ตอนที่ 122-3
ผู้ชมที่ตกตะลึง!
“ดูสิ นั่นอะไรน่ะ!”
ทันใดนั้น ก็มีคนชี้ไปที่มู่ชิงเกอบนเวทีประลอง และแสดงท่าทางตกตะลึงออกมา
ทุกคนเห็นเพียงว่า ระหว่างช่องว่างเล็ก ๆ ตรงฝาหม้อได้มีกลุ่มควันบริสุทธิ์หลายกลุ่มเกิดขึ้นดังภาพในจินตนาการและก่อตัวรวมกันเป็นแพเหนือหม้อยาดังก้อนเมฆ
“เมฆาโอสถ!” บุคคลลึกลับบนอัฒจันทร์พูดขึ้นอย่างแฝงความตื่นตระหนกหลังจากที่เห็นฉากนี้
“เมฆาโอสถ” ได้คลายข้อสงสัยให้กับผู้คนแทบจะในทันที “ เป็นสัญญาณอันดี ก่อนที่ยาระดับสูงจะสำเร็จ”
หน้ากระจก หัวชางซู่เห็นว่าบนหม้อปรุงยามีกลุ่มควันเกิดขึ้น ก็พึมพำว่า “เมฆาโอสถ ช่างเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์แตกต่างโดยแท้!”
“เปลี่ยนสภาพอีกแล้ว!” บนอัฒจันทร์ผู้คนต่างตื่นเต้นจนถึงขีดสุด
ช่วงที่ยาระดับสูงจะออกจากหม้อยา มีคนจำนวนมากยังไม่เคยเห็น
แน่นอนว่า หัวหน้าหัวและท่านอาจารยํโหลวจะไม่ปรุงยาต่อหน้าธารกำนัลตามใจชอบ และเหมยจื่อจ้งก็มักเก็บตัวเงียบ ป้ายรับรองความสามารถระดับสูงที่อยู่ตรงเอวของเขา ก็ได้มาจากการปรุงยาระดับสูงเมื่อครั้งทดสอบเข้าสู่โรงโอสถ
เขาไม่เคยปรุงยาระดับสูงในที่สาธารณะ เพราะฉะนั้น จึงมีคนจำนวนมากที่เพิ่งจะเคยเห็นการปรุงยาระดับสูง เมฆาโอสถที่เกิดขึ้น ค่อย ๆ กระจายออก แล้วกลายเป็นดอกไม้เล็ก ๆ เจ็ดดอก กลิ่นหอมยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ดอกไม้ทั้งเจ็ดดอกยิ่งประณีตงดงามและเด่นชัดขึ้น เรื่อยๆ ราวกับเป็นดอกไม้จริงๆ อย่างไรอย่างนั้น
“นี่คืออะไรอีก” จูหลิงถามอย่างงุนงง
แต่ว่า เหมยจื่อจ้งกลับไม่ตอบ
เรื่องนี้ทำให้จูหลิงไปต่อไม่ได้จึงมองซางจื่อซูด้วยสายตาที่ขอความช่วยเหลือ
ซางจื่อซูไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ทำได้เพียงพูดกับเหมยจื่อจ้งว่า “ศิษย์พี่ จื่อซูเองก็สงสัย” นางหวังจะเป็นนักปรุงยาระดับสูงมานาน
คำถามของจูหลิง เหมยจื่อจ้งสามารถทำเป็นไม่สนใจได้ แต่ว่าสำหรับซางจื่อซูเขากลับไม่ปฏิเสธ “สิ่งนี้มีชื่อว่า บุษบงโอสถ เท่าที่ท่านอาจารย์เคยกล่าวเอาไว้ หลังจากที่เข้าสู่ระดับขั้นของนักปรุงยาระดับสูง ในขณะที่ปรุงยา จะมีเมฆาโอสถและบุษบงโอสถปรากฏขึ้น สำหรับเมฆาโอสถจะต้องมีสัญญาณบ่งบอกก่อน ส่วนบุษบงโอสถนั้น จะแตกต่างออกไปตามยาที่ปรุง หากว่าคุณภาพของยาดีจนถึงขั้นสูงก็จะมีบุษบงโอสถปรากฏขึ้นยิ่งมีปริมาณมากและเหมือนจริงแค่ไหน ก็ยิ่งบ่งบอกถึงคุณภาพของยาที่มากเท่านั้น”
“ถ้าเช่นนั้น ยาระดับสูงที่ศิษย์น้องมู่ปรุงขึ้นมา ก็มีคุณภาพไปถึงขั้นยาระดับสูง กระทั่งเกินคุณภาพสูงไปอีกอย่างนั้นหรือ”จ้าวหนานซิงพูด
เหมยจื่อจ้งพยักหน้าเล็กน้อย และยอมรับกับความเห็นนี้ของเขา
“ยาระดับสูงที่มีคุณภาพสูงอย่างนั้นหรือ แม้กระทั่งท่านอาจารย์เองก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถปรุงได้สำเร็จทุกครั้ง เขาเป็นใครกัน” จูหลิงถามขึ้นอย่างตกตะลึงเป็นที่สุด
เพราะความตื่นตระหนกของจูหลิง ทำให้ซางจื่อซูเองก็หันไปมองมู่ชิงเกอ ความนิ่งสงบในดวงตาได้มีความสงสัยเข้ามาแทนที่
“ยาระดับสูง กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าเป็นยาระดับสูงสุด! ช่างเป็นยอดฝีมือที่พานพบได้ยากในรอบหลายพันปี!” ดวงตาของผู้ที่ใช้ผ้าคลุมคลุมหน้าอยู่ฉาย ประกายความต้องการอย่างแรงกล้า
ตรงหน้ากระจก หัวชางซู่จ้องดอกไม้เจ็ดดอกที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ นัยน์ตาฉายความริษยาเป็นริ้วๆ “บุษบงโอสถ”
“ศิษย์พี่ ท่านเคยปรุงยาจนเกิดเป็นบุษบงโอสถหรือไม่” อยู่ ๆ จ้าวหนานซิงถามด้วยความสงสัย
คำถามนี้ดึงดูดความสนใจจากจูหลิงและซางจื่อซู ทั้งสองต่างหันไปมองเหมยจื่อจ้ง
เหมยจื่อจ้งส่ายหน้าและเผยรอยยิ้มขมขื่น “ไม่เคย”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ ก็ทำให้ทั้งสามตื่นตระหนกขึ้นอีกหน เรื่องที่เหมยจื่อจ้งเองยังทำไม่ได้ มู่เกอกลับสามารถทำได้อย่างง่ายดาย หมายความว่าอย่างไร หรือว่าทักษะการปรุงยาของมู่เกอจะเหนือกว่าเหมยจื่อจ้ง! หากเป็นเช่นนั้น จากนี้บุคคลต้นแบบอันดับหนึ่งของโรงโอสถก็ต้องเปลี่ยนคนอย่างนั้นหรือ!
“บุษบงโอสถ!” เตียวหยวนกัดฟันพูดคำเหล่านี้ และพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ฟ่งอวี๋กุย เจ้าช่างกล้า!”
ฟ่งอวี๋กุยไม่รู้ว่าบุษบงโอสถคือสิ่งใด แต่ว่า จากคำพูดของเตียวหยวนในคราวนี้มู่ชิงเกอคงจะทำสำเร็จแล้ว เขาจึงรีบหาทางเอาตัวรอด “ศิษย์พี่เตียว จะเป็นไปได้ หรือไม่ที่ความแข็งแกร่งทางพลังจิตของเขาทำให้ผลกระทบที่ยานั้นมีต่อเขาถูกจำกัดฤทธิ์ลง”
เตียวหยวนมองเขาอย่างเย็นเยียบแวบหนึ่ง แต่ไม่พูดอะไรอีก ปากเม้มแน่นจนกลายเป็นเส้นตรง บนอัฒจันทร์คนจำนวนมากล้วนตะลึง รวมทั้งท่านอาวุโสและซ่งอวี้ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
บางที อาจจะไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกในตอนนี้ของพวกเขาได้
ท่านอาวุโสผู้คุมเวทีการประลองตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยได้มีโอกาสได้เห็นการถือกำเนิดของยาระดับสูงเช่นนี้และซ่งอวี้ก็ราวกับตกลงไปอยู่ในบ่อน้ำ ไม่กล้าจินตนาการถึงจุดจบของตนเอง
มู่ชิงเกอที่ในตอนนี้ได้กลายเป็นจุดสนใจ ในตอนนี้กลับเพียงแค่ขมวดคิ้ว และคิดในใจว่า ‘ในตอนแรกเพียงแค่อยากจะปรุงยาระดับสูงธรรมดา ๆ เม็ดหนึ่ง เหตุใดจึงได้ ยาที่มีคุณภาพสูงมากถึงเพียงนี้ เกินจากที่คาดการณ์เอาไว้! อีกประการหนึ่งความแข็งแกร่งของพลังจิตราว กับจะแตกต่างไปจากอดีต นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน’
ทันใดนั้น ดอกไม้เจ็ดดอกที่ดูประณีตและเพิ่งเกิดขึ้นก็ได้ก่อตัวเป็นกลุ่มควันสีขาว แล้วลอยเข้าไปในหม้อยาผ่านช่องว่างบนฝาหม้อ
จากนั้น ก็ได้ยินเสียง ‘วิ๊งๆ’ จากหม้อยา
“จะสำเร็จแล้ว!” เหมยจื่อจ้งพูดอย่างแนบนิ่ง
ความจริงแล้ว แม้เขาจะไม่พูด ทุกคนก็พอจะเดาออกว่า จะเกิดเรื่องอันใดขึ้น แทบจะทุกคนต่างค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย พลางจ้องทุกการเคลื่อนไหวบนเวทีอย่างไม่ยอมพลาดเลยแม้แต่เสี้ยววินาที ในตอนนี้ ซ่งอวี้เองก็ตื่นเต้นเป็นที่สุด
เขาหวังมากกว่าใครว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น มู่ชิงเกอจะล้มเหลวในตอนท้าย!
เสียดายที่ในคราวนี้ สวรรค์ไม่ได้ยินคำอธิษฐานของเขา
วิ้ง———-!
ฝาหม้อลอยขึ้นฟ้าไปอยู่อีกข้างอย่างกะทันหัน ยาที่ส่องแสงประกายสีครามเขียวเม็ดหนึ่งพุ่งตัวออกมา แสงสีครามเขียวอันแสบตาได้ปกคลุมทั่วทั้งเวทีประลองในทันที ในขณะเดียวกันทำให้ทุกคนตกอยู่ภายใต้แสงสีครามเขียว
แสงนั้นเป็นดั่ง เศษแก้วอันสว่างที่ส่องแสงประกาย
กลิ่นหอมจากยา สะกิดใจของทุกคน
ฉากนี้เป็นดั่งภาพในจินตนาการ ทุกคนล้วนตกอยู่ในความหลงใหล มองไปรอบ ๆ อย่างตะลึง พลันยื่นมือออกไป อยากจะรับเม็ดแสงที่ค่อย ๆ ลอยลงมา
“ยาระดับสูงที่มีคุณภาพระดับสูงสุด! และยังมีชิ้นส่วนโอสถปรากฏขึ้น!” บนอัฒจันทร์บุคคลลึกลับได้พูดอย่างตื่นตระหนก
“นี่…นี่คืออะไรกัน หรือจะเป็นชิ้นส่วนจากโอสถ” เหมยจื่อจังก้าวขึ้นไปหนึ่งก้าวอย่างไม่อาจควบคุมได้ และเข้าไปใกล้เม็ดแสงเหล่านั้นพร้อมกับทุกคน
“ชิ้นส่วนโอสถคืออะไร” จ้าวหนานซิงถามอย่างตื่นตระหนก
เหมยจื่อจ้งได้ขาดสติไปเพราะความตื่นตระหนก และตอบอย่างไม่ทันได้คิดอะไรว่า “ชิ้นส่วนโอสถที่ว่านี้ เป็นกากโอสถหลังจากที่โอสถได้ออกจากหม้อแล้ว แต่โดยปกติแล้วกากพวกนี้จะเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า แต่กลับมีผลสำเร็จ 1 ส่วนของโอสถอยู่ด้วย ก็เทียบเท่ากับยาระดับต่ำหนึ่งเม็ด”
“อะไรนะ!” จ้าวหนานซิงฟังแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย
บางทีอาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นมากเกินไป ในขณะที่เหมยจื่อจ้งพูดก็ได้สูญเสียการควบคุมระดับเสียงไป และบรรยากาศในตอนนี้ก็เงียบมาก เพราะฉะนั้น คำพูดเหล่านี้ แทบจะลอยเข้าหูของทุกคน ผู้ที่ได้สติต่างรีบแย่งเม็ดแสงเหล่านั้น โดยเฉพาะในกลุ่มของลูกศิษย์หญิงที่แย่งกันอย่างดุเดือดมาก ทันใดนั้น บนอัฒจันทร์ก็ตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย
“ชิ้นส่วนของโอสถ! หึ ดีๆๆ” หน้ากระจก หัวชางซู่มองภาพบรรยากาศอันวุ่นวาย นํ้าเสียงยากที่จะคาดเดาความรู้สึกได้
“ชิ้นส่วนของโอสถ ชิ้นส่วนของโอสถเชียวหรือ!” เตียนหยวนพูดด้วยนํ้าเสียงอันเย็นเยียบและโหดเหี้ยม สายตาที่เขามองมู่ชิงเกอนั้นริษยาจนฉายความบ้าคลั่ง เขา เคยได้ยินเรื่องชิ้นส่วนโอสถมาก่อน แต่ของสิ่งนั้นได้ยิน แต่ไม่เคยได้สัมผัส ยากที่จะปรากฏ