ตอนที่ 563 ต่อสู้
ซูหมิงหรี่ตาลง สิ่งที่มอบความรู้สึกถึงอันตรายให้กับเขา นอกจากหนามกระดูกสีดำเก้าอันที่พุ่งมาด้วยความเร็วแล้ว ที่มากกว่าคือดาบกระดูกใหญ่ยาวหนึ่งจั้งกว่าในมือของซือหม่าซิ่น!
มวลอากาศด้านหลังหนามกระดูกทั้งเก้าถูกฉีกแยกออก ถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นสีดำทึบ ทั้งยังมีไอหนาวเยือกโชยกระทบใบหน้า ราวกับแฝงไว้ด้วยความแค้นและบ้าคลั่งของเทพหมานรุ่นสองในยุคบรรพกาล
ใบหน้าซือหม่าซิ่นเปลี่ยนไป ร่างกายเหี่ยวแห้ง ทุกอย่างอยู่ในสายตาซูหมิง เขามองแวบเดียวก็รู้แล้วว่ามันเป็นสมบัติกระดูกของเทพหมาน ต่อให้เป็นซือหม่าซิ่นก็ยากจะควบคุมโดยสมบูรณ์ สำหรับเขาแล้วบางทีอาจเป็นดาบสองคม!
หากเป็นเช่นนั้น การต่อสู้ครั้งนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอีก นี่คือสมบัติล้ำค่าจากมือซ้ายเทพหมานรุ่นสอง เป็นสิ่งที่รวมขึ้นจากผนึกตั้งแต่โบราณกาล นี่ไม่ใช่สิ่งที่ซูหมิง…จะรับมือไหวในตอนนี้!
ทว่าเมื่อซือหม่าซิ่นฝืนใช้มัน สำหรับซูหมิงแล้วมันคือโอกาส!
ซูหมิงในตอนนี้ไม่ลังเลอีก แทบเป็นช่วงที่หนามกระดูกเก้าอันตรงเข้ามา เขาใช้มือซ้ายกดผืนดิน มือขวายกขึ้นหงายฝ่ามือขึ้นฟ้า หลังมือหันลงดิน ชั่วขณะที่หนามกระดูกเข้ามาใกล้ เส้นผมก็กลายเป็นสีขาวครึ่งหนึ่งสีม่วงครึ่งหนึ่งด้วยความเร็วระดับสายตา
ตัวเขาอยู่ในพายุคลั่งน้ำวนที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันแล้วหดเล็กลงในทันใด กลายเป็น…ซู่มิ่ง!
การปรากฏตัวของซู่มิ่งทำให้ขั้นพลังทะยานสู่จุดสูงสุดของเขาในบัดดล มีพลังสู้กับขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์ได้!
เขามีสีหน้าเคร่งขรึม ทันทีที่กลายเป็นซู่มิ่งก็ยกมือซ้ายขึ้นสะบัดไปทางหนามกระดูก กาลเวลาตรงหน้าซูหมิงประหนึ่งหวนคืนโดยพลัน
ขณะหนามกระดูกตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อสัมผัสกับวัฏจักรอดีตไร้รูปของซูหมิงแล้ว หนามกระดูกเก้าอันหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ทว่าก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น จากนั้นตรงเข้ามาใกล้อีกครั้ง เพียงแต่ว่าความเร็วลดลงไปมาก เหมือนกับฝืนอยู่ท่ามกลางกาลเวลา
ส่วนซือหม่าซิ่นพร้อมกับดาบกระดูกด้านหลังหนามกระดูกเก้าอันมีสีหน้าคลุ้มคลั่ง ตอนที่ฟันดาบเขาชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังกัดฟันเข้ามาต่อ นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย กำหมัดขวาชกไปข้างหน้าหนึ่งหมัดสร้างเป็นแรงกระแทก แรงกระแทกนี้ระเบิดตรงหน้าเขา
เมื่อปะทะกับหนามกระดูกทั้งเก้ารวมถึงซือหม่าซิ่นก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง มวลอากาศถล่มลงในทันใด
ซูหมิงไม่หยุดชะงัก ตอนที่ถอยหลังอีกครั้ง เขาสะบัดมือซ้ายไปข้างหน้า ครั้งนี้ไม่เพียงเปลี่ยนความเร็วของหนามกระดูกเก้าอันกับซือหม่าซิ่นเท่านั้น ที่สำคัญกว่าคือแรงระเบิดจากหนึ่งหมัดของซูหมิงก่อนหน้านี้พลันย้อนเวลากลับมาแล้วระเบิดอีกครั้งวนเวียนเป็นวัฏจักร พริบตาเดียวก็สิบกว่าครั้ง!
ซูหมิงรู้ดีว่าตนปรับแรงจู่โจมของหนามกระดูกได้ไม่มากนัก ถึงขั้นแรงจู่โจมนี้ยังต่อต้านพลังแห่งอดีตของเขาได้ และยังอยู่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าเขาก็ปรับหมัดของตนได้ ให้หมัดนี้วนเวียนเป็นวัฏจักรอย่างต่อเนื่อง ทำให้อานุภาพบรรลุถึงระดับน่าสะพรึง
หากทุกหมัดล้วนเทียบเท่าพลังที่แกร่งที่สุดของนักรบขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์ เช่นนั้นการผสานรวมกันของสิบกว่าหมัดนี้ แม้บอกว่ายังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนไปมาก ทว่าการรวมพลังเข้าด้วยกันก็อยู่เหนือกว่าพลังของขั้นสมบูรณ์ทั่วไป โดยเฉพาะเสี้ยวกลิ่นอายพลังสร้างชะตาจากซูหมิง เมื่อรวมกับวัฏจักรอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งทำให้อานุภาพหมัดทะยานถึงจุดสูงสุด
เสียงแผ่นดินสั่นสะเทือน ชั้นน้ำแข็งด้านบนสร้างแรงปะทะอย่างรุนแรงจนเสียหายเป็นวงกว้าง ชั่วพริบตาที่มันระเบิดมา พลังที่แกร่งที่สุดหลังจากผ่านวัฏจักรสิบกว่าครั้งก็เข้าปะทะกับหนามกระดูกเก้าอันรวมถึงพลังแก่กล้าที่เกิดขึ้นจากการต่อต้านของซือหม่าซิ่น
ทันทีที่เกิดเสียงโครมดังสนั่น ชั้นน้ำแข็งด้านบนกลายเป็นเศษกระจายเพราะเสียหายหนักเกินไป จึงเกิดเป็นรอยแยกลุกลามหลายพันจั้ง สุดท้ายขณะชั้นน้ำแข็งระเบิด ก็มีน้ำทะเลหลั่งทะลักเข้ามาตามชั้นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
โลกใบนี้เหมือนเกิดฝนกระหน่ำ สายฝนตกลงมาไม่ขาดสายประหนึ่งจะจมที่นี่ให้มิด
ช่วงที่น้ำทะเลหลั่งทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีเสียงสนั่นดังกังวาน ซูหมิงถอยหลังไปสิบกว่าก้าว ใบหน้าซีดขาวเล็กน้อย ทว่านัยน์ตายังคงสงบนิ่ง ก่อนก้าวเดินหนึ่งก้าวไปทางซือหม่าซิ่น!
ส่วนซือหม่าซิ่น ภายใต้แรงปะทะจากหมัดของซูหมิง หนามเก้าอันตรงหน้าเขาไม่เสียหายแม้แต่น้อย แต่ความเร็วลดลงไปมาก อีกทั้งทิศทางยังเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ทว่าซือหม่าซิ่นเองกลับกระอักโลหิตกองใหญ่ ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ได้รับมรดกอย่างสมบูรณ์ การฝืนใช้หนามกระดูกเทพหมานคือขีดจำกัดของเขาแล้ว ตอนนี้ขณะกระอักโลหิต สีหน้าก็ดูมัวหมอง ร่างสั่นไหวพลางก้าวเดินต่อไป แต่จะเห็นได้ชัดว่าดาบกระดูกเล่มนั้นฉุดร่างเขาไปต่างหาก!
ซูหมิงเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูงสุด พริบตาเดียวก็เข้าประชิดหนามกระดูกทั้งเก้า หากเป็นหนามกระดูกตอนแรกเริ่ม ต่อให้ซูหมิงเร็วกว่านี้อีกก็ยังหลบไม่พ้น ทว่าตอนนี้ต่างออกไป!
หนามกระดูกเก้าอันช้าลง เหมือนกับร่างหนามเดินทางอยู่ในกาลเวลา ประหนึ่งว่าระหว่างพวกมันกับซูหมิงมีสิ่งกีดขวางไร้รูปอยู่ อีกทั้งเพราะพวกมันเปลี่ยนทิศทางไป จึงดูเหมือนว่าซูหมิงพุ่งไปหาหนามกระดูกเหล่านั้น ทว่าความจริงแล้วช่วงที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้กัน ตัวซูหมิงขยับแสงวูบวาบติดกันหลายครั้งแล้ว
ทุกครั้งที่เปล่งแสงวูบวาบจะหลบหนามกระดูกที่ตรงเข้ามาพ้น หากมองจากไกลๆ ภาพนี้จะเป็นภาพลวงตาว่าซูหมิงปะทะกับหนามกระดูกที่กลายเป็นสายรุ้งยาวสีดำเก้าสาย ทว่ากลับไม่มีเสียงกึกก้องดังขึ้น หนามกระดูกเก้าอันนั้นพุ่งผ่านร่างซูหมิง ก่อนไปปักบนผืนดินที่กำลังถูกน้ำทะเลจม
เวลานี้ทะเลท่วมมือซ้ายเทพหมานที่ตั้งตระหง่านอยู่บนผืนดินไปครึ่งหนึ่งแล้ว พอหนามกระดูกพุ่งเข้าไปเลยทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีดำในแวบเดียว!
ไอหนาวกระจายอบอวลไปรอบๆ
หลังจากซูหมิงหลบหนามกระดูกเก้าอันแล้วก็ยังไม่ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย เขายกมือขวาชกใส่ซือหม่าซิ่น ด้วยความรวดเร็ว ชั่ววินาทีที่ดาบกระดูกในมือซือหม่าซิ่นยังไม่ฟันลง ก็ถูกชกตรงหน้าอกเข้าเต็มๆ เสียงโครมดังสนั่น ซือหม่าซิ่นเบิกตากว้างพร้อมกับกระอักเลือดอีกครั้ง ตัวเขาเดิมทีควรจะกระเด็นถอยไป ทว่าดาบกระดูกในมือกลับดึงเขาไปฟันซูหมิง
เมื่อเป็นเช่นนั้น พลังงานสองชนิดที่เดินหน้าและฉุดหลังจึงปะทุในตัวซือหม่าซิ่น ทำให้ร่างเขาฉีกออกกลายเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือมือขวากับดาบกระดูก อีกส่วนคือร่างที่เหลืออยู่ เวลานี้ร่างกระเด็นถอยไป พลังชีวิตก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
แต่ถึงแม้หมัดของซูหมิงจะทำให้ซือหม่าซิ่นแยกออกจากดาบกระดูก และยังทำให้บาดเจ็บสาหัส ทว่าดาบกระดูกยาวหนึ่งจั้งนี้กลับฟันลงมายังเขาพร้อมกับเสียงฉีกอากาศเล็กแหลม
ไม่มีโอกาสหลบแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นวิชาแห่งอดีตย้อนเวลาก็ไม่มีผลมากนักในตอนนี้ ดาบกระดูกห่างจากศีรษะซูหมิงไม่ถึงสองจั้งแล้ว มันแผ่กระจายไอหนาวเยือกที่ทำให้เขาหนาวสั่นไปทั้งตัว
ทันใดนั้นซูหมิงเงยหน้าขึ้น เรียกระฆังเขาหานออกมาปะทะกับดาบกระดูก นอกจากนี้บนระฆังยังมีร่างมายาของจิ่วอิงด้วย
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เสียงร้องคำรามแหลมดังกึกก้อง พบว่าสามเศียรของจิ่วอิงระเบิดกระจุย แม้แต่ร่างที่เหลือยังเลือนหายไปในพริบตา ตอนที่มันกลับมาอยู่ในระฆังเขาหานอีกครั้ง ดาบกระดูกก็ฟันใส่ระฆังพร้อมกับกลิ่นอายชั่วร้ายเหลือล้น
ระฆังส่งเสียงดังอื้ออึง ก่อนเกิดเสียงดังแกรก ระฆังเขาหานอันแข็งแกร่งใบนี้เกิดรอยร้าวหนึ่งเส้นเล็กๆ ตรงจุดที่ดาบกระดูกฟันลง
ทันทีที่เกิดรอยร้าว ระฆังเขาหานหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ก่อนถูกสะท้อนกลับเข้าไปร่างซูหมิง แต่ตอนนี้เอง อานุภาพจากดาบกระดูกก็อ่อนลงไปเล็กน้อย ทว่าก็ยังคงฟันใส่ซูหมิงพร้อมกับจิตสังหารเช่นเดิม
เหมือนกับว่าหากไม่สังหารซูหมิงให้สิ้น ดาบนี้จะไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย
ซือหม่าซิ่นอยู่ไกลออกไป ในเศษร่างของเขาพลังชีวิตไม่เหือดหายอีก แต่เหมือนมีพลังชีวิตจำนวนมากส่งมาจากยมโลก ร่างกายจึงฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ทว่าความเร็วในการฟื้นตัวดูช้าลงมากเมื่อเทียบกับตอนเจอซูหมิงในฝ่ายนภา
“ซูหมิง เจ้าต้องตายด้วยดาบกระดูกเทพหมานของข้า!” ซือหม่าซิ่นถอยไป ขณะร่างกายฟื้นตัวก็เงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาจ้องซูหมิงเขม็ง เสียงกับรอยยิ้มผสานรวมกัน ชั้นน้ำแข็งด้านบนถล่มลง น้ำทะเลจึงหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก ตอนนี้ผิวน้ำทะเลท่วมมือซ้ายเทพหมานไปมากกว่าครึ่งแล้ว
“ก็ไม่แน่!” ซูหมิงยิ้มเยาะ ชั่วขณะที่ดาบกระดูกฟันลงมา เขายกมือขวาขึ้นกดไปยังดาบกระดูก ทันใดนั้นเอง ตรงกลางฝ่ามือปรากฏหม้อสามขาหลอมโอสถหนึ่งใบ!
หม้อโอสถใบนี้ซูหมิงใช้สำหรับหลอมยา ทว่าถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็ยังเป็นหม้อ เพียงแต่ว่าฮวง (รกร้าง) ในหม้อใบนี้…..เป็นของศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าหมานในราชวงศ์ต้าอวี๋ แม้บอกว่าหม้อโอสถนี้ไม่ใช่หม้อฮวง ลักษณะมันก็คือหม้อ จะต้องมีพลังที่มันควรมีอย่างแน่นอน
มีเสียงโครมครามดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่หม้อโอสถปะทะกับดาบกระดูก ท่ามกลางเสียงดังสนั่น หม้อใบนี้เกิดรอยร้าวขึ้น ส่วนความเร็วของดาบกระดูกชะงักไปครู่หนึ่งอีกครั้ง พร้อมกันนั้นซูหมิงยกมือซ้ายคว้าอากาศ กระบองเขี้ยวพลันปรากฏในมือ ก่อนรีบเก็บหม้อแล้วฟาดกระบองไปยังดาบกระดูกที่กำลังฟันลงมา!
เมื่อดาบกระดูกปะทะกับกระบองเขี้ยวก็เกิดเป็นเสียงดังกึกก้องถึงที่สุด ชั้นน้ำแข็งด้านบนเกิดรอยร้าวลุกลามไปอีกครั้งแล้วจึงระเบิดออก ทำให้น้ำทะเลทะลักเข้ามามากขึ้น!
ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระบองเขี้ยวแตกหักเป็นเสี่ยงๆ ซูหมิงถือครองกระบองมาจนถึงตอนนี้ สุดท้าย….มันแตกเป็นเสี่ยงแล้วระเบิดกระจายออก ดาบกระดูกถูกลดพลังและความเร็วซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยามนี้เหลือไม่ถึงสามส่วนของก่อนหน้านี้ มันทะลวงผ่านกระบองเขี้ยว ฟันลงมายังซูหมิง ซูหมิงไม่ใช้ของวิเศษใดๆ อีก แต่ยกสองมือขึ้นประกับไปยังดาบกระดูกเหนือศีรษะตนพร้อมกับเปล่งเสียงคำราม!
ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน สองมือกดต้านดาบกระดูกที่อยู่สูงจากศีรษะตนเพียงเจ็ดชุ่น!