ตอนที่ 202 การบ่มเพาะเพียงลำพังภายใต้ตะเกียง

ซูฉินระมัดระวังอย่างมากในการเลือกสถานที่สำหรับก่อตั้งรากฐานของเขา

เขามีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา เช่นต้องสืบว่ามีคนแอบตามหรือเปล่า เขาต้องตรวจสอบว่าสถานที่นั้นมีกองกำลังที่แข็งแกร่งอยู่โดยรอบหรือไม่

เขาต้องพิจารณาพลังงานวิญญาณในสถานที่นั้น มันต้องไม่หนาแน่นหรือเบาบางเกินไป นอกจากนี้สถานที่นั้นไม่สามารถอยู่ใกล้กับเขตต้องห้ามหรือเมืองได้ ถิ่นทุรกันดารเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม มีสถานที่ไม่มากนักที่ตรงตามเงื่อนไขเหล่านี้ทั้งหมด

ในที่สุดเขาต้องพิจารณาว่าสถานที่ที่เขาเลือกตามข้อกำหนดเหล่านี้นั้นเคยถูกเลือกโดยผู้อื่นมาก่อนหรือไม่

ทั้งหมดนี้ลอยอยู่ในใจของเขา เขายังนึกถึงวิหารต้องห้ามในแคมป์เก็บขยะ แต่สภาพแวดล้อมนั้นอันตรายเกินไป นอกจากนี้ เสียงเพลงที่แปลกประหลาดนั้น ทำให้ซูฉินลังเล ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้

สถานที่แรกที่เขาไปคือเมืองสาขาเจ็ดเนตรโลหิต ใกล้กับโลกสีม่วง สถานที่นี้อยู่ห่างไกลจากดินแดนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในทวีปหนานหวง มีเขตต้องห้ามน้อยกว่าและค่อนข้างปลอดภัย

ปัญหาหนึ่งคือมีคนจำนวนมากและทุกประเภทอยู่ที่นี่

เมื่อแสงของค่ายกลหายไป ซูฉินก็เดินออกมา เขาไม่ได้ออกจากเมืองทันที แต่พบโรงแรมขนาดเล็ก หลังจากเฝ้าสังเกตอย่างระแวดระวังและพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งคืน เขาใช้ยันต์วิเศษเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาและเคลื่อนย้ายต่อไป

เช่นเดียวกับที่เขาเคลื่อนย้ายเจ็ดถึงแปดครั้งในครึ่งเดือนต่อมา ทุกครั้งเขาจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาและเดินทางไปทั่วทวีปหนานหวงอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่จะแน่ใจว่าไม่มีใครติดตามเขา

ในที่สุด ซูฉินก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้

อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นตัว 70 ถึง 80% ในครึ่งเดือนนี้ ตอนนี้ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาเกือบจะเหมือนกับตอนที่เขาอยู่บนเกาะเงือก

การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บของเขายังช่วยให้ซูฉิน มุ่งหน้าออกจากเมืองและค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการก่อตั้งรากฐานในถิ่นทุรกันดาร

หลังจากที่ซูฉินค้นหาอีกครึ่งเดือนในที่สุดเขาก็พบสถานที่ที่ดี

สถานที่นี้เป็นพื้นที่ภูเขาในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปหนานหวง

ที่นี่มีภูเขาและป่ามากมาย อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่ใช่เขตต้องห้าม พวกมันมีหนองน้ำและบึงน้ำเหมือนป่าดงดิบแทน

ทำให้มีเมืองใกล้เคียงน้อยมาก เมืองที่ใกล้ที่สุดจะใช้เวลาเจ็ดถึงแปดวันในการมาถึง

ที่นี่ไม่มีสิ่งผิดปกติจำนวนมาก แต่พลังงานวิญญาณก็เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีนิกายใดๆอยู่ใกล้ ๆ แม้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะไม่ค่อยเหมาะสม แต่ซูฉินก็รู้สึกว่าสถานที่นี้เหมาะสมกว่าที่อื่นๆที่เขาเคยตรวจสอบ

สถานที่ที่เขาเลือกไม่ได้อยู่บนภูเขา แต่เป็นป่าลึกระหว่างภูเขาสองลูก

จากประสบการณ์ในป่าของเขา ซูฉินพบสถานที่และเริ่มขุด

ดินบนพื้นดินอ่อนและขุดไม่ง่าย ซูฉินใช้ทักษะแปลงวารี เพื่อสกัดน้ำส่วนใหญ่ในดินและขุดถ้ำลึกลงไปใต้ดิน

ทางเข้าถูกปิดโดยเขา และเขายังโปรยผงพิษไปรอบๆ ในที่สุด เขาก็นั่งไขว่ห้างในถ้ำและรับรู้ถึงสิ่งรอบข้าง จากนั้นเขาก็หยิบค่ายกลห้าชุดที่เขาซื้อมาและเปิดใช้งานทั้งหมด นอกจากนี้เขายังเปิดใช้งานค่ายกลที่ปกปิดออร่าและความผันผวน หลังจากทำทั้งหมดนี้ ซูฉินก็หายใจเข้าลึก ๆ

ความรู้สึกปลอดภัยที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานปรากฏขึ้นในใจของเขา

“ข้าจะก่อตั้งรากฐานที่นี่”

ซูฉินมองไปที่ถุงเก็บของของเขา เขาซื้ออาหารในปริมาณที่แตกต่างกันจากเมืองต่างๆ พวกมันเพียงพอสำหรับเขาที่จะอยู่รอดที่นี่เป็นเวลาครึ่งปี

เขาไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะไปขอบเขตก่อตั้งรากฐาน แต่ซูฉินได้วางแผนไว้แล้ว เขาจะไม่ออกไปหรือคิดอะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกในเวลานี้

เขาต้องการให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาดื่มด่ำกับความก้าวหน้า

อย่างไรก็ตาม ซูฉินรู้สึกว่าเขายังมีสองสิ่งที่ต้องจัดการก่อน

เขาหยิบแท่งเหล็กสีดำออกมาและทำผนึกมือเป็นชุด พลังงานวิญญาณเพิ่มขึ้นและปราบปรามบรรพบุรุษของนิกายเพชรที่หลับใหลอย่างไร้ความปรานี ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องอันน่าตกใจของเลือดก็ดังขึ้นจากแท่งเหล็ก

“นายท่าน เกิดอะไรขึ้น? ข้าผิด ข้าผิดไปแล้ว อย่าฆ่าข้า บอกข้ามาสิว่าข้าทำอะไรผิด แล้วข้าจะชดใช้!”

ซูฉินไม่ใส่ใจที่จะตอบและดำเนินการปราบปรามต่อไป เขาหยุดเมื่อบรรพบุรุษของนิกายเพชร อ่อนแอและหมดสติมากเท่านั้น

เขากังวลว่าบรรพบุรุษของนิกายเพชร จะแทรกแซงในกระบวนการทะลวงผ่าน ตอนนี้มันอ่อนแอลงมาก ซูฉินรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอีก

หลังจากนั้น เขาก็ใช้ผนึกมืออีกชุดหนึ่งและสร้างชั้นของพลังงานวิญญาณเพื่อปิดผนึกบรรพบุรุษของนิกายเพชร จากนั้นเขาก็เก็บแท่งเหล็ก

เงานั้นสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงการกระทำของซูฉิน และกำลังสั่นสะท้าน

ซูฉินมองไปที่เงาอย่างไม่แสดงออก

เงานั้นสั่นไหวรุนแรงยิ่งขึ้น ในที่สุดภายใต้การจ้องมองของซูฉิน จู่ๆ มันก็เริ่มฉีกตัวเองเป็นชิ้นๆ ราวกับว่ามันกำลังทำร้ายตัวเอง

“ไม่พอ”

ซูฉินพูดอย่างใจเย็น พลังคริสตัลสีม่วงในร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นการปราบปรามที่ลงมาอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เงามืดสลัวมากขึ้น เมื่อมันกำลังจะพังทลายลงทั้งหมด ซูฉินก็หยุดและค่อยๆพูด

“หากข้าไปไม่ถึงขอบเขตก่อตั้งรากฐาน ข้าจะบดขยี้เจ้าให้ตายก่อนที่ข้าจะตาย!”

หลังจากพูดอย่างนั้น ซูฉินก็ไม่ยุ่งกับเงาอีกต่อไป เขารู้สึกโล่งใจอย่างมากหลังจากคลายอันตรายทั้งสองที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขา ในที่สุดเขาก็หยิบตะเกียงลมหายใจวิญญาณออกมาและจุดมัน

แสงสลัวกระจายออกไปทันทีและห่อหุ้มซูฉิน

โดยปกติแล้ว ทุกครั้งที่สมบัติวิเศษประเภทป้องกันถูกจุดขึ้น มันจะใช้พลังงานของเจ้าของ ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกฝนจะเปิดใช้งานก็ต่อเมื่อพวกเขาบุกทะลวงไปยัง ก่อตั้งรากฐานเท่านั้น

แม้ว่าเจ็ดเนตรโลหิตจะร่ำรวยและสง่างาม แต่ก็เหมือนกัน ศิษย์ส่วนใหญ่จะเช่าสถานที่ในก่อตั้งรากฐานเมื่อพวกเขากำลังจะบุกทะลวง พวกเขาจะไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนซูฉิน

อย่างไรก็ตาม ซูฉินรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็น

แม้ว่าเขาจะไม่ได้วางแผนที่จะทะลวงผ่านทันทีและต้องการไปให้ถึงขีดจำกัดของทะเลวิญญาณ แต่การจุดตะเกียงลมหายใจวิญญาณนี้ก็ไม่ทำให้เขาต้องเสียเงิน สิ่งที่กินเข้าไปคือจิตวิญญาณของเจ้าของ

นอกจากนี้ ซูฉินยังสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของตะเกียงนี้ค่อนข้างเพียงพอ จากนั้นเขาก็หยิบกล่องหยกออกมาสองกล่อง

หนึ่งบรรจุยาเม็ดก่อตั้งรากฐานสามเม็ด ในขณะที่อีกกล่องบรรจุสองเม็ด

อันแรกมาจากกัปตัน ส่วนอันหลังซูฉินได้รับมาจากถุงเก็บของของคนอื่นๆ ผู้โชคร้ายที่พยายามจะบุกเข้าไปในเจดีย์ก่อตั้งรากฐานของเผ่าพันธุ์เงือก

สถานะของอีกฝ่ายนั้นสูงมากอย่างชัดเจน เขาควรจะกินไปสองสามเม็ดและวางแผนที่จะเก็บไว้สองเม็ดในภายหลัง

หลังจากใส่ยาเม็ดก่อตั้งรากฐานทั้งห้าลงไปด้านข้าง ซูฉินก็แสดงสีหน้าพึงพอใจ

เขาหายใจเข้าลึกๆ และอยู่ภายใต้แสงของตะเกียงลมหายใจวิญญาณ เขาหลับตาและเริ่มฝึกฝน

เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ และในไม่ช้าก็ผ่านไปเจ็ดวัน

ในช่วงเจ็ดวันนี้ ซูฉินมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนของเขาอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ทักษะแปลงวารียังคงไหลเวียนและพลังงานวิญญาณในสภาพแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะเลวิญญาณในร่างกายของเขาก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

ระยะของมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จาก 2,900 ฟุตเป็น 3,400 ฟุต!

ช่วงนี้ได้ทำลายสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของยอดเขาที่เจ็ดในเจ็ดเนตรโลหิตแล้ว ต้องรู้ว่าในตอนนั้น ผู้อาวุโสเจ็ดมีความสูงเพียง 2,700 ฟุตเท่านั้น

หลังจากผู้อาวุโสเจ็ดไม่มีใครมาถึงระดับนี้ หลังจากผ่านไป 60 ปี ซูฉินได้สร้างสถิติใหม่ในถ้ำที่ไม่รู้จักแห่งนี้

ความยิ่งใหญ่ของทะเลวิญญาณสูง 3,400 ฟุตนั้นน่าประหลาดใจอย่างยิ่งหาก ซูฉินแสดงออกมา มันจะทำให้เกิดความโกลาหลในป่าแห่งนี้อย่างแน่นอน ในความเป็นจริง ถ้าเจ็ดเนตรโลหิตรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาอาจจะตกใจมาก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลลัพธ์ดังกล่าวจะดึงดูดความสนใจของเจ็ดเนตรโลหิต แต่ความเสี่ยงก็จะตามมาเช่นกัน… ในเจ็ดเนตรโลหิต ที่ซึ่งผลประโยชน์ทำหน้าที่เป็นตัวประสานกัน หากความสำเร็จอันแพรวพราวดังกล่าวถูกเปิดเผย ผลลัพธ์จะยากต่อการคาดเดา

ซูฉินไม่มีความคิดที่จะเปิดเผยมัน เขาเพียงต้องการมีชีวิตที่ดี เขาไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียง เขาสนใจแค่ว่าเขาสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร

ในโลกที่โหดร้ายใบนี้ ถ้าใครโดดเด่นเช่นนี้ พวกเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

เขาจะฆ่าศัตรูทุกคนที่คุกคามชีวิตของเขา

โดยธรรมชาติ หากการเปิดเผยทะเลวิญญาณของเขาสามารถบรรลุเป้าหมายบางอย่างได้ ซูฉินก็จะพิจารณาเรื่องนี้

มิฉะนั้น ก่อนที่เขาจะไปถึงระดับที่เขามีพลังในการปราบปรามทุกสิ่ง เขาจะยังคงซ่อนพลังของเขาต่อไปและแสดงออกมาในขณะที่สังหารเท่านั้น นั่นคือทางรอด ของเขา

ซูฉินหายใจเข้าลึก ๆ และฝึกฝนต่อไป

เช่นนั้นวันเวลาผ่านไป ทุกวัน ทะเลวิญญาณของเขาจะเพิ่มขึ้น 100 ฟุตราวกับว่าไม่มีขีดจำกัด สิ่งนี้ทำให้ความตื่นเต้นในใจของซูฉิน ทวีความรุนแรงขึ้น

3,500 ฟุต 3,700 ฟุต…

เจ็ดวันต่อมา ทะเลวิญญาณในร่างกายของซูฉินสูงถึง 4,000 ฟุต นี่เป็นจำนวนที่มากกว่าศิษย์ระดับสมบูรณ์ทั่วไปของเจ็ดเนตรโลหิตถึงสี่เท่า

ภายใต้แสงของ ตะเกียงลมหายใจวิญญาณ ใครๆ ก็เห็นว่าร่างกายของซูฉิน กลายเป็นผลึก ราวกับว่าน้ำทะเลนับไม่ถ้วนกำลังไหลอยู่ในร่างกายของเขา ในความเป็นจริง ความชื้นในสภาพแวดล้อมมีความหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ

“ข้ายังสามารถไปได้ไกลกว่านี้!”

ซูฉินลืมตาขึ้นและหยุดฝึกฝนเพื่อกินอาหารบางอย่าง จากนั้นเขาก็ตรวจดูค่ายกลและผงพิษที่กระจายอยู่ข้างนอก หลังจากยืนยันว่าทุกอย่างเป็นปกติ เขาพักสักครู่ก่อนที่จะฝึกฝนต่อไป

4,100 ฟุต 4,200 ฟุต 4,300 ฟุต…

สามวันต่อมา ทะเลวิญญาณในร่างกายของ ซูฉินสูงถึง 4,700 ฟุต ในขณะนี้ในที่สุดเขาก็รู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงซึ่งบ่งบอกว่าร่างกายของเขาไม่สามารถต้านทานได้

ความเจ็บปวดที่เสียดแทงนี้ราวกับร่างกายของเขากลายเป็นถุงน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ ยืดร่างกายของเขาออกไปสุดขีดราวกับว่ามันกำลังจะปริออก

การหายใจของซูฉินเร่งขึ้นเล็กน้อย หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กัดฟันและฝึกฝนต่อไป คราวนี้ความเร็วของเขาช้าลงอย่างชัดเจน ระยะที่เขาเพิ่มขึ้นทุกวันเริ่มลดลงจาก 100 ฟุตเป็น 50 ฟุต

ยิ่งกว่านั้น ยิ่งเขาไปมากเท่าไหร่ การเพิ่มขึ้นก็ยิ่งช้าลงเท่านั้น ความรู้สึกก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดเขาก็ผลักทะเลวิญญาณในร่างกายของเขาไปสู่ระดับที่น่าอัศจรรย์ถึง 5,000 ฟุต

ระดับดังกล่าวน่ากลัวมาก ซูฉินรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนได้และเสียดแทงจากทุกที่ในร่างกายของเขา ราวกับว่ามันกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ คริสตัลสีม่วงกำลังซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง

“ข้าถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว…” ซูฉินพึมพำเบา ๆ

เขาพบว่ามันยากมากที่จะแม้แต่จะขยับตัว ราวกับแบกภูเขาไว้บนหลัง เขารู้สึกกดดันอย่างมาก แม้ว่าคริสตัลสีม่วงจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อฟื้นฟูเขา แต่ซูฉินก็ตระหนักดีว่าไม่สามารถรักษาสถานะนี้ได้นานเกินไป

“ถ้าอย่างนั้น… ข้าจะเริ่มก่อตั้งรากฐาน!” ความมุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตาของซูฉิน โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาหยิบยาเม็ดก่อตั้งรากฐานที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้วกลืนลงไป เช่นเดียวกับน้ำที่ตกลงไปในหม้อน้ำมัน ทะเลวิญญาณยาว 5,000 ฟุตในร่างกายของเขาก็ระเบิดออก ก่อตัวเป็นคลื่นที่น่าอัศจรรย์ที่พุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ในส่วนต่างๆ ของร่างกายซูฉิน

ก้าวแรกของการก่อตั้งรากฐาน เริ่มขึ้น!