Skip to content

สะดุดรักยัยกะล่อน 10

ตอนที่ 10

ยาปลุกกำหนัด

หลังจากที่เฝ้าครุ่นคิดมานานอยู่หลายวันเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้องค์ชายหลี่เซียวเหยาได้หันมาชมชอบและรักนางจากใจจริง เจินเจินจึงอดรนทนไม่ได้ด้วยคิดถึงองค์ชายสี่หลี่เซียวเหยาเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรให้เขาหันมาชมชอบนาง

แต่เจินเจินก็ยังคงตัดสินใจเข้าหาหลี่เซียวเหยาอีกครั้ง

และครั้งนี้หญิงสาวก็ได้ตั้งปณิธานเอาไว้แล้วว่า นางจะทำตัวดีๆ ไม่กระทำการอุกอาจคล้ายจะขืนใจเขาแต่อย่างใด

นางจะพยายามไม่ลวนลามเขาด้วย

นางไม่อยากให้เขารังเกียจนางไปมากกว่านี้

อา…

วันนี้นางแต่งกายด้วยชุดสุภาพด้วยนะ ปกปิดมิดชิด มิดชิดเชียวล่ะ ดูสง่างามเฉกเช่นสตรีสูงส่งเสียด้วย นางเลือกเฟ้นอยู่เป็นนานเลยนะ สำหรับอาภรณ์ชุดนี้ที่นางใส่มา เพื่อให้หลี่เซียวเหยาได้ยลโฉม เขาจะได้พิศมองนางใหม่

เขาจะชมชอบนางหรือไม่กันนะ หากนางทำตัวดีขึ้น เรียบร้อยขึ้น

เจินเจินคิดไปพลางเดินไปตามทางเดินที่เชื่อมต่อทอดยาวไปยังตำหนักของหลี่เซียวเหยา

ภายในห้องๆหนึ่งของตำหนักอันโอ่อ่ารโหฐานขององค์ชายสี่…

หลี่เซียวเหยากำลังควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านบางอย่างอยู่อย่างทรมาน

เขาเริ่มไม่เข้าใจ

ว่าทำไมชีวิตของเขาต้องมาเจอเรื่องบัดซบอย่างนี้อยู่ร่ำไป เกิดมาเป็นชายหนุ่มรูปงามอย่างนี้มันผิดนักหรือไร

เจ้า… เจ้าเอาอะไรใส่ลงไปในน้ำชานี่หลี่เซียวเหยาถามออกไปทางนางกำนัลคนหนึ่งหลังจากที่เขาได้ดื่มชาตรงหน้าลงไปเพียงครู่

นางกำนัลคนนี้เขาเริ่มนึกออกแล้วว่าเป็นน้องสาวของอดีตชายาของเขา นามว่าเซียงอวี๋

ชายหนุ่มเพียงนึกแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมนางยังคงคอยติดตามคล้ายหลอกหลอนเขาอยู่อย่างนี้

เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ รู้สึกร้อนรุ่ม รู้สึกมีความต้องการทางเพศอย่างสูง หลังจากดื่มชาถ้วยนี้ลงไป

ไม่มีนี่เพคะ ไม่มีอะไรเลยเซียงอวี๋ตอบคาพลางส่งสายตายั่วยวนหยาดเยิ้มให้หลี่เซียวเหยาอย่างคาดหวังแบบเห็นได้ชัดเจน

เรื่องอะไรนางจะบอกเล่า ว่าใส่ยาปลุกกำหนัดลงไปในน้ำชาเพื่อให้องค์ชายหลี่เซียวเหยาได้ดื่มกิน

นางเพียรพยายามอย่างมากที่จะไปสรรหาซื้อมา ด้วยแอบได้ยินนางกำนัลกับสนมคนหนึ่งคุยกันถึงสรรพคุณของมัน ยามนี้ไม่มีใครอยู่ภายในห้องนี้ มีเพียงนางกับองค์ชายหลี่เซียวเหยาเท่านั้น

หึหึ

วันนี้แล้ว

วันนี้

นางกับเขา

จะได้เสียเป็นสามีภรรยากัน

นางจะได้เขา

นางจะได้ร่วมรักกับเขา

แล้วเขาก็จะต้องรับผิดชอบนาง

แต่งงานกับนาง

หึหึ

เซียงอวี๋คิดในใจอย่างหมายมาดกรุ้มกริ่ม

องค์ชายเป็นอะไรไปเพคะ ไม่สบายหรือเพคะ ให้หม่อมฉันดูใกล้ๆนะเพคะเซียงอวี๋กล่าวพลางลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะเดิน

ย่างกรายเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับหลี่เซียวเหยาที่นั่งอยู่บนตั่งที่โต๊ะตรงหน้า

หญิงสาวจงใจเข้าไปหยุดยืนก่อนก้มหน้าลงตรงหน้าของหลี่เซียวเหยาด้วยตั้งใจให้เขาได้เห็นเนินอกอวบอิ่มขาวผ่องนวลเนียนของนางที่ตั้งใจเปิดเผยอออกมายามโน้มตัวลงหาเขา

หลี่เซียวเหยาที่เริ่มหอบหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงจากฤทธิ์ของยาบางอย่างที่ผสมอยู่ในน้ำชานั่น

เขาค่อนข้างแน่ใจว่ามันอาจจะเป็นยาปลุกกำหนัด

อารมณ์ที่เกินจะยับยั้งของเขายามนี้มันบ่งบอกกับเขาได้อย่างชัดเจน

เจินเจินของเขายังไม่เคยใช้วิธีแบบนี้กับเขาเลย

หืม!

เดี๋ยวนะ!

เจินเจินของเขารึ

นี่เขาเผลอคิดอะไรออกไป

บัดซบ!

ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขัดเคืองขณะกำลังควบคุมอารมณ์ร้อนแรงของตนอยู่อย่างยากลำบาก

องค์ชายเพคะเสียงออดอ้อนของเซียงอวี๋ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง หญิงสาวเอี้ยวตัวเพื่อเบียดเข้าหาชายหนุ่มอย่างจง

ใจก่อนเอื้อมมือขึ้นเพื่อจับลงตรงต้นแขนของชายหนุ่มอย่างตั้งใจให้ยั่วยวน

นางยังคงเอื้อนเอ่ยต่ออย่างจงใจให้น้ำเสียงชวนสยิว ให้หม่อมฉันพาเข้าไปพักที่ห้องบรรทม นะ เพคะ นะ นะ

หลี่เซียวเหยาพยายามขืนร่างของตนเองเอาไว้ไม่ให้คล้อยตามมือเรียวงามของสตรีน่าสมเพชนี่

เขายังคงนั่งอยู่ตรงตั่งด้วยอาการตัวเกร็งปวดหนึบอย่างสุดจะกลั้น

อ๊ะ! อุ๊ย!เซียงอวี๋ที่พยายามดึงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นถึงกับหลุดอุทานด้วยน้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยจริตมารยาเมื่อเสียหลักล้มลงนั่งบนตักแข็งแรงของหลี่เซียวเหยา

และภาพนั้น…

ภาพที่เซียงอวี๋นั่งซบอยู่บนตักของหลี่เซียวเหยาที่กำลังหน้าดาหน้าแดงด้วยแรงอารมณ์ปรารถนาก็ปรากฎอยู่ในสายตาของ เจินเจินที่เดินเข้ามาในห้องแห่งนี้อย่างพอดิบพอดี

ทำเอาเจินเจินถึงกับหน้าม้านชะงักงัน ตกตะลึงตาโต

ภาพนั้น ภาพที่หลี่เซียวเหยาผู้ซึ่งเป็นบุรุษหนึ่งเดียวที่นางพึงใจกำลังนั่งพลอดรักอยู่กับสตรีนางหนึ่ง

เจินเจินถึงกับหัวใจเต้นแรงแบบผิดจังหวะ เลือดสูบฉีดแบบผิดปกติ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นางหายหน้าไปจากเขาไม่กี่วันก็จริง

แต่นางคิดถึงเขา

นางคิดถึงเขามาก

นางคิดหาวิธีการมากมายเพื่อที่จะเอาชนะใจของเขา

แต่ดูเขายามนี้

นอกจากไม่คิดจะชอบตอบนางยังจะมาพลอดรักกับสตรีนางอื่นต่อหน้าต่อตา

อืม…

นางควรตัดใจใช่หรือไม่

ใช่!

นางควรตัดใจ

แต่ว่า

แต่

ก่อนตัดใจ ขอตัวหัวสตรีนางนี้ก่อนเป็นไร

ร่างงามของเจินเจินเร็วเท่าความคิด

เพียงเสี้ยวเวลาเดียวหญิงสาวก็พุ่งตัวมาจนถึงร่างของหลี่เซียวเหยาและเซียงอวี๋

นางจับกระชากร่างของเซียงอวี๋ออกจากตักแกร่งของหลี่เซียวเหยา จนร่างเซียงอวี๋กระเด็นออกไปจากร่างของหลี่เซียวเหยาในทันที

กรี๊ด!เซียงอวี๋ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ทานางกระเด็นออกมา

และเสียงกรีดร้องของเซียงอวี๋ทำให้เจินเจินพลันได้สติในทันที อา… ข้าขอโทษ เจ็บหรือไม่เจินเจินรีบเดินมาดู เซียงอวี๋ที่กลิ้งอยู่กับพื้นด้วยฝีมือของนางเอง

นางไม่ควรทำร้ายสตรีของหลี่เซียวเหยา เขาจะชมชอบใครมันก็เป็นสิทธิ์ขาดของเขา นางไม่มีสิทธิ์ทำลายจังหวะพลอดรักของใคร หากพวกเขาเต็มใจมีใจให้กัน

ซึ่งมันแตกต่างจากการที่บุรุษพยายามเอาเปรียบสตรี

ถ้าเป็นเหตุการณ์นั้น นางต้องกระชากบุรุษออกมาสังหาร มิใช่กระชากสตรีออกมาทำรุณ

อา…

นางเป็นเอามากนะนี่

กับหลี่เซียวเหยาผู้นี้

เจินเจินคิดเอาเองอยู่ภายในใจขณะทอดสายตามองกลับไปทาง หลี่เซียวเหยา

วันนี้นางตั้งใจมาทำให้เขาประทับใจในตัวนาง

แต่กลับกลายเป็นว่า มาขัดจังหวะหฤหรรษ์ของเขาเสียนี่

นางจะทำอย่างไรดี

หลี่เซียวเหยายังคงนั่งตะลึงงันกับสตรีผู้เข้ามาใหม่

นางเหมือนนางฟ้ามาโปรดเขา

เขาคิดอย่างนั้นในเวลานี้

เจ้า…เจ้า..เซียงอวี๋ส่งเสียงเกรี้ยวกราดอยู่ด้านหลังของเจินเจิน

หญิงสาวพยายามประคองร่างของตนเองให้ลุกขึ้นยืนก่อนบันดาลโทสะใส่เจินเจิน เจ้ามันสตรีน่ารังเกียจ ออกไปนะ!

เจินเจินไม่ได้กล่าวสิ่งใดตอบกลับ นางเพียงกัดริมฝีปากยืนตัวแข็งทื่อ

อยากจะเดินออกไปอยู่นะ แต่ขามันก้าวไม่ออก ฮือ… ทำใจไม่ได้…

ออกไปเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำของหลี่เซียวเหยาพลันเอ่ยขึ้น

ออกไป…เขาย้ำด้วยประโยคที่บาดใจเจินเจินเหลือเกิน

หญิงสาวคิดอย่างนั้น ก่อนหลับตาลงเพื่อพยายามข่มใจของตนให้ก้าวเท้าเดิน หมายจะออกไปจากห้องแห่งนี้ตามคำ นางพยายามยกเท้าขึ้นเพื่อย่างก้าวอย่างยากลำบาก

จู่ๆมือของเจินเจินพลันกระตุกอย่างแรงพร้อมกับรู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนลวกซึ่งจับดึงกระชากตัวของนางให้กลับเข้ามาในห้อง

ในจังหวะเดียวกันร่างของสตรีของหลี่เซียวเหยาคล้ายกับถูกผลักจนกระเด็นออกไป หญิงสาวมองตามร่างบางที่กระเด็นหายออกไปนอกห้องก่อนจะหันมามองเจ้าของฝ่ามือที่จับแขนของนางอยู่

นางเห็นเป็นหลี่เซียวเหยาก้มหน้ามองลงมาในระยะประชิดด้วยสายตาร้อนแรง ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากแดงสดเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ก่อนจะเผยอออกแล้วเคลื่อนเข้ามา

หลี่เซียวเหยาก้มหน้าลงจูบเจินเจินอย่างเร่าร้อน สองมือของเขาจับประคองสองไหล่ของนางเอาไว้แน่น

เจินเจินถึงกับยืนตัวแข็งทื่อตาโต ขณะถูกเขาครอบครองริมฝีปาก

เพียงไม่นานร่างบางระหงของเจินเจินก็ถูกหลี่เซียวเหยาโอบอุ้มเข้ามายังห้องนอนด้านในอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มยังคงขบเม้มไล้เลียริมฝีปากและใบหน้าของหญิงสาวอย่างหนักหน่วงรุนแรงเร่งร้อน

มันหนักหน่วงร้อนเร่าเสียจน….

ผิดปกติ

เจินเจินรู้สึกได้ว่ามันไม่ถูกต้อง

มันมีอะไรซักอย่างที่นางรู้สึกได้ว่ามันไม่ถูกต้อง มันผิดปกติแปลกๆ

นี่ไม่ใช่หลี่เซียวเหยาที่นางรู้จัก

เมื่อเจินเจินคิดได้ดังนั้นจึงพยายามเอื้อมมือของตนขึ้น

เดี๋ยว เดี๋ยว หยุด หยุดก่อนเจินเจินพยายามขัดขืนพร้อมกับจับกุมใบหน้าร้อนผ่าวของหลี่เซียวเหยาให้ออกห่างแม้ร่างของนางจะถูกลำแขนของเขากอดเกี่ยวเอาไว้อย่างแนบแน่นก็ตาม

เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรกับท่านกันแน่หญิงสาวถามออกไปอย่างมีสติ

ทำให้ชายหนุ่มเองถึงกับชะงักงันกับอาการขาดสติของตนเองทันที

ใจเย็น ใจเย็นก่อนเจินเจินถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ท่านเป็นอะไรไป เป็นอะไรหรือไม่

ข้า…หลี่เซียวเหยากลั้นใจบอกตามจริง

ยาปลุกอารมณ์… ในน้ำชา… สตรีนางนั้น..นาง..นาง

ชายหนุ่มกล่าวออกมาอย่างยากลำบากแม้จะไม่จบประโยคแต่เจินเจินกลับเข้าใจได้ในทันที

อา…

ไม่ดีแน่…

เจินเจินคิด

หากเขาจะลุกออกจากเตียงนอนหลังเสร็จกิจ

แล้วเดินจากไปอย่างงุนงงสับสนกับชีวิตเมื่อหมดฤทธิ์ของยาตามที่หงเหม่ยหลงเคยบอกกล่าวเอาไว้

ไม่ดี

ไม่ดีแน่ๆ

ท่าน…เจินเจินพยายามเรียกสติของหลี่เซียวเหยา

มีสติไว้ ทำสมาธิ ใช่ ต้องทำสมาธิหญิงสาวเอ่ยออกไปขณะพยายามแกะมือที่คล้ายคีบเหล็กออกจากตัวเพื่อพาเขาไปนั่งลงที่เตียงนอน

นางยังคงกล่าวต่อเนื่อง หลับตา ท่านหลับตาก่อน ตั้งสมาธิ เร็ว!

หลี่เซียวเหยาถึงกับอ้าปากค้าง ในขณะที่เจินเจินกำลังพาร่างกำยำของเขาให้ไปนั่งที่เตียงนอน

ชายหนุ่มยังคงแข็งค้างกลางอากาศ

ทรมานก็ทรมาน

แต่สตรีนางนี้

นาง…

นาง…

ทำไมนางเป็นคนอย่างนี้

บัดซบ!

บัดซบจริงๆ

สวรรค์

ช่วยข้าด้วย….

หลี่เซียวเหยาได้แต่ร่าร้องร่ำไห้อยู่ในใจ

ขณะถูกเจินเจินบังคับในนั่งหลับตาทำสมาธิเพื่อควบคุมสติที่มีเพียงน้อยนิดอยู่อย่างนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!