Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 503

Talumetimapanpanyakongturay

ตอนที่ 503 รีบเร่งเดินทางกลับมาทั้งคืน

จู้เป่าจูทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เสียงดังกล่าวว่า “ดูท่าพวกเขากวาดข้าวของไปไม่น้อย”

ถานเสี่ยวยากระซิบว่า “ดูท่าจะใช่”

ตาเฒ่าซูกับยายเฒ่าซูไม่ได้สนใจพวกนาง สนใจแต่หิ้วห่อเล็กห่อใหญ่เดินออกไป ตอนเดินผ่านหน้าลู่เจียว ต่างก็มีทีท่าระแวดระวังกลัวว่าลู่เจียวจะให้คนขวางพวกเขาไว้แล้วตรวจห่อผ้าพวกเขา ควรรู้ว่าหลังจากสวีโต้วไปจากบ้านตระกูลซู บ้านตระกูลซูให้ยายเฒ่าซูดูแลใช้จ่ายในบ้าน ซูต้าไห่มอบเงินให้นางก้อนหนึ่งทุกเดือน

ยายเฒ่าซูนำเงินเหล่านี้มาเป็นของตนเอง พยายามยัดไว้ในตัว ตอนนี้ได้มาหลายร้อยตำลึง หากลู่เจียว ให้คนตรวจก็เกรงว่าจะนำไปไม่ได้

ดังนั้นคนบ้านตระกูลซูต่างเป็นห่วงมาก แต่ตอนผ่านหน้าลู่เจียว พวกเขาก็พบว่านางไม่ได้สนใจ

ตาเฒ่าซูกับยายเฒ่าซูวิ่งออกไปราวกับหมอกควันจางลงรวดเร็ว สวีโต้วรีบให้คนรับใช้นำโลงศพใส่เฉินเจาตี้ส่งกลับหมู่บ้าน

คนรับใช้บ้านตระกูลซูเห็นว่าตอนนี้สวีโต้วเป็นเจ้านายแล้วก็ไม่กล้าชักช้า รีบเข้าไปนำโลงศพใส่เฉินเจาตี้ส่งกลับหมู่บ้าน

ลู่เจียวเห็นว่าเรื่องทุกอย่างจัดการเรียบร้อย ก็พาพวกหลี่อวี้เหยากับจู้เป่าจูและถานเสี่ยวยากลับบ้านตน

หลี่อวี้เหยาถอนหายใจเบาๆ “ครอบครัวดีๆ ต้องมาแตกสลายเช่นนี้ ล้วนเพราะซูต้าไห่สร้างเวรสร้างกรรมขึ้นแท้ๆ”

จู้เป่าจูดีใจมาก รีบกล่าวทันทีว่า “ข้าวางแผนว่าตอนกลับไปหมู่บ้านจะบอกเรื่องนี้กับแม่สามี เพราะข้าไม่มีบุตรชาย ดังนั้นแม่สามีก็เอาแต่จะให้จื้อซิ่งรับอนุ ไว้ข้าเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง ดูว่านางยังกล้าหาอนุเข้าบ้านอีกหรือไม่ อนุก็คือเหตุแห่งความวุ่นวายในครอบครัว”

ทุกคนพูดกันไปก็เดินกลับถึงตระกูลเซี่ย

วันนี้เหล่าผู้หญิงอยู่เที่ยวตระกูลเซี่ยจรดค่ำจึงได้กลับ ก่อนจะพาลูกๆ ตนเองกลับบ้านด้วย

ตาเฒ่าซูกับยายเฒ่าซูข้างบ้านไปแล้ว ในที่สุดก็สงบลงแล้ว ลู่เจียวนอนหลับสนิทได้แล้ว

แต่ก่อนนอนก็คิดถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่น ทำเอานอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงนางบ้างไหม

แม้ว่าลู่เจียวเชื่อว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะสอบจวี่เหรินได้ แต่ก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วง ความเป็นห่วงนี้ไม่อาจระงับได้

ดังนั้นไว้พรุ่งนี้นางจะต้องหางานทำให้ยุ่งๆ จะได้ไม่มีเวลาคิดถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่น

แต่แม้ว่ากลางวันไม่คิดถึงเขา ตกค่ำตอนกินข้าว เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็จะเอ่ยถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับนาง

เช่นว่า วันนี้ท่านพ่อเริ่มสอบแล้ว ไม่รู้ว่าสอบได้เป็นอย่างไรบ้าง

วันนี้เป็นวันสอบที่สองแล้ว ไม่รู้ท่านพ่อจะทนไหวไหม

วันนี้วันที่สามแล้ว สอบเสร็จก็กลับบ้านมาพักผ่อนได้แล้ว

ในยุคนี้การสอบทั้งหมดสามรอบ ทุกรอบสามวัน สามวันต้องอยู่ที่โรงสอบ กินนอนขับถ่ายที่นั่น หลังสามวันก็จะพักหนึ่งวัน จากนั้นก็สอบอีกสามวัน แล้วก็พักอีกวัน แล้วก็สอบอีกสามวัน

หลังสอบสามรอบ การสอบเซียงซื่อจบลง จากนั้นก็รอข่าวติดประกาศ

วันที่การสอบรอบสามจบลง ตกค่ำลู่เจียวก็สั่งให้ฮวาเสิ่นเตรียมอาหารหลายอย่าง นางจะฉลองกับลูกๆ สักหน่อย

“พวกเรามาอวยพรท่านพ่อพวกเจ้ากันก่อน ขอให้ช่วงชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งของการสอบเซียงซื่อครั้งนี้มาให้ได้”

“ข้าเชื่อว่าท่านพ่อต้องช่วงชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งของการสอบเซียงซื่อมาได้”

ต้าเป่าพยักหน้าเห็นด้วย ท่านพ่อไม่เพียงแต่ฉลาด ยังมีความพยายามและตั้งใจมาก หากเขาเช่นนี้ไม่อาจชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งของการสอบเซียงซื่อมาได้ จะเป็นไปได้อย่างไร

เอ้อร์เป่าพยักหน้าเต็มแรง “วันหน้าท่านพ่อข้าก็คือท่านจวี่เหรินแล้ว ท่านพ่อก็จะยิ่งร้ายกาจแล้ว”

ซานเป่าเลิกคิ้วโต้ว่า “ไม่ใช่ หลังจากจวี่เหรินก็ต้องเข้าเมืองไปสอบหุ้ยซื่อ หลังจากหุ้ยซื่อก็สอบเตี้ยนซื่อ”

ซื่อเป่าเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจเต็มเปี่ยม “วันหน้าท่านพ่อข้าก็จะได้เป็นโส่วฝู่แคว้นต้าโจว เรื่องพวกนี้เล็กน้อย”

ลู่เจียวถูกท่าทางเชิดหน้าของเขาทำเอาขำ นางยื่นมือไปบีบแก้มซื่อเป่า “วันหน้าท่านพ่อเจ้าก็คือโส่วฝู่แคว้นต้าโจว วันหน้าเจ้าจะเป็นอะไร”

ซื่อเป่ายิ้มตาหยีมองลู่เจียว “วันหน้าข้าจะเป็นคหบดีร่ำรวยอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจว ถึงตอนนั้นท่านแม่ก็ไม่ต้องลำบากแล้ว ท่านแม่ก็เสวยสุขอยู่ในบ้านได้แล้ว”

ซื่อเป่าเพิ่งกล่าวจบ เอ้อร์เป่าก็รับคำต่ออย่างตื่นเต้น “วันหน้าข้าจะเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจว”

ซานเป่าคิดแล้วก็ต่อว่า “วันหน้าข้าจะเป็นหมอเทวดาอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจว”

ต้าเป่ามองน้องๆ แล้วก็คิดถึงตนเอง สุดท้ายกล่าวว่า “ข้ารอท่านพ่อเป็นโส่วฝู่แคว้นต้าโจวเสร็จแล้วค่อยเป็นต่อจากท่านพ่อ”

ลู่เจียวรู้สึกขำพวกเขา “พวกเจ้าคิดว่าเรื่องพวกนี้ง่ายหรือ ต้องพยายามแล้วพยายามอีกจึงจะทำได้ รู้ไหม อีกอย่างการมีปณิธานเช่นนี้เป็นเรื่องดี แต่ไม่ควรเอาแต่พูดแล้วไม่พยายาม เจ้าดูท่านพ่อเจ้า พยายามมากใช่หรือไม่”

บิดาย่อมเป็นแบบอย่างของลูกๆ พอลู่เจียวกล่าว เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็พยักหน้าเต็มแรง “ใช่ พวกเราก็จะพยายามให้เหมือนกับท่านพ่อ”

หลังอาหาร แม่ลูกก็คุยกันอีกครู่หนึ่ง ก่อนลู่เจียวจะพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปนอนยังเล่านิทานเรื่องไซอิ๋วให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ฟัง

เมื่อก่อนเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยังเป็นเด็ก นางไม่ได้เล่าเรื่องพวกนี้ให้พวกเขาฟัง ตอนนี้พวกเขาโตขึ้นหน่อยแล้ว นางเริ่มเล่าเรื่องไซอิ๋วให้พวกเขาฟังได้แล้ว วันหน้ายังจะเล่าเรื่องสามก๊กและซ้องกั่งอีกด้วย

ลู่เจียวเล่าเรื่องไซอิ๋วให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ฟัง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ฟังกันอย่างตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ สุดท้าย ลู่เจียวต้องบังคับให้พวกเขานอน

พอพวกเขาหลับก็ดึกมากแล้ว ลู่เจียวหันหลังกลับไปพักที่ห้อง

หากไม่เหนือความคาดหมาย พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็กลับมาแล้ว คิดแล้วก็รู้สึกเบิกบานใจ

ลู่เจียวกลับถึงห้องนอนได้ไม่นานก็ได้ยินพูดคุยตื่นเต้นดังมาจากนอกประตู ในเสียงนั้นมีเสียงฝีเท้าที่แสนคุ้นเคยผสมอยู่ด้วย

เสียงนี้ทำให้นางตื่น ขณะที่นางกำลังสะลึมสะลือ ลู่เจียวก็รู้สึกโกรธมาก บ้านตระกูลซูข้างบ้านไม่ใช่ว่าสงบแล้วหรอกหรือ เหตุใดยังมีเสียงเอะอะโวยวายกันอีก

นางยังไม่ทันตื่นดี ก็ตะโกนออกไปข้างนอกว่า “เฝิงจือ เกิดอันใดขึ้น”

เฝิงจือไม่ได้รับคำ ลู่เจียวลืมตาขึ้นอย่างไม่พอใจ หันไปเห็นประตูเปิดออก มีคนผู้หนึ่งก้าวเข้ามา

ลู่เจียวลืมตามองไปก็เห็นร่างหล่อเหลางดงามของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวเข้าประตูมา

ลู่เจียวคิดว่าตนเองมองผิด นางกระพริบตาหลายทีเพื่อให้แน่ใจ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เดินมาถึงตรงหน้านางแล้ว เขายื่นมือไปกอดลู่เจียวเอาไว้ “เจียวเจียว ข้ากลับมาแล้ว”

ลู่เจียวถูกกอดไว้ ก็แน่ใจว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาแล้ว

นางดีใจถามขึ้นทันที “เจ้ากลับมาแล้วหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกอดลู่เจียว พยักหน้าเต็มแรง การแยกจากกันครั้งนี้ทำให้เขารู้แล้วว่า เขาคิดถึงนางเพียงใดหากวันหน้าต้องไปที่ใดอีก จะต้องพานางไปด้วย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็กระซิบถามเบาๆ ว่า “เจียวเจียว ข้าคิดถึงเจ้ามาก เจ้าคิดถึงข้าบ้างไหม”

ลู่เจียวก็ไม่ได้คิดเก็บงำความรู้สึก นางตอบออกไปอย่างเปิดเผยว่า “คิดถึงสิ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินคำตอบของลู่เจียว ก็ยิ้มขึ้นอย่างดีใจ “ข้าก็คิดถึงเจ้า คิดถึงมาก วันหน้าหากข้าจะไปที่ใดอีก จะต้องพาเจ้าไปด้วย”

ลู่เจียวก็มิได้ปฏิเสธ ทั้งสองคนกอดกันได้ครู่หนึ่ง นางก็ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากตัวของเซี่ยอวิ๋นจิ่น จึงคิดได้ว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของการสอบรอบที่สาม

อยู่สนามสอบสามวันตามหลักแล้วเขาควรจะทั้งหิวและเหนื่อย กินอาหารเสร็จแล้วก็ควรจะหลับถึงจะถูก คิดไม่ถึงว่าเขาจะเร่งเดินทางกลับมา

ลู่เจียวรู้สึกสงสารรีบถามว่า “เจ้ากินอะไรมาแล้วหรือยัง”

“ไม่ได้กิน ข้าออกจากห้องสอบก็รีบกลับมา คิดแต่จะรีบมาหาเจ้า”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!