บทที่ 334
เจ้าไปโดนตัวอะไรมา
พวกเล่อเจียจวินย่อมรู้สึกริษยาชิงชัง แต่อีกฝ่ายมีฝีมือสูงส่งกว่าพวกนางนัก พวกนางได้แต่ยอมรับด้วยใจจริง
โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกนางไม่กล้าแม้แต่จะพูดเพ้อเจ้อด้วยซ้ำ ย่อมไม่กล้าหาเรื่องกู้ซีจิ่วแม้แต่น้อย
เพียงแต่พวกนางจดจำกระบวนการหลอมโอสถของกู้ซีจิ่วไว้ในใจแล้ว เตรียมจะนำกลับไปฝึกฝน หากประสบความสำเร็จ อนาคตในภายภาคหน้าของพวกนางก็จะยิ่งไร้ขีดจำกัด
การเดินทางเที่ยวนี้ กล่าวโดยรวมแล้วได้กำไรมหาศาล ทุกคนล้วนพึงพอใจมาก
หลงโม่เหยียนเชื้อเชิญให้กู้ซีจิ่วกลับไปพร้อมกับพวกเขา ทว่ากู้ซีจิ่วปฏิเสธ
นางเดินทางด้วยตัวคนเดียวเหมือนเดิม ขณะมองดูแผ่นหลังนางที่เลือนหายไปท่ามกลางหิมะอย่างรวดเร็ว หลงโม่เหยียนค่อนข้าง รู้สึกห่อเหี่ยว
เด็กสาวผู้นี้เป็นดั่งปริศนา ชื่อของนางก็น่าจะเป็นชื่อปลอมกระมัง? มิเช่นนั้นคงไม่ไร้แซ่เยี่ยงนี้ ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้พบกันอีกหรือไม่…
…………………….
หิมะโปรยปรายเต็มฟ้า
กู้ซีจิ่วเดินทางเพียงลำพังในทุ่งน้ำแข็ง
‘เจ้านาย ท่านรู้ไหมว่าหลงซื่อจื่อผู้นี้คือใคร?’ หยกนภาอยากโอ้อวดความรู้
‘รู้สิ เป็นหนึ่งในยอดคุณชายแห่งเมืองหลวง เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของติ้งเป่ยโหว ชื่อเสียงทัดเทียมกับองค์รัชทายาทหรงเจียหลัวและองค์ชายหรงเช่อ’
‘เจ้าของร่างคนเดิมก็รู้จักเขา…คนผู้นี้เป็นชายในฝันของเหล่าคุณหนูในเมืองหลวง ได้รับความนิยมรองจากองค์รัชทายาทหรงเจียหลัว องค์ชายแปดหรงเช่อ ไม่รู้ว่ามีหญิงสาวมากมายเพียงใดที่เฝ้าคะนึงถึงเขายิ่ง…’ หยกนภาเริ่มซุบซิบนินทา
‘อ้อ’
‘เจ้านาย ท่านแปลงโฉมเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังดูเหมือนจะหวั่นไหวกับท่าน ขารู้สึกว่าเขาชอบท่าน!’ หยกนภาเอ่ยวาจาน่าประหลาดใจออกมาไม่รู้จบ
‘อืม นั่นเป็นหลักฐานว่าตาเขามีแวว มีตาทิพย์มองเห็นความงามภายในของข้า มองข้ามเปลือกนอกที่แสนธรรมดาของข้าไป’ กู้ซีจิ่วพูดเล่นโดยไม่คิดอะไร
หยกนภาเอ่ย ‘…เจ้านาย ผู้คนล้วนกล่าวว่าการถ่อมตัวคือคุณธรรมอันดีงาม ท่านควรจะถ่อมตัวเสียบ้าง!’
‘ถ่อมตัวเกินไปจะดูเสแสร้ง ข้าแค่พูดไปตามจริงเท่านั้น’ กู้ซีจิ่วใช้มือเคาะมันเบาๆ
หยกนภาเถียงไม่ออก
มันนิ่งไปครู่หนึ่งก็ตื่นเต้นยินดีขึ้นมาอีกครั้ง ‘เจ้านาย ท่านแปลงโฉมเป็นเช่นนี้เขายังชอบท่าน หากท่านเผยใบหน้าที่แท้จริงต่อหน้าเขา เขาต้องตะลึงเป็นแน่ ต้องสยบอยู่ใต้ชายกระโปรงของท่าน แน่นอน ชั่วฟ้าดินสลายจะติดตามท่านเพียงผู้เดียว…’
กู้ซีจิ่วหลุบตามองมัน ‘เจ้าไปโดนตัวอะไรมา?’ พูดจ้อถึงเพียงนี้ น่าขนลุกยิ่งนัก!
เธอสั่งสอนมันอย่างเอาจริงเอาจังอีกประโยค ‘เสี่ยวชาง เจ้าเป็นของวิเศษ ต้องมีนิสัยสูงส่งดั่งเทพเซียน โดยพื้นฐานแล้ววาจาเทพเซียนมีค่าดั่งทอง’
หยกนภาเงียบงัน
สาวน้อยผู้นี้ช่างไม่รู้ดีชั่วเสียเลย นี่มิใช่เพราะมันเกรงว่านางจะไม่มีความสุขหรอกหรือ? ถึงได้ทุ่มเทประจบยกยอนาง ผลสุดท้ายกลับถูกอบรมสั่งสอนเสียได้…
จู่ๆ มันก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ‘เจ้านาย นี่ไม่ใช่ทางกลับสักหน่อย!’
ยาก็หลอมไปแล้ว มิใช่ว่าสมควรกลับได้แล้วหรือ?
‘ใครบอกเจ้าว่าจะกลับกันล่ะ? ข้ายังต้องหาตัวยาอีกอย่างหนึ่ง’
‘ฮะ? ยังต้องหาอีกหรือ? หาอะไร?’
‘แก่นพลังงูเหลือมโลหิต’
‘อ๋าๆๆ งูเหลือมโลหิต! พวกเราจะไปหาเรื่องเจ้าสิ่งนั้นไม่ได้นะ…’
‘หุบปาก!’
……………………
กู้ซีจิ่วอยู่ในทุ่งหิมะต่ออีก 6 วัน ในที่สุดก็ได้พบสิ่งที่ตัวเองตามหา เธอต่อสู้กับงูเหลือมโลหิตตัวนั้นอย่างดุเดือดหนึ่งวันเต็มถึงปลิดชีพมันได้ หลังจากควักเอาแก่นพลังแล้วก็เดินทางกลับเมืองหลวง…
เมืองหลวงยังคงคึกคักเช่นเคย และดูเหมือนจะคึกคักยิ่งกว่าเดิมเสียด้วย ตามถนนตรอกซอกซอยล้วนสนทนาเรื่องการทดสอบสานุศิษย์สวรรค์เบื้องบนที่แท่นเบิกสวรรค์เมื่อ 3 วันก่อน
กล่าวกันว่าการทดสอบนั้นเป็นการทดสอบต่อหน้าสาธารณชน และเป็นความต้องการอันแรงกล้าของตัวอวิ๋นซิงหลัวเอง
มีการทดสอบ 2 ครั้งในหนึ่งปี ทำให้ประชาชนชาวเมืองหลวงตื่นตาตื่นใจนัก และมีห้วข้อสนทนามากขึ้น
เล่าก่นว่าการทดสอบเมื่อ 3 วันก่อนยิ่งใหญ่มากเช่นกัน ประชาชนแห่แหนกันมามืดฟ้ามัวดิน กระทั่งผู้ช่วยทดสอบก็เป็นคนเดิม คือเชียนเยวี่ยหร่านและฮวาอู๋เหยียน