บทที่ 174 ขึ้นครอง
คนที่เข้ามาปรนนิบัติสวมใส่ชุดคลุมมังกรแสนทรงอำนาจให้อวี่มั่ว ชุดคลุมมังกรอยู่บนร่าง ทันใดนั้นก็แผ่แสดงความทรงอำนาจออกมากระแสหนึ่ง
เทียนซีมองเห็นอย่างชัดเจนจากอีกฝั่ง อวี่มั่วมีอำนาจของการเป็นเจ้าแผ่นดินอยู่จริง หลังจากนี้ไม่รู้จะเป็นเช่นไร แต่เมื่อดูจากตอนนี้คือช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรือง ทรงอำนาจมากที่สุด
สุดท้ายอวี่มั่วมองเทียนซีทีหนึ่ง จากนั้นเดินออกไป หลานเยี่ยและหลานเฟิงยืนดูพวกเขาถ่ายทอดตำแหน่งจากที่ไกลๆ
ฮ่องเต้องค์ก่อนสีหน้าไม่พอใจ หลังจากรู้ว่าตนเองชักศึกเข้าบ้าน แม้เคยคิดจะจัดการเอาชีวิตแล้วกลับมารุ่งเรืองใหม่ แต่เพราะไม่มีทหารไม่มีกำลัง ไม่อาจก่อให้เกิดการคุกคาม
ขันทีชราผู้หนึ่งอ่านประกาศราชโองการลงจากบัลลังก์ของฮ่องเต้องค์ก่อน พร้อมมอบตำแหน่งให้อวี่มั่ว ฮ่องเต้องค์ก่อนอยู่ด้านบน อวี่มั่วอยู่ด้านล่าง
อวี่มั่วคุกเข่าลงทำเรื่องต่างๆ นานาตามที่ผู้ที่มีกำหนดเป็นการพิเศษ ฮ่องเต้องค์ก่อนถือตราหยกรอพิธีการดำเนินการต่อไป
ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นอย่างมาก เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็จะเห็นนกห้าสีจำนวนหนึ่งบินผ่าน ก้อนเมฆบนท้องฟ้าก่อรวมกันเป็นรูปร่างมังกร
“อำนาจแห่งผู้นำ อวี่มั่วเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมแล้วจริง” หลานเยี่ยอิงแอบอยู่บนร่างหลานเฟิง มองดูหมู่เมฆบนท้องฟ้า
“เขาเกิดมาก็เพื่อจะเป็นผู้นำ ราชสำนักอยู่ภายใต้การจัดการของเขาน่าจะดีเป็นอย่างมาก” หลานเฟิงกอดหลานเยี่ย มือม่ายปัดป่ายไปทั่วร่างกายเขา หลานเยี่ยปล่อยตามใจเขา ไม่สนใจ
“เจ้าว่ารอจนเขาสวมพระมหามงกุฎเสร็จแล้วจะทำอะไรต่อไป” หลานเยี่ยถามขึ้น พิธีการด้านบนกำลังเนิน ลำดับขั้นตอนทั้งหมดล้วนไม่ถูกลดทอน
“น่าจะจัดการพรรคพวกที่เหลือของตระกูลเยี่ยกระมัง” หลานเฟิงตอบเขา
“ข้าว่าไม่ใช่ พวกเรามาพนันกันดีหรือไม่ ดูว่าพวกเราใครจะทายถูก” หลานเยี่ยเกิดนึกสนุก ท้าพนันกับหลานเฟิง
“พนันอะไร พนันว่าอีกฝ่ายจำต้องเชื่อฟังคำพูดอีกฝ่ายหนึ่งวันเป็นอย่างไร” หลานเยี่ยยิ้มมองหลานเฟิง หลานเฟิงรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร
“ได้ เช่นนั้นข้าพูดก่อน ข้าพนันว่าสิ่งแรกที่อวี่มั่วจะทำหลังจากนี้คือแต่งตั้งเทียนซีเป็นฮองเฮา ถือครองตราพญาหงส์”
“เจ้าเล่นลูกไม้ เมื่อครู่เจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้ ไม่ได้ เอาใหม่ ข้าพูดก่อน” หลานเยี่ยยื่นมือไปปิดปากหลานเฟิง แต่กลับถูกหลานเฟิงจับไว้
“ตอนนี้ตาเจ้าพูดแล้ว” ในดวงตาหลานเฟิงเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แม้สีหน้าจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
“ข้า ข้า ข้าพนันว่าหลังจากอวี่มั่วขึ้นครองราชย์แล้ว เรื่องแรกที่จะทำคือแต่งตั้งพระชายาหลิ่วเป็นไทเฮา หึ!” หลานเยี่ยเห็นว่าคำพูดของตนโดนขโมยไปแล้ว ก็พูดการคาดเดาอีกอย่างออกมา
“พนันหนึ่งวัน”
“อืม หนึ่งวัน”
“หากแพ้ อย่าร้องไห้ก็แล้วกัน” หลานเฟิงกลั้นขำ หลานเยี่ยเหมือนเผชิญหน้ากับศึกใหญ่ คิดถึงชีวิตอันน่าอนาถในกลางดึกทุกวันหลังจากที่เปิดประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว ทันใดนั้นแผ่นหลังก็เย็นเฉียบ
“รอก่อน ข้าขอคิดก่อน” หลานเยี่ยห้ามไม่ให้หลานเฟิงพูดต่อ
“ตกลงกันแล้วว่าหนึ่งวัน ห้ามคืนคำนะ” หลานเฟิงกลั่นแกล้งกดตัวลงไป ปิดปากหลานเยี่ยเอาไว้ จุมพิตที่เพิ่มความดูดดื่ม
พิธีการด้านบนดำเนินมาสักพักหนึ่ง ฮ่องเต้องค์ก่อนลงมาแล้ว บนเวทีเหลือเพียงอวี่มั่วยืนอยู่เพียงลำพัง ผู้คนด้านล่างทั้งหมดล้วนคุกเข่าลง เสียงฮ่องเต้อายุยืนนาน นับหมื่นปีดังขึ้นไปทั่วฟากฟ้า
หลานเฟิงปล่อยหลานเยี่ย รอเรื่องต่อไปที่อวี่มั่วจะทำพร้อมกับหลานเยี่ย
“ขุนนางทุกท่านลุกขึ้น” อวี่มั่วยกมือขึ้น แสดงให้เห็นว่าพิธีการเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์
“ขอบพระทัยฮ่องเต้”
“วันนี้ข้าขึ้นครองราชย์ ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องประกาศหนึ่งเรื่อง วันนี้ข้าแต่งตั้งฮองเฮา ซื่อจือตระกูลเทียน เทียนซี ไม่อาจเห็นเป็นอื่น” อวี่มั่วเอ่ยปาก ใช้น้ำเสียงที่ไม่อนุญาตให้สงสัยในการพูด ทำให้คนที่แต่เดิมมีความสงสัยนั้นไม่กล้าเปล่งเสียง
“ประกาศฮองเฮา เทียนซี”
หลานเยี่ยที่อยู่ข้างล่างไม่คิดเชื่อ
“ที่รัก เจ้าลืมไปแล้วหรือ เมื่อใดที่อวี่มั่วขึ้นครองราชย์ พระชายาหลิ่วก็คือไทเฮา ไม่จำเป็นต้องประกาศ และไม่ต้องเพิ่มยศ”
“ข้าผิดไปแล้ว ฮือออ” หลานเฟิงไม่ปล่อยให้หลานเยี่ยพูดต่อ