Skip to content

พลิกปฐพี 796

ตอนที่ 796

เจ้ายังอยู่ ดีจังเลย

“ข้ามีวิธีช่วยเขา”

เสียงหนึ่งดังขึ้นภายในสมองมู่ชิงเกอราวกับแสงอรุณท่ามกลางความมืดมิด นำพาความหวังใหม่มาให้แก่นาง

สองตาที่มืดหม่นราวกับขี้เถ้าเปล่งประกายขึ้นมาในทันที

นางค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ในพริบตานั้นราวกับความมีชีวิตชีวาได้กลับคืนมา

ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ นางอุ้มซือมั่วหายวับไปจากที่เดิม กลับเข้าไปในช่องว่างของตัวเอง

นางรับรู้ถึงการมาของพวกโห่ว แต่ไม่อยากเสียเวลาแม้เพียงนิดเพื่ออธิบายให้พวกเขาฟัง

มู่ชิงเกอนำซือมั่วหายตัวไปเฉยๆ ทำให้พวกชิงเหยียนได้สติกลับคืนมา

“คนเล่า”

“พระชายานำองค์ราชาไปไหนแล้ว”

กู่เย่กับโห่วเข้ามาขวางตรงหน้าพวกเขา เกี่ยวกับช่องว่างของมู่ชิงเกอนั้นทั้งคู่ต่างรู้อยู่แก่ใจ อีกทั้งพวกเขาต่างรู้ว่าในเวลานี้นอกจากมู่ชิงเกอแล้ว ไม่มีใครสามารถ ช่วยซือมั่วได้อีก

“พระชายานำองค์ราชาไปรักษาอาการบาดเจ็บ ทุกคนไม่ต้องตกใจ” กู่หยาบอกทุกคน

“องค์ราชาบาดเจ็บสาหัส สมควรนำกลับวังไท่ฮวงให้หมอหลวงรักษา พระชายาพาองค์ราชาไปไหนแล้ว” สั่วเซิ่งถาม

“ฮึ! หมอหลวงพวกเจ้ามีคนไหนเก่งเท่านังหนูบ้าง หากนางบอกว่าช่วยไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ต้องคิดแล้ว” โห่วพูดอย่างดูแคลน

คำพูดเขาไม่น่าฟังนัก ทำให้คนอื่นไม่พอใจ

กู่หยารีบบอกว่า “เดิมพระชายาเองก็เป็นอาจารย์ปรุงยาระดับมหาเทพ นางสามารถช่วยองค์ราชาได้แน่”

“เป็นอาจารย์ปรุงยาระดับจอมเทพต่างหาก” โห่วเอ่ยแก้ให้อย่างไม่พอใจ

อะไรนะ

อาจารย์ปรุงยาระดับมหาเทพ

อาจารย์ปรุงยาระดับจอมเทพ

พวกชิงเหยียน หลิงจิว สั่วเซิ่ง เซ่อฉินต่างตื่นตกใจ พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่แท้พระชายาพวกเขา นอกจากฝีมือร้ายกาจสุดแสนเรื่องการทหารแล้วยังเป็น อาจารย์ปรุงยาระดับจอมเทพด้วย

แต่ฉับพลันนั้นพวกเขาก็คิดได้ว่า พระชายาที่เก่งกาจปานปีศาจเช่นนี้ แม้เป็นอาจารย์ปรุงยาระดับจอมเทพก็คงไม่แปลกอะไร

พอรู้ฐานะมู่ชิงเกอแล้ว พวกเขาจึงไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บของซือมั่วมากนัก

สั่วเซิ่งว่า “ในเมื่อพระชายาเป็นอาจารยปรุงยาระดับจอมเทพ คิดว่าองค์ราชาก็คงไม่เป็นอะไรมากแล้ว ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรต่อ”

ใช่แล้ว ทำอย่างไรต่อ

เฝ้าอยู่ที่นี่หรือจะจากไป

กู่หยาขมวดคิ้วคิดแล้วบอกพวกเขาว่า “เมื่อพระชายากับองค์ราชาปลอดภัย พวกเราก็กลับริมแม่นํ้าเมิ่งหลานเพื่อดูสถานการณ์ก่อนเถอะ ด้านโน้นเมื่อครู่นี้ก็มี เสียงสู้รบแว่วมา ไม่รู้ว่าสถานการณ์เวลานี้เป็นอย่างไรแล้ว”

คำพูดของเขาได้รับการเห็นชอบจากทุกคน

ขณะที่จากไป โห่วไม่ได้ตามพวกเขาไปด้วย ยังคงรออยู่ที่เดิม คิดจะรอพวกมู่ชิงเกอกลับมา

กู่หยาเองก็ไม่ฝืนใจ เพียงกำชับให้เขาระวังตัว แล้วนำเหล่าเจ้าเมืองย่อยจากไป

ในช่องว่าง มู่ชิงเกออุ้มซือมั่วปรากฎตัวขึ้นในห้องปรุงยา นางไม่ได้ทำให้คนอื่นตื่นตกใจ แม้แต่เหมิงเหมิงที่รับรู้การกลับมาของนางก็ถูกนางห้ามไม่ให้เข้าใกล้

“เจ้ามีวิธีอะไรไหม” มู่ชิงเกอมองเหลียนเฉียวแล้ว ถามเสียงเครียด

อาการของซือมั่วจะรอช้าไม่ได้อีกแล้ว

เหลียนเฉียวเห็นสภาพเลือดชุ่มไปทั้งตัวของทั้งคู่ แล้วก็เม้มปาก แววตานิ่งเฉย ค่อยๆ เอ่ยว่า “ปัญญาเทวะเขาถูกโจมตี ถึงแม้สิ่งที่โจมตีจะถูกเขาบีบเค้นออกไป ได้ แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ดี อีกทั้งร่างกายบาดเจ็บสาหัส พลังชีวิตถูกตัดขาด ยาและเลือดของเจ้าล้วนช่วยเขาไม่ได้”

“ทั้งหมดนี้ข้ารู้อยู่แล้ว” มู่ชิงเกอเอ่ยตัดบทเหลียนเฉียว

เหลียนเฉียวยกมุมปาก หลุบตาแล้วพูดต่อ “เดิมที วันนี้เขาต้องตายแน่นอน”

ต้องตายแน่นอน…

คำพูดนี้ราวกับมีดแหลมที่กรีดเข้าไปในหัวใจมู่ชิงเกอ ความเจ็บปวดเช่นนี้ คนที่ไม่เคยสูญเสียคนที่รักอย่างแท้จริง ไม่มีทางเข้าใจได้

ใช่แล้ว ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

นี่เป็นเคราะห์กรรมเป็นตายของซือมั่ว เคราะห์กรรมเป็นตาย เป็นตายเพียงพริบตา จะผ่านพ้นไปได้ง่ายดายนักหรือ

ซือมั่วยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ เคราะห์กรรมเป็นตายก็ยิ่งผ่านพ้นไปได้ยากขึ้นเท่านั้น

แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะได้รับการเตือนล่วงหน้า พยายามใช้ทุกวิถีทางในการเปลี่ยนแปลงชะตากรรม คิ จะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์นี้ แต่ก็ยังสูญเปล่า ราวกับว่ายิ่งนางอยากจะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์นี้มากเท่าไหร่ ขั้นตอนก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้น ความเสียหายที่ซือมั่วจะได้รับก็จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ท่ามกลางความเลือนรางนั้น นางราวกับมองเห็นถึงความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเป็นผลต่อกัน แต่เวลานี้นางยังไม่มีกะใจไปพิจารณาให้ลึกซึ้ง

“นิ้วหนึ่งจิต จิตหนึ่งเป็นจิตหนึ่งตาย เดิมข้าเข้าใจว่าข้ามองทะลุความเป็นความตาย กำความเป็นความตายไว้ในมือแล้ว แต่กลับพบว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเลย” มู่ชิงเกอพูดเสียงเรียบ นิ้วชี้ข้างขวาแตะลงที่หว่างคิ้วของซือมั่ว

ปลายนิ้วที่สัมผัสลงที่หว่างคิ้วของเขาผุดรังสีขาวนวลออกมา แทรกซึมเข้าไปในหว่างคิ้วของซือมั่วไม่หยุด ค่อยๆ ปกคลุมไปทั้งร่างของเขา

“พลังชีวิตในร่างของเขาขาดสะบั้นไปแล้ว แม้เจ้าส่งพลังชีวิตให้เขาอีกก็ไม่สามารถช่วยได้ ถึงแม้เจ้ารับรู้วิถีเป็นตายได้อย่างลึกซึ้ง แต่ตบะบำเพ็ญของเจ้ายังไม่เพียงพอ นอกจากเจ้าจะไปถึงขั้นบรรพเทพจึงจะสามารถทำให้มนุษย์เป็นหรือตายได้ในชั่วจิตแล่น ตายนั้นง่าย แต่เป็นนั้นยากเหลือเกิน” เหลียนเฉียวว่า

“ข้ารู้” นํ้าเสียงมู่ชิงเกอนิ่งสงบลง นางมองเหลียนเฉียว “ข้ากำลังรอให้เจ้าบอกวิธีของเจ้า”

นางพยายามรักษาพลังชีวิตสุดท้ายของซือมั่ว เอาไว้ไม่ให้ดับมอดก็เพื่อจะรอคำพูดที่สำคัญที่สุดของเหลียนเฉียว

เหลียนเฉียวยิ้มบางๆ นางว่า “มู่ชิงเกอ ข้าเคยให้เจ้าหลอมข้าเป็นยาพิษที่ร้ายกาจที่สุดในโลก เพื่อให้ข้าได้แก้แค้นและตายตามเขาไปด้วย เวลานี้เจ้าสมควรยินดีนะ”

ตาดำมู่ชิงเกอหดลง ถามเสียงเครียด “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ร่างเหลียนเฉียวเปล่งแสงแรงกล้ากะทันหัน จนมู่ชิงเกอลืมตาไม่ขึ้น

“คิดอยากช่วยเขา มีเพียงราชันย์โอสถจอมเทพเท่านั้น เจ้าโชคดี มีอยู่หนึ่งเม็ดพอดี ดังนั้น เขาถูกลิขิตให้ตายไม่ได้ เคราะห์กรรมเป็นตาย ตายเก้ารอดหนึ่ง เจ้า คือทางรอดสุดท้ายของเขา หากไม่มีเจ้า วันนี้เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย” เหลียนเฉียวพูด เงาร่างจางลงเรื่อยๆ

“เหลียนเฉียว!” มู่ชิงเกอร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ

นางเข้าใจความหมายของเหลียนเฉียวแล้ว

“ไม่ต้องรู้สึกละอายต่อข้าหรือติดค้างอะไรข้า ช่วยข้าแก้แค้นก็พอ เขาจากไปคนเดียวหลายปีแล้ว ข้าก็สมควรไปอยู่เป็นเพื่อนเขา ในโลกนี้ไม่มีเขา การคงอยู่ของข้าจะมีความหมายอะไรเล่า” เมื่อเหลียนเฉียวพูดจบ ร่างของนางก็แปลงเป็นยาเม็ดสีทองระยิบระยับ บินเข้าปากซือมั่วไปในทันที

เมื่อรัศมีจางหายไป พลังโอสถที่แข็งแกร่งก็ดีดนิ้วมู่ชิงเกอจนกระเด็นในพริบตาเดียว

ราวกับว่า พลังชีวิตที่นางรวบรวมไว้นั้น ช่างน้อยนิดจนไม่มีความหมาย

“เขาต้องอาศัยการบำเพ็ญเพื่อทลายรังไหมเกิดใหม่” คำสุดท้ายของเหลียนเฉียว กระจายหายไปในหูมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอยังตกใจเพราะเรื่องเหลียนเฉียว แต่พอได้รับคำเตือนจึงหยิบผลภูติที่ได้จากเผ่าภูติภูเขาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เดิมทีก็คิดจะให้ซือมั่วอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มี โอกาสเท่านั้น

นางวางผลภูติบนร่างซือมั่ว การหลอมรวมผลภูติ ามารถเพิ่มตบะบำเพ็ญได้หมื่นปี เพียงพริบตาเดียวผลภูติก็ถูกซือมั่วหลอมรวมไปจนหมดเกลี้ยง

มู่ชิงเกอตกใจ นางใช้เวลาสองปีหลอมรวมผลภูติ ความจริงแล้วใช้เวลาในช่องว่างเกือบสองร้อยปี ส่วนซือมั่วใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวก็หลอมรวมหมด นี่คือข้อแตกต่างของความแข็งแกร่งงั้นหรือ

ลมหายใจของซือมั่วกลับคืนสู่สภาวะปกติ พลังชีพที่ขาดหายก็กลับฟื้นฟู ร่างกายที่เสียหายยับเยินฟื้นฟูกลับมาทั้งหมดด้วยพลังของเหลียนเฉียว ไม่หลง

เหลืออาการบาดเจ็บตกค้างแม้แต่น้อย

ทลายรังไหมเกิดใหม่!

เหลียนเฉียวบอกแล้วว่าครั้งนี้เป็นการทลายรังไหมเกิดใหม่ของซือมั่ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version