บทที่ 1280 เมื่อพานพบคาบสมุทรชางไห่ คงคาใดก็ไม่อาจทัดเทียม
กู้ซีจิ่วเงียบงัน เธอหัวเราะฮ่าๆ กลบเกลื่อนไป ไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมอีกแล้ว…
เมื่อพานพบคาบสมุทรชางไห่ คงคาใดก็ไม่อาจทัดเทียม หากมิใช่ยอดเมฆาเหนือภูเขาอูซานก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นยอดเมฆา[1]
มิใช่เพียงบทกวีสองประโยคเท่านั้น แต่เป็นการบรรยายถึงสภาพจิตใจอย่างแท้จริง
เธอชอบตี้ฝูอี ถึงแม้จะแยกทางกับเขาแล้ว แต่ความชอบนั้นไม่ได้ลดทอนลงสักนิด เธอรู้สึกว่าความรักครั้งนี้เธอไม่อาจก้าวข้ามไปได้ง่ายๆ และเธอก็ไม่อาจยอมรับผู้อื่นได้อีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลา บางทีอีกหลายปีให้หลังจิตใจเธออาจจะเปลี่ยนแปลงไป สามารถปล่อยวางความรักครั้งนี้ได้…
ตอนนี้เธอไม่อยากสนทนาเรื่องรัก ๆ ใคร่ๆ อันใดอีกแล้ว!
แต่ความรู้สึกของหลัวจั่นอวี่กลับเฉียบไวนัก “ซีจิ่ว หรือเจ้าก็มีคนรักอยู่ด้านนอกเหมือนกัน?”
กู้ซีจิ่วไม่อยากพูดถึง ดังนั้นเธอจึงเบี่ยงหัวข้อสนทนาไปเสีย เงยหน้ามองด้านหน้าแวบหนึ่ง “เอ๊ ข้าพบสมุนไพรอย่างหนึ่งที่ต้องการแล้ว!”
ร่างกายพุ่งทะยานเหินไปที่หน้าผาที่อยู่ไม่ไกลออกไป
การเดินทางไปเก็บสมุนไพรของทั้งสองคนราบรื่นยิ่งนัก วรยุทธ์ของทั้งสองล้วนสูงส่ง ปฏิกิริยาตอบสนองว่องไวนัก ถึงแม้อสรพิษตัวนั้นจะเป็นสัตว์ ร้ายขั้นเจ็ดที่ดุร้ายอย่างยิ่ง แต่เมื่อพบพานพวกกู้ซีจิ่วทั้งสอง ก็ทำได้เพียงสังเวยกระดูกของมันออกมาเท่านั้น…
เมื่อกลับมาจากเก็บรวบรวมสมุนไพร กู้ซีจิ่วก็เริ่มหลอมกลั่นโอสถทันที
ยามผู้อื่นหลอมโอสถล้วนจะอยู่ในห้องหับที่มิดชิด ทักษะฝีมือทั้งหมดล้วนต้องเก็บงำซ่อนเร้นไว้ ทว่ากู้ซีจิ่วกลับตั้งเตาหลอมในกระท่อมเล็กๆ ของตัวอย่างโจ้งแจ้งเปิดเผย ดึงดูดให้ฝูงชนมามุงดูไม่น้อย
ไม่ว่ากระทำการใดกู้ซีจิ่วล้วนทำอย่างทุ่มเทให้ออกมาดีที่สุด การหลอมโอสถก็เช่นกัน
เมื่อโอสถเตานี้หลอมเสร็จเรียบร้อย ยามที่เปิดฝาออกมา ฝูงชนก็ได้เห็นยาลูกกลอนระดับหกหนึ่งเม็ด ลูกกลอนระดับห้าสามเม็ด ลูกกลอนระดับสามสองเม็ด ที่เหลือเป็นระดับหนึ่งนอนอยู่ที่ก้นเตา…
ถึงอย่างไรผู้คนที่นี่ก็ล้วนเป็นอัจฉริยะทั้งสิ้น และเป็นบุคคลที่เคยพบเห็นโอสถลํ้าค่ามาก่อน แต่โอสถที่พวกเขาได้พบหรือได้กินอยู่บ่อยๆ ก็คือยาลูกกลอนระดับสาม ยาลูกกลอนระดับห้า สำหรับพวกเขานับเป็นของชั้นเลิศแล้ว ส่วนลูกกลอนระดับหกพวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย!
ดังนั้นมื่อโอสถเตานี้หลอมสำเร็จ ทุกคนที่มุงดูจึงโห่ร้องด้วยความยินดี คนทั้งหลายล้วนปรีดายิ่งนัก!
ตื่นเต้นยิ่งนัก!
ในที่สุดพวกเขาก็มีปรมาจารย์หลอมโอสถเป็นของตัวเองแล้ว ซํ้ายังเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถระดับสูงเช่นนี้ด้วย!
ต่อไปพวกเขาก็ไม่ต้องกริ่งเกรงอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องกริ่งเกรงอาการบาดเจ็บอีกแล้ว!
หลัวจั่นอวี่ตัดสินใจในทันใด เมื่ออยู่ที่นี่หน้าที่ของกู้ซีจิ่วคือรักษาอาการเจ็บป่วยและหลอมกลั่นโอสถ ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นใด จะเก็บสมุนไพรอะไรก็มอบหมายให้คนอื่นไป เธอรับผิดชอบเพียงหลอมโอสถวันละสองเตาก็พอ
คนที่เหลือย่อมไม่คัดค้านเลยสักนิด เห็นด้วยอย่างยิ่ง แถมบางคนยังบอกด้วยว่ากระท่อมนี้ของกู้ซีจิ่วโกโรโกโสเกินไป ควรจะสร้างหลังที่ใหญ่กว่านี้ให้เธอ ให้เธอหลอมโอสถได้สะดวก ด้วยเหตุนี้ฝูงชนจึงขันอาสาสร้างเรือนใหม่ให้กู้ซีจิ่วอีกหลัง ถึงเรือนหลังนี้จะไม่ได้ประณีตบรรจงมากนัก แต่ก็อยู่สบายกว่าแต่ก่อนมาก และสว่างกว่ามากด้วย
ตกกลางคืนกู้ซีจิ่วพักผ่อนอยู่ในเรือนหลังใหญ่ของตน ยามที่นอนอยู่บนเตียง พลันเกิดความรู้สึกไม่แน่นอนยิ่งนักอย่างหนึ่งขึ้น เธอยกมือขึ้นแล้วมองดูมือตน บนนิ้วว่างเปล่า แหวนที่เคยสวมไว้ไม่กี่เดือนหายไปนานแล้ว ทำให้เธอรู้สึกว่าจิตใจว่างเปล่าทุกครั้งที่มองเห็นนิ้วมือเปล่าเปลือยของตน แบบนี้ถือว่าเธอทำถูกแล้วใช่ไหม?
เขาน่าจะตามหาเธออยู่สักพักกระมัง?
เดิมทีเธอนึกอยู่เลยหลังจากตนหนีออกมาแล้ว จะต้องสิ้นเปลืองสมองสักเพียงใดถึงจะหลีกลี้จากเขาได้ ตอนนี้กลับไม่ต้องกังวลถึงเรื่องนั้นเลย
เธอถูกขังไว้ที่นี่ บางทีนี่อาจเป็นลิขิตสวรรค์ ไม่มอบโอกาสให้เธอเสียใจภายหลังอีก และไม่มอบโอกาสให้อีกฝ่ายได้พัวพันคลุมเครือกับเธออีก ผ่านไปเช่นนี้สักห้าปี บางทีเขาอาจจะถอดใจเลิกตามหาไปแล้วเหมือนกัน เช่นนี้…ก็ดีแล้ว!
เธอหลับตาลง รอจนความเจ็บปวดที่คุ้นเคยในทรวงอกผ่านพ้นไป จากนั้นก็เริ่มนับแกะ สะกดจิตให้หลับ…
หลายวันมานี้อันที่จริงเธอนอนไม่หลับอยู่บ้าง ต้องอาศัยการนับแกะถึงหลับลงได้ แต่คืนนี้กลับผล็อยหลับไปอย่างง่ายดายนัก จากนั้น…เธอก็ฝันถึง เขา
———————————————————————
[1] เมื่อพานพบคาบสมุทรชางไห่ คงคาใดก็ไม่อาจทัดเทียม หากมิใช่ยอดเมฆาเหนือภูเขาอูซานก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นยอดเมฆ สื่อความหมายว่า เมื่อเคยได้รับสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ต่อให้เจอสิ่งอื่นที่คุณสมบัติไม่ด้อยไปกว่ากันก็ไม่อาจเทียบเคียงกับสิ่งที่เคยได้รับมาได้