90. พาดกระบี่บนเข่าสังหารมารปีศาจ
ที่ประตูทางเข้าหมู่บ้าน ผู้เฒ่าที่สูบยากล้องกระดูกผีก็ไม่อาจระงับสีหน้าของตนไว้ได้ เขาหันกลับไปประจันหน้ากับฉินมู่ผู้ซึ่งเหยียบคลื่นท่องแม่น้ำตะลุยเข้าใส่เขาอย่างผยองและนำพาแรงกดดันมหาศาลมาปะทะ!
กระแสน้ำ…หากเร็วพอ อาจจะทลายได้ทุกสิ่ง เฉือนผ่านทุกอย่าง และสร้างความพินาศแก่สรรพสิ่ง!
นั่นคือความมหัศจรรย์ของปราณชีวิตเต่าดำ เมื่อใช้ปราณชีวิตเต่าดำควบคุมน้ำ ตราบเท่าที่ความเร็วของกระแสน้ำเคลื่อนที่ไปได้ร้อยวาในเสี้ยววินาที มันก็จะสามารถเฉือนผ่านเหล็กกล้า หากว่ามันพุ่งใส่ผู้คน คนผู้นั้นย่อมถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยง ไม่มีสิ่งใดที่กระแสน้ำนี้ไม่อาจทำลายได้
ฉินมู่เหยียบยอดคลื่นอันโถมซัดใส่ผู้เฒ่าด้วยพลานุภาพน่าเกรงขาม!
เมื่อปลุกพลังในภาพวาดของเฒ่าหนวก รวมกับเตาหลอมใหญ่ที่เฒ่าใบ้ซ่อนไว้ในร่างของเขา ฉินมู่ก็มั่นใจอย่างสุดจิตว่าสามารถสยบใครหน้าไหนที่กล้ามาขวาง!
และที่หน้าหมู่บ้านนั้นเอง ผู้เฒ่าสูบยากล้องกระดูกผีก็ยกมือของเขาขึ้นปะทะกับมหาธารนทีอันเกรี้ยวกราด ทั้งลำน้ำเลื้อยทะลวงไปเบื้องหน้าราวงูเหลือมดุกลับแหลกทำลายกลายเป็นแอ่งน้ำกระจัดกระจายไปทั่วทิศ!
และในเวลาเดียวกัน สองนิ้วของผู้เฒ่าก็ยื่นไปข้างหน้าและคีบปลายกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์อย่างนิ่มนวล หยุดยั้งศักดานุภาพของกระบี่ที่แทงเข้ามา!
“เฮะๆ เจ้าพบหมู่บ้านไร้กังวลไหมล่ะ” ผู้เฒ่าหัวเราะในคอ
และในจังหวะที่ผู้เฒ่าคีบปลายกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ ฝ่ามือของฉินมู่ก็พลันรวบกำที่ฝักกระบี่แล้วโถมพลังทั้งร่างแทงเข้าไป!
พละกำลังของผู้เฒ่านั้นเกินความคาดหมายเขา แต่ด้วยเนตรเทวะสวรรค์เก้าของตน เขาสามารถมองเห็นทิศทางการเปลี่ยนแปลงพลังในร่างกายของผู้เฒ่าได้
เมื่อผู้ยกมือขึ้นต้านมหาธารนทีและคีบหยุดปลายกระบี่ พละกำลังของเฒ่าผู้นี้ก็มาถึงขีดจำกัด และตอนนี้ด้วยกำลังกายของฉินมู่ที่เสริมเข้าไปอีก มันจะเกินขีดจำกัดที่อีกฝ่ายต้านทานไว้ได้
โลหิตล้ำค่าของมังกรพิษและภาพวาดของเฒ่าหนวกได้ส่งเสริมกำลังกายของเขาจนเต็มพิกัด ดังนั้นกำลังกายที่เขารีดเค้นออกจากร่างเนื้อจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังวัตรของเขาเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อกระบี่แทงเข้าไป เฒ่าผู้นั้นพลันแปรเปลี่ยนสีหน้า นิ้วของเขาไม่อาจคีบยั้งปลายกระบี่ได้ และฝ่ามือของเขาก็ถูกกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์แทงทะลุ ปลายกระบี่ยังฉกพุ่งเข้าใส่หน้าอกของเขา!
“ให้ข้าส่งเจ้าไปหมู่บ้านไร้กังวลบัดเดี๋ยวนี้ล่ะกัน ตาเฒ่า!”
พลังแผ่พุ่งจากใต้เท้าของเขาเสริมแรงแทงกระบี่ที่เขาเสียบจมเข้าไปในร่างของผู้เฒ่า เฒ่าผู้นั้นหะแรกก็นั่งอยู่ แต่ตอนนี้เขาต้องยืนปักหลักสองขาบนพื้น แม้จะทำเช่นนั้นก็ยังไม่อาจต้านทานพละกำลังมหาศาลของฉินมู่ได้จนเท้าทั้งสองข้างของเขาสร้างหลุมลึกปักจมลงไปในพื้น!
เคร้ง!
มืออีกข้างของผู้เฒ่าพลันตวัดกล้องยาสูบกระดูกผีขึ้นมาฟาดใส่ใบกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์อย่างรุนแรง แขนของฉินมู่พลันชาทื่อจากแรงสั่นสะเทือนและต้องปล่อยมือจากด้ามกระบี่ทันที เขาซัดกระบี่ขึ้นด้วยปราณชีวิต จากนั้นเหวี่ยงกระบี่ฟาดลงมาจากเบื้องบนเป็นรุ้งโค้งฟันใส่คอผู้เฒ่า!
ท่วงท่ากระบี่สะบัด!
ทักษะกระบี่ของเขาได้รับการชี้แนะจากผู้ใหญ่บ้าน และถึงแม้มันจะเป็นเพียงการแทง การสะบัด การพลิก อย่างเรียบง่ายสามัญ แต่พละกำลังในท่วงท่านั้นก็มหาศาลน่าตระหนก
ผู้เฒ่ารีบหลบหลีก แต่กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ก็ยังคงสะบัดเป็นวงโค้งและฟาดฟันเข้าใกล้คอหอยเขา ทำให้เขาได้แต่ถอยกรูดๆ!
หากว่าเขาล่าถอยไปมากกว่านี้ เขาก็จะออกนอกเขตของหินปักปันแดนยมโลก
ในขณะเดียวกันนั้น แอ่งน้ำกระจัดกระจายก็พลันลุกฮือขึ้นมาอีกครั้งแล้วโถมมาจากทุกทิศทางราวฝูงงูเหลือมยักษ์ที่พุ่งเข้ามารัดพันรอบๆ ร่างผู้เฒ่า
ทันใดนั้น กล้องยาสูบกระดูกมนุษย์ก็ลอยมาจากมือผู้เฒ่าไปขัดขวางกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ พร้อมกันนั้นควันหนาทึบก็พวยพุ่งออกมาจากกล้องยาสูบและก่อรูปเป็นกะโหลกผีที่อันขยับคางแกรกกรากอย่างพิลึกพิกล พุ่งเข้าใส่ฉินมู่ มุดเข้าไปในร่างเขาหมายจะฉีกทึ้งวิญญาณวิญญาณเขาเป็นชิ้นๆ
ฉินมู่ตรึงวิญญาณของตนด้วยวิชามารฟ้าเสกสรรและปล่อยให้กะโหลกผีอันสร้างขึ้นจากควันนั้นกัดแทะวิญญาณของเขาตามใจมัน แต่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
สูดลมหายใจลึก เขาพ่นเป่าลมรุนแรงออกมา!
ฟู้ววว
ทั้งหมอก ทั้งกะโหลกต่างก็กระเจิดกระเจิงไปด้วยลมหายใจของเขา แม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียนเวทมนตร์ควบคุมลมหรือวิชาเทวะทำนองนั้น แต่ด้วยระดับพลังวัตรของเขาที่ถูกเสริมพลังอย่างรุนแรงด้วยฝีมือเฒ่าหนวกและเฒ่าใบ้จนไปถึงระดับขั้นอันไม่อาจจินตนาการได้ ดังนั้นแม้แต่ลมหายใจของเขาก็สามารถกลายเป็นเวทมนตร์เทวะไปได้
กล้องยาสูบปะทะกับกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ส่งประกายไฟออกมา ประกายไฟนั้นพลันแปรเปลี่ยนเป็นลาวาแดงฉานลุกไหม้และพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉินมู่ ฉินมู่สลับท่าเท้าของตนหลบหลีกลาวาที่พุ่งซัดใส่ จากนั้นก็เพิ่มความเร่งร้อนดุเดือดในการโจมตี
ฝูงงูเหลือมยักษ์อันก่อรูปจากมวลน้ำบีบรัดไปรอบๆ ผู้เฒ่า และกระบี่น้ำจำนวนไร้ประมาณก็พุ่งแทงไปยังเขา
กล้องยาสูบของผู้เฒ่าพลันขยายขนาดใหญ่ยักษ์ราวกับหม้อดำมหึมาร่วงทับลงมา แรงดูดมหาศาลพลันพวยพุ่งและดูดเอามวลน้ำทั้งหมดไป แต่ในการนั้นมันก็ดับเพลิงไฟอันจุดติดไว้ในกล้องยาสูบไปด้วย
ร่างของฉินมู่พุ่งเข้าประชิดราวกับเงาตามตัวแล้วเหวี่ยงฟาดแขน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ามือหรือหมัด เขาจู่โจมผู้เฒ่าราวกับพุทธองค์พันกร วิชาหมัดของเขาแปรเปลี่ยนอย่างเร็วรี่และแอบแฝงรังสีมีดซ่อนเอาไว้ด้วย พร้อมกับท่าเท้าอันแปรเปลี่ยนไม่หยุดยั้ง การโจมตีของเขาไม่สามารถป้องกันได้
ผู้เฒ่าไม่มีทางเลือกนอกจากถอยกรูดต่อไป พละกำลังของเขาเหนือล้ำกว่าฉินมู่ แต่ด้วยท่าเท้าของฉินมู่ อีกทั้งเพลงหมัดและเพลงมีด ล้วนแต่พลิกแพลงยากคาดเดา โดยเฉพาะกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์อันคมกล้าเหนือธรรมดา ขนาดว่ากล้องยาสูบของเขายังแทบจะต้านไม่อยู่ ท่วงท่าที่กระบี่นั้นทิ่มแทงฟาดฟันนั้นล้วนเรียบง่ายสามัญ แต่กลับรีดเค้นประสิทธิภาพออกมาถึงขีดสุด มันทั้งรวดเร็วว่องไวและมีพละกำลังมหาศาล เพียงพอที่จะทะลวงฝ่าการป้องกันของกล้องยาสูบและเข้าจู่โจมจุดอ่อนของเขาได้!
ฉินมู่ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับยอดฝีมือด้านกระบี่ แม้ว่าท่ากระบี่ของเขาจะชืดเฉยและหยาบกร้าน แต่มันกลับทำให้เขาดูเหมือนยอดยุทธที่แทบไม่ได้ลงแรงร่ายเพลงกระบี่มากมาย ส่งให้เพลงกระบี่นั้นยากจะคาดเดาร่องรอยและผู้เฒ่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าถอย
ท่วงท่ากระบี่พื้นฐานที่ผู้ใหญ่บ้านสอนสั่ง ผสานกับเนตรเทวะสวรรค์เก้าของเฒ่าบอด ทุกการโจมตีของเขาไม่มีผิดพลาด!
ผู้เฒ่าถอยเท้าไปอีกก้าวและสะดุ้งแตกตื่นเมื่อหางตาเขาเหลือบแลเห็นหินปักปันเขตแดน
หินปักปันเขตแดนยมโลก
ฉินมู่เสยมีดแล้วฟาดฟันไปข้างหน้า เขาโน้มกายเข้าไปเหวี่ยงมีดจากล่างขึ้นบนรุกไล่ผู้เฒ่าให้ถอยไปอีก เมื่อเท้าของเขาถอยไป เลือดเนื้อทั้งร่างกายก็เริ่มสาบสูญและเขาแปรเปลี่ยนเป็นโครงกระดูกขาวโพลน
และเมื่อเท้าคืบเข้าไป ฉินมู่ก็กลับออกมาจากแดนยมโลก เลือดเนื้อของเขาก็ฟื้นฟูกลับมา
โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ผู้เฒ่าพลันหันกายแล้ววิ่งหนี กระโดดเข้าไปในทะเลหมอก ด้วยเลือดเนื้อที่ฟื้นฟูกลับมา พละกำลังของฉินมู่มีแต่จะทวีคูณ ขณะที่เลือดเนื้อของผู้เฒ่าเหือดหายทำให้พละกำลังของเขาก็ลดต่ำลง เจอสมดุลพลังแปรเปลี่ยนผกผันเช่นนี้ เขาจึงได้แต่หนีตาย
ฉินมู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ผู้เฒ่าผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ หากว่าพวกเขายังคงประมือกันต่อเช่นนี้ เมื่อโลหิตล้ำค่าของมังกรหมดฤทธิ์ ก็จะเป็นฉินมู่ที่จะต้องทิ้งชีวิต
เดินไปที่ท่าเรือ มองทะเลหมอกอันยาวไกลไร้ขอบเขต ไกลๆ นั้นมีแสงตะเกียงเลือนลางฉายส่องอยู่ในทะเลหมอก
ผู้ใหญ่บ้านจะมาทันไหม
ฉินมู่เหลียวหลังกลับไปมองและเห็นเมฆปีศาจขมุกขมัวจากแดนยมโลกพัดพุ่งแผ่สยายมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่ายอดฝีมือในเมืองตื่นตัวขึ้นมาและหมายจะเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ ไม่นานนักที่เมฆปีศาจจะลอยเข้ามาถึงที่นี่
ฉินมู่รออยู่ครู่หนึ่ง เรือน้อยที่แขวนตะเกียงไว้ก็เข้ามาจอด แต่ผู้ใหญ่บ้านยังมาไม่ถึง
เมฆปีศาจพวยพุ่งเข้ามาใกล้ทุกขณะจิต และหากว่าเขาไม่รีบไปเสียแต่ตอนนี้ ก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป
ฉินมู่ควักเหรียญเฝิงตู่ออกมาหนึ่งเหรียญ เขาปักเหรียญนั้นไว้บนเสาไม้ที่ท่าเรือ ก่อนที่ตัวเขาจะลงเรือน้อยนั้นไป
ชาวเรือที่สวมใส่เสื้อคลุมขาดวิ่นคัดพายเรือของเขา พาทั้งคู่ลอยล่องไปยังใจกลางทะเลหมอก ฉินมู่ยืนที่กราบเรือและมองกลับไปยังฝั่งแต่ไม่อาจมองเห็นผู้ใหญ่บ้าน ใจของเขาตกวูบ
เมฆปีศาจแผ่พุ่งมาถึงหมู่บ้านและเกือบจะไปถึงท่าเรือ แต่เรือน้อยที่ลอยล่องในทะเลหมอกหายวับไปโดยไร้ร่องรอย
ผู้ใหญ่บ้านฝีมือแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาต้องกลับมาโดยปลอดภัยได้แน่!
ฉินมู่ปลอบใจตนเองแล้วทรุดนั่งลงใต้ตะเกียงบนเรือ เขานำกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ออกมาจากหลังแล้วพาดไว้ที่เข่า มองไปยังหมอกเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน พลังในภาพวาดของเฒ่าหนวกเริ่มโรยราลงไปและฤทธิ์โลหิตล้ำค่าของมังกรก็กำลังจางหาย เตาหลอมใหญ่ในอกเขาก็ดูซีดเซียวลงและไฟใกล้มอดดับทุกที
เรือน้อยแล่นไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน พาเขาออกไปไกลขึ้นไกลขึ้น
ทันใดนั้น หมอกข้างหน้าเรือก็พวยพุ่งขึ้นมา เมื่อโครงกระดูกขาวโพลนในเสื้อผ้าขาดวิ่นทะยานขึ้นจากทะเลหมอกและกระโจนขย้ำใส่ฉินมู่!
ฉินมู่ดูเหมือนจะคาดหมายเอาไว้แล้ว และจังหวะที่กะโหลกผีของโครงกระดูกนั้นโผล่ขึ้นจากทะเลหมอก กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ที่เข่าเขาก็ยกสูงขึ้น
ท่วงท่ากระบี่ผ่า!
ฉินมู่ยังคงนั่งอยู่และมองไปเบื้องหน้าขณะที่เขาเหวี่ยงกระบี่ผ่าขวางขนานพื้น กระดูกขาวในเสื้อผ้าขาดวิ่นรีบนำกล้องยาสูบของตนขึ้นมาป้องกัน แต่เขาไม่อาจขัดขวางท่วงท่ากระบี่ผ่าอันมหัศจรรย์นี้ได้ทันเวลา!
กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์เฉือนผ่าคอของเขาก่อนที่เขาจะทันได้ยกกล้องยาสูบขึ้นมา หัวของเขาส่ายโงนเงน ก่อนจะร่วงลงไปในทะเลหมอก ส่วนโครงกระดูกที่เหลือยังคงอยู่ในเรือ ยืนอยู่ในท่าที่กระโจนขย้ำใส่ แต่ไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือในร่างนั้นอีกต่อไป
“ข้ารอเจ้ามาตั้งนานแล้ว ข้ามองดูเจ้าที่หลบซ่อนใต้เรือมาตลอด”
ฉินมู่เสียบกระบี่กลับเข้าฝัก รอยพยุหะเก้าสวรรค์ในดวงตาเขาก็จางลงไปเช่นกัน ฤทธิ์เดชโลหิตล้ำค่าของมังกรและภาพวาดของเฒ่าหนวกโรยราไปอย่างรวดเร็ว ฉินมู่กล่าวแก่โครงกระดูกไร้หัวตรงหน้า “เมื่อเจ้ามุดใต้ทะเลหมอกและลอบติดตามเรือ ทั้งหมดอยู่ในสายตาข้า ข้ารอจังหวะที่เจ้าส่งคอมาขึ้นเขียงและให้ข้าสับคอเจ้าเสีย”
โครงกระดูกขาวนั้นพลันเหมือนพละกำลังปลาสนาการไป และล้มโครมลงกับพื้น แตกกระจายเป็นชิ้นกระดูก
ฉินมู่มองไปยังกล้องยาสูบกระดูกมนุษย์ด้วยความลังเล จากนั้นเขาจึงโยนกระดูกหักๆ กับกล้องยาสูบออกนอกเรือ กล้องยาสูบนี้เป็นสมบัติวิเศษล้ำค่าเพราะมันสามารถป้องกันการโจมตีจากกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ได้ตั้งหลายครั้งหลายหน และน่าจะเป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ชอบมันเพราะว่าสร้างขึ้นจากกระดูกมนุษย์ เขาจึงโยนมันทิ้งไป
“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านต้องอยู่รอดปลอดภัยนะ…” หนุ่มน้อยพลันนั่งลงใต้ตะเกียงต่อ วางกระบี่พาดไว้ที่เข่าและพึมพำกับตนเอง
เรือน้อยแล่นผ่านภูเขาโครงกระดูกมุ่งหน้าตรงไปยังทางเชื่อมมิติต่อกับดินแดนแห่งนี้
ในแดนยมโลก วังน้ำวนพลันปรากฏบนท้องฟ้า มันถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยงด้วยรังสีกระบี่เจิดจ้าละลานตา ผู้ใหญ่บ้านฆ่าฟันตะลุยออกมาจากวังน้ำวน ที่ซึ่งโลหิตไหลหลั่งออกมาไม่หยุด
วังน้ำวนสีเลือดหมุนติ้วอยู่กลางฟ้าส่งหยาดเลือดไหลหยดลงมาต่อเนื่อง ดูราวกับว่าท้องฟ้ามีบาดแผล
หันกลับไป ผู้ใหญ่บ้านขยับนิ้วทั้งสิบของตน และแสงกระบี่ก็แผ่พุ่งจากปลายนิ้ว แสงกระบี่เสียบปักเข้าไปในวังน้ำวนและผนึกปิดมันกลับคืน โลหิตยังคงไหลหลั่งออกจากวังน้ำวน และดูราวกับว่ามีสัตว์ร้ายมหึมาข้างในโจมตีปากทางออกวังน้ำวนนั้นอย่างโกรธเกรี้ยวหมายจะปลดปล่อยตนเองออกมา แต่ว่ามันถูกขัดขวางด้วยแสงกระบี่ของผู้ใหญ่บ้าน จึงคงไม่สามารถทำอะไรได้ไปสักพัก
ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจโล่งอก จากนั้นรีบรุดไปยังประตูขุนเขาแห่งเฝิงตู่ เขากำลังจะเหินข้ามประตูขุนเขาอยู่แล้วเชียว แต่ก็ชะงักยั้งเท้าทันทีเมื่อเขาเห็นมนุษย์ศีรษะนกมีปีก มันยืนด้วยขาเดียวและมีอีกขาซ่อนอยู่ในขนของมัน