ตอนที่ 820
ให้เจ้ามาได้แต่กลับไม่ได้!
“เจ้าคิดจะทำอะไร เจ้ากล้าฆ่าข้าหรือ” เหยียนเลี่ยพยายามทำใจกล้า ถลึงตาใส่มู่ชิงเกอ เขาคิดจะถอยไปอีกแต่หลังติดเสากระโดงเรือ ถอยไปไม่ได้อีกแล้ว
เขาเข้าใจว่าตัวเองเป็นราชาเทวะดินแดนจั๋วอวี่ในอนาคต มู่ชิงเกอไม่กล้าฆ่าเขาแน่นอน อย่างมากก็แค่ข่มขู่เท่านั้น
แต่เขากลับมองข้ามคำพูดของมู่ชิงเกอไป
มู่ชิงเกอยิ้มนิดๆ มองเขาด้วยแววตาหยอกเย้าแล้วพูดเรียบๆ ว่า “เจ้าโง่หรือเซ่อกันแน่”
ชูเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างหลังกลับถูกคำพูดของมู่ชิงเกอยั่วจนแทบจะหัวเราะออกมา นางว่า “พวกเราอุตส่าห์ไล่ตามมาถึงที่นี่ เจ้าคิดว่าเพราะอะไรหรือ”
คำพูดของนางทำให้เหยียนเสี่ยนึกขึ้นได้
ความกลัวแผ่ซ่านขึ้นจากก้นบึ้งของจิตใจในทันที!
ความจริงจะโทษที่เวลานี้สมองเขาทื่อนักก็ไม่ได้ สาเหตุหลักก็เพราะผลกระทบที่มู่ชิงเกอกระทำกับเขานั้นมีมากจนเกินไป เข้าใจไหม
ขณะอยู่ที่เกาะโหลวหลาน โดนมู่ชิงเกอตีจนไม่มีกำลังแม้แต่จะรับมือกลับนั้นก็สาหัสพอแล้ว เหยียนเสี่ยคิดว่าแม้มู่ชิงเกอจะร้ายกาจมากก็คงเหนือกว่าเขาเพียงเล็กน้อย เขาเพียงแค่พยายามให้เต็มที่ หลังจากกลับไปแล้วก็ทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างในดินแดนมาไว้ที่ตัวเขา สักวันหนึ่งก็จะต้องเหนือกว่าอีกฝ่าย ถึงเวลานั้นก็จะได้ล้างแค้น
อีกทั้งเวลานี้ราชาเทวะจั๋วอวี่ตายแล้ว ว่าตามปกติ เขาราชาเทวะน้อยคนนี้ก็ต้องขึ้นครองตำแหน่งแทน ทรัพยากรในดินแดนจั๋วอวี่ทั้งหมดก็ต้องตกเป็นของเขาไม่ใช่หรือ
ไม่นึกว่ามู่ชิงเกอกลับมาปรากฎตัวอยู่ต่อหน้าตัวเองเพียงพริบตา ทั้งบอกเขาว่าตนเองเป็นขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง!
มันอะไรกันนี่!
เจ้ามู่ชิงเกอเพิ่งเข้าขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้เท่าไรเอง
ทำไมประเดี๋ยวเดียวก็เป็นขั้นสูงแล้วเล่า
เหยียนเสี่ยไม่เข้าใจจริงๆ
เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้มากมายต่างปรากฎขึ้นบนตัวมู่ชิงเกอ สมญานามของมู่ชิงเกอคนนี้นั้นเรียกว่า มหัศจรรย์น่าจะถูกต้องกว่า
“ไม่ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้” เหยียนเสี่ยได้สติกลับมา รีบเอ่ยขึ้น สู้นั้นสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าจะหนีในมหาสมุทรดวงดาวแห่งนี้เขาจะหนีไปไหนได้เล่า
เช่นนี้ก็เหลือเพียงแค่อ้อนวอนเท่านั้นแล้ว!
เหยียนเสี่ยถือว่าเป็นคนเด็ดขาด หลังจากตกลงใจแล้ว เขาก็ข่มใจกัดฟันคุกเข่าสองข้างลงต่อหน้ามู่ชิงเกอ
ลูกตาเขากลอกกลิ้งไปมาทีหนึ่งแล้วพูดเสียงเครียดว่า “เจ้าฆ่าข้าไปจะมีความหมายอะไร ขอเพียงเจ้าเหลือทางรอดให้ข้า เจ้าจะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอมทั้ง หมด!”
แววตาชูเนี่ยนเปล่งประกายดูแคลน
ส่วนมู่ชิงเกอเพียงยืนนิ่งต่อหน้าเขา ก้มมองดูแล้วพูดว่า “หากมีเวลาข้าก็อยากเล่นสนุกกับเจ้า แต่พักนี้ข้ายุ่งมากไม่มีเวลาจริงๆ ข้าดูโหวงเฮงเจ้าแล้วเป็นพวกใจคดแต่กำเนิด เลี้ยงไว้ข้างตัวก็ไม่รู้ว่าเวลาไหนจะโดนแว้งกัด ดังนั้นข้าคิดไปคิดมาสู้ฆ่าเจ้าเสียให้หมดเรื่องเลยจะดีกว่า”
แววตาเหยียนเสี่ยโหดเหี้ยมขึ้นมา กัดฟันพูดว่า “เจ้าจะฆ่าข้าจริงๆ หรือ”
มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว ถามกลับด้วยความสนุกสนานว่า “แล้วจะเหลือไว้ทำอะไรเล่า”
“ได้! เช่นนี้แล้วพวกเราก็ตายด้วยกัน!” เหยียนเสี่ยพูดด้วยความคลั่งแค้นแล้วกระโดดขึ้นมาทันใด พุ่งไปที่มู่ชิงเกอ ร่างกายเขาเริ่มพองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าๆๆๆ! ตายพร้อมกับข้าเสียเถอะ!” เหยียนเลี่ยหัวเราะด้วยความคลุ้มคลั่ง
ชูเนี่ยนตกใจรีบตะโกนว่า “ชิงเกอ เขาจะระเบิดตัวเอง!”
มู่ชิงเกอยืนเฉยอย่างสบายใจอยู่กับที่ หัวเราะอย่างดูแคลน ยื่นนิ้วชี้มือขวาออกไปแล้วพูดเสียงค่อยว่า “สลาย!”
พลังทำลายล้างถาโถมเข้ามาโดยทันที กดดันพลังระเบิดตัวเองของเหยียนเสี่ยลงจนหมดสิ้น
เหยียนเสี่ยถูกตรึงไว้ที่เดิม ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดจ้องหน้ามู่ชิงเกอ สองตามีแต่ความคลั่งแค้น
“นิ้วหนึ่งจิต หนึ่งจิตเป็น หนึ่งจิตตาย เป็นตายเพียงพริบตา” มู่ชิงเกอพึมพำ
ปัง!
เสียงนางเพิ่งจบลง ร่างกายของเหยียนเสี่ยก็ระเบิดอยู่กับที่ แรงระเบิดนั้นสั่นสะเทือนจนเรืออากาศ แตกกระจายกลายเป็นดอกไม้เพลิงดอกใหญ่ท่ามกลางมหาสมุทรดวงดาว
ฟิ้ว!
เสียงร้องของเฟิ่งดังขึ้นท่ามกลางเปลวเพลิง เปลวเพลิงกระจายออก ปรากฎเฟิ่งหวงเก้าสีสยายปีกออกในมหาสมุทรดวงดาว ขนของนางสีสันเฉิดฉาย ฉูดฉาดสวยงาม ทำให้คนตกตะลึงในความงามยิ่งนัก
มู่ชิงเกอยืนอยู่กลางอากาศท่ามกลางมหาสมุทรดวงดาว ในมือนางกำวิญญาณดวงหนึ่ง เป็นของเหยียนเสี่ย
เฟิ่งหวงแปลงเป็นร่างมนุษย์ลงมาที่ด้านหลังมู่ชิงเกอ ตางามแฝงด้วยความเย็นเฉียบจ้องดูวิญญาณเทพที่มู่ชิงเกอกำอยู่ในมือ
“เจ้า…” เหยียนเสี่ยมองชูเนี่ยนอย่างตกตะลึงราวกับยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
ชูเนี่ยนกลับจ้องดูเขาอย่างเย็นชา ไม่สนใจว่าเขาเห็นอะไรไปบ้าง
มู่ชิงเกอพูดเยาะว่า “นึกจะทิ้งกายเนื้อหนีไป แล้วค่อยไปแย่งร่างมนุษย์มาสวมหรือ”
แผนการในใจถูกคาดเดาได้ถูกต้อง สีหน้าเหยียนเสี่ยเปลี่ยนไปทันที แววตาโหดร้ายมากขึ้น
มู่ชิงเกอยิ้มอย่างดูแคลน ไม่ให้โอกาสเหยียนเสี่ยแม้เพียงนิดเดียว กำอุ้งมือเข้าหากันอย่างแรง
“อ๊าก!” แว่วเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของเหยียนเสี่ย
ในอุ้งมือมู่ชิงเกอผุดกลุ่มควันไฟขึ้นมา เผาผลาญดวงวิญญาณเทพของเหยียนเสี่ยจนหมดเกลี้ยง ลบร่องรอยการมีชีวิตทุกอย่างของเขาจนหมดสิ้น
จัดการเหยียนเสี่ยเสร็จแล้ว มู่ชิงเกอก็ปัดมือตัวเองท่าทีปกติ
“ชิงเกอ พวกเราจะไปไหนต่อ” ชูเนี่ยนเดินขึ้นหน้ามาถาม
มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว พูดเรียบๆ ว่า “ดินแดนจั๋วอวี่ไม่น่ากลัวอีกแล้ว พวกเราไปหาอีกสามคน”
พูดจบนางหันกายฉีกขาดช่องว่าง นำชูเนี่ยนหายไปจากมหาสมุทรดวงดาว
พวกจื้อลู่สามคนฟื้นขึ้นมาในเวลาใกล้เคียงกับเหยียนเสี่ย
หลังจากฟื้นแล้ว พวกเขาก็รักษาตัวง่ายๆ ในเกาะโหลวหลานแล้วขึ้นเรืออากาศจากไป
พวกจื้อลู่สามคนต่างกลับแผ่นดินเทพตะวันตก ใช้เรืออากาศลำเดียวกันก็เพียงพอ
บนเรืออากาศ พวกจื้อลู่สามคนนั่งอยู่ด้วยกัน ใบหน้ายังมีความแค้นเคืองเหลืออยู่
“น่าแค้นใจนัก!” จี๋เผยด่าไปคำหนึ่ง ถอนหายใจอย่างแรง
อู๋โย่วเองก็พยักหน้าเอ่ยว่า “พวกเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับมู่ชิงเกอคนนั้น เหตุใดเขาต้องลงมือโหดร้ายกับพวกเราด้วย ครั้งนี้พวกเรามาเพราะเรื่องแสงแห่งวิถี เวลานี้ต้องกลับไปมือเปล่า กลับไปถึงแล้วไม่รู้จะรายงานราชาเทวะอย่างไร”
“ใช่แล้ว ราชาเทวะกลับมาครั้งนี้แขนขาดไปหนึ่งข้างกำลังอารมณ์เสีย ลูกศิษย์ไม่น้อยพลอยฟ้าพลอยฝนรับเคราะห์กันไป คราวนี้ข้ายังกลับไปมือเปล่าอีก ท่าทาง…” สีหน้าจี๋เผยดูสยดสยอง เป็นห่วงชะตากรรมตัวเองที่จะต้องเผชิญ
“ราชาเทวะพวกเราก็ดูไม่ดีเลย หลังจากกลับมาแล้วก็บาดเจ็บสาหัสจนต้องปิดประตูบำเพ็ญ” อู่โย่วก็พูดขึ้นด้วย
ใบหน้าทั้งคู่ดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมชะตากรรม
จื้อลู่มองพวกเขา ไม่กล้าบอกว่าการที่มู่ชิงเกอเล่นงานพวกเขา เป็นไปได้มากว่าเพราะเขาเคยจะสังหารอีกฝ่ายในแผ่นดินเทพตะวันตกมาก่อน
ถึงแม้มู่ชิงเกอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่จื้อลู่เชื่อมั่นว่าเขาจำตนได้!
สองคนบ่นกันอยู่นาน จื้อลู่จึงบอกว่า “เอาเถอะ ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ พอพวกเรากลับไปแล้ว ก็ โยนทุกเรื่องไปไว้ที่ตัวมู่ชิงเกอแล้วกัน”
“อืม”
“ไม่เลว!”
อู่โย่วกับจี๋เผยสองคนพยักหน้าพร้อมกัน
ทันใดนั้นก็มีของอะไรบางอย่างตกลงมาจากท้องฟ้าลงมาที่ด้านหน้าของทั้งสามคน ทั้งยังกลิ้งไปมาบนดาดฟ้าเรือ
“นี่มันอะไรน่ะ” จื้อลู่พูดแล้วลุกขึ้นเดินไปดูให้รู้แน่ชัด
พอเขาขยับตัว อู่โย่วกับจี๋เผยสองคนก็เดินตามไปด้วย…