Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1052

ตอนที่ 1052 ลงมือจัดการ

เซี่ยเหวินเหยาได้รับคำสั่งทางวาจาจากเจี้ยงเสวี่ย ก็รีบนำคนไปสืบเรื่องนี้ ไม่นานก็สืบกระจ่างว่าผู้ใดส่งคนขัดขวางสตรีในแต่ละพื้นที่เข้าเมืองหลวง ก็คือคนของเจ้ากรมขุนนางเถียนอวี้ เซี่ยเหวินเหยารีบนำเรื่องนี้ไปรายงานต่อรัชทายาทหญิงเซียวหวง

ขุนนางต่างไม่เห็นด้วยที่เซียวหวงจะเป็นรัชทายาทหญิง แต่ตระกูลเซี่ยทุกคนกลับไม่คัดค้าน ประการแรก ลู่เจียวก็เป็นสตรี หากไม่มีท่านแม่ พวกเขาจะเก่งกาจได้อย่างไร ประการที่สอง รัชทายาทหญิงขึ้นสู่ตำแหน่ง ก็เป็นผลดีต่อตระกูลเซี่ย พวกเขารู้ความตั้งใจของฝ่าบาทในเรื่องนี้ ดังนั้นจะคัดค้านรัชทายาทหญิงขึ้นสู่ตำแหน่งได้อย่างไร

ดังนั้นต่อหน้าผู้อื่น เซี่ยเหวินเหยาไม่ได้แสดงท่าทีอันใด แต่แอบช่วยรัชทายาทอยู่ อีกอย่าง ฝ่าบาทกล้าประกาศแต่งตั้งรัชทายาทหญิง ก็เพราะมีตระกูลเซี่ยสนับสนุน นอกจากเซี่ยเหวินเหยาเป็นเสนาบดีกรมอาญาแคว้นต้าโจว ยังมีแม่ทัพชายแดน และยังมีผู้สำเร็จราชการเป่ยฉี ล้วนเป็นคนตระกูลเซี่ย

แม้ว่าผู้สำเร็จราชการเป่ยฉีอยู่ไกล แต่หากพวกเขากล้าต่อต้านฝ่าบาทเปิดเผย ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มาข้องเกี่ยว

และด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แม้ว่าขุนนางในราชสำนักไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแต่งตั้งรัชทายาทหญิง แต่สุดท้ายก็ยังต้องยอมรับว่า หนึ่ง รัชทายาทหญิงโหดเหี้ยม สอง นางมีที่พึ่งใหญ่ดังขุนเขาหนุนหลัง พวกเขาไม่อาจทำอันใดนางได้จริงๆ

เซียวหวงได้ข่าวนี้ ก็ให้จ้าวเหิงสำนักจิ่วหลงซือไปตรวจสอบเจ้ากรมขุนนางในทันที สุดท้ายถึงกับสืบพบว่าเจ้ากรมขุนนางเถียนอวี้มีพฤติกรรมซื้อขายตำแหน่งขุนนาง ที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้ากรมเถียนผู้นี้ไม่มีอันใดก็มักจะจับกลุ่มกับผู้อื่น

กฎแคว้นต้าโจวกำหนดให้ขุนนางไม่อาจจับกลุ่มเป็นการส่วนตัวได้ เขาทำอย่างเปิดเผยโดยไม่เห็นกฎหมายแคว้นต้าโจวอยู่ในสายตา

เซียวหวงแค่นหัวเราะ สั่งการให้คนสำนักจิ่วหลงซือจับตาเถียนอวี้

แม้ว่าเจ้ากรมเถียนเป็นเพียงขุนนางระดับสอง แต่หลายปีมานี้ดำรงตำแหน่งได้อย่างราบรื่นไร้คลื่นลม จึงทำให้ได้ใจอยู่บ้าง ดังนั้นครั้งนี้จึงวิ่งไปขอรองโส่วฝู่จัดการเรื่องนี้เอง เรื่องราวผ่านไปหลายวันก็มิได้เกิดเรื่องอันใด เจ้ากรมเถียนก็ยิ่งได้ใจ ตกค่ำก็เรียกให้ขุนนางมาจับกลุ่มดื่มสุราฟังงิ้วขับร้องที่หอจินเฟิ่ง

ยามนี้ ทุกคนถูกคนสำนักจิ่วหลงซือกักตัวไว้ในห้องรับรอง

เซียวหวงพานางข้าหลวงประจำตัวเดินเข้ามาถึงก็แค่นยิ้มมองเจ้ากรมเถียน “ใต้เท้าเถียนมากบารมีจริง ถึงกับไม่เห็นกฎแคว้นต้าโจวอยู่ในสายตา อย่าว่าแต่เรา แม้แต่ฝ่าบาท ท่านก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา”

เจ้ากรมเถียนสีหน้าแปรเปลี่ยน ลงคุกเข่าโขกศีรษะทันที พอเซียวหวงเอ่ยเช่นนี้ เขาก็รู้ว่ารัชทายาทสืบทราบเรื่องที่ตนเองทำก่อนหน้านี้แล้ว นางมาเอาเรื่องเขาก็เพราะเรื่องที่เขาทำก่อนหน้านี้

ระยะนี้เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในราชสำนักทำให้เจ้ากรมเถียนรู้ว่าถูกรัชทายาทจ้องเล่นงานย่อมมิใช่เรื่องดี

รัชทายาทหญิงไม่ใช่พระโพธิสัตว์

เจ้ากรมเถียนหวาดกลัวจนหน้าถอดสี ขอร้องว่า “กระหม่อมควรตาย ขอรัชทายาทไว้ชีวิตด้วย กระหม่อมมีความผิด กระหม่อมขอรัชทายาทให้กระหม่อมสร้างความชอบชดใช้ความผิด กระหม่อมจะส่งคนไปพาหญิงที่เดินทางกลับไปเหล่านั้นกลับมาใหม่อีกครั้ง”

เซียวหวงไม่คิดให้โอกาสเจ้ากรมเถียน นางตวาดน้ำเสียงดุดันว่า “บังอาจ ขุนนางกังฉินถึงกับจับกลุ่มกับพรรคพวก เจ้าคิดกบฏต่อแคว้นต้าโจวหรือ ทหาร นำตัวเจ้ากรมเถียนและขุนนางทุกคนที่มีใจคิดการไม่ซื่อเหล่านี้ไปส่งคุกกรมอาญา”

ขุนนางด้านหลังเจ้ากรมเถียนต่างมีสีหน้าแปรเปลี่ยน พากันลงคุกเข่าโขกศีรษะทันที “รัชทายาท ไว้ชีวิตด้วยๆ”

เซียวหวงไม่คิดให้โอกาสพวกเขาอีก มองไปยังจ้าวเหิงทันที จ้าวเหิงรีบน้อมรับพระบัญชานำตัวคนเหล่านี้ไปส่งคุกกรมอาญา

วันรุ่งขึ้นในที่ประชุมท้องพระโรงยามเช้า เฉิงโฮ่วไท่ยื่นฎีกาเจ้ากรมเถียนและความผิดต่างๆ ของตระกูลเถียน นอกจากความผิดเจ้ากรมเถียน ขุนนางที่มาจับกลุ่มกับเขาเมื่อวานก็ล้วนพลอยติดร่างแหไปด้วย แม้ว่าพวกเขามีโทษไม่หนักมาก แต่การจะหลุดจากตำแหน่งขุนนางก็เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก

เซียวเหวินอวี๋รู้เรื่องเจ้ากรมเถียนที่สั่งการให้คนไปขัดขวางสตรีเข้ามาสอบในเมืองหลวงก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นนี่คือการลงมือจัดการของหวงเอ๋อร์

เดิมเขาก็โมโหพฤติกรรมของพวกเจ้ากรมเถียนอยู่แล้ว พอมาได้ฟังความผิดต่างๆ ของตระกูลเถียนเพิ่มอีก ก็รับสั่งต่อเสนาบดีกรมอาญาเซี่ยเหวินเหยาอย่างเดือดดาลว่า “ลงโทษทุกคนตามกฎหมาย มิต้องลงโทษสถานเบา”

ในพระตำหนัก วังโส่วฝู่มองใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่อย่างเห็นใจทีหนึ่ง ระยะนี้เพราะเขานิ่งเงียบ คนในราชสำนักไม่น้อยต่างวิ่งไปหารองโส่วฝู่

แววตาวังโส่วฝู่มองอย่างเย็นเยียบสื่อเป็นความนัยว่า หากมีความสามารถ เจ้าก็เล่นต่อไปสิ ข้าจะรอดูเจ้าค่อยๆ รนหาที่ตายไปเงียบๆ

ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่หลั่งเหงื่อเย็นท่วมหน้าผาก แต่ยังคงก้าวออกมาหาทางช่วยพวกเจ้ากรมเถียน หากไม่ทำเช่นนั้น คนของเขาจะยังมาขอพึ่งบารมีเขาอีกหรือ

ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ก้าวออกมา “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรลงโทษสถานเบา เรื่องนี้เกี่ยวพันกับขุนนางจำนวนมาก หากลงโทษทั้งหมดมากมายเช่นนี้ ตำแหน่งในราชสำนักก็ย่อมว่างลง เกรงว่าจะกระทบต่อการจัดการราชกิจ”

เซียวเหวินอวี๋ไม่เอ่ยอันใด เซียวหวงก้าวออกมาพร้อมกับแค่นยิ้มมองไปยังใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ กล่าวว่า “ความจำใต้เท้าฟางคงไม่ได้การแล้ว ก่อนหน้านี้เรามีคำสั่งไปอย่างชัดเจนแล้วว่าให้จัดตั้งสำนักสอบหงเหวินก่วน ให้สตรีในแต่ละพื้นที่ได้เข้าเมืองหลวงมาสอบ ตอนนี้ในเมืองหลวงมีตำแหน่งว่างลงมากมายเช่นนี้ เช่นนั้นสตรีเหล่านี้ก็อาจได้ใช้งานพอดี ให้ลองทำงานดูก่อนได้”

ยามนี้ไม่เพียงแต่ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ตกใจ แม้แต่วังโส่วฝู่ก็ตกใจใบหน้าถอดสีดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

พวกเขาคิดว่ารัชทายาทหญิงใช้งานหญิงเหล่านั้นอย่างมากก็ตำแหน่งระดับรอง ผู้ใดจะรู้ว่านางถึงกับวางแผนให้ตำแหน่งสำคัญในราชสำนักแก่หญิงเหล่านั้น ไม่ได้อย่างเด็ดขาด หญิงเหล่านั้นไม่เคยทำงานพวกนี้ จะได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องเหลวไหลหรือ

แม้ว่าวังโส่วฝู่ร้อนใจ แต่ก็ยังคงนิ่งเฉย

ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่กลับคุกเข่าลงทันที “รัชทายาท ไม่ได้อย่างเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวหวงมองลงมายังใต้เท้าฟาง “มีอันใดไม่ได้ ความจริงเรื่องนี้ควรขอบคุณเจ้ากรมเถียนถึงจะถูก หากไม่ใช่พวกเขาทำเรื่องเช่นนี้ เราก็ไม่เคยคิดให้หญิงเหล่านั้นมาดำรงตำแหน่งในราชสำนัก แต่ตอนนี้ตำแหน่งว่างมากมาย ไม่สู้ลองดูสักหน่อย”

ใบหน้าใต้เท้าฟางหลั่งเหงื่อเม็ดโต เขาคิดหวังดีกลับทำให้เรื่องราวเลวร้ายลงกว่าเดิม

คนด้านหลังเขาไม่น้อยพากันขมวดคิ้วมองเขา

ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ได้แต่เอ่ยน้ำเสียงสลดว่า “รัชทายาท ขุนนางในราชสำนักเรามากมายเหล่านี้ล้วนผ่านประสบการณ์มากมายกว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ได้ สถานะนี้ พวกเราต่างก้าวเดินมาทีละก้าว แต่หญิงที่เข้าเมืองหลวงมาสอบเหล่านี้ จะมีพรสวรรค์ความสามารถเพียงใด ก็ไม่มีทางทำได้ในทันที ขอรัชทายาทโปรดไตร่ตรองด้วย”

ความจริงเซียวหวงไม่ได้คิดจะให้หญิงเหล่านั้นดำรงตำแหน่งสำคัญจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้พวกนางดำรงตำแหน่งเหล่านี้ แต่ยังมิใช่ตอนนี้ ไม่ว่าผู้ใดล้วนต้องผ่านประสบการณ์ขัดเกลาจึงจะก้าวมายืนในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ นางคิดให้โอกาสหญิงเหล่านั้น ก็เพียงแค่ให้พวกนางได้ฝึกฝนประสบการณ์ วันหน้าจะก้าวขึ้นมาได้หรือไม่ ก็ล้วนขึ้นกับความสามารถของพวกนางแต่ละคน

การที่เซียวหวงกล่าวเช่นนี้ก็เพื่อขู่ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่เท่านั้น

เซียวหวงคิดไปก็มองใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่อย่างดูแคลนไป กล่าวว่า “อย่าว่าแต่ตำแหน่งเจ้ากรม ไม่แน่ว่าวันใดแคว้นต้าโจวเราก็อาจมีโส่วฝู่หญิง อีกอย่าง เรื่องที่เราตัดสินใจแล้ว ไม่มีผู้ใดขัดขวางได้ หากมีคนไม่กลัวตาย ก็ลองดูได้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version