ตอนที่ 551 กลิ่นเหม็นของเลือดอบอวลในอากาศ พิษก็กระจายไปทั่ว (1)

ความเร็วของพวกเขาไม่ได้เร็วเป็นพิเศษ บ่งบอกว่าพวกเขามีกำลังใจที่ดีหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ขณะที่พวกเขาพุ่งไปข้างหน้า มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นครั้งคราวอย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงค่อนข้างระแวดระวัง เกือบจะในทันที ซูฉินและคนอื่น ๆ เข้ามาใกล้ องครักษ์ชุดดำเหล่านี้สัมผัสได้ทันทีและมองไปในทิศทางของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม มันไม่มีประโยชน์ที่จะรับรู้มัน

กงเซียงหลงเป็นคนแรกที่พุ่งไป เขาตะโกนเสียงต่ำและพุ่งเข้าใส่ทันที

ซูฉินเป็นที่สองราวกับสายฟ้าสีดำ เขาปะทะโดยตรงกับองครักษ์ชุดดำที่มีห้าวังสวรรค์ ร่างขององครักษ์ชุดดำแหลกเหลวและทำได้เพียงส่งเสียงร้องสั้นๆ ก่อนที่เขาจะหยุดหายใจ

เมื่อเลือดพุ่งออกมา ซานเหอและอีกสองคนก็รีบเข้าปะทะเช่นกัน

ในขณะนี้ การสังหารหมู่ปะทุขึ้น

เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจากองครักษ์ชุดดำ และพวกเขาก็ตั้งรับต่อต้านทันที

ในฐานะที่เป็นกลุ่มที่เข้าสู่เขตเฟิงไห่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้และประสบการณ์ของพวกเขานั้นอยู่ระดับสูงโดยธรรมชาติ

ในหมู่พวกเขามีมากกว่า 40 คนที่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ห้าวังหรือหกวัง และ 12 คนที่เจ็ดวัง

คนที่มีเจ็ดวังสวรรค์พวกนี้ส่วนใหญ่มีทักษะบ่มเพาะระดับจักรพรรดิซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะขององครักษ์ชุดดำ

สำหรับแปดวังนั้นมีอยู่สองคน

บุคคลทั้งสองนี้ไม่ได้สร้างวังสวรรค์ด้วยไฟแห่งชีวิตห้าดวง แต่ถึงขีดจำกัดของไฟสี่ดวงซึ่งจำกัดพวกเขาไว้ที่เจ็ดวังสวรรค์ ด้วยการเสริมพลังของทักษะบ่มเพาะระดับจักรพรรดิ พวกเขามีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของแปดวังสวรรค์ ทำให้พวกเขาค่อนข้างพิเศษ

นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีผู้นำอีกสามคน

พวกเขาเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณแรกเริ่มเพียงครึ่งก้าว

ความแข็งแกร่งดังกล่าวจะเป็นกระดูกสันหลังของนิกายใดๆก็ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับเผ่าเสียงสวรรค์ซึ่งยึดครองภูมิภาคเสียงสวรรค์ นี้เป็นเพียงทีมเล็กๆ

เมื่อรวมกับพวกที่ซุ่มโจมตีซูฉินและคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่าไม่เพียงแต่ทีมเล็กๆ ของ เผ่าเสียงสวรรค์ ที่มีสมาชิกและผู้เชี่ยวชาญมากมาย แต่ระดับการ บ่มเพาะของพวกเขาก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว… เผ่าเสียงสวรรค์ของพวกเขาคือผู้ปกครองภูมิภาคเสียงสวรรค์ขนาดใหญ่ รากฐานที่ก่อตั้งโดยผู้คนจากทั้งภูมิภาคทำให้พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญมากมายนับไม่ถ้วน

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขตเฟิงไห่ย่อมด้อยกว่าโดยธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ทีมผู้ถือดาบแตกต่างจากที่เคยพบในอดีต!

ในขณะนั้น ขณะที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน การต่อสู้ครั้งใหญ่ก็ปะทุขึ้น ผู้บ่มเพาะวิญญาณแรกเริ่มสามคนพุ่งตรงไปที่กงเซียงหลง ในขณะที่องครักษ์ชุดดำสองคนที่มีแปดวังกำลังจะตามมา ทันใดนั้นโลงศพก็ปรากฏขึ้นและขวางทางพวกเขา คนแคระหวังเฉินปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา และร่างโคลนของเผ่าควันก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เขา

ในเวลาเดียวกัน เย่หลิงก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านข้าง และซานเหอก็มาถึงเช่นกัน พวกเขาทั้งสามร่วมมือกันะต่อสู้กับองครักษ์ชุดดำสองคนที่มีแปดวัง ซื้อเวลาให้ กงเซียงหลงและซูฉินได้เคลื่อนไหว

กงเซียงหลงกำลังต่อสู้กับผู้ฝึกฝนวิญญาณแรกเริ่มสามคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่นี่

คนที่เหลือต่อสู้กับทุกคนนอกเหนือจากนั้น

นี่คือการจัดสรรที่พวกเขาทำระหว่างทางมาที่นี่

ในเวลานั้น ซูฉินได้พูดอะไรบางอย่าง

“ข้าเก่งเรื่องการต่อสู้เป็นกลุ่ม”

ซูฉินหายใจเข้าลึก ๆ และหยิบกริชออกมา

ยาพิษต้องห้ามในวังสวรรค์ที่สามในร่างกายของเขาไหลเวียนออกมาอย่างเต็มที่

แมลงสีดำตัวเล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนแผ่ออกมาจากร่างของซูฉินก่อตัวเป็นหมอกสีดำที่น่าอัศจรรย์ พวกมันมีออร่าที่น่าสะพรึงกลัวและพิษร้ายแรงที่ห่อหุ้มโดยรอบ

พิษนี้ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว

ในขณะที่องครักษ์ชุดดำส่งเสียงร้องคร่ำครวญ ซูฉินก็ยังคงสงบนิ่ง เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยและพุ่งเข้าหากลุ่มศัตรู

นอกจากนี้ยังมีแท่งเหล็กสีดำซึ่งเป็นบรรพบุรุษนิกายเพชร ในขณะนี้มันเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงและกำลังอาละวาด

นอกจากนี้ดวงตาของเงาบนหน้าผากของซูฉิน ก็กะพริบอย่างรวดเร็ว มันกระจายออกไปและหลอมรวมเข้ากับเงาขององครักษ์ชุดดำที่อยู่รายรอบ และเริ่มกลืนกิน พวกเขา

ณ ตอนนี้…

ฝันร้ายกำลังลงมา

…

ซูฉินพูดไม่ผิด เขาเก่งมากในการต่อสู้แบบกลุ่ม

เมื่อพิษของวังสวรรค์ที่สามของเขาปะทุขึ้น พลังทำลายล้างของมันก็น่าประหลาดใจ นับตั้งแต่ซูฉินได้รับยาพิษต้องห้าม เขาไม่เคยปล่อยให้มันแพร่กระจายออกไปเลย

แม้แต่ตอนนี้ เขาก็กำลังยับยั้งมันอยู่

พิษของวังสวรรค์ที่สามไม่ได้แยกมิตรออกจากศัตรู นอกจากเขาที่จะสบายดีไม่ว่าจะเป็นเงาหรือบรรพบุรุษนิกายเพชร พวกเขาอาจจะพังทลาย

แม้ว่าเขาจะควบคุมมันไว้ แต่พลังของมันก็เพียงพอที่จะทำให้จิตใจขององครักษ์ชุดดำตกใจ เกือบจะในทันที องครักษ์ชุดดำสามคนที่มีห้าวังส่งเสียงร้องอย่างหวาดกลัวในขณะที่ร่างกายของพวกเขาเริ่มเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว เนื้อบนใบหน้าของพวกเขาเริ่มหลุดออก และเลือดก็ไหลออกมาจากร่างกายของพวกเขา แม้แต่ลูกตาของพวกเขาก็ร่วงหล่น

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าเกี่ยวกับพิษของซูฉิน มันสามารถกัดกร่อนทุกสิ่งอย่างเงียบๆ เมื่อถึงเวลาที่ศัตรูรู้สึกถึงความเจ็บปวด พิษก็จะซึมเข้าไปในกระดูกของพวกเขาแล้ว

ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความสยดสยอง ร่างของซูฉินราวกับสายลมแห่งความตายขณะที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าองครักษ์ชุดดำที่มีหกวัง เขาฟันเข้าที่คออีกฝ่ายทันที

เลือดกระฉูดออกมาพร้อมเสียงกรีดร้อง

หัวกลิ้งลงและถูกซูฉินเตะขึ้น ด้วยเสียงหวีดหวิว มันกลายเป็นภาพติดตาที่มุ่งตรงไปยังองครักษ์ชุดดำอีกคน มันระเบิดต่อหน้าเขาและเลือดที่เป็นพิษก็กระเซ็นไปทั่ว

การแสดงออกของผู้ฝึกฝนเผ่าเสียงสวรรค์ เปลี่ยนไปและเขาถอยกลับ แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมแห่งความตายได้

ซูฉินยังคงไร้ความรู้สึกในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเจ็ดวังของเขาปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดพายุรุนแรงที่ส่งเสียงฟ้าร้องไป ทุกทิศทุกทาง จากระยะไกล ดูเหมือนว่าพายุเฮอริเคนที่น่าสะพรึงกลัวได้ก่อตัวขึ้นอย่างกะทันหัน

ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อของเขา ซูฉินชนกับองครักษ์ชุดดำอย่างไร้ความปราณี

เนื้อและเลือดกระจายไปทั่ว

ท่ามกลางผู้คนที่อยู่รอบๆ องครักษ์ชุดดำอีกสามคนถูกวางยาพิษ พวกเขากรีดร้องและร่ำไห้ แต่ร่างกายของพวกเขาก็ละลายกลายเป็นแอ่งเลือดที่ไหลนองพื้นอย่างรวดเร็ว

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของผู้ฝึกฝนที่อยู่รอบข้างเต้นรัวด้วยความสยดสยอง

“พิษนี้ทรงพลังเกินไป!”

“ทุกคน แยกย้าย!”

ไม่เพียงแต่องครักษ์ชุดดำที่กำลังต่อสู้กับซูฉินจะแยกย้ายกันไปเท่านั้น แต่การแสดงออกของกงเซียงหลง ซานเหอ และคนอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลก็เปลี่ยนไปเช่นกัน พวกเขารีบย้ายออกจากพื้นที่นี้พร้อมกับคนที่พวกเขาต่อสู้ด้วย

พวกเขาต้องการหนีจากซูฉิน

ทันทีที่ซูฉินเข้ามาใกล้ และโบกกริชในมืออย่างแรง องครักษ์ชุดดำก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาระเบิดออกด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายในขณะนี้และคว้าไปที่กริชต้องการปิดกั้นมัน

เมื่อเขาไม่ทันรู้ตัว กริชของซูฉินก็ได้แทงเข้าไปในลำคอของเขาด้วยความรุนแรงที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่สองที่ซูฉิน เตรียมพร้อมสำหรับกริช ของเขา มันเป็นพลังที่บรรจุอยู่ในผ้าคลุมศพ

ราคาคือทุกครั้งที่เขาถือกริช เขาจะได้รับความเจ็บปวดที่เสียดแทง ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่าถูกแทงด้วยเข็มแหลมนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม ซูฉินคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้แล้ว และไม่สนใจเลย

เขาดึงกริชออกมาและกำลังจะเคลื่อนไหวต่อ แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ก้าวไปด้านข้างและหลบดาบบินที่พุ่งตรงเข้ามา