Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1020

ตอนที่ 1020 จับตัว

ตระกูลเซี่ยเพิ่งจัดการเสร็จ สายลับเซียวเหวินอวี๋ก็มาพบเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขาเองก็สงสัยว่าซั่งกวนเฮ่อคิดลงมือกับองค์หญิงรอง ดังนั้นส่งลูกน้องหลายคนแอบคอยจับตาดูองค์หญิงรองไว้

แต่ก่อนจะทำเรื่องนี้ก็ต้องบอกกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นสักคำ เซี่ยอวิ๋นจิ่นมิได้คัดค้าน

เซียวเหวินอวี๋แอบส่งคนมาคอยเฝ้าองค์หญิงรอง พร้อมกับสั่งเคลื่อนกำลังสำนักอู่เฉิงปิงหม่าซือกับสำนักจิ่วหลงซือออกค้นหาทุกแห่งทั้งในและนอกเมืองหลวง ฮ่องเต้รับสั่งว่าเพราะซั่งกวนเฮ่อแอบบงการฮองเฮาให้ใช้รัชทายาทมาวางยาฮ่องเต้

ทุกคนในและนอกเมืองหลวงแคว้นต้าโจวต่างได้รู้ว่าที่ฝ่าบาทถูกยาพิษเพราะรัชทายาทซีเหลียงที่ถูกปลดผู้นี้ ตอนนี้เขาแอบซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนแคว้นต้าโจว

ขุนนางราชสำนักกับราษฎรต่างระวังตัว กลัวว่าซั่งกวนเฮ่อจะมาลงมือผ่านทางพวกเขา ทุกคนในเมืองหลวงต่างระมัดระวังตัวกันขึ้นมาทันที

ตระกูลเซี่ยปกติดีทุกอย่าง คนที่ควรไปทำงานก็ไปทำงาน เรื่องที่ควรทำก็ทำไป ควรดูแลเด็กๆ ก็ดูแลกันไป

เรือนด้านหลัง ลู่เจียวกำลังสอนหนังสือเพียนเพียนกับองค์หญิงรอง เพียนเพียนไม่ค่อยชอบอยู่นิ่ง และเอาแต่ใจมาก แต่ระยะนี้ ลู่เจียวอบรมสั่งสอนนางจนดีขึ้นไม่น้อย อันดับแรก กับเด็กที่เอาแต่ใจ เจ้าอย่าได้ให้ความสนใจนางมาก แอบคอยมองดูนางโวยวายเอาเรื่องเงียบๆ นางยิ่งโวยวายเจ้าก็ยิ่งไม่ต้องสนใจ แน่นอนว่าไม่ควรตีนาง เจ้าไม่สนใจว่านางจะโวยวาย นางก็จะค่อยๆ รู้ตัวได้เอง

เช่นก่อนหน้านี้ซือหว่านอิ๋งเห็นบุตรสาวโวยวายเอาเรื่องก็ตีนาง ยิ่งทำให้นางคิดต่อต้าน ไม่มีอันใดก็เอาแต่ร้องไห้โวยวาย แต่ลู่เจียวไม่สนใจนาง ดังนั้นตอนนี้เพียนเพียนได้แต่ยอมรับชะตากรรมตนเองแล้ว นางรู้ว่าเมื่อก่อนที่นางเคยทำพวกนั้นไม่มีผลต่อท่านย่า ในทางกลับกันท่านย่าเป็นคนมีเหตุผลมาก ขอเพียงนางมีเหตุผล ท่านย่าก็จะตอบรับนาง เพียนเพียนก็เริ่มคุ้นชินกับวิธีการนี้อย่างช้าๆ

องค์หญิงรองเป็นเด็กเชื่อฟัง ไม่ว่าลู่เจียวให้นางทำอันใด คล้ายว่านางก็จะทำตาม แต่นางเริ่มคิดถึงพระสนมเนี่ยผินอยู่บ้างแล้ว

เพียงแต่ลู่เจียวได้ยินข่าวว่าพระสนมเนี่ยผินออกจากวังไปอยู่อารามปฏิบัติธรรมแล้ว ลู่เจียวก็ไม่คิดพาองค์หญิงรองไปอารามเยี่ยมพระสนมเนี่ยผิน ไปแล้วจะเอ่ยอย่างไร บอกว่าพระสนมเนี่ยผินทำผิดถูกลงโทษหรือ

หากไม่กล่าวเช่นนี้จะอธิบายเรื่องพระสนมเนี่ยผินไปอยู่อารามอย่างไร องค์หญิงรองยังเล็กอยู่มาก

ลู่เจียวรู้สึกปวดหัวกับความรักของซื่อเป่ามาก เดิมนางคิดว่าเขาจะต้องใจพระสนมเนี่ยผิน จะเลื่อนตำแหน่งให้นาง แม้ไม่เป็นฮองเฮา เป็นพระสนมเอกก็ยังดี พระสนมเนี่ยผินก็ไม่เลว

ปรากฏฝ่าบาทส่งนางออกจากวังหลวงไปแล้ว บอกว่าฝ่าบาทมีใจให้อวิ๋นเยี่ยน แต่สองสามวันนี้นางดูแล้วเขาก็มิได้เคลื่อนไหวอันใด ไม่มีท่าทีใดทั้งสิ้น

ดังนั้นเขาคิดเยี่ยงไรกันแน่

ตกค่ำตอนเข้านอน ลู่เจียวอดบ่นเรื่องนี้กับเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้ “เจ้าว่าซื่อเป่าคิดอย่างไรกันแน่ บอกว่าเขาชอบอวิ๋นเยี่ยน ตอนนี้เขาก็นิ่งมาก บอกว่าเขาไม่ชอบ ตอนนี้เขาก็ไม่มีฮองเฮา ยังส่งพระสนมเนี่ยผินออกจากวัง ในวังเหลือเพียงพระสนมหวาผิน กู้กุ้ยเหรินกับหลิ่วเหม่ยเหริน ข้ายังได้ยินว่าเขาลงโทษหลิ่วเหม่ยเหริน ตอนนี้สตรีทั้งสามในวังล้วนไม่กล้าทำอันใดอีกแล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปโอบลู่เจียวปลอบใจว่า “เอาละ เรื่องของเขา เจ้าอย่าได้สนใจ”

ลู่เจียวถอนหายใจกล่าวว่า “ข้าก็ไม่คิดสนใจ แต่ขุนนางในราชสำนักจะไม่สนใจหรือ ตอนนี้ในวังไร้ฮองเฮา รัชทายาทยังถูกปลด องค์ชายรองเพียงหนึ่งเดียวก็เหมือนจะปัญญาไม่ค่อยดีนัก เขาต้องการรัชทายาท รอให้จับตัวซั่งกวนเฮ่อได้ แผ่นดินสงบ พวกขุนนางก็ต้องให้เขาแต่งตั้งฮองเฮา”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็พอเข้าใจความคิดของซื่อเป่า

“เรื่องของสองฮองเฮาน่าจะทำให้เขารำคาญใจมาก หากไม่เหนือความคาดหมาย จากนี้เขาจะไม่แต่งตั้งฮองเฮาง่ายดายอีก เขาจะต้องสืบค้นอุปนิสัย คุณธรรมและสติปัญญาหญิงผู้นี้ให้ดีก่อน จึงจะแต่งตั้งเป็นฮองเฮา”

ลู่เจียวได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็เงียบลง หันไปถามถึงสำนักศึกษาเมืองหนิงโจวอย่างห่วงใยต่อ

“พวกเราไม่กลับเมืองหนิงโจวตอนนี้ แล้วสำนักศึกษาไม่เป็นอันใดหรือ”

“วางใจ ก่อนหน้านี้ข้าเขียนจดหมายไปบอกแล้ว จะไม่มีเรื่องอันใด”

ลู่เจียวพยักหน้า ไม่พูดอันใดต่อ อิงแอบในอ้อมกอดของเซี่ยอวิ๋นจิ่นค่อยๆ หลับไป

วันรุ่งขึ้น ฟ้าเริ่มสาง ตระกูลเซี่ยพลันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็ตื่นขึ้น

นอกประตู ปั้วเหอรีบก้าวเข้าประตูมารายงานว่า “ใต้เท้า ฮูหยิน มีโจรคิดจับตัวองค์หญิงรอง ถูกจับได้แล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็รีบสวมเสื้อผ้า ลุกขึ้นเดินออกไปพลางบอกกับลู่เจียวว่า “เจ้านอนต่ออีกสักครู่ เรื่องนี้ข้าจัดการได้ เจ้าไม่ต้องร้อนใจ”

ลู่เจียวคลุมเสื้อพิงอยู่บนเตียง ไม่ได้คิดขยับลุกออกไป

คนจับตัวองค์หญิงรองย่อมเป็นคนที่ซั่งกวนเฮ่อส่งมา คนผู้นี้แฝงตัวเป็นบ่าวรับใช้อยู่ในตระกูลเซี่ยมาตลอด

หลายปีมานี้ตระกูลเซี่ยมีบ่าวรับใช้เพิ่มมาไม่น้อย เจ้านายแต่ละคนล้วนต้องการใช้งาน งานหนักใช้แรงงานหลายเรื่องก็ต้องการบ่าวรับใช้ คนผู้นี้น่าจะปลอมตัวเข้ามาเป็นชายเลี้ยงม้าในโรงม้า และไม่มีคนสังเกตเห็นเขา เขาอยู่ตระกูลเซี่ยได้สองสามวันก็พบว่าตระกูลเซี่ยปกติดีทุกอย่าง เขาจึงฉวยโอกาสลงมือตอนฟ้าเริ่มสางวันนี้ คิดจับตัวองค์หญิงรองไว้ข่มขู่ฮูหยินโจวกั๋วให้ถอนพิษให้เจ้านายเขา

ตอนนี้พิษของเจ้านายกำเริบรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เดือนหนึ่งกำเริบหนึ่งครั้ง ระยะนี้กำเริบทุกอาทิตย์ ที่หนักหนาที่สุดก็คือเขาพบว่าหน้าผากเขาเริ่มปรากฏรอยแดงแถบหนึ่ง แถบแดงนี้ค่อยๆ ลามไปถึงลำคอแล้ว

ซั่งกวนเฮ่อสงสัยว่าแถบแดงนี้จะค่อยๆ ลามไปถึงหัวใจ ถึงตอนนั้นเขาก็จะตาย เขาหวาดกลัวมาก ดังนั้นจึงร้อนใจคิดจับตัวคนมาข่มขู่ให้ฮูหยินโจวกั๋วถอนพิษให้เขา

ก่อนหน้านี้ฮูหยินโจวกั๋วถอนพิษให้ฝ่าบาทกับหมอหลวงฉี ทำให้เขารู้ว่าพิษที่ผู้อื่นถอนไม่ได้อย่างพิษลับซีเหลียงอู่ซินเฝิน แต่ฮูหยินอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจวผู้นี้ถอนพิษได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้ลูกน้องจับตัวองค์หญิงรอง

เพียงแต่ซั่งกวนเฮ่อคิดไม่ถึงว่าลูกน้องตนจะถูกลูกน้องตระกูลเซี่ยจับได้ และยังสืบมาถึงที่อยู่เขาอีกด้วย

“เจ้านายเขาอยู่ที่ศาลเจ้าร้างนอกเมืองที่เนินสิบแปดลี้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบพาลูกน้องไปยังศาลเจ้าร้างเตรียมจับตัวซั่งกวนเฮ่อ

เรือนด้านหลัง ตระกูลเซี่ย

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนมองลู่เจียวด้วยสีหน้าเป็นกังวล กล่าวว่า “ข้าเกรงว่าท่านพ่อบุญธรรมจะจับตัวเขาไม่ได้ อวี๋เซวียนผู้นี้เจ้าเล่ห์ชั่วร้ายมาก ทุกครั้งที่ประสบอันตราย คล้ายว่าเขาจะมีลางสังหรณ์ หลบรอดไปได้ทุกครั้ง เพราะเช่นนี้ทำให้ภพก่อนเขาได้เป็นผู้ชนะในที่สุด ไม่เช่นนั้นคงได้ตายในโลกกลียุคตอนนั้นไปแล้ว”

ลู่เจียวได้ฟังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนก็ปวดหัวมาก หากครั้งนี้พลาดอีก เกรงว่าเจ้าหมอนั่นจะยิ่งจับตัวยากขึ้น ที่สำคัญที่สุดก็คือคนผู้นี้พิษกำเริบหนักมากแล้ว หากเขาไม่ได้ดังใจต้องการอีก เกรงว่าจะยิ่งโหดเหี้ยมมากขึ้น ลงมืออย่างไร้ความเป็นคน

ดังนั้นตอนนี้นางได้แต่ภาวนาให้พวกเซี่ยอวิ๋นจิ่นส่งข่าวมาว่าพวกเขาจับตัวอวี๋เซวียนได้แล้ว

น่าเสียดายลู่เจียวต้องผิดหวัง เซี่ยอวิ๋นจิ่นนำคนไปถึงศาลเจ้าร้าง ก็ไม่พบผู้ใดแม้แต่คนเดียว อวี๋เซวียนพาลูกน้องหนีไปนานแล้ว เขาไม่เพียงแต่พาลูกน้องหนีไป ยังเขียนไว้บนกำแพงศาลเจ้าร้างด้วยโลหิตสดว่า

“คิดจับข้า เจ้าฝันไปเถอะ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version