ตอนที่ 1019 วิกฤต
ในวัง ลู่เจียวใช้เข็มเงินสกัดพิษออกจากตัวฉีเหล่ย แต่พิษนี้หากคิดใช้เพียงเข็มเงินสกัดยังไม่พอ ต้องกินสมุนไพรถอนพิษร่วมด้วย
ความจริงพิษบุปผาเจียหลัวแดนใต้นี้ ขอเพียงหาสมุนไพรที่เติบโตข้างบุปผาเจียหลัวมาได้ก็พอ
แต่ที่นี่ห่างไกลจากแดนใต้มาก หากไปแดนใต้เก็บสมุนไพร อย่าว่าแต่ภูเขาสูงหนทางยาวไกล แค่ว่าฉีเหล่ยตอนนี้ก็เกรงว่าไม่ทันการณ์แล้ว
ดังนั้นลู่เจียวพาเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนออกจากวังขึ้นเขาในเขตแคว้นต้าโจว เก็บสมุนไพรที่พอจะขจัดพิษบุปผาเจียหลัวได้
ในวัง ฮองเฮาได้รับพระราชทานสุราพิษ รัชทายาทถูกปลดส่งไปเฝ้าสุสานหลวง ในวังกว้างใหญ่เหลือเพียงฝ่าบาท องค์หญิงใหญ่กับองค์ชายรองและพระสนมทั้งสี่
องค์หญิงใหญ่ไม่ออกจากวังหลวงเอาแต่เก็บตัวในตำหนัก องค์ชายรองถูกแม่นมพามาให้เซียวเหวินอวี๋แต่เพราะมารดาเขา เซียวเหวินอวี๋จึงให้โจวโย่วจิ่นพาไปดูแล ไม่ยินยอมมองเขาแม้สักครั้ง
พระสนมต่างเริ่มเคลื่อนไหวเพราะการตายของฮองเฮา ทุกคนพากันส่งน้ำแกงมาให้ฮ่องเต้เสวย น่าเสียดายไม่มีผู้ใดได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้
เพราะเรื่องของหวังเมิ่งเหยา ทำให้ฮ่องเต้ไม่ให้สตรีในวังเข้าเฝ้าแม้แต่ผู้เดียว
คิดถึงว่าหวังเมิ่งเหยาถึงกับวางยาพิษเขา คิดเอาชีวิตเขา เขาไม่อาจรู้สึกดีต่อสตรีใดได้อีก
แต่พอคิดถึงซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ก็พอทำให้เขารู้สึกสงบลงได้บ้าง
เขารู้สึกว่าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไม่ใช่สตรีเช่นหวังเมิ่งเหยา แต่เซียวเหวินอวี๋ไม่กล้ามั่นใจเช่นนั้น แม้ว่าเขาชอบซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ทั้งสองคนอยู่ร่วมกันมาระยะหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้รู้จักนิสัยแท้จริงของนาง เขายังเข้าใจไม่ปรุโปร่งเพียงพอ
ในฐานะฮ่องเต้ เขาอยากมีความรักดังคนธรรมดาสามัญ ฮองเฮาที่รักเขาอย่างแท้จริง ทั้งสองคนจะร่วมกันอบรมบุตร เฝ้าดูเขาเติบโตไปด้วยกัน
เซียวเหวินอวี๋คิดถึงเรื่องนี้ก็อดแค่นเยาะตนเองไม่ได้ สตรีที่เขาได้พบในวัง แต่ละคนไม่มีดีสักคน สตรีเหล่านี้เบื้องหลังมีตระกูลพวกนี้อีกมากมาย ขอเพียงพวกนางขึ้นดำรงตำแหน่งฮองเฮา ก็จะไม่เหมือนนางคนเดิมอีกต่อไป
ในวัง พระสนมเนี่ยผินก็สงบเสงี่ยมลงไม่ได้น้อย เรื่องครั้งก่อนทำให้นางไม่มีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเซียวเหวินอวี๋อีก แต่ในใจนางรู้กระจ่างเรื่องหนึ่ง ฮ่องเต้ไม่โปรดสตรีใดในวัง เขาชอบบุตรสาวบุญธรรมฮูหยินโจวกั๋วผู้นั้น
ไม่แน่ว่าฮองเฮาองค์ต่อไปอาจเป็นบุตรสาวบุญธรรมฮูหยินโจวกั๋วผู้นั้น
พระสนมเนี่ยผินคิดจริงจังถึงอนาคตของตนเอง หรือว่านางจะแก่ชราและตายลงในวังไปเช่นนี้หรือ นางคิดถึงชีวิตที่เหลือของนางแล้วก็ได้แต่รู้สึกหวาดกลัว
สุดท้ายพระสนมเนี่ยผินไปขอเข้าเฝ้าเซียวเหวินอวี๋
“ฝ่าบาท หม่อมฉันอยากออกจากวังหลวง ไปสวดมนต์ขอพรให้ฝ่าบาทเพคะ”
นี่น่าจะเป็นทางออกเดียวของนาง ได้ออกจากวังหลวงก็ดีกว่าอยู่ในวัง
เซียวเหวินอวี๋หรี่ตามองไปยังพระสนมเนี่ยผิน สีหน้าดีขึ้นไม่น้อย แต่พระสนมเนี่ยผินไม่ได้คิดว่าเพราะเขาชอบนาง แต่เพราะนางรู้ความ
เดิมเซียวเหวินอวี๋กำลังคิดส่งสตรีในวังออกจากวัง ปรากฏพระสนมเนี่ยผินมาขอออกจากวังหลวงไปสวดมนต์ขอพรให้เขาด้วยตนเอง เขาดีใจที่นางรู้ความ แม้ว่าหญิงผู้นี้เคยทำให้เขาไม่พอใจ แต่อย่างไรก็มีมันสมองอยู่บ้าง
“เราอนุญาต”
เขากล่าวจบก็เรียกโจวโย่วจิ่นเข้ามา สั่งการให้โจวโย่วจิ่นส่งพระสนมเนี่ยผินออกจากวังหลวง เดินทางไปอารามนอกวัง
ก่อนพระสนมเนี่ยผินไป เซียวเหวินอวี๋สั่งการโจวโย่วจิ่นไปอีกสองคำ จากนั้นก็ให้โจวโย่วจิ่นส่งคนพานางออกไป
ตอนโจวโย่วจิ่นส่งพระสนมเนี่ยผินออกจากวังหลวงขึ้นรถม้า แอบกระซิบว่า “พระสนมเนี่ยผิน หากอยู่อารามได้ระยะหนึ่งแล้วก็หาที่สักแห่งไปใช้ชีวิตของท่านต่อได้อิสระ”
โจวโย่วจิ่นกล่าวจบ ก็ปิดม่านหน้าต่างรถม้าลง พระสนมเนี่ยผินพลันน้ำตาไหลอาบแก้มขึ้นมาทันที
เหตุใดหญิงที่ฝ่าบาททรงชอบไม่ใช่นาง หากเป็นนางจะดีเพียงใด เหตุใดต้องเป็นหญิงที่ไม่รู้จักดีเช่นหวังเมิ่งเหยา
ฝ่าบาทดีเพียงนี้ น่าเสียดายนางไร้วาสนา
พระสนมเนี่ยผินร่ำไห้เสียงดัง ในใจนางเข้าใจคำพูดของโจวโย่วจิ่นก่อนหน้านี้ ความจริงเป็นรับสั่งฝ่าบาท ฝ่าบาทให้นางอยู่อารามพอสมควรแล้ว ก็คิดหาทางจากไปได้ ไปท่องเที่ยวก็ดี ออกเรือนไปก็ได้
คิดถึงว่าฝ่าบาทดีต่อนาง ดีต่อตระกูลหวัง น้ำตานางก็อดไหลอาบแก้มไม่ได้ ชีวิตนี้ของนางน่าจะไม่อาจรักผู้ใดได้อีก เพราะไม่มีผู้ใดเทียบเท่าฝ่าบาทได้ สิ่งที่นางทำได้มีเพียงไปสวดมนต์ขอพรให้ฝ่าบาท ขอให้ทรงได้อยู่ร่วมกับสตรีที่ทรงชอบ
พระสนมเนี่ยผินไปจากวังหลวงแล้ว ก็เหลือพระสนมอีกเพียงสามคน และสามคนนี้ก็เป็นได้เพียงแค่ไม้ประดับในวังเท่านั้น
ขุนนางในราชสำนักต่างร้อนใจแทนฝ่าบาท ฮองเฮาได้รับพระราชทานสุราพิษจากไป ในวังไม่มีฮองเฮาจะได้อย่างไร อีกอย่างรัชทายาทก็ถูกปลด ตอนนี้ฝ่าบาทเหลือเพียงองค์ชายรอง แต่องค์ชายรองก็คล้ายเป็นเด็กสามขวบที่โง่เขลาเบาปัญญา แม้แต่พูดจาก็ไม่ฉะฉาน รัชทายาทตอนนั้นยังไม่เป็นเช่นนี้ องค์ชายรองเช่นนี้จะเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวได้อย่างไร
ดังนั้นฝ่าบาทต้องรีบแต่งตั้งฮองเฮาและให้กำเนิดรัชทายาทที่เฉลียวฉลาดสักคนแล้ว
แต่แม้ว่าบรรดาขุนนางใหญ่ร้อนใจ ก็ไม่กล้าเร่งฝ่าบาท ตอนนี้ฝ่าบาทยังถอนพิษไม่หมด
ฮูหยินโจวกั๋วยังขจัดพิษให้ฝ่าบาทไม่หมด ยามนี้พวกเขาไปเร่งให้ฝ่าบาทอภิเษกฮองเฮารับพระสนมน่าจะไม่ค่อยดีกระมัง
พระสนมที่เหลือในวังอีกสามคนต่างรู้สึกว่านี่คือโอกาสของตนเองแล้ว พวกนางจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ จะต้องทำให้ฝ่าบาทได้เห็นความดีของพวกนาง หากไม่เหนือความคาดหมาย พอฝ่าบาทถอนพิษหมด ก็จะคัดเลือกพระสนมใหม่ ตอนนั้นยังจะมีที่ยืนให้พวกนางอีกหรือ
พระสนมทั้งสามต่างใช้ทุกกลวิธีกับฝ่าบาท น่าเสียดายฝ่าบาทคล้ายดังคนตาบอด ไม่เพียงแต่ไม่เห็นความดีของพวกนาง กลับยังตำหนิพวกนาง หลิ่วเหม่ยเหรินส่งน้ำแกงมาถูกฝ่าบาทลงโทษคุกเข่าถึงสองชั่วยาม จนเข่าเกือบพิการ สุดท้ายพระสนมทั้งสามไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าเซียวเหวินอวี๋อีก เซียวเหวินอวี๋จึงได้อยู่อย่างสงบ
ลู่เจียว เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนจากไปได้หนึ่งเดือนก็กลับมา พวกเขาเดินทางไปหลายแห่ง ในที่สุดก็หาสมุนไพรถอนพิษได้ครบ
กลับมาถอนพิษบุปผาเจียหลัวให้เซียวเหวินอวี๋กับฉีเหล่ย
เซียวเหวินอวี๋ถอนพิษได้แล้ว ขุนนางในราชสำนักต่างดีใจมาก เซียวเหวินอวี๋ในฐานะฮ่องเต้แคว้นต้าโจวยังคงเป็นที่รักของขุนนางในราชสำนักและราษฎร พอได้ยินฮ่องเต้ถอนพิษได้แล้ว ทั่วแผ่นดินต่างเฉลิมฉลองกันอย่างยินดีปรีดา
พอฮ่องเต้ถอนพิษได้แล้ว ทุกคนก็หันไปกังวลกับรัชทายาทซั่งกวนเฮ่อซีเหลียงที่ถูกปลดจากตำแหน่งไปแล้ว
ซั่งกวนเฮ่อผู้นี้ก็คือระเบิดเวลา จำต้องหาตัวเขาออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นย่อมต้องมีคนเคราะห์ร้ายอีกอย่างแน่นอน
เซียวเหวินอวี๋ส่งคนสำนักอู่เฉิงปิงหม่าซือและสายลับสำนักจิ่วหลงซือไปค้นหาร่องรอยซั่งกวนเฮ่อทั่วทั้งเมืองหลวง แต่ก็หาตัวซั่งกวนเฮ่อไม่พบ
ตระกูลเซี่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นสั่งให้คนตามบุตรชายคนโตกับบุตรชายสามมาหารือ
“พ่อสงสัยว่าซั่งกวนเฮ่อน่าจะแฝงตัวอยู่ในตระกูลเซี่ยเรา”
ตอนนี้ซั่งกวนเฮ่อกังวลใจเรื่องถอนพิษตัวเขาเองที่สุด
ลู่เจียวถอนพิษของเขาที่วางยาพิษเซียวเหวินอวี๋ได้ เขาน่าจะหันมาจับจ้องลู่เจียวอยู่
แต่ก่อนหน้านี้เขาส่งคนไปก็จับตัวพวกเขาไม่ได้ เขารู้ว่าพวกเขารับมือยาก แต่ตระกูลเซี่ยก็มิใช่เหล็กไหล อย่าว่าแต่ผู้อื่น กล่าวถึงแค่เด็กๆ ในตระกูลเซี่ยมากมาย หากถูกซั่งกวนเฮ่อจับไป ลู่เจียวก็ต้องออกหน้ามาถอนพิษให้ซั่งกวนเฮ่อ ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นสงสัยว่าตอนนี้ซั่งกวนเฮ่ออาจแฝงตัวอยู่ในตระกูลเซี่ยสักแห่ง หรืออาจอาศัยสถานะบ่าวรับใช้สักคนแฝงตัวอยู่ในจวนตระกูลเซี่ยเพื่อรอคอยโอกาส
สีหน้าเซี่ยเหวินเหยากับเซี่ยเหวินเซ่าพลันย่ำแย่ ทั้งสองคนมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างร้อนใจ “ท่านพ่อ เช่นนั้นพวกเราก็ควรีบเรียกรวมบ่าวตระกูลเซี่ยมาตอนนี้เลย หรือว่าเราควรแอบสืบหาตัวเงียบๆ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไพล่มือเดินไปมาก่อนจะค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “จัดคนสองสามคนคอยเฝ้าองค์หญิงรองไว้ ซั่งกวนเฮ่อผู้นี้อุบายมาก เรื่องที่เขาคิดทำมักมีขั้นตอนและชอบวางเป็นแผนซ้อนกัน ตอนนี้องค์หญิงรองอยู่ตระกูลเซี่ยเรา ซั่งกวนเฮ่อย่อมต้องจับตาองค์หญิงรอง ไม่ว่าอย่างไรองค์หญิงรองก็เป็นองค์หญิง หากองค์หญิงรองถูกจับ ท่านแม่เจ้าไม่ถอนพิษให้เขา องค์หญิงรองเกิดเรื่องอันใดขึ้น ฝ่าบาทต้องไม่สบายพระทัยอย่างแน่นอน”
“ซั่งกวนเฮ่อต้องคิดเช่นนี้เป็นแน่ ดังนั้นพวกเราต้องนิ่งเอาไว้ไม่ให้เขารู้ตัว ส่งคนแอบคอยจับตาองค์หญิงรองไว้ ขอเพียงพบความผิดปกติ ก็ให้รีบเข้าจับกุมตัวอีกฝ่ายทันที”
เซี่ยเหวินเหยากับเซี่ยเหวินเซ่ารีบรับคำพร้อมเพรียง “ขอรับท่านพ่อ พวกเราจะรีบไปจัดการเรื่องนี้”