Skip to content

พลิกปฐพี 158-1

ตอนที่ 158-1

การตื่นของพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน!

“คุณชายมู่ คุณชายมู่! คุณชายมู่!”

เสียงเรียกอย่างเร่งร้อนดังเข้ามาจากด้านนอก ขัดจังหวะการฝึกพลังของมู่ชิงเกอ นางหยุดลมหายใจ แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

ขณะที่มู่ชิงเกอหยุดการโคจรพลัง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาพอดี

“เข้ามา” มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองประตูที่ปิดสนิท ประตูห้องถูกเปิดตามเสียง มีเงาคนสามคนบุกเข้ามา

สองคนในนั้นเป็นสาวใช้ที่ดูแลนางที่นี่ ส่วนอีกคนมีท่าทางตื่นตระหนกก็คือไฉ่เวย

“คุณชายมู่ ขอร้องให้ท่านได้โปรดช่วยเหลือนายหญิงน้อยของข้าด้วย!” ไฉ่เวยกวาดสายตาค้นหาที่อยู่ของมู่ชิงเกอรอบห้องแล้วเดินมาที่นาง

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วขึ้น นัยน์ตาฉายแววไม่เข้าใจ

ในตอนนี้ไฉ่เวยได้เดินมาจนถึงตรงหน้าของนางแล้ว พุ่งมาที่นาง เสียง ‘ตุ้บ’ ดังขึ้น คุกเข่าลง สาวใช้สองคนนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นตาม มองนางด้วยท่าทางขอร้อง

มู่ชิงเกอนิ่งชะงักไป รีบลุกขึ้นจากเตียง ก้มลงไปพยุงไฉ่เวยขึ้นมา “มีเรื่องอะไร ยืนพูดกัน”

ไฉ่เวยถูกมู่ชิงเกอพยุงขึ้นมา ท่าทีเร่งร้อนบนใบหน้าก็ไม่ได้ทุเลาลง เพียงแค่พูดยํ้ากับนาง “คุณชายมู่ ท่านเคยพูดว่าท่านเป็นหมอใช่หรือไม่?”

มู่ชิงเกอชะงัก พยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวของนาง เมื่อได้รับคำยืนยัน บนใบหน้าที่ตื่นตระหนกของไฉ่เวย ในที่สุดก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา นางคว้าจับเอาแขนเสื้อของมู่ชิงเกอแล้วลากออกไปด้านนอก “เช่นนั้นก็ดี ขอเชิญท่านตามข้าไปช่วยนายหญิงน้อย”

มู่ชิงเกอจับแขนเสื้อของตนเองเอาไว้ไม่ขยับ “แม่นางไฉ่เวย เจ้าให้ข้าช่วยเหลือ ก็ต้องบอกข้าว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เมื่อได้ฟังประโยคนี้ของนาง ไฉ่เวยก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง ทั้งยังปล่อยมือที่จับแขนเสื้อของมู่ชิงเกอไว้แน่น

“เป็นข้าที่เสียกิริยาไป” ไฉ่เวยกล่าวพร้อมย่อกายลง

มู่ชิงเกอค่อยๆ ส่ายหน้า มองตรงไปที่นาง “นายหญิงน้อยเป็นอะไรไป?”

ไฉ่เวยสูดจมูกขึ้น เงยหน้าที่ดวงตาแดงก่ำมองไปที่มู่ชิงเกอ กำลังคิดจะคุกเข่าลงอีกครั้ง แต่กลับถูกมู่ชิงเกอหยุดเอาไว้ “คุณชายมู่ ท่านตามข้าไปดูนายหญิงน้อยที เถอะ! อยู่ดีๆ นางก็สลบไป เจ้าหุบเขากลับไม่เชิญหมอไปดูอาการ เพียงแค่ให้นำนางกลับห้อง ทั้งยังสั่งการให้องครักษ์ของหุบเขาเฝ้าดูอยู่ด้านนอกอีก”

“นี่ เกิดอะไรขึ้นอีกอย่างนั้นหรือ?” มู่ชิงเกอรู้สึกมึนงง และรู้สึกว่ามีบางอย่างดูแปลกๆ

ดูเหมือนว่า ในคำพูดของไฉ่เวยนั้นจะซ่อนเงื่อนงำบางอย่างเอาไว้อยู่ ทำให้คนค้นหาเหตุผลอะไรไม่ได้

ลูกสาวของตนป่วยแล้ว กลับไม่รักษาในทันที แต่กลับให้คนเฝ้าไว้หรือว่าเจ้าหุบเขาของหุบเขาสงบใจนี้จะไม่สนใจในลูกในไส้ของตนเอง?

ไฉ่เวยก้าวเท้าอย่างเร่งร้อน ขบริมฝีปากเอ่ยว่า “เรื่องบางเรื่อง เกี่ยวพันถึงความเป็นความตายภายในหุบเขาสงบใจ ข้าที่เป็นเพียงบ่าวรับใช้คนหนึ่งไม่สะดวกที่จะพูด ตอนนี้เพียงแต่ขอให้คุณชายช่วยข้าทำให้นายหญิงน้อยฟื้นขึ้นเท่านั้น แค่เพียงนายหญิงน้อยฟื้นแล้ว ถึงจะสามารถหยุดยั้งการกระทำของเจ้าหุบเขาได้”

‘ดูท่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรปิดบังอยู่อย่างแน่นอน’ มู่ชิงเกอหลุบตาลงครุ่นคิด

ในที่สุด นางก็พยักหน้าภายใต้การรอคอยอย่างใจจดใจจ่อของไฉ่เวย “เอาเถอะ ข้าจะตามเจ้าไปดู ก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณที่นายหญิงน้อยช่วยชีวิต”

คำตอบของมู่ชิงเกอ ทำให้ไฉ่เวยรู้สึกยินดีมาก

นางนำทางมู่ชิงเกอออกจากเรือนรับรอง ระมัดระวังหลบองครักษ์ของหุบเขา มุ่งไปทางเรือนชั้นใน

“คุณชายมู่ ท่านต้องการอุปกรณ์อะไรบ้าง?” เมื่อมองเห็นว่ามู่ชิงเกอมามือเปล่า ไฉ่เวยจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

มู่ชิงเกอส่ายหน้า “ต้องไปดูก่อนว่านายหญิงน้อยสลบเพราะเหตุใด ข้าถึงจะสามารถตอบได้ว่าต้องการอะไรบ้าง”

คำตอบของนางทำให้ไฉ่เวยรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ทันใดนั้น นางก็ไม่พูดมากอีก กลับเร่งฝีเท้า นำมู่ชิงเกอไปถึงเรือนขนาดเล็กที่ดูเงียบสงบและหรูหราหลังหนึ่ง ทั้งสองคนแอบซ่อนอยู่ในเงาของภูเขาจำลอง มองไปทางองครักษ์ที่เดินสำรวจไปมาอยู่หน้าประตูเรือน ไฉ่เวยเอ่ยกับมู่ชิงเกอด้วยเสียงอันเบาว่า “เจ้าหุบเขาสั่ง การให้องครักษ์หุบเขากลุ่มหนึ่งมาเฝ้าประตูนี้ไว้ประตูด้านหลังของพวกเขาเป็นทางเข้าออกของนายหญิงน้อย ที่นี่มีทางเข้าออกแค่ที่เดียว อีกครู่ ข้าจะออกไปล่อพวกเขาจากไป ท่านก็หาจังหวะลอบเข้าไป”

มู่ชิงเกอฟังตาม

อย่ามองว่านี่เป็นแค่สาวใช้เล็กๆ คนหนึ่ง แต่ก็ถือว่ามีความละเอียดรอบคอบ จัดการเรื่องราวรู้จักใช้สมอง รู้จักรับ รู้จักถอย ไม่แข็งขืนบุกเข้าไป!

เห็นว่ามู่ชิงเกอเข้าใจในความหมายของตนเอง ไฉ่เวยก็ค่อยๆ จัดเสื้อผ้าของตนเอง เดินไปทางประตูเรือน

“หยุด!” เพิ่งจะเข้าไปใกล้ไม่เท่าไร ไฉ่เวยก็ถูกหยุดไว้ ไฉ่เวยเงยหน้ามองคนสองคนที่หยุดนางไว้ และข้างหลังของนางก็ยังมีหกเจ็ดคนเดินผ่านไป พวกเขาเป็นเหล่าองครักษ์ที่คอยลาดตะเวนรอบๆ เรือนหลังเล็กอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่หางตาเหลือบเห็นคนไม่กี่คนนั้นเดินไปไกลแล้ว ไฉ่เวยก็ค่อยๆ เอ่ยกับคนทั้งสองที่อยู่ข้างหน้า “อะไร? ข้าเป็นสาวใช้ประจำตัวของนายหญิงน้อย ก็ไม่ สามารถเข้าไปได้อย่างนั้นหรือ?”

องครักษ์สองคนสบตากัน ดูเหมือนจะตัดสินใจไม่ได้ ทันใดนั้น ท่าทางของไฉ่เวยก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก ชี้ไปที่ที่มีเงาของต้นไม้แล้วเอ่ย “นั่นใครกัน?” องครักษ์ทั้งสองพอได้ฟัง ก็รีบเตรียมพร้อมขึ้นในทันที มองไปทางนั้น คนที่ลาดตะเวนเพิ่งจะเดินไป ไม่มีใครที่จะไปตรวจดู

ไฉ่เว่ยทำท่าโกรธเกรี้ยว “พวกเจ้าทั้งสองมัวแต่อึ้งอะไรกันอยู่? ยังไม่รีบไปดูอีก หากไม่ระวังปล่อยไส้ศึกไป ระวังเจ้าหุบเขาจะเอาชีวิตพวกเจ้า!”

เดิมทีองครักษ์ทั้งสองก็ลังเล แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของไฉ่เวยแล้ว ก็ไม่อาจไม่ไปดูทางนั้นได้

เมื่อคนทั้งสองเดินไปไกล ไฉ่เวยก็รีบส่งสายตาไปที่ภูเขาหินทางที่มู่ชิงเกอซ่อนตัวอยู่ ให้เขารีบเข้าไปในตัวเรือน แน่นอนว่ามู่ชิงเกอก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง เดินออกมาจากภูเขาหินอย่างใจเย็น อาศัยจังหวะที่องครักษ์ทั้งสองไม่ทันสังเกต เดินเข้าไปในตัวเรือน ไปตามเส้นทางอันคดโค้งเดินเข้าไป

เมื่อมู่ชิงเกอเข้าไปแล้ว ไฉ่เวยก็ค่อยลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็ยืดตัวตรงขึ้นมา

ในตอนนี้องครักษ์ทั้งสองก็ได้ค้นหาในบริเวณเงาไม้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไร มองหน้ากันอย่างสงสัย แล้วก็รีบกลับไป

“ไม่มีอะไรเลยสักนิด” องครักษ์เอ่ยกับไฉ่เวย

ไฉ่เวยแกล้งทำเป็นแปลกใจ ‘โอ้ว’ ขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วค่อยพึมพำเอ่ย “อาจจะเป็นข้ามองผิดไป”

เห็นนางพูดเช่นนี้องครักษ์ทั้งสองก็ไม่อาจจะซักไซ้ต่อได้ ทำได้เพียงกลับไปเฝ้าที่เดิม

ไฉ่เวยขมวดคิ้วเอ่ย “สรุปแล้วข้าเข้าไปได้หรือไม่? ถ้าเกิดว่านายหญิงน้อยฟื้นขึ้นมาหาคนดูแลรับใช้ไม่เจอ พวกเจ้าใครจะรับผิดชอบ?”

ทั้งสองคนคิดแล้วคิดอีก ในที่สุดก็ยอมให้เข้าไป

“เข้าไปได้แต่ว่าออกมาไม่ได้” ในขณะที่ไฉ่เวยเหยียบเข้าไปในเรือน หนึ่งในองครักษ์ก็เอ่ยเตือนขึ้นมาในทันที

ไฉ่เวยเหลือบตามองที่เขา

เขาเอ่ยเพิ่มเติมว่า “เจ้าหุบเขามีคำสั่ง ไม่ให้ใครออกจากเรือนหลังนี้!”

ท่าทางที่แข็งกร้าว ทำให้ไฉ่เวยไม่พอใจ นางสบถคำหนึ่ง แล้วก็หันกลับเดินไปในเรือนหลังเล็กโดยไม่หันกลับมามองด้านหลังอีกเลย ขณะนั้น มู่ชิงเกอที่เข้ามาก่อนก็ได้ เดินมาถึงเตียงนอนที่ล้อมไปด้วยผ้าม่านแล้ว

ด้านหลังของผ้าม่าน มีเงาคนรางๆ เอนนอนอยู่

มู่ชิงเกอยืนด้านข้างเตียง ยังไม่ทันได้แหวกผ้าม่าน

“คุณชายมู่” ด้านหลังก็มีเสียงเรียกของไฉ่เวยดังเข้ามา มู่ชิงเกอหันกลับไปมองที่นาง แล้วเอ่ยตอบ “ข้าอยู่ที่นี่” ไฉ่เวยมาถึงกลางห้อง เมื่อมองเห็นมู่ชิงเกอแล้ว สายตา ก็ทอดไปที่บนเตียง นัยน์ตาฉายแววกังวลรีบเดินไปที่เตียง เปิดผ้าม่านไปพลาง พูดไปพลาง “นี่ก็คือนายหญิงน้อยของข้า คุณชายมู่โปรดช่วยเหลือ” ผ้าม่านถูกเปิดออก ดันไปแขวนอยู่ที่หมุดบนเตียง เผยให้เห็นถึงคนบนเตียงนอน

เมื่อมองเห็นชัดแล้ว มู่ชิงเกอก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดเลยว่านายหญิงน้อยแห่งหุบเขาสงบใจกลับเป็นเพียงหญิงสาวอายุเยาว์ผู้หนึ่ง!

ใบหน้าของหญิงสาวนั้นถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขาว ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าทั้งหมด แต่ว่าหว่างคิ้วที่โผล่ออกมา ก็เผยให้เห็นถึงความงดงามบริสุทธิ์

คิ้วที่โค้งยาวไม่ขยับ ดูเหมือนจะกำลังหลับฝันหวาน “คุณชายมู่?” ไฉ่เวยไม่ได้ยินคำตอบของมู่ชิงเกอ จึงอดไม่ได้ที่จะร้องเรียก

มู่ชิงเกอกะพริบตา เอ่ยกับไฉ่เวยว่า “ดูจากการหายใจของนายหญิงน้อยแล้ว ดูไม่เหมือนท่าทางของคนป่วย นางดูเหมือนว่าจะแค่หลับลึก”

นางพูดไม่ออกถึงความคิดแรกของนาง

ท่าทางของไฉ่เวยดูหดหู่ลงแล้วเอ่ยว่า “ในครั้งนี้สาเหตุที่นายหญิงน้อยสลบนั้นไม่ธรรมดา เพื่อนายหญิงน้อย เพื่อหุบเขาสงบใจ ยังคงต้องขอให้คุณชายมู่พยายามช่วยด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว” มู่ชิงเกอพยักหน้า เดินผ่านไฉ่เวยไป นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version