Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1034

ตอนที่ 1034 แข็งกร้าว

ท้องพระโรง เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังเซียวหวงก็ไม่ได้คิดจะพยายามแต่งตั้งเซียวหวงเป็นรัชทายาทหญิงแห่งแคว้นต้าโจวต่อ

เขารู้ว่าหวงเอ๋อร์กล่าวเช่นนี้ก็เพื่อเขา เกรงว่าเขาจะเสื่อมเสียชื่อเสียงว่าบีบคั้นขุนนางภักดีจนตาย แต่เขารู้ว่าบุตรสาวเขามีความคิดในใจไว้แล้ว นางกล่าวเช่นนี้ย่อมมีความคิดของตนเองแล้ว เซียวเหวินอวี๋ไม่ได้เอ่ยอันใดต่อ ตั้งแต่เขาคิดแต่งตั้งเซียวหวงเป็นรัชทายาทหญิง ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะค่อยๆ มอบงานในราชสำนักใส่มือนาง

“วันนี้ประชุมกันเพียงเท่านี้ เลิกประชุม”

พวกวังโส่วฝู่พลันโล่งอก อย่างไรฝ่าบาทก็ยอมถอยชั่วคราว หากฝ่าบาทยังคิดแต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิงในตอนนี้จริง ขุนนางตรวจการเฉายืนยันจะยื่นฎีกาด้วยชีวิต ฝ่าบาทย่อมแค้นพระทัยพวกเขา

ความจริงพวกเขาก็ไม่อยากมีเรื่องกับฝ่าบาท แต่พวกเขาไม่อาจยินยอมให้แต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิงได้จริงๆ มีที่ไหนกัน ให้สตรีขึ้นดำรงตำแหน่งฮ่องเต้หญิง ฝ่าบาทก็ยังไม่ทรงพระชนมายุมากนัก ยังสามารถรับพระสนมให้กำเนิดองค์ชายได้อีก

พวกวังโส่วฝู่คิดไปก็คุกเข่าทูลไปว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงพระเมตตา”

เซียวเหวินอวี๋เห็นพวกเขาเช่นนี้ก็ยิ่งไม่พอใจ แค่นเสียงฮึเยียบเย็นพาองค์หญิงสามเดินออกไป

บรรดาขุนนางต่างพากันค่อยๆ ลุกขึ้น พอฮ่องเต้กับองค์หญิงสามออกไปแล้ว คนไม่น้อยก็เข้าไปรุมล้อมใต้เท้าวังโส่วฝู่กับใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ คุยกันถึงเรื่องนี้ไม่หยุด ครั้งนี้หาได้ยากที่ขุนนางในราชสำนักจะมีความคิดเห็นตรงกัน ร่วมกันหารือด้วยกันว่าจะหยุดยั้งฝ่าบาทแต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิงได้อย่างไร

ท้องพระโรง องค์ชายรองได้ยินขุนนางในราชสำนักหารือกันก็โมโหจนหน้าดำเขียวคล้ำ เขายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ พวกเขาไม่เห็นหรือ แต่ละคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะให้ฝ่าบาทรับพระสนมให้กำเนิดองค์ชายอย่างไร เขาไม่ใช่องค์ชายหรือ

องค์ชายรองโมโหเดือดดาลพาบรรดาขุนนางขี้ประจบสอพลอเขาออกไป ไม่ได้สนใจรายละเอียดว่าจะทำให้ฝ่าบาทรับพระสนมอย่างไร

ขุนนางในราชสำนักเสนอต่อใต้เท้าวังโส่วฝู่กับใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ “หรือไปเข้าเฝ้าฮองเฮา ขอให้ฮองเฮาทูลให้ฝ่าบาทรับพระสนม ฝ่าบาททรงโปรดฮองเฮามาก หากฮองเฮาตรัสเรื่องนี้ ฝ่าบาทต้องทรงเห็นด้วยเป็นแน่”

พอคนผู้หนึ่งเอ่ยออกมา คนอื่นก็พากันเอ่ยรับว่า “ในฐานะสตรีต้นแบบแห่งแคว้นต้าโจว ฮองเฮาไม่ควรทรงคิดเพื่อการสืบทอดแคว้นต้าโจวหรือ หากทรงไม่ยินยอม เช่นนั้นจะต่างอันใดกับนางปีศาจล่อลวงฮ่องเต้ให้ลุ่มหลง แต่นางเป็นมารดาแห่งแผ่นดิน ตามหลักควรทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อฝ่าบาท แม้ฝ่าบาททรงรับและโปรดปรานสตรีอื่นแล้วจะอย่างไร ก็เพียงแต่ให้กำเนิดองค์ชายเท่านั้น”

“ใช่ ใต้เท้าหรงกล่าวได้ถูกต้อง”

ใต้เท้าวังโส่วฝู่กับใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ถูกเกลี้ยกล่อมจนรู้สึกว่านี่ก็เป็นวิธีการหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรทูลต่อฮองเฮาก็น่าจะได้ผลดีกว่าทูลต่อฝ่าบาท หากฮองเฮาไม่คิดแบกรับชื่อเสียงเสื่อมเสีย ก็ต้องยอมเห็นด้วยที่จะให้ฝ่าบาทรับพระสนม เรื่องในวังหลังล้วนมอบให้ฮองเฮาดูแล หากฮองเฮาเห็นด้วย ฝ่าบาทจะไม่ทรงเห็นด้วยได้อย่างไร

ใต้เท้าวังโส่วฝู่กับใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่พาบรรดาขุนนางใหญ่ในราชสำนักอีกสองสามคน เดินทางไปยังตำหนักประทับฮ่องเต้และฮองเฮา เพียงแต่พวกเขาเดินมาได้ครึ่งทาง ก็ถูกคนขวางไว้ องค์หญิงสามอยู่ในฉลองพระองค์ชุดหงส์เก้าตัวสยายปีกทะยาน ปรากฏกายขวางทางพวกเขาไว้

“ใต้เท้าทุกท่านคิดไปที่ใดกันหรือ”

องค์หญิงสามกวาดตามองทุกคน แววตาอบอุ่นก่อนหน้านี้กลายเป็นความเย็นเยียบอย่างที่สุด หากไม่ใช่ว่านางเป็นสตรี พวกวังโส่วฝู่ก็จำต้องยอมรับเรื่องหนึ่ง องค์หญิงสามเป็นรัชทายาทได้สมศักดิ์ศรีแท้จริง

น่าเสียดายนางเป็นสตรี

วังโส่วฝู่คิดไปก็เอ่ยไปว่า “กระหม่อมจะไปเข้าเฝ้าฮองเฮากันพ่ะย่ะค่ะ”

องค์หญิงสามแค่นยิ้มกล่าวว่า “ไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่เพื่อทูลให้เห็นด้วยที่จะให้เสด็จพ่อรับพระสนมหรือ พวกท่านทนเห็นเสด็จพ่อดีต่อเสด็จแม่ไม่ได้หรือ ในฐานะขุนนางคิดทำให้ฮ่องเต้เหินห่างจากฮองเฮาใช่หรือไม่ ข้ามีเหตุผลให้ต้องสงสัยว่าพวกท่านคิดการไม่ซื่อ คิดทำลายแคว้นต้าโจว การกระทำเช่นนี้ถือเป็นขุนนางชั่วโฉด”

องค์หญิงสามกล่าวจบก็ก้าวไปตรงหน้าวังโส่วฝู่ “ในฐานโส่วฝู่ ไม่คิดภักดีต่อฮ่องเต้ ไม่คิดรักแผ่นดิน วันๆ คิดแต่วางแผนผลักดันบุตรสาวตนเองเข้าวังให้กำเนิดองค์ชาย หวังครอบครองแผ่นดินแคว้นต้าโจว ในฐานะโส่วฝู่ ไม่คิดเพื่อประชา วันๆ คิดแต่เรื่องนอกลู่นอกทาง ข้ามีเหตุผลให้ต้องสงสัยว่าท่านไม่คู่ควรดำรงตำแหน่งโส่วฝู่แห่งแคว้นต้าโจว”

พอเอ่ยวาจานี้ สีหน้าวังโส่วฝูพลันดำทะมึน ในฐานะโส่วฝู่ เขาคิดว่าตนเองภักดีและเปิดเผยตรงไปตรงมา คิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งถูกองค์หญิงสามว่าเขาเป็นขุนนางชั่วโฉด หากเรื่องนี้แพร่ออกไป แม้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าอันใด แต่ก็คงมีคนส่วนน้อยที่คิดสงสัยความคิดของเขา

วังโส่วฝู่รีบลงคุกเข่าทันที “องค์หญิงสามคิดบีบคั้นกระหม่อมให้ต้องพลีชีพหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ตั้งแต่เซียวหวงตัดสินใจเป็นรัชทายาทหญิงแห่งแคว้นต้าโจว นางไม่คิดเลือกเส้นทางโอนอ่อนคล้อยตามแบบเสด็จพ่อนาง แต่นางตัดสินใจเลือกเส้นทางเย็นเยียบดุดันดังฮ่องเต้เหี้ยมโหด ในฐานะสตรี โลกนี้มิยินยอมสยบให้นางอยู่แล้ว หากนางยังแสดงท่าทีอ่อนแอ ก็ย่อมไม่มีทางกำราบราชสำนักนี้ไว้ได้ ขุนนางเหล่านี้ไม่มีทางยอมรับสตรีได้

ดังนั้นยามนี้ได้ยินวังโส่วฝู่ เซียวหวงก็มีสีหน้าเยียบเย็นอย่างที่สุด เอ่ยอย่างดุดันว่า “วังโส่วฝู่คิดบีบคั้นเสด็จแม่ข้า รวมทั้งข้า ให้ต้องสิ้นหนทางหรือ ท่านมีความคิดเยี่ยงไรกันแน่”

พอเอ่ยวาจานี้ วังโส่วฝู่ก็นิ่งอึ้งไปทันที ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่คิดจะเอ่ยแทน

องค์หญิงสามกลับเอ่ยขึ้นก่อนว่า “เสด็จแม่อุปนิสัยแข็งกร้าว และทรงรักเสด็จพ่อมาก หากพวกเจ้าไปทูลต่อเสด็จแม่ เสด็จแม่ก็มีทางเลือกเพียงสองทาง อาจตัดสินใจขอให้ทรงปลดตำแหน่งฮองเฮา นางคงจะสละตำแหน่งฮองเฮา สอง ปลิดชีวิตตนเอง ข้าอยากขอถามว่า พวกท่านคิดบีบคั้นให้ฮองเฮาสิ้นพระชนม์ใช่หรือไม่ พวกท่านเป็นขุนนางชั่วโฉด ไม่คู่ควรเป็นขุนนางแคว้นต้าโจว”

“วันนี้ข้าขอบอกอีกครั้ง หากเสด็จแม่ข้าเป็นอันใดไป ข้าจะให้พวกท่านทุกคนชดใช้ด้วยโลหิต ให้ตระกูลพวกท่านตายไร้ที่ฝัง”

วาจาองค์หญิงสามทำให้ทุกคนตกใจสีหน้าซีดเผือด ทุกคนเงยหน้ามองไปยังองค์หญิงสามผู้งดงามเป็นหนึ่งไม่มีสองตรงหน้า พบว่าในยามนี้องค์หญิงสามสีหน้าเต็มไปด้วยความเลือดเย็นเหี้ยมโหด เรียวตางามเปี่ยมด้วยความดุดันเยียบเย็น

นางทำให้บรรดาขุนนางที่ยืนอยู่ที่นี่ได้รับรู้เรื่องหนึ่ง องค์หญิงสามไม่ได้มีพระเมตตาเฉกเช่นฮ่องเต้ เห็นได้ชัดองค์หญิงสามเลือดเย็นเหี้ยมโหด ทุกคนต่างเข้าใจแล้วว่า หากพวกเขากล้าไปเข้าเฝ้าฮองเฮาเอ่ยเรื่องอันใด องค์หญิงสามย่อมต้องลงมือกับพวกเขาตามที่นางเอ่ยเมื่อครู่เป็นแน่

พอทุกคนคิดถึงตนเอง ก็พากันหลั่งเหงื่อเย็นหวาดกลัว แต่ละคนล้วนมีสีหน้าซีดเผือด

สุดท้ายใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่เอ่ยขึ้นว่า “กระหม่อมคิดการไม่รอบคอบ ขอองค์หญิงสามโปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

วันนี้เห็นชัดว่าฝ่าบาทคิดแต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิง หากฝ่าบาทตัดสินพระทัยแล้ว ดีไม่ดีสุดท้ายองค์หญิงสามได้ขึ้นเป็นรัชทายาทหญิงแคว้นต้าโจว ด้วยวิธีการจัดการเหี้ยมโหดของนาง จากนี้ไปเกรงว่าก็จะจัดการพวกเขาที่ออกหน้ามาทูลคัดค้านนาง ดังนั้นพวกเขาอย่าได้มีเรื่องแตกหักกับนางจะดีกว่า

คนส่วนหนึ่งในกลุ่มนี้เริ่มคิดถอย ถึงกับครุ่นคิดว่า ในเมื่อฝ่าบาทตัดสินพระทัยแต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิงแล้ว พวกเขายินยอมไปก็แล้วกัน

องค์หญิงสามมองใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก กล่าวว่า “ข้าไม่อยากได้ยินข่าวไม่ดีอันใดของเสด็จแม่ หากให้ข้าสืบได้ว่าผู้ใดกระทำ พวกท่านก็รอดูว่าข้าจะทำเช่นไร”

นางกล่าวจบก็ไม่คิดเอ่ยอันใดต่อ ยกมือขึ้นโบก “ออกจากวังหลวงไปได้แล้ว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version