Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1157

บทที่ 1157 เอาใจออกห่าง 4

แต่เมื่อท่านเจ้าผู้นี้ประสบความสำเร็จแล้วเกรงว่าจะไม่ไว้หน้าขุนนางผู้มีคุณูปการที่เคยช่วยเขาบุกตะลุยไปทั่วหล้าอีกแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นไม่แน่ว่าสิ่งที่รอตัวเขาหลงฟั่นอยู่ก็คือกระต่ายมอดสุนัขล่าเนื้อม้วย…[1]

จิตใจเขาหนักอึ้งขึ้นมา…

กวาดตามองฝูงชนแวบหนึ่ง คนที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนได้รับการชุบเลี้ยงสั่งสอนจากเขา มีความรู้สึกต่อเขาลึกซึ้งกว่าที่มีต่อโม่เจ้า และค่อนข้างเคารพนับถือเขา ตอนนี้เมื่อโม่เจ้าลงมือเช่นนี้แล้ว คนเหล่านี้ปิดปากเงียบ ทว่าในใจกลับระทมขมขื่นยิ่งนัก…

“ผู้อาวุโสหลง…” คนผู้หนึ่งมองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อย “พวกเขาไม่ได้ทรยศ…”

หลงฟั่นโบกมือ “นี่คือค่าตอบแทนที่พวกเขาล่วงเกินท่านเจ้า ถูกลงโทษก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว เอาล่ะเรื่องนี้จบแล้ว ทุกคนแยกย้ายไปซะ! ไม่ต้องพูดถึงอีก”

เขาก็หันหลังจากไปเช่นกัน

สถานที่แห่งนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่แน่โม่เจ้าอาจดูอยู่ในห้องสังเกตการณ์ที่ไหนสักแห่งก็ได้…

สีหน้าเขาราบเรียบ ทว่าในใจเริ่มเสียใจภายหลังแล้วที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้มากมายถึงเพียงนี้

มี ‘สายตา’ เหล่านี้จับจ้องอยู่ ผู้ใดเล่าจะกล้าเดือดดาล?

แม้กระทั่งวาจาขุ่นเคืองก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาเลย กล้องวงจรปิดเหล่านี้จุดประสงค์เดิมคือระวังภัยคนนอกที่บุกรุกเข้ามา เพื่อให้สังเกตเห็นและรับมือได้ทันท่วงที ยามนี้กลับกลายเป็นเครื่องจองจำอิสรภาพในการออกความคิดเห็นของทุกคนไปเสียแล้ว…

ฝูงชนแยกย้ายกันไปด้วยความระทมขมขื่น

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปกล้องวงจรปิดหลายจุดในตำหนักใต้ดินเริ่มมีความผิดปกติแล้ว กล้องวงจรปิดเหล่านี้ล้วนสร้างขึ้นจากวัสดุบอบบางพังเสียหายได้ง่ายๆ ทำลายได้ง่ายดายนัก มรสุมเริ่มก่อตัวแล้ว เพียงแต่ฉากหน้ายังคงสงบนิ่งยิ่งนักอยู่

….

หลงฟั่นกำลังผสมนํ้ายาอยู่ในห้อง เนื่องจากจิตใจไม่สงบจึงเกือบทำพลาดอยู่หลายครั้ง เขาจึงหยุดมือ คิดว่าจะไปที่ห้องสังเกตการณ์ในห้องสักหน่อย อยากเห็นสถานการณ์ของตี้ฝูอี

ตี้ฝูอียังคงหลับใหลอยู่เช่นเคย ที่นั่นไม่มีอะไรผิดปกติ

“หลงฟั่นดูอะไรอยู่?”

เสียงของโม่เจ้าแว่วมาจากด้านหลัง ทำให้หลงฟั่นสะดุ้งโหยง เขาหันมาทำความเคารพ โม่เจ้าโบกมือ สื่อว่าเขาไม่จำเป็นต้องมากพิธี เขามองจอภาพเหล่านั้นแวบหนึ่ง ถอนหายใจแผ่วๆ “หลงฟั่น ข้ารู้สึกว่าสิ่งที่เจ้าทำอยู่ที่นี่เป็นผลเสียต่อการวิจัยของเจ้า ทำให้เจ้าเสียสมาธิได้ง่ายๆ…”

หลงฟั่นใจหายวาบ “ความหมายของท่านเจ้าคือ?”

“ห้องสังเกตการณ์มีสองแห่งก็พอแล้ว ที่ห้องของข้าหนึ่งแห่ง ด้านนอกอีกหนึ่งแห่ง ผู้อาวุโสหลงต้องทุ่มเทวิจัยตัวยาสิถึงจะถูก ที่นี่ก็ทำลายทิ้งไปเสีย”

หลงฟั่นตะลึงงัน เมื่อผู้บังคับบัญชาหวาดระแวงในความภักดีของคุณ เวลาเช่นนี้ไม่ควรจะต่อต้านเขา ดังนั้นถึงแม้ในใจหลงฟั่นจะไม่ยินยอม แต่เพื่อคลายความคลางแคลงของโม่เจ้า เขาจึงข่มความระทมไว้ลงมือรื้อถอนห้องสังเกตการณ์แห่งนี้ด้วยมือตน…

โม่เจ้าตบไหล่เขาเบาๆ ด้วยความพอใจ ชมเชยไม่กี่ประโยคก็ออกไป

หลงฟั่นนั่งอยู่ในห้องที่เละเทะ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าความภักดีของตนคล้ายจะเป็นเรื่องขบขันอย่างหนึ่ง…

เขายังถอนตัวจากไปได้อยู่หรือไม่?

ที่แท้ความไว้ใจที่ท่านเจ้ามีต่อเขาก็ต้านทานคำยุแยงไม่กี่ประโยคจากคนนอกไม่ได้…

….

หลังจากที่พวกโม่เจ้าจากไปตี้ฝูอีก็จมสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง ความจริงคือถอดวิญญาณไปที่ห้องของกู้ซีจิ่ว ร่างครึ่งเทพหลงฟั่นยังสามารถฝึกฝนจนทำให้ดวงวิญญาณก่อตัวเป็นกึ่งร่างจริงได้ นับประสาอะไรกับตี้ฝูอีที่เป็นร่างเทพอย่างแท้จริงเล่า?

ดวงวิญญาณของเขาสามารถออกจากร่างได้ ถึงขั้นที่เวลาเขาออกจากร่างยังเหลือวิญญาณส่วนหนึ่งไว้ในร่างได้ด้วย เช่นนี้ก็จะเห็นว่ามีลมหายใจหัวใจเต้นอยู่ คล้ายว่ากำลังหลับใหล ตรวนสลายวิญญาณเส้นนั้นเป็นศาสตรามารยุคโบราณ เมื่อถูกล่ามไว้ต่อให้เป็นเทพเซียนก็ถอดไม่ออก แม้กระทั่งดวงวิญญาณก็ถูกจองจำให้รับโทษทัณฑ์อยู่ภายในร่าง ตอนที่ตี้ฝูอีเพิ่งถูกล่ามไว้ที่นี่ ก็ต้องปรับตัวอยู่สองสามวัน หลังจาก

จับทางได้แล้วถึงเริ่มถอดวิญญาณออกไปกระทำการ…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version