Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 436


ตอนที่ 436 อ๋องเยียนมาเยือน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่อยากให้อ๋องเยียนมาทำคดีที่หนิงโจว เพราะเขาไม่ต้องการให้อ๋องเยียนรู้ชาติกำเนิดซื่อเป่า อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องการให้รู้ในตอนนี้

ตอนนี้เมืองหลวงกำลังแก่งแย่งตำแหน่งรัชทายาทกันดุเดือด หากอ๋องเยียนพ่ายแพ้ ซื่อเป่าเป็นบุตรชายอ๋องเยียนย่อมถูกกำจัด

เจียวเจียวชอบซื่อเป่ามาก หากซื่อเป่าถูกกำจัด นางต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน ดังนั้นรอให้การแย่งชิงนี้จบลงก่อน ค่อยตัดสินใจว่าจะให้ซื่อเป่ากลับไปอยู่กับอ๋องเยียน หรือว่าอยู่กับพวกเขาต่อไป

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดไปก็กล่าวไปว่า “เจ้าส่งคนนำข่าวไปทูลอ๋องเยียนก็พอ”

“ได้”

จ้าวหลิงเฟิงลุกขึ้นรีบร้อนออกไป เรื่องนี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง

ที่สำคัญก็คือเขาเคยได้ยินเจ้านายเอ่ยว่า ผู้ว่าเมืองหนิงโจวเหมือนเป็นคนของอ๋องหนิงหรือองค์ชายหก ตอนนี้มีโอกาสที่ดีจะล้มผู้ว่าเมืองหนิงโจว ทำไมพวกเขาจะไม่ฉวยโอกาสนี้ไว้

จ้าวหลิงเฟิงไปได้ไม่นาน เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็เข้ามาพร้อมกับลู่เจียว

พอเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เห็นว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นยังไม่ได้กินข้าว ก็รีบให้คนไปเตรียมข้าวมาให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น กลัวบิดาจะหิว

ลู่เจียวยิ้มขำมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้าลูกสี่คนนี่โตไปย่อมต้องกตัญญูต่อเจ้าอย่างแน่นอน”

“ย่อมต้องกตัญญูต่อเจ้าด้วยเช่นกัน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นอมยิ้มกล่าวตอบ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบรับคำ “พวกเราต้องกตัญญูต่อท่านพ่อและท่านแม่”

กล่าวจบก็เผยรอยยิ้มหวานหยด

ซื่อเป่าเข้าไปกอดเอวลู่เจียวแสดงท่าทางจงรักภักดีอย่างที่สุด “ท่านแม่วางใจ ข้าจะต้องกตัญญูต่อท่านแม่ ซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด ซื้อเครื่องประดับที่สวยที่สุดให้ท่านแม่ ถึงตอนนั้นท่านแม่อยากกินอะไร ข้าก็ให้คนไปซื้อมาให้หมด”

เจ้าตัวน้อยกล่าวจบก็ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ ท่าทางได้ใจ

ลู่เจียวอมยิ้มก้มลงหอมแก้มซื่อเป่าไม่ได้ แต่ก็ไม่ลืมหอมแก้มลูกน้อยอีกสามคน

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ต่างเบิกบานใจ

พออาหารเตรียมเสร็จ เด็กๆ ก็ไปกินเป็นเพื่อนเซี่ยอวิ๋นจิ่น

สองวันถัดมา ตอนเย็นทั้งครอบครัวกำลังนั่งกันกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร

นอกประตู ลู่กุ้ยก็ก้าวเข้ามารายงานว่า “พี่เจียว พี่เขย ท่านจ้าวมาแล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวรีบสบตากัน หรือว่าอ๋องเยียนมีคำสั่งให้จ้าวหลิงเฟิงมาคุยกับพวกเขา

“เชิญท่านจ้าวเข้ามา”

ลู่กุ้ยเดินออกไปเชิญจ้าวหลิงเฟิง ลู่เจียวมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ข้ากินกับลูกๆ ต่อ เจ้าไปคุยธุระกับจ้าว หลิงเฟิงในห้องก็แล้วกัน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเล็กน้อย คีบลูกชิ้นปลาให้ลู่เจียว “ได้ เจ้ากินให้เยอะๆ หน่อย ระยะนี้ผอมเกินไปแล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็เห็นด้วย “ใช่ ระยะนี้ท่านแม่ผอมเกินไปแล้ว”

ลู่เจียวรีบก้มหน้าลงมองตนเอง ก็พบว่าผอมลงไปอีกนิดหน่อยแล้วจริงๆ สองวันนี้มีแต่คนมาที่บ้านให้นางรักษา นางยังต้องเป็นห่วงเรื่องเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ยังต้องรักษาผู้ป่วย กินข้าวก็ไม่ค่อยตรงเวลา ดังนั้นจึงผอมลงไปหลายชั่ง

แต่เช่นนี้ดีมาก ลู่เจียวพึงพอใจมาก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กลับไม่ชอบใจ แต่ละคนพากันคีบอาหารให้นาง

“ท่านแม่กินอันนี้ ผัดกุ้งนี่อร่อยมาก”

“เนื้อผัดหุยกัวโย่วจานนี้ก็อร่อยมาก”

“ไข่ตุ๋นนี่ก็อร่อยมาก ทั้งนุ่มทั้งหอม”

ขณะพ่อลูกห้าคนกำลังแย่งกับคีบอาหารให้ลู่เจียวก็มีคนเดินเข้าประตูมากันหลายคน

พ่อลูกห้าคนแต่ละคนกำลังคีบอาหารไว้ในชามลู่เจียวอยู่

จ้าวหลิงเฟิงเห็นภาพนี้ก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้ จากนั้นก็มองไปยังชายราศีสูงศักดิ์ข้างๆ ด้วยสัญชาตญาณทันที

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็มองไปทันทีเช่นกัน จากนั้นก็เห็นว่าผู้ชายข้างกายจ้าวหลิงเฟิงก็คือคนที่ก่อนหน้านี้ลู่เจียวถอนลูกธนูหัวแฉกออกมาให้ ซึ่งก็คืออ๋องเยียน เซียวอวี้

เซียวอวี้เห็นภาพมารดาเมตตาอารีกับบุตรกตัญญูเช่นนี้ ก็อดอิจฉาขึ้นมาในใจไม่ได้ บุคคลที่เกิดในราชวงศ์ แต่ไรมาไม่มีความผูกพันในครอบครัวเช่นนี้

ดังนั้นทุกครั้งที่เขาเห็นภาพเช่นนี้ ในใจก็จะอดอิจฉาขึ้นมาไม่ได้

ทันทีที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นอ๋องเยียน ก็หันหน้าไปมองซื่อเป่าทันที แต่สุดท้ายก็เก็บอาการไว้ได้

ในใจเขาแอบด่าลู่กุ้ยที่ไม่บอกให้กระจ่างว่าผู้ใดมา หากรู้ว่าอ๋องเยียนมา เขาจะต้องให้เจียวเจียวพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปเรือนด้านหลังแล้ว

ลู่เจียวไม่รู้ความคิดเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางเห็นอ๋องเยียนมาก็รีบลุกขึ้น และผลักเซี่ยอวิ๋นจิ่นข้างกายพร้อมกับบอกให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ลงจากเก้าอี้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวคารวะอ๋องเยียนก่อน “ข้าน้อยคารวะท่านอ๋องเยียน”

ลู่เจียวกล่าวจบมองไปยังเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ “รีบคารวะท่านอ๋องเยียน”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบทำตามบิดามารดาอย่างมีมารยาท พากันคารวะเซียวอวี้ “ข้าน้อยคารวะท่านอ๋องเยียน”

ใบหน้าเซียวอวี้รูปงามฉายแววอ่อนโยนมองมาที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว มองต่อไปยังเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ตระกูลเซี่ย

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่สวมเสื้อผ้าเหมือนกัน บนศีรษะยังผูกผ้ารัดผม กอปรกับร่างสูงพอกันๆ มองแล้วก็เหมือนกัน แต่มองให้ดีก็จะแยกออกว่าคนหนึ่งหน้าตาเหมือนเซี่ยซิ่วไฉ อีกสองคนเหมือนลู่เหนียงจื่อ คนสุดท้ายไม่ค่อยเหมือน ทว่าดวงตาคู่นั้น?

เซียวอวี้เห็นเรียวตาดอกท้อของซื่อเป่าก็พลันรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับดวงตาคู่นี้อย่างน่าประหลาด

เพียงแต่เซียวอวี้ยังไม่ทันได้มองละเอียด เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รีบเอ่ยว่า “ไม่ทราบว่าอ๋องเยียนมาเยือน ข้าน้อยเสียมารยาทแล้ว”

เซียวอวี้หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ยิ้มกล่าวว่า “ไม่รู้ไม่ผิด เป็นข้าเองที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าว ขอเซี่ย ซิ่วไฉอย่าได้ตำหนิ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าสงบนิ่ง ยามนี้ในใจเขาร้อนรนจนแอบหลั่งเหงื่อเย็นแล้ว

แต่พอเห็นอ๋องเยียนหันมาสนใจเรื่องอื่น เขาก็โล่งอก

นาทีนั้น เขากลัวจริงๆ ว่าอ๋องเยียนจะรู้เรื่องซื่อเป่า

ซื่อเป่ายืนปะปนกับแฝดสาม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเหมือนอีกสามคน ตัวก็สูงพอกัน ดังนั้นคนปกติก็ย่อมมองไม่ออกว่าเขาไม่เหมือนกับแฝดสาม แม้ว่าเขามีเรียวตาดอกท้อ แต่คนอื่นก็มองว่าเขากับลู่เจียวหน้าตาดี ย่อมไม่คิดมากว่าไม่เหมือนกับซื่อเป่า

แต่ดวงตาซื่อเป่าเหมือนเฉินอิงมาก หากอ๋องเยียนมองให้ละเอียด เกรงว่าจะสังเกตเห็นได้ ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงเป็นห่วงเรื่องนี้มาก

ทว่าอ๋องเยียนถูกเขาดึงความสนใจไปเรื่องอื่น ไม่ได้สังเกตซื่อเป่าต่อ เซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงได้วางใจลง

“ท่านอ๋องเยียนให้เกียรติมาเยือนบ้านตระกูลเซี่ยข้า เป็นวาสนาบ้านตระกูลเซี่ยข้า จะตำหนิท่านอ่องได้อย่างไร ท่านอ๋องเชิญนั่ง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็หันไปบอกลู่เจียวว่า “เจียวเจียวรีบพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปเรือนด้านหลัง”

ลู่เจียวพยักหน้า อ๋องเยียนมาในคืนนี้ หากไม่เหนือความคาดหมายก็ย่อมต้องมีเรื่องหารือกัน นางกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่ที่นี่จะอยู่ต่อได้อย่างไร

ลู่เจียวรีบรับคำ “ได้”

นางกล่าวจบ ก็หันไปบอกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่า “กล่าวอำลากับท่านอ๋องเยียน”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่โบกมืออย่างว่านอนสอนง่าย “ท่านอ๋องเยียน แล้วพบกันใหม่ ท่านพ่อ เดี๋ยวค่อยเจอกันใหม่”

เซียวอวี้หันไปมองอีกครั้ง แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่หันหลังจากไปแล้ว แต่แม้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จากไปไกลแล้ว ในใจอ๋องเยียนยังคงรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนว่าเขาจะชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ตระกูลเซี่ยมาก

“เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พวกเจ้าอบรมได้ไม่เลว ดีมาก”

ความจริงซื่อจื่อจวนอ๋องเยียนได้รับการอบรมจากพระชายาอ๋องเยียนมาเป็นอย่างดี เพียงแต่มีธรรมเนียมบุตรและบิดามากกว่าความผูกพันระหว่างบุตรกับบิดา

เซียวอวี้คิดถึงบุตรชายตนเองแล้วก็ไม่ค่อยพอใจนัก ล้วนเพราะพระชายาแสนดีของเขาอบรมมา

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version