Skip to content

พลิกปฐพี 61

ตอนที่ 61

เคยเล่นกิจกรรม 30 คน 31 ขาหรือไม่

วันนั้นที่คัดเลือกทหารออกมาเตรียมเป็นองครักษ์ของมู่ชิงเกอมีจำนวนทั้งหมด 670 นาย

นางเคยบอกมู่ซงไว้ว่า 10 วันหลังจากนั้นจะคัดออกอีก 170 นาย

วันนี้ก็ย่างเข้าวันที่ 10 แล้ว

มู่ชิงเกอออกจากห้องปรุงยาแต่เช้า หลังจากที่อาบนํ้าเสร็จ ก็พามั่วหยางออกจากจวนตระกูลมมู่เพี่อไปยังพื้นที่ว่างโล่งในค่ายทหารตระกูลมู่ ทหารจำนวน 670 นายยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เสื้อเกราะถูกถอดออกตามคำสั่งของมู่ชิงเกอเหลือเพียงแค่เสื้อและกางเกงที่ใส่ติดตัวกับรองเท้าอีกคู่หนึ่ง ชายหนุ่มพวกนี้ใบหน้าต่างก็ยังดูไร้เดียงสาแต่ก็ถูกฝึกฝนจนดูมีพลังและความอดทน มู่ชิงเกอมองไปกับรอบๆ สำหรับการคัดเลือกในครั้งนี้ นางยังคงพอใจอยู่บ้าง

ขอแค่พวกเขาอดทนผ่านการฝึกของนางไปได้นางจะพาพวกเขาเข้าสู่การฝึกฝนขั้นที่สูงกว่า มอบโลกอีกใบที่ต่างจากเดิมแก่พวกเขาเหล่านี้

“มั่วหยาง เตรียมของเรียบร้อยหรือยัง” มู่ชิงเกอพูดกับมั่วหยางที่อยู่ข้างๆ

มั่วหยางลุกขึ้นยืนได้ในมือถือถุงผ้าใบหนึ่ง พูดกับมู่ชิงเกอว่า “คุณชาย เตรียมเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วขอรับ”

“ดี” มู่ชิงเกอพยักหน้าและสั่งอีกว่า “แจกเลย”

มั่วหยางถือถุงผ้าเดินไปยังทหารทั้ง 670 นายและเปิดถุงผ้าท่ามกลางความสงสัยของทุกคนแล้วล้วงเอาของในนั้นออกมา

“แถบผ้าอย่างนั้นหรือ?”

เมื่อรับของที่มั่วหยางยื่นมาให้แล้วทุกคนก็ยิ่งดูสงสัย

วันนั้นพวกเขาถูกคัดเลือกจากวิธีการแปลกประหลาดของคุณชาย ในตอนแรกคิดว่าจะได้เป็นองครักษ์ของคุณชายเลยแต่สุดท้ายคุณชายให้เวลาพวกเขาถึง 10 วัน

พวกเขาต้องทนสายตาแปลกๆ จากเพื่อนทหารที่มองมายังพวกเขาในเวลา 10 วันที่ผ่านมานี้และยังมีการคาดเดาต่างๆ นานาที่ไม่เข้าหูบ้าง วันนี้มาปรากฎตัวอยู่ในที่แห่งนี้ ตอนนี้มู่ชิงเกอแจกแถบผ้าให้พวกเขาคนละแถบ จะเล่นอะไรกัน?

หรือว่าจะเหมือนที่คนอื่นๆ พูดกันว่าแท้จริงแล้วคุณชายไม่ได้หาองครักษ์ แต่ เพียงหา สหายไปเล่นด้วย

ไม่นานทุกคนก็ถือแถบผ้าใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย หลังจากที่แจกแถบผ้าเสร็จ มั่วหยางไม่ได้กลับไปยืนข้างๆ มู่ชิงเกอแต่อย่างใด กลับไปยืนอยู่ตรงท้ายแถว มู่ชิงเกอมองสีหน้าของทุกคนแล้วยิ้มพร้อมพูดว่า “ตอนนี้หากมีใครอยากจะถอนตัวไม่อยากเป็นองครักษ์ของข้าแล้ว ก็ไปเถิด ข้าจะไม่ตำหนิอะไร” พอนางพูดจบก็เต็มไปด้วยเสียงฮือฮา คนที่ลังเลอยู่แล้วยิ่งมีอาการลังเลมากขึ้น ครู่หนึ่งก็มีคนถอยออกจากแถว สายตาที่มองมู่ชิงเกอนั้นมีความรู้สึกผิดอยู่บ้าง พอคนสุดท้ายที่ออกจากแถวเดินออกไปก็เหลืออยู่เพียง 537 นาย

นั่นหมายความว่ามู่ชิงเกอยังต้องคัดออกอีก 37 นาย การฝึกของนางจะให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นนางยอมที่จะทุ่มเทเลือกทหารทั้ง 500 นายอย่างละเอียดรอบคอบในตอนแรก เพราะทหารทั้ง 500 นายนั้นเมื่อถูกเลือกแล้วก็ต้องอยู่กับนางไปชั่วชีวิต

หากมีผู้ใดกล้าทรยศ นางจะส่งมันไปโลกหน้าด้วยตัวเอง

สายตาอันสว่างสดใสนั้นมีความเยือกเย็นแฝงอยู่ นางเดินไปหาทหารทั้ง 537 นายแล้วยิ้มพลันพูดว่า “เคย เล่นกิจกรรม 30 คน 31 ขาไหม?”

30 คน 31 ขาอะไรกัน? พวกเขาไม่ใช่ตะขาบนะ

คนที่เหลือใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

ไม่มีใครรู้ มู่ชิงเกอคิดอยู่แล้ว เพราะหากมีคนรู้คงจะทำให้นางแปลกใจอยู่ไม่น้อย

“30 คน 31 ขา คือให้พวกเจ้าแบ่งกลุ่มกันเอง กลุ่มละ 30 คน ส่วน 9 คนที่เกินมาให้ย้ายไปอยู่อีก 9 กลุ่มใดก็ได้ ที่เหลือหลังจากแบ่งเสร็จแล้วก็จัดเป็นแถวแล้วมัดขาของพวกเจ้ากับคนข้างๆ” มู่ชิงเกออธิบายกับทุกคนหลังจากนั้นก็ชี้ไปยังเส้นชัยที่ห่างออกไป 100 กิโลเมตร

พร้อมพูดว่า : “หลังจากนั้นพวกเจ้าเดินไปยังเส้นชัยที่ปักธงอยู่ตรงนั้นก็ถือว่าสำเร็จ ก่อนฟ้ามืดคนที่ถึงก่อนจะได้เป็นองครักษ์ของข้า อีก 37 คนที่เหลือถือว่าไม่ผ่านการคัดเลือก แน่นอนว่าเพราะจำนวนคนทำให้ยากที่จะคัดออก 37 คนเพราะฉะนั้นหลังจากที่มีกลุ่มที่ชนะจำนวน คนของกลุ่มที่เหลือก็จะมีการเปลี่ยนแปลง จนกว่าจะเหลือแค่ 37 คนที่ช้าที่สุด”

“คุณชายนี่หมายความว่าอย่างไร เป็นการละเล่นรึ?” ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวถามคำถามในใจออกมา

มู่ชิงเกอยิ้มพร้อมตอบว่า : “เจ้าก็ถือเสียว่ามันเป็นการเล่นก็แล้วกันเล่นกิจกรรมนี้มีประโยชน์อะไรนั้นข้าหวังว่า 500 คนที่ได้รับการคัดเลือกจะตอบคำถามแก่พวก

เจ้าแทนข้า”

มู่ชิงเกอไม่ได้ให้โอกาสทุกคนได้ดึงสติกลับคืนมาก็สั่งว่า เริ่มการคัดเลือกในกิจกรรมนี้ ณ บัดนี้ หลังจากนั้นคนเกือบ 100 คนที่นั่งดูอยู่ไกลๆ ในใจเต็มไปด้วยความยินดีคิดว่าตนเองโชคดี

และแอบคิดในใจว่า หากตนเองไม่ได้ถอนตัวก็คงจะมีสภาพเหมือนพวกนี้ต้องเล่นเป็นเพื่อนคุณชาย

มู่ชิงเกอไม่ได้สนใจความคิดของคนอื่นๆ และกลับไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ ดูการแข่งขันของทุกคนท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้า

ตอนแรก 537 กว่าคนไม่มีกลุ่มไหนเลยที่สามารถเดินได้ถึง 10 ก้าวหรืออาจจะเดินแค่ 2 ก้าว เป็นต้องล้มกลิ้งลงบนพื้น

ความสับสนวุ่นวายแบบนี้เป็นไปเรื่อยๆ จนดวงตะวันเริ่มจะลับขอบฟ้า

มีบางกลุ่ม หลังจากที่ล้มกลิ้งไม่หยุดก็เหมือนพอจะเริ่มจับเคล็ดได้ และเริ่มเดินได้คล่องแคล่วและว่องไวขึ้น กลุ่มแรกได้ผ่านเส้นชัยไปแล้ว เมื่อมู่ชิงเกอมองไปแล้วพบว่ามั่วหยางก็เป็นหนึ่งในนั้น

นางยิ้มนิ่งๆ แล้วดูต่อไป

หลังจากที่มีกลุ่มแรกที่ชนะก็มีกลุ่มที่สองและกลุ่มที่สาม

คนเกือบ 100 คนที่ถอนตัวออกไปก็ไม่ได้ไปไหนยังคงดู อยู่และเหมือนจะเริ่มมองหลักการของการเล่นครั้งนี้ออก ความดีใจและความยินดีบนใบหน้าก็ค่อยๆ จางหายไป บางคนที่มีสติปัญญาก็เริ่มคิดทบทวนในแววตามีความผิดหวังแฝงอยู่

ในที่สุดก่อนฟ้ามืด ก็ได้คัดเลือก 500 คนสำเร็จแล้ว

พวกเขายืนอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกออย่างขันแข็ง แต่ละคนยืนตัวตรงดุจปืนยาว

คนจำนวนเกือบ 100 คนที่ถอนตัวออกไป ยามนี้ไม่พูดอะไรอีกแต่ยังคงยืนเงียบอยู่นอกสนามและมองสนามรบที่ควรจะเป็นของตนเอง

และ 37 คนที่ตกรอบใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเสียใจ

และผิดหวัง

ทหารตระกูลมู่นั้นไม่ใช่คนโง่เขลา พวกเขาเห็นจุดหมายในกิจกรรมนี้ของมู่ชิงเกอ รู้ว่าคุณชายผู้นี้ไม่ธรรมดา

มู่ชิงเกอเดินไปอยู่ตรงหน้าทหารที่เคยถามคำถามกับนาง “ตอนนี้เจ้าตอบข้าได้หรือยังว่ากิจกรรมนี้ทำเพื่อ อะไร?”

ทหารคนนั้นไม่คิดว่ามู่ชิงเกอจะจำตนเองได้ เขายังจำบทสนทนาของทั้งสองก่อนหน้านี้ได้ท่ามกลางความตื่นตระหนก เขาก็พูดอย่างเขินอายว่า “ข้า ข้าก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรแต่คิดว่ากิจกรรมนี้ไม่ได้ง่ายเลยและหลังจากที่จบเกมแล้ว เหมือนเรากับเหล่าเพื่อนทหารกลมเกลียวกันมากยิ่งขึ้น”

มู่ชิงเกอยิ้มเดินไปหามั่วหยางแล้วถามคำถามเดียวกัน มั่วหยางขมวดคิ้วคิดแล้วตอบว่า “ คุณชาย ข้าไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร ตอนแรกพวกข้าเหมือนทรายที่ฟุ้ง กระจาย แต่สุดท้ายฝีเท้าก็พร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียวกัน จนได้รับชัยชนะ”

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ ถอยไปด้านหลังหลายก้าวพร้อม พูดกับทั้ง 500 คนว่า “นับตั้งแต่บัดนี้พวกเจ้าเป็นองครักษ์ของข้าและข้าจะเป็นคนฝึกพวกเจ้าด้วยตัวเอง”

ข่าวที่มู่ชิงเกอจะเป็นคนฝึกพวกเขาด้วยตนเองนั้น พวกเขาไม่เคยทราบมาก่อน

แต่หลังจากที่นางพูดจบ คนในแถวที่ควรจะแสดงความแปลกใจกลับดูเงียบลงอย่างน่าประหลาด

มู่ชิงเกอยิ้มอย่างพอใจแล้วพูดต่อว่า “ข้ากับท่านแม่ทัพ มีสัญญาต่อกันว่าสามเดือนหลังจากนี้จะมีการประลอง พวกเจ้ามีความมั่นใจหรือไม่?”

“มี!”

ท่าทางองอาจ เสียงดังสนั่นลั่นฟ้า

คำตอบที่เป็นเสียงเดียวกันนี้มีความเข้มแข็งอยู่

มู่ชิงเกอยิ้มมุมปากแล้วเน้นยํ้าว่า “เมื่อครู่ พวกเจ้าถามข้าว่ากิจกรรมนี้ทำเพื่อเหตุใด ข้าคิดว่าพวกเจ้าที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองคงจะเริ่มเข้าใจ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดออกมา อย่างไร ถ้าอย่างนั้นข้าจะเป็นคนพูดเอง กิจกรรมนี้ต้องการทดสอบความเป็นหนึ่งเดียว การร่วมแรงร่วมใจกันของกลุ่ม การช่วยเหลือกันและทำตามคำสั่ง เหล่า องครักษ์ก็ถือเป็นกลุ่มๆ หนึ่ง มีกันทั้งหมด 500 คน แต่ละคนต่างก็มีทัศนคติและความคิดเห็นของตนเอง แต่ในตอนที่ต้องทำตามคำสั่งและต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลง การแก้ไขสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะเช่นนั้นพวกเจ้าต้องมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่เข้มแข็งที่จะสามารถจัดการให้ทุกคนมีความคิดเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อทำตามเป้าหมาย ให้สำเร็จลุล่วงได้ เพียงสามเดือน เวลาของข้าไม่ได้มากนัก เพราะฉะนั้นข้าไม่มีเวลามาขัดเกลาพวกเจ้า ทำได้เพียงใช้กิจกรรมในการคัดเลือกต้นกล้าที่ดีที่สุด”

มู่ชิงเกอชูนิ้วขึ้น 3 นิ้วพูดด้วยนํ้าเลียงที่หนักแน่นว่า “สามเดือน สามเดือนหลังจากนี้ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะไม่เสียใจกับการยืนหยัดในวันนี้”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ทั้ง 500 นายเลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง และทำให้อีก 100 กว่าคนที่ถอนตัวออกไปใบหน้าเริ่มแดงกํ่าเพราะความละอาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!