมื่อต้นไม้ยักษ์ เหล่านี้อาละวาดฟาดฟัน
แต่ทว่า ผู้ฝึกวิชาเทวะจากต่างเผ่าเหล่านี้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ที่ว่องไว พวกเขาขับเคลื่อนทักษะเทวะของตนทันที เสียงหวีดร้อง ดังมาจากต้นไม้และเถาวัลย์ และแสงสีขาวอันดูเหมือนดวงจิตแต่ก็ ไม่เชิงดวงจิต จะเป็นวิญญาณก็ไม่เชิงวิญญาณ ลอยออกมาจาก พืชพรรณเหล่านี้ ต้นไม้ยักษ์ล้มครืน และเถาวัลย์เขียวก็แห้งเหี่ยว
ผู้ฝึกวิชาเทวะคนหนึ่งโบกสะบัดมือ และภูเขาก็สะเทือนสะท้าน ส่งเสียงครืนครัน หินจํานวนมากกลิ้งหลุนๆ กระจายไปทั่วทิศ และ ภูเขาลูกนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นยักษ์ที่เหวี่ยงกําปั้นมหึมาเข้าไปฟาด ทุบรถม้า!
กวางตัวเมียที่ข้างหน้ารถยกเท้าหน้าทั้ง 2 ของนางขึ้น กําไล เงินและทองบนขาคู่นั้นก็ลอยลิ่วออกไปรัดรึงหมัดของยักษ์ภูเขาเอาไว้ บีบมันจนแหลกทําลาย อีกหมัดของยักษ์ภูเขาจึงซัดเข้ามา ใส่ กวางตัวเมียแค่นเสียงทันที
นางกระทืบเท้าและหญ้าเขียวจํานวนมากก็เติบโตขึ้นมาอย่าง บ้าคลั่ง พวกมันเหมือนกับกระบี่ แทงเข้าไปในช่องว่างระหว่างหิน ภูเขาของยักษ์ภูเขา พวกมันฝังรากลงไปในกายยักษ์และเบ่งบาน ขยายเป็นพรืดเขียว ทําให้ยักษ์นี้แตกทําลายเป็นชิ้นๆ และร่วงกราว ลงมาทันที
กวาง 2 ตัวพลันเผ่นโผนโจนทะยานด้วยความเร็ว และพารถ ม้าหลบหนีไปจากที่นี่
“นี่มันทักษะเทวะอะไรกัน”
ฉินมู่ยังคงอึ้งทึ่งอย่างไม่รู้จบ คนพวกนี้ดูเหมือนจะหยิบยืมพลัง อํานาจของฟ้าและดินเพื่อเสริมส่งพลานุภาพแห่งธรรมชาติ แปรเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นทักษะเทวะ การกระทํานี้แตกต่างจากวิธีของจักรวรรดิสันตินิรันดร์ และประเทศข้างเคียง
“นี่คือทักษะเทวะของตําหนักสวรรค์แท้แห่งแผ่นดินตะวันตก” กิเลนมังกรกล่าวด้วยเสียงตํ่าอู้อี้ “ข้าเคยไปยังแผ่นดินตะวันตกกับ ปรมาจารย์ในครั้งหนึ่ง และตําหนักสวรรค์แท้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของ ที่นั่น ทักษะเทวะของสถานที่นั้นแตกต่างจากแผ่นดินภาคกลาง พวกเขาเชื่อว่าสรรพสิ่งล้วนมีจิตและวิญญาณ แม้แต่ต้นหญ้า ต้นไม้ ก้อนหิน ในสายตาของผู้คนเหล่านั้น พวกมันครอบครอง ดวงจิต ดวงวิญญาณและสมบัติเทวะ ดังนั้นมรรคาเต๋าของพวกเขา จึงเป็นว่าทุกๆ คนและทุกๆ สิ่งมีจิตและวิญญาณ ปรมาจารย์กล่าว ว่ามรรคาเต๋าของพวกเขานั้นไม่เลวเลยทีเดียว”
“ทุกสิ่งมีดวงจิต ทุกสิ่งมีดวงวิญญาณ?” ฉินมู่อุทานด้วยความชื่นชม ทักษะเทวะของแผ่นดินตะวันตก
ได้ดําเนินตามมรรคาอันแตกต่างจากผู้อื่นในโลกหล้า และควรค่า
แก่การเรียนรู้ ในเมื่อขนาดปรมาจารย์เยาว์ยังชมพวกเขาว่าไม่เลว ก็แปลว่าตําหนักสวรรค์แท้นั้นคู่ควรแก่คําว่าแดนศักดิ์สิทธิ์
ใช้ทักษะเทวะเพื่อสร้างยักษ์ขึ้นมาจากภูเขานั้นน่าตื่นตะลึงอย่างแท้จริง ภูเขากลับมีชีวิตและกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่เพื่อต่อสู้ สัประยุทธ์นั้นนับว่าน่าแตกตื่นสะท้านโลก นี่มันเต็มเปี่ยมไปด้วย
ความสําเร็จอันคิดฝันไม่ถึงเมื่อพูดถึงพลังทําลายล้างของมัน อัน ทําให้ฉินมู่ได้เปิดหูเปิดตา
พลังทำลายล้างของมันมหาศาลอัศจรรย์! เจ้า ลัทธิฉินผู้ยิ่งใหญ่เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
สงสัยเสียจริงว่าพวกเขาได้ใช้วิธีนี้รื้อดิน สร้างบ้านในแผ่นดินตะวันตกหรือเปล่า ข้าเกรงว่าแม้แต่ภูเขาสัก
ลูกที่นั่นก็คงไม่หลงเหลือกระมัง หากว่าข้าสามารถเรียนวิธีการนี้ ก็ คงง่ายที่จะใช้กรุ่ยภูเขาเพื่อก่อสร้างถนน!
“โจมตี” ทันใดนั้นผานกงสั่วก็ร้องออกคําสั่ง และลิ่วล้อของเขา ก็โลดออกมาลงมือในทันใด ไจมีดพุ่งออกมาเกลื่อนฟ้า และแสงมีด ก็ถล่มลงมาใส่ฉินมู่พร้อมๆ กัน และจังหวะนั้นราชาหมอผีทั้ง 3 ก็ ลงมือและร่ายมนตร์หมอผีเพื่อกระชากค้างคาวทั้ง 2 ให้ลงมาจาก อากาศ
ฉินมู่หัวเราะฮาๆ แล้วสะบัดเสื้อผ้าของเขาเพื่อหายตัวไป ในพริบตาถัดมา เขาปรากฏขึ้นข้างๆ หมอผีใหญ่และทหารจักรวรรดิคนเถื่อนตี้ เมื่อกระบี่ไร้กังวลของเขาบินออกไป แสงกระบี่นับไม่ ถ้วนก็พรั่งพรูออกมาจากถุงเต๋าตี้ของเขาและยิงออกไปทุกทิศทาง
ฟิ้ววว!
กระบี่ 8,000 เล่มเกลื่อนกล่นบริเวณ และลอยลิ่วไปในรัศมี 150 วา โลหิตหยาดหยดลงจากใบกระบี่ไม่หยุด อันมีเพียงแต่ หมอผีใหญ่ขั้นเจ็ดดาว 2 คนเท่านั้นที่รอดคมกระบี่ไปได้ พวกเขา ต้านทานรับแสงกระบี่ไร้ประมาณและไม่ถูกแทงทะลุขั้วหัวใจ แต่กระนั้นพวกเขาก็ขวัญหนีดีฝ่อ
เสื้อผ้าเคลื่อนย้ายระยะไกล?
ผานกงสั่วตื่นตระหนก ฉินมู่ลงมือฉับไวเกินไป อาศัยเสื้อผ้า เคลื่อนย้ายระยะไกลเพื่อเข้ามาประชิดตัวพวกเขา จากนั้นก็ปลดปล่อยกระบวนท่าสังหารออกมาในพริบตา
ลําบากเพียงยกนิ้ว กระบี่ไร้กังวลก็แล่นปราดออกไป นําแสง กระบี่จํานวนนับไม่หมุนวนรอบๆ ตัวมัน ฟาดฟันเข้าใส่หนึ่งในหมอผีขั้นเจ็ดดาวที่เหลือรอด!
หมอผีผู้นั้นพลันงอกเงยปีกทองและกระพืออย่างถี่ยิบ กระบี่ขน นกทองคําจํานวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกไปและปะทะต้านรับการโจมตี ฉินมู่พลันถูกถล่มด้วยพลังและกระเด็นถอยหลัง แต่ในจังหวะที่เขา
กระเด็นไป เขาก็สะบัดเสื้อคลุมตัวแล้วหายวับไปจากจุดนั้น
พริบตาถัดมา ฉินมู่ปรากฏขึ้นข้างหลังหมอผีใหญ่ผู้นี้ นิ้วทั้ง ห้าของเขาเปิดอ้าออก เรียกกระบี่ไร้กังวลและกระบี่ลูกทั้ง 7,999 พุ่งหวือมา
ในจังหวะนั้น ผานกงสั่วก็หมุนกายแล้วหายวับไป
กิเลนมังกรและหลวงจีนปีศาจ 3 ตนวิ่งเข้ามา 2 หมอผี ใหญ่ขั้นเจ็ดดาวถีบตัวทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาถูก 3 หลวงจีนไล่ล่า หลวงจีนทั้ง 3 สะบัดร่างและแปลงเป็นวายุภักษ์ปีก ทอง
กิเลนมังกรอ้าปากร้องคําราม และเสาไฟแท่งใหญ่ยิงเข้าไปใส่ ผานกงสั่ว
เขาไม่กล้าปะทะกับเสาไฟตรงๆ และร่างของเขาเปล่งแสงวูบ หายวับและไปปรากฏที่ข้างกายราชาหมอผีทั้ง 3
ราชาหมอผีทั้ง 3 กําลังกลุ้มรุมโจมตีค้างคาวขาวสองพี่สอง อย่างดุเดือด และค้างคาวขาวก็ได้แต่ทนมือทนตีน แม้ว่าผู้ที่กลุ่มรุม เขาจะเป็นราชาหมอผีขั้นเป็นตายหนึ่งคนและขั้นชาวสวรรค์ 2 คน พวกเขาก็ยังคงโดดโลดเต้นไปมาได้ นับว่าหนังหนาเป็นอย่างยิ่ง
“กงมู่ เจ้าจัดการค้างคาวขาว 2 ตัว! ส่วนราชาหมอผีคนอื่นๆ ฆ่าไอ้ลาหัวโล้นทั้ง 2 นี้ให้กับข้า!” ผานกงสั่วกล่าวอย่างเด็ดขาด “เราต้องกําจัดพวกมัน!”
ราชาหมอผีกงมู่เป็นยอดฝีมือขั้นเป็นตาย ดังนั้นเขาเพียง ลําพังก็เพียงพอที่จะข่มสองค้างคาวเอาไว้ แม้ว่าเขาจะทุบตีพวกนั้น จนถึงแก่ชีวิตไม่ได้ แต่ก็สามารถขัดขวางไม่ให้พวกนั้นมาช่วย ฉินมู่ได้
ราชาหมอผีขั้นชาวสวรรค์ทั้ง 2 และหมอผีใหญ่ขั้นเจ็ดดาว ทั้ง 2 นั้นพอเสียยิ่งกว่าพอที่จะใช้สังหารกิเลนมังกรและหลวงจีน ปีศาจทั้ง 3 ในเมื่อกิเลนมังกรและพวกยังฝึกปรือไม่ถึงขั้นชาว สวรรค์!
ตอนที่ผานกงสั่วกล่าวอยู่นั่นเอง เขาก็เห็นฉินมู่นําไหดํา ออกมาจากถุงเต๋าตี้ที่เคยเป็นของเขา และขนเขาก็ลุกวาบทันที เขาตะโกนอย่างเฉียบขาด “ถอยออกมาเร็ว!”
เขาขับเคลื่อนเวทมนตร์เคลื่อนย้ายระยะไกล และร่างของเขา หายวับไปในทันที แม้ว่าวรยุทธ์ของเขาจะไปถึงขั้นหกทิศแล้ว แต่ก็ ยังไม่อาจเคลื่อนย้ายไปได้ระยะไกลมากนัก อย่างมากก็หนึ่งพันวา
ผานกงสั่วหันกลับไปมองและเห็นฉินมู่ทุบไหดํานั้นเรียบร้อยแล้ว ควันดําทะมึนหนาแน่นพวยพุ่งออกมาทุกทิศทาง และพลันคลี่คลุมบริเวณในรัศมี 150 วา
ราชาหมอผีกงมู่และราชาหมอผีอีก 2 คนรีบพุ่งตัวหนี และไม่ ถูกควันดํานั้นแตะต้อง แต่ถึงว่าจะเอาชีวิตรอดมาได้ ขนหัวพวก เขาก็ลุกซู่ซ่าจากความหวาดผวาอย่างข่มไม่ไหว
หางตาผานกงสั่วกระตุกอย่างรุนแรง นี่คือพิษหมอผีที่เขาบ่มขึ้นมาในชาติก่อน และมันมีความเป็นพิษร้ายแรงสุดยอด หากว่า ดวงวิญญาณหรือจิตวิญญาณดั้งเดิมถูกมันแปดเปื้อนเข้า ดวง
วิญญาณก็จะถูกกัดกร่อนและจิตวิญญาณดั้งเดิมก็จะเน่าสลาย แม้ว่ายอดฝีมือขั้นเป็นตายก็จะสูญเสียชีวิตดิ่งลงนํ้าพุเหลืองภายใน ไม่กี่อึดใจ!
การทุบไหของฉินมู่นั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นระเบิดพลีชีพที่จะสังหารทุกคนให้ตายตกไปตามๆ กัน
ไม่ใช่แล้ว! ควันดำนั่นไม่เหมือนพิษหมอผีที่ข้าทำขึ้น!
ผานกงสั่วหัวใจโลดเต้นระรัว แม้ว่าควันดํานี้จะคล้ายคลึงกับ พิษหมอผีของเขา แต่ด้วยเขาเชี่ยวชาญในพิษหมอผี เขาจึงมอง ทะลุเล่ห์กลนี้ในปราดเดียวและรู้ว่าควันดําที่เห็นนั้นเป็นเพียงแค่ควันธรรมดาแต่ไม่ใช่พิษหมอผี
เห็นได้ชัดว่าไอ้เด็กเปรตแซ่ฉินไม่ได้อยู่เปล่าๆ ปลี้ๆ ในคํ่าคืนที่ ผ่านมา เขาคงจะแอบสร้างไหดําอย่างลับๆ ล่อๆ และผลิตควันดํามา เก็บกักไว้ในนั้น
เขามีถุงเต๋าตี้ 2 ใบ ดังนั้นหากเขาทําอะไรขยุกขยิกในถุง คน อื่นๆ ก็ไม่มีวันล่วงรู้ว่าเขากําลังตระเตรียมอะไรอยู่
“บัดซบ พวกเราถูกหลอก”
สีหน้าผานกงสั่วมืดครึ้ม และเขาหมายจะพุ่งเข้าไปต่อสู้โรมรัน อีกครั้ง 2 หมอผีใหญ่ขั้นเจ็ดดาวถูกหลวงจีนปีศาจทั้ง 3 สังหาร ไปแล้ว ส่วนค้างคาวขาวทั้ง 2 ก็ปีนป่ายขึ้นมาด้วยพละกําลังอัน คึกคักอีกครั้ง
ฉินมู่หัวเราะด้วยเสียงอันดังและกล่าวด้วยเสียงกังวาน “สหายเก่าผาน ลาก่อน”
ผานกงสั่วยิ้มหยันและสะบัดแขนเสื้อของเขา มองไปยังหลวง จีนปีศาจทั้ง 3 เขาพลันกล่าวด้วยเสียงอันดัง
“หลวงจีนติ้งหมิง!”
วายุภักษ์ปีกทองทั้ง 3 หุบปีกลงและแปลงร่างกับเป็นหลวงจีน
ปีศาจยืนหยัดอยู่กับพื้นอีกครั้ง พวกเขามีร่างกายของมนุษย์ที่
เพียงแต่หลงเหลือขาของนกและสวมใส่จีวรหลวมกว้าง หลวงจีนติ้ง หมิงเงยหน้าขึ้นมาและกล่าว “อยู่นี่”
ผานกงสั่วโค้งกายลงและคํานับเขา ทันใดนั้นรูปเงาของมาร ตนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขายืนอยู่บนแท่นสังเวย มารตนนั้นก็ โค้งตัวและคํานับด้วยเช่นกัน
หลวงจีนติ้งหมิงร้องด้วยความตื่นตระหนก และร่างกายของเขา ย้อนกลับเป็นร่างนกดั้งเดิมอย่างหยุดไม่ได้ เสียงขาดผึงดังมาจาก
ข้างในร่างของเขาและ 3 วิญญาณกับ 7 จิตของเขาก็แตก ทําลาย จากนั้นเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้น ไร้ลมหายใจ!
ฉินมู่สยองขวัญพรั่นพรึง หลวงจีนติ้งหมิงเป็นยอดฝีมือขั้นเจ็ด ดาว แต่เขาก็ยังตกตายจากการถูกคํานับ นี่คือทักษะเทวะที่ท่านผู้ สูงศักดิ์แห่งวังทองโหรวหลันใช้สังหารผู้คนที่เขารู้ชื่อแซ่ ทักษะเท วะที่ทําให้คนแล่เนื้อไม่กล้าเผยชื่อที่แท้จริงงั้นหรือ
ข้าจะต่อต้านวิชานี้ได้อย่างไร
ขณะที่ฉินมู่ครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ ผานกงสั่วผู้ซึ่งใบหน้าค่อนข้าง เผือดสีก็เอ่ยวาจาออกมาอีกครั้ง “หลวงจีนติ้งจื้อ!”
หลวงจีนติ้งจื้อปิดปากสนิทและไม่ตอบกลับไป แต่กระนั้นผา นกงสั่วก็โค้งคํานับเขาอยู่ดี และรูปเงาของมารตนนั้นบนแท่นสังเวย ก็โค้งคํานับเช่นกัน หลวงจีนติ้งจื้อร้องด้วยเสียงอันดังและตกตาย
อย่างน่าอนาถ
โลหิตหลั่งไหลจากมุมปากของผานกงสั่วเมื่อเขาแสยะยิ้มหยัน เขามองไปยังหลวงจีนติ้งเจว๋ ซึ่งขนพองสยองเกล้าและ ตะเกียกตะกายบินหนีไป
“ติ้งเจว๋!”
ผานกงสั่วโค้งคํานับ และดวงวิญญาณกับดวงจิตของติ้งเจว๋ก็ แหลกสลายกลางอากาศ ศพของวายุภักษ์ปีกทองร่วงลงมาจาก ท้องฟ้า
ผานกงสั่วกระอักเลือดออกมากําใหญ่ และมองไปที่ฉินมู่อย่าง ดุร้าย ก่อนจะหันกายกลับไป “หากไม่เพราะเจ้าใช้ชื่อปลอม สังหาร เจ้าคงง่ายดายแค่นี้!”
ราชาหมอผีทั้ง 3 รีบติดตามเขา และหายลับไปในราวป่า
