Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1153

บทที่ 1153 เจ้าคิดจะมาไม้ไหนอีก?

“คราวนี้ เจ้าพูดได้แล้ว!”

“การพัฒนาร่างโคลนนิ่งของเจ้าเป็นการกระทำที่ขัดกฎธรรมชาติ ดังนั้นถึงแม้ว่าเจ้าจะมีพลังวิญญาณขั้นเก้า แต่หากคิดจะก้าวหน้าสูงขึ้นไปกลับยากเย็นกว่าคนทั่วไปนัก ถึงขนาดย่ำอยู่กับที่ ร่างโคลนยังมีจุดบกพร่องที่ร้ายแรงอีกหนึ่งจุด ซึ่งก็คือใช้ฝึกฝนร่างอมตะไม่ได้ มันมีช่วงอายุขัยปกติ ทว่าก็ยังมีข้อดีอยู่ นั่นคือรักษาใบหน้านี้ไว้ได้จนแก่เฒ่า…” ตี้ฝูอีพูดอย่างฉะฉาน

สีหน้าโม่เจ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แรกเริ่มที่เขายังฟังตี้ฝูอีวิเคราะห์โรคแอบแฝงของตนไม่จบ เขาไม่เชื่อตี้ฝูอีแม้แต่น้อย แต่เมื่อฟังคำพูดท่อนหลัง เขากลับรู้สึกกังวลและหวาดกลัว…

ร่างกายนี้ นอกจากจะเสื่อมสมรรถภาพแล้ว ยังมีข้อบกพร่องมากมายถึงเพียงนี้?!

หลงฟั่นไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้เลย!

เป็นจริงดังนี้ หรือว่าตี้ฝูอีพูดจาเหลวไหลหลอกลวงเขาอีก?

“ยังมีอีกหรือไม่?” โม่เจ้าถามต่อ

ตี้ฝูอีตอบกลับอย่างขอไปที “ยังมีอีกไหม? หากยังมีข้าก็ต้องจับชีพจรเจ้าแล้ว”

โม่เจ้าเผยรอยยิ้มหลังจากอึ้งไปหลายวินาที “เจ้าคิดจะมาไม้ไหนอีก?”

ตี้ฝูอีหันหน้ามองเขาเล็กน้อย “สภาพข้าในตอนนี้ เจ้ายังกลัวว่าข้าจะมาไม้ไหนอีกรึ? เจ้ากลัวข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”

โม่เจ้ายิ้มเย้ยหยัน “ข้าไม่มีทางกลัวเจ้า เอาเถิด ข้าจะลองให้เจ้าจับชีพจรดู”

เขาก็แอบหัวเราะที่ตัวเองหวาดระแวงมากเกินไป ตี้ฝูอีในตอนนี้ถูกพันไว้อย่างกับบ๊ะจ่าง พลังวิญญาณภายในร่างกายก็ถูกตรวนสลายวิญญาณทำลายไปประมาณหนึ่งแล้ว ต่อให้อยากเล่นตุกติก ถึงใจปรารถนาก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ ดังนั้น เขาจึงยื่นข้อมือไปข้างๆ มือของตี้ฝูอี

นิ้วมือของตี้ฝูอียังสามารถเคลื่อนไหวได้เล็กน้อย จึงจับชีพจรให้โม่เจ้า

ห้องนี้ร้อนอบอ้าวเป็นที่สุด ตี้ฝูอีเหงื่อออกไม่น้อย แต่นิ้วมือของเขากลับเย็นเยือกดั่งผลึกนํ้าแข็ง ตอนเขาคลำหาชีพจร โม่เจ้าสะดุ้งเล็กน้อย ยังคิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นตุกติกอะไร ในขณะที่กำลังจะเบี่ยงตัวออก กลับพบว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังจับชีพจรให้ตนจริงๆ เขาจึงอดทนต่อไปอีก ส่วนมืออีกข้างก็แอบทำมุทราบางอย่าง เผื่อว่าตี้ฝูอีมีความเคลื่อนไหวผิดปกติใด เขาจะได้ลงมือทำให้สลบได้ทันท่วงที!

ทว่าตี้ฝูอีจับชีพจรให้เขา ผ่านไปครู่หนึ่งก็ผละมือออก ยิ้มอ่อนมองมาที่โม่เจ้า “โรคแอบแฝงของเจ้า…เหมือนเป็นการกระทำของมนุษย์”

โม่เจ้านิ่งอึ้ง

คำพูดนี้ของตี้ฝูอีคล้ายโจมตีจิตใจเขาอย่างรุนแรง เขาสูดลมหายใจเข้าเบาๆ “อย่างไร?”

ตี้ฝูอีกลับไม่พูดแล้ว หลับตาลง แล้วพูดส่งแขก “ข้าเหนื่อยล้าอ่อนแรงแล้ว เจ้าออกไปได้”

นี่มันยั่วนํ้าลายกันชัดๆ!

โม่เจ้าเดือดดาลยิ่งนัก จ้องมองเขาครู่หนึ่ง “ตกลงเจ้ารู้หรือไมว่าโรคแอบแฝงของข้าคืออะไรกันแน่?!”

“ข้าหิว! ข้ากระหาย!” ตี้ฝูอีทอดถอนใจเบาๆ

โม่เจ้ากล่าวอันใดไม่ออก

ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็มีข้ารับใช้ยกโจ๊กเม็ดบัวมาให้ ช่วยดับร้อน แก้อาการร้อนใน บรรเทาความหิวกระหาย

โม่เจ้าไม่อยากป้อนเขา แต่ตี้ฝูอีก็ช่างจุกจิกเสียเหลือเกิน เขาไม่ยอมให้ข้ารับใช้ป้อน ดังนั้นโม่เจ้าจึงปลดตรวนให้อีกเส้นหนึ่ง ทำให้แขนครึ่งท่อนของเขาเป็นอิสระ อย่างน้อยที่สุดก็สามารถยกชามขึ้นกินเองได้แล้ว

โม่เจ้ารอตี้ฝูอีกินโจ๊กจนหมดถ้วยด้วยความยากเย็น และรอให้ตี้ฝูอีไขข้อข้องใจของเขา

ท้ายที่สุด ตี้ฝูอีกลับไม่ได้ตอบคำถามคาใจ หากแต่บอกให้เขาคลำหาตำแหน่งหนึ่งบนหน้าอก และลองกดดูว่าเจ็บหรือไม่

เมื่อโม่เจ้ากดบริเวณนั้น ผลคือตำแหน่งนั้นเจ็บดังเข็มทิ่มแทง!

แน่นอน ความเจ็บปวดนั้นมาเพียงแค่ชั่ววูบ เมื่อนิ้วมือเขาผละออกความเจ็บปวดนั้นก็จางหายไป เขาตกใจสงสัย ชะงักงันไปชั่วครู่ และยังกดที่ตำแหน่งนั้นอีกครั้ง กลับไม่มีอาการผิดปกติอันใด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version