Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 463

ตอนที่ 463 เจียวเจียวร้อนแรงจริง

หวังต้าฮวาคิดว่าตนเองหูฝาด นางหันหน้าไปจ้องมองลู่เจียว จนแน่ใจว่าหูตนไม่ได้ฝาด

ลู่เจียวให้นางจับตาดูคนตระกูลเซี่ยเอาไว้จริงๆ นางบอกว่าจะคืนสัญญาขายตัวให้นางพร้อมกับเงินอีกร้อยตำลึงไว้ดูแลตนเองยามชรา

หวังต้าฮวาใจเต้นโครมคราม นี่คือโอกาสของนาง

หากนางคว้าไว้ไม่ได้ รอให้เซี่ยเหล่าเกินตาย นางก็ย่อมตายอนาถเป็นแน่

“เจ้าพูดจริงหรือ”

หวังต้าฮวาจ้องมองลู่เจียว ลู่เจียวพยักหน้า “ย่อมจริง ขอเพียงเจ้าช่วยข้าจัดการเรื่องนี้ได้ดี ข้าไม่เพียงแต่จะคืนสัญญาขายตัวให้เจ้า ยังจะมอบเงินให้เจ้าอีกร้อยตำลึง”

หวังต้าฮวาแน่ใจในสิ่งที่ตนได้ยินแล้ว ก็คว้ามือลู่เจียวมากุมอย่างตื่นเต้น “ตกลง ข้ารับปากเจ้า เจ้าพูดแล้วห้ามคืนคำนะ”

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนหลอกลวงหรือ”

หวังต้าฮวามองหญิงตรงหน้าผู้นี้ นางราวกับเปลี่ยนร่างใหม่ ไม่เพียงแต่คนจะงาม กิริยาท่าทางก็ยังดูสูงศักดิ์ นางเชื่อใจอีกฝ่ายทันที

คนมีความสามารถเช่นนางไม่จำเป็นต้องหลอกลวงนาง และถ้าเทียบกับนางแล้ว หญิงผู้นี้น่าจะโมโหคนตระกูลเซี่ยยิ่งกว่า

หวังต้าฮวาครุ่นคิดแล้วก็ถามลู่เจียวทันทีว่า “หากพวกเขาจะทำอันใด ข้าก็ไม่อาจส่งจดหมายไปบอกเจ้าได้ ข้าออกจากบ้านไม่ได้”

ลู่เจียวคิดแล้วก็มีเหตุผล หวังต้าฮวาเป็นแค่อนุขายตัวในตระกูลเซี่ย ออกจากบ้านไม่ได้ แต่หากไม่จับจ้องคนตระกูลเซี่ยไว้ นางเองก็ไม่วางใจ

ลู่เจียวคิดแล้วก็ตัดสินใจ “ไว้ข้าซื้อคนรับใช้ส่งมาปรนนิบัติท่านพ่อ หากเจ้าพบเห็นอันใด ก็ให้นางส่งจดหมายไปที่อำเภอชิงเหอก็พอ”

“ตกลง”

การทำเช่นนี้ก็จะทำให้มีคนสองคนคอยจับจ้องมองคนตระกูลเซี่ยไว้ นางก็วางใจ

หวังต้าฮวาได้ฟังลู่เจียวก็โล่งอกทันที พร้อมกับดีใจอย่างมาก หากลู่เจียวส่งคนมาปรนนิบัติเซี่ยเหล่าเกิน เช่นนั้นนางก็จะสบายมากขึ้น

หวังต้าฮวายิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ มองลู่เจียวรับรองกล่าวว่า “ภรรยาอวิ๋นจิ่น เจ้าวางใจ ข้าต้องทำภารกิจที่เจ้ามอบหมายให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน”

“ดี เจ้าออกไปได้แล้ว”

ป้องกันผู้อื่นมาเห็นเข้าแล้วจะพูดไป

ความเศร้าทุกข์ใจของหวังต้าฮวาก่อนหน้านี้มลายสิ้นไป นางหันหลังเดินออกไป พอคิดถึงว่าวันหน้าจะได้พ้นจากความเป็นทาสได้ ยังได้เงินอีกร้อยตำลึงมาเลี้ยงดูตนเองยามชรา นางก็เบิกบานใจจนคิดอยากจะร้องเพลง

หวังต้าฮวาเพิ่งไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ตามนางมา

“เจียวเจียว เจ้ามาทำอันใดที่นี่”

ลู่เจียวมีเรื่องจะบอกเขาพอดี จึงกวักมือเรียกเขามาบอกว่า “ข้าเบื่อคนเยอะเลยมาพักที่นี่”

พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังว่านางเบื่อคนเยอะ ก็รีบเสนอว่า “เช่นนั้น พวกเรากลับกันเถอะ”

“ตกค่ำยังมีโต๊ะเลี้ยงอีกสามสี่โต๊ะไม่ใช่หรือ”

“เอาไว้ต้อนรับน้องชายภรรยาเจ้าสี่ ให้เจ้าสี่ไปต้อนรับก็พอ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ยื่นมือไปดึงลู่เจียวจะเดินไป แต่ลู่เจียวไม่ขยับ บุ้ยใบ้ให้เขาเขยิบเข้ามาใกล้ มีเรื่องพูดกับเขา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นชะงักกึก เขยิบเข้าใกล้ลู่เจียวทันที “มีอันใดหรือ”

ลู่เจียวมองไปรอบๆ แล้วก็กล่าวว่า “ข้าเพิ่งตกลงแลกเปลี่ยนกับหวังต้าฮวา”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเหมือนไม่เคยได้ยินชื่อหวังต้าฮวา แต่คิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกได้ว่าเป็นชื่อของแม่หม้ายหวัง “แม่หม้ายหวัง?”

ลู่เจียวไร้วาจาจะกล่าว คนเขาเป็นอนุภรรยาบิดาเจ้า ยังจะเรียกแม่หม้ายหวังอยู่ได้

“ใช่”

“เจ้าแลกเปลี่ยนอันใดกับนาง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนางอย่างประหลาดใจ ลู่เจียวเขย่งขึ้นกระซิบข้างหูเขาเบาๆ ว่า “ข้าให้นางช่วยพวกเราจับจ้องคนตระกูลเซี่ยเอาไว้ ข้าไม่เชื่อใจคำรับรองท่านพ่อเจ้า เดือนแปดเจ้าก็จะเข้าสอบเซียงซื่อแล้ว หากสอบได้ก็ต้องเข้าเมืองหลวงไปสอบหุ้ยซื่อและเตี่ยนซื่ออีก หากเจ้าประสบความสำเร็จ ย่อมต้องมีคนนำเสนอตัวเองว่าเป็นพี่น้องเจ้า”

“หากพวกเซี่ยต้าเฉียงทำอันใดย่อมส่งผลเสียต่อเจ้าไปด้วย ดังนั้นพวกเราต้องหาคนจับตาดูพวกเขาไว้”

เดิมเซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังฟังอย่างตั้งใจ แต่ลมหายใจลู่เจียวค่อยๆ รบกวนเขา กลิ่นกายหอมเย็นของนาง ลมหายใจข้างใบหูเขา ทำให้หูเขาจักจี้ ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นเริ่มเต้นแรง ลืมนึกตามคำพูดลู่เจียวไปในทันที

เขาฟังไปๆ ก็หันไปมองลู่เจียวด้วยสัญชาตญาณ

แต่ไม่ทันระวังหันหน้าไปจนปากแตะกับปากลู่เจียวพอดี

ครั้งนี้ปฏิกิริยาเซี่ยอวิ๋นจิ่นไวมาก เขากอดเอวลู่เจียวไว้หมับ จากนั้นก็ก้มลงจุมพิตริมฝีปากนางด้วยสัญชาตญาณอย่างดื่มด่ำ

ลู่เจียวตกใจตื่นตะลึง พอโดนจุมพิตเช่นนี้ ก็ไร้ปฏิกิริยาในบัดดล แต่พอตั้งสติได้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ปล่อยนางแล้ว และยังจุมพิตผมยาวสลวยนางอีกที

นางอดเหลือบตาจ้องใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้ แต่แววตากลับไม่เหมือนถลึงจ้องมองด้วยความโมโห แต่เหมือนกำลังออดอ้อน

ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งเต้นรุนแรง จุมพิตครั้งนี้ทำให้เขาเข้าใจถึงการจุมพิตแท้จริง ที่แท้ความผูกพันระหว่างชายหญิงทำให้จิตใจคนเราหวั่นไหวได้เช่นนี้นี่เอง

แต่วันนี้เขาไม่กล้าบุ่มบ่ามอีกแล้ว พอเห็นลู่เจียวถลึงตาจ้องเขา เขาก็รีบรับผิดทันที

“ขอโทษ เจียวเจียว ข้าลืมตัว”

ตอนนี้ลู่เจียวพอจะเข้าใจอุบายของเจ้าหมอนี่แล้ว จะทำอันใดก็ทำ จากนั้นก็ขอโทษ เหมือนเป็นคนละเรื่องกัน

เชอะ

เป็นคนยุคปัจจุบันแท้ๆ หรือว่าจะถูกคนโบราณสยบ นางยอมไม่ได้

ลู่เจียวไม่รอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวอันใดอีก นางยื่นมือขึ้นรั้งท้ายทอยเซี่ยอวิ๋นจิ่นลงมา มอบจุมพิตร้อนแรงลึกล้ำคืนเขาไปทีหนึ่ง

ครั้งนี้กลายเป็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นตะลึงงันแทน

เจียวเจียวร้อนแรงจริง

แต่พอลู่เจียวจุมพิตเสร็จ ก็รีบควบคุมสถานการณ์ด้วยการผลักเซี่ยอวิ๋นจิ่นออก

“เอาละ เสมอกันแล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นถูกจุมพิตจนร้อนผ่าวไปทั้งตัว ความปรารถนาในกายก็เริ่มถูกปลุกตื่นขึ้น

เขามองลู่เจียวด้วยสายตาร้อนแรงแฝงความนัย “เจียวเจียว ความจริงพวกเราอาจจะ…”

ลู่เจียวไม่รอให้เขากล่าว นางกล่าวจบก็รีบยกมือห้ามเขาไม่ให้กล่าวต่อ น้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ไม่อาจ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นทำอันใดไม่ได้ ได้แต่พยายามระงับความต้องการในกายตนเองลง ลู่เจียวไม่กล่าวอันใดอีก นางกำลังสงบสติอารมณ์ตนเองลงเช่นกัน

ขณะทั้งสองคนกำลังผ่อนลมหายใจ ด้านหลังพลันมีเสียงดังขึ้น “ต้าเป่า เมื่อก่อนข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษเจ้า วันหน้าพวกเราเป็นพี่น้องกันดีไหม”

เสียงที่ดังขึ้นนี้ทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวตกใจ ทั้งสองคนหันไปมอง เห็นบุตรชายสองคนของเซี่ยต้าเฉียงกำลังขอโทษเจ้าหนูน้อยทั้งสี่

แต่เห็นได้ชัดทั้งสองคนกลัวเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ยืนห่างไกล ไม่กล้าเข้าใกล้

ก่อนหน้านี้ไช่โต้วเอาแต่รังแกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาตลอด ครั้งนี้กลับมา ถูกเอ้อร์เป่าจัดการไป ตอนนี้ไม่กล้ารังแกพวกเขาอีกแล้ว

วันนี้ที่พวกเขามาขอโทษ ก็เพราะเซี่ยต้าเฉียงสั่งให้พวกเขามา

ทั้งสองคนไม่รู้จะทำเช่นไร ได้แต่มาเอ่ยคำขอโทษ

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เดิมไม่คิดสนใจพวกเขา แต่เห็นพวกเขาเอาแต่เดินตาม จึงหันไปมองเหมาโต้วกับไช่โต้วกล่าวว่า “ได้ พวกเจ้ามานี่ก่อน ให้พวกเราต่อยทีหนึ่ง รอไว้เมื่อไรพวกเราไม่โกรธจริงๆ แล้วค่อยให้อภัยพวกเจ้า”

เหมาโต้วกับไช่โต้วสองคนตกใจหันหลังวิ่งหนีไปทันที

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่แค่นเสียงหึ “ชิ! ความกล้าแค่นี้คิดจะให้พวกเราให้อภัย ฝันไปเถอะ”

“ครั้งหน้ากล้ามาขออภัยอีก ไม่ต้องพูดมาก ต่อยไปทีหนึ่งก่อนค่อยว่ากัน”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ต่างหมายมั่นปั้นมืออย่างมั่นใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!