Skip to content

พลิกปฐพี 862

ตอนที่ 862

เจ้าจะเป็นคนแรกจริงหรือ

“เหอะ! ตัดสินความผิด ความผิดของเจ้าต้องให้ข้าตัดสินด้วยหรือ ในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรมีใครไม่รู้ว่า เทพมารแต่งงานกันไม่ได้บ้าง!” ขณะที่หลียวนพูดคำสุดท้ายนั้นก็แทบจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

แววตานางก็เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมเย็นเฉียบ

นางไม่สนใจว่ามู่ชิงเกอกับซือมั่วอยู่ด้วยกันได้อย่างไร แต่คนที่นางไม่ได้ครอง นางก็จะไม่ยอมให้ใครได้ไป

‘พวกเจ้าสองคนรักกันใช่ไหม คนหนึ่งอยากสู่ขอ อีกคนก็อยากแต่งงานใช่ไหม เช่นนั้นข้ายิ่งจะไม่ยอมให้พวกเจ้าสมหวัง ยิ่งจะให้พวกเจ้ารักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ไปตลอดกาล’ หลียวนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในใจ

มู่ชิงเกอเห็นความบ้าคลั่งและเคืองแค้นที่ซ่อนอย่างลึกลํ้านั้นในส่วนลึกของดวงตาอีกฝ่าย แต่นาง เพียงยิ้มบางๆ โดยไม่ได้ใส่ใจ

สายตาที่เย็นเฉียบของนางกวาดผ่านคนอื่นนิ่งๆ พลางถามว่า “พวกท่านก็คิดจะตัดสินความผิดของข้าใช่ไหม”

นางเพิ่งพูดจบ หยินเฉิน ไป๋สี่ หยวนหยวน ทั้งโห่วกับมั่วหยางล้วนปรากฎตัวขึ้นที่นอกตำหนัก จับจ้องคนในตำหนักด้วยสายตาคมกริบ

ราชาเทวะจินกวงแค่นยิ้ม “อย่างไร คิดจะลอบโจมตีกันที่นี่จริงๆ หรือ หากพวกเราไม่ตอบตกลงคำขอของเจ้าก็จะลงมือกับพวกเราหรือไร”

ราชาเทวะสือฟางก็พูดตามทันทีว่า “ราชาเทวะเฟิ่งเทียนพูดถูกต้อง เทพมารแต่งงานกันไม่ได้ เป็น กฎเกณฑ์ที่ทุกคนในแผ่นดินเทพมารต่างรู้กันหมด เป็นกฎเกณฑ์จะทำลายไม่ได้หากเจ้าต้องการอยู่กับราชามารคนนี้นอกจากเจ้าละทิ้งฐานะเผ่าเทพด้วยตัวเอง ส่วนเก้าชั้นฟ้านี้…”

เขาหยุดนิ่งไปแล้วส่งสายตากับพวกข้างๆ หลังจากทุกคนยอมรับแล้ว เขาจึงพูดต่อว่า “เก้าชั้นฟ้านี้ก็จะไม่ใช่ดินแดนเทพของเผ่าเทพอีก! คนทั้งหมดในเก้าชั้นฟ้าจะต้องตกเป็นจำเลยของเผ่าเทพเพราะการเลือกและดื้อรั้นของเจ้า!”

“บังอาจ!”

“บังอาจ!”

ซวีซิวกับราชครูต่างร้องขึ้นมาพร้อมกัน

เก้าชั้นฟ้าสำหรับพวกเขาแล้วมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์มากถึงเพียงนี้จะมาถูกคนให้ร้ายได้อย่างไร ถึงแม้คนผู้นั้นเป็นราชาเทวะก็ไม่ได้

ดวงตาที่หรี่ลงของมู่ชิงเกอผุดความเย็นเฉียบ นางแค่นยิ้มว่า “พวกท่านยังไม่เข้าใจเรื่องหนึ่งใช่ไหม”

“พวกเรายังไม่เข้าใจเรื่องอะไร” ราชาเทวะเฝินไห่พูด

“ถูกต้อง! เจ้าคิดแต่งงานกับราชามารก็ต้องเป็นเช่นนี้! เห็นแก่หน้าตระกูลมู่ พวกเราจะไม่ตามเอาผิดที่ เจ้ายกเรื่องนี้ขึ้นมา!” ราชาเทวะเซียนเหนี่ยวก็พูดด้วย

“หากเจ้ายอมสำนึกแล้วตัดขาดจากราชามารคนนี้ต่อหน้าพวกเรา พวกเราก็จะยังคงยอมรับฐานะเผ่า เทพของเจ้าและยอมรับเก้าชั้นฟ้าของเจ้า เรื่องราววันนี้พวกเราจะลืมไปให้หมด” ราชาเทวะจินกวงพูดต่อ

ราชาเทวะสือฟางบอกมู่ชิงเกอหน้าเครียดว่า “คำพูดของพวกเราเจ้าจงพิจารณาให้ดีๆ พวกเราบำเพ็ญ หลักวิถีใหญ่เพื่อจะได้ทำลายช่องว่างโดยเร็ว เข้าสู่ชั้นที่สูงกว่า ไม่ใช่ทำลายอนาคตตัวเองเพราะความรักหญิงชาย”

“หากเจ้ายังขืนดื้อดึงก็อย่าได้โทษพวกเราว่าไร้ความปรานี!” ราชาเทวะซุยชิงพูด

ทั้งห้าคนต่างแสดงจุดยืน ความหมายพวกเขาเป็นเช่นเดียวกับหลียวนคือเทพมารไม่สามารถแต่งงาน กัน แตกต่างกันเพียงหลียวนทำไปเพราะความแค้นส่วนตัว แต่พวกเขาทำไปเพราะกฎเกณฑ์

รอจนพวกเขาพูดจบแล้ว รอยยิ้มที่มุมปากมู่ชิงเกอก็ยิ่งขยายกว้างมากขึ้น

เวลานี้ราชาเทวะจินกวงมองราชาเทวะจงซาน และราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยที่เงียบสงบ ถามว่า “พวกท่าน ทั้งสองคนยังคิดจะเงียบต่อไปอีกหรือ เวลานี้ราชามารปรากฎตัวแล้ว ไม่ใช่ว่าอีกสักครู่ แม้แต่กองทัพมารก็ยังจะปรากฎที่เก้าชั้นฟ้านี้อีก! ฮ่วนเยวี่ย ถึงอย่างไรนางก็เคยเป็นลูกศิษย์ดินแดนฮ่วนเยวี่ยของท่าน ท่านจะยอมให้นางทำอะไรเลอะเทอะเช่นนี้หรือ”

สายตามู่ชิงเกอจับอยู่ที่ราชาเทวะจงซานกับราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ยิ้มน้อยๆ เอ่ยปากว่า “สองราชาเทวะโปรดให้ความเห็นด้วยเถอะ”

‘เสี่ยวเกอเอ๋อร์ฆ่าพวกเขาเลยดีไหม’ ซือมั่วถ่ายทอดเสียงถาม

หากไม่ใช่เพราะมู่ชิงเกออยู่ที่นี่ ไอสังหารของเขาคงระงับไม่อยู่ไปนานแล้ว

คนเหล่านี้มีคุณสมบัติอะไรที่มาคัดค้านการแต่งงานของเขากับเสี่ยวเกอเอ๋อร์

‘ไม่ดี การฆ่านั้นง่าย แต่หากมีคนคัดค้านอีกแล้วเจ้ายังจะฆ่าต่อไปหรือ ข้าไม่อยากให้งานแต่งงานของเราถูกอาบไปด้วยเลือด’ มู่ชิงเกอห้ามความคิดของเขา

‘คนพวกนี้น่ารำคาญมาก’ ซือมั่วพูดอย่างไม่ยอม ทุกคนรู้ว่าเขารอมานานตั้งเท่าไรกว่าจะถึงวันนี้ คนพวกนี้ก็ยังจะมาร้องโวยวายอยู่ที่นี่อีก

‘วางใจเถอะให้เป็นหน้าที่ข้าเอง’ มู่ชิงเกอกล่าวปลอบใจ

ความเยือกเย็นและความมั่นอกมั่นใจของมู่ชิงเกอตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้คนในตำหนักต่างสงสัยกันอย่างมากว่าความเยือกเย็นของนางมาจากไหนกัน

ราชาเทวะจงซานยิ้มแล้วพูดอย่างอ้อมค้อมว่า “เรื่องนี้ความจริงเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้า แต่ฐานะของ พวกเจ้านั้นพิเศษทำให้พัวพันกับผลประโยชน์ของเทพมารสองเผ่า”

ผลประโยชน์ ผลประโยชน์อะไรหรือ

น่ากลัวเทพมารสองเผ่าที่เป็นอริกันมานานปีเช่นนี้คงลืมความขัดแย้งแต่แรกไปหมดแล้ว จำได้เพียงคำสั่งสอนที่ครํ่าครึของต้นตระกูลเท่านั้น

มู่ชิงเกอยิ้มหยันในใจ นางมองไปที่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยมองมา ตาหงส์ไม่เห็นแววเกียจคร้าน มีแต่ความเข้าใจ เขาสบตากับมู่ชิงเกอค่อยๆ เอ่ยปาก “เขาดีต่อเจ้าไหม”

มู่ชิงเกอชะงัก ราวกับไม่นึกว่าราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจะถามเช่นนี้

เดิมทีนางเข้าใจว่าราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยคงพูดกับนางด้วยเหตุผลของเผ่าเทพเช่นเดียวกับคนอื่น ไม่นึกเลยว่าเขากลับถามคำถามที่สุดแสนธรรมดาเช่นนี้

“ข้าย่อมจะต้องดีต่อเสี่ยวเกอเอ๋อร์” มู่ชิงเกอยังไม่ทันตอบ ซือมั่วก็พูดเสียงเย็นเฉียบ

คำตอบของเขาชัดถ้อยชัดคำไม่มีการลังเลแม้แต่นิด ไม่ใช่น้ำเลียงของการเอ่ยคำสัญญาแต่เป็นการ

ประกาศสิทธิ์ทั้งหมดอย่างเผด็จการ

มู่ชิงเกอยิ้มแล้วบอกราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยว่า “ราชาเทวะได้ยินแล้วนะ”

แต่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกลับไม่ได้มองซือมั่ว เพียงแต่มองมู่ชิงเกอแล้วถามอีก “ที่ข้าต้องการคือคำ ตอบของเจ้า”

สองตาซือมั่วหรี่ลง มีแววอันตรายในดวงตาทั้งยัง มีแววพิฆาตที่เหี้ยมโหด เป็นครั้งแรกที่เขาคิดจะฆ่า ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย เนื่องจากเขารู้สึกถึงการคุกคามของชายคนนี้ที่มีต่อเขา

“เขาดีต่อข้าหรือไม่ ข้าไม่ต้องบอกใคร ข้ารู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว” มู่ชิงเกอบอกคำตอบของตัวเอง

ตาหงส์ของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยหม่นลงไปแวบหนึ่งแล้วเอ่ยปากพูดว่า “ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าจะทำ อะไรก็ทำเถอะ อีกสามเดือนข้าจะมาขอดื่มสุราในงานด้วย”

“ฮ่วนเยวี่ยท่าน!”

“ฮ่วนเยวี่ยท่านเสียสติไปแล้ว!”

คำพูดของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยทำให้พวกราชาเทวะเซียนเหนี่ยวต่างมองเขาด้วยความตกตะลึง

ราชาเทวะจงซานก็มองราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยอย่างประหลาดใจนิดๆ ภายในสายตาราวกับกำลังไตร่ตรองอะไรอยู่

คำตอบของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยทำให้มู่ชิงเกอผิดคาด ทำให้ความแค้นเคืองในแววตาหลียวนเข้มข้นขึ้น แน่นอนว่าทำให้ซือมั่วมองเขาอย่างลึกลํ้า

เมื่อได้รับคำตอบจากราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยแล้วมู่ชิงเกอจึงพูดเสียงเย็นเฉียบว่า “เทพมารแต่งงานกันไม่ได้ แต่ข้าจะเป็นคนแรก ใครไม่พอใจก็เปิดศึกเถอะ อีกสามเดือนเป็นวันมงคลสมรส ใครกล้าขัดขวางข้าจะให้เขาใช้เลือดสาดหน้างาน!”

“กองทัพใหญ่เผ่ามารของข้าระดมพลเสร็จแล้ว หากแดนเทพทำเรื่องให้ยุ่งยาก ข้าก็ไม่ถือที่จะแย่งพระชายาของข้ากลับมา”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!