Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 469

บทที่ 469

ตรวจสอบด้วยตนเอง 2

สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ตั้งอยู่ที่พรมแดนระหว่าง 3 อาณาจักร ห่างจากป่าทมิฬถึงหกพันลี้!

การเดินทางที่ยาวนานเหลือเกิน หากกู้ซีจิ่วขี่เพรียกวายุไปก็ต้องใช้เวลาถึง 2 วัน แต่เมื่อเธอนั่งในรถม้าคันนี้ย่อมแตกต่างกัน

รกม้าดั้นเมฆา เมฆขาวล่องลอยผ่านด้านนอกหน้าต่างรถ เห็นได้ชัดว่าความเร็วของอาชาเวหาเหล่านี้รวดเร็วยิ่งนัก!

ด้วยความเร็วเช่นนี้ อย่างมากที่สุดใช้เวลาหนึ่งวันก็สามารถไปถึงสำานักศึกษาชุมนุมสวรรค์ได้แล้ว

ภายในรถม้าตกแต่งไว้อย่างสะดวกสบายและประณีตงดงาม กู้ซีจิ่วนั่งอยู่บนเบาะนุ่มนิ่มด้านในรู้สึกเหมือนนั่งบนก้อนเมฆ ยิ่งไปกว่านั้นที่น่าแปลกคืออากาศภายในรถม้าบริสุทธิ์ยิ่ง พลังวิญญาณก็พรั่งพร้อมนัก กู้ซีจิ่วหายใจอย่างปลอดโปร่ง การนั่งสมาธิก็มีประสิทธิภาพกว่ายามปกติด้วย

ถึงอย่างไรเธอก็ไม่เคยได้พักผ่อนเต็มอิ่มมาหลายวันแล้ว ทั้งยังเคยบาดเจ็บด้วยพิษ พิษยังคงตกค้างอยู่ในร่าง ดังนั้นเธอจึงอ่อนเพลียสุดจะทนตลอดเวลา ตอนที่อยู่ในโรงน้ำชาก่อนหน้านี้ก็ฝืนสะกดความง่วงเสวนาปราศรัยกับผู้คนตลอด

ยามนี้นั่งอยู่ในรถม้า ในรถนอกรถล้วนสงบสุขปลอดภัย ทำให้เปลือกตาเธอเริ่มปิดเข้าหากันอย่างต้านหานไว้ไม่อยู่

แต่เธอกลับฝืนเอาไว้ไม่กล้าหลับเหมือนเคย

ถึงแม้ทูตเจี่ยงซั่นผู้นี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องจริงยิ่งนัก แต่อย่างไรเสียเธอก็ไม่เคยพบเขา แถมการมาของทูตเจี่ยงซั่นผู้นี้ยังฉุกละหุกเกินไปด้วย ในใจเธอยังคงระแวดระวังเขาอยู่

“แม่นางกู้ไม่วางใจในตัวข้าหรือ?” ทูตเจี่ยงซั่นด้านนอกราวกับมองความคิดของกู้ซีจิ่วที่อยู่ในรถม้าได้ทะลุปรุโปร่ง เขาพลันโบกมือ โยนป้ายหยกชิ้นนั้นเข้ามาเสียงดังตุ้บ “แม่นางตรวจสอบด้วยตนเองได้”

เธอไม่รู้ว่าป้ายหยกเป็นของจริงหรือของปลอม แล้วจะตรวจสอบได้อย่างไร?

กู้ซีจิ่วเหลือบมองป้ายหยกที่อยู่ข้างกาย หัวใจสั่นไหววูบหนึ่ง!

ป้ายหยกนี้ไม่ทราบว่าสร้างจากหยกชนิดใด จึงคล้ายมีไอหมอกอ่อนจางชั้นหนึ่งโอบล้อมอยู่ มีอักษร ‘เจี่ยงซั่น’ สองตัวล่องลอยอยู่กลางป้ายหยก อักษรสองตัวนี้มิใช่การสลักขึ้น และไม่ใช่การฉลุลาย แต่คล้ายกับภาพวาดเลือนราง อักษรสองตัวนั้นมักจะสั่นไหว ดั่งคลื่นนํ้า ค่อยๆ รวมตัวเป็นภาพเหมือนคนผู้หนึ่ง…

กู้ซีจิ่วจ้องภาพเหมือนนั้นสักครู่ ในที่สุดก็มองออกว่าภาพเหมือนนี้คือเงาของทูตเจี่ยงซั่นที่อยู่ด้านนอก! รูปลักษณ์และกลิ่นอายเหมือนกันทุกประการ!

‘เจ้านาย นี่คือหยกมายาจากทะเลสาบเหมันต์!’ หยกนภาร้องขึ้นมา ‘ป้ายหยกนี้เป็นของจริง!’

กู้ซีจิ่วลอบพยักหน้า เธอก็คิดว่าป้ายหยกชิ้นนี้เป็นของจริงเช่นกัน

หยกมายาทะเลสาบเหมันต์คือหยกชนิดหนึ่งที่ร่ำลือกันว่าเป็นวัตกุติบจากแดนต้องห้าม หายากเสียยิ่งกว่ายาก ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารก็มีค่าควรเมืองแล้ว

คุณสมบัติที่พิเศษยิ่งของหยกชนิดนี้คือสามารถประทับภาพมนุษย์ลงไปข้างในได้ เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกฐานะตัวตนได้ดีที่สุด

นอกจากเทพศักดิ์สิทธิ์ ใครเล่าจะสามารถสร้างป้ายหยกที่แปลกประหลาดงดงามเช่นนี้ขึ้นมาได้?

ต่อให้ผู้อื่นอยากเลียนแบบก็ไม่มีต้นทุนขนาดนั้น!

แถมในตำนานยังกล่าวไว้ว่า มีเพียงทูตทั้งสี่ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้หยกชนิดนี้ได้ ถ้าผู้อื่นใช้จะถูกตัดหัว!

กู้ซีจิ่วหยิบป้ายหยกชิ้นนั้นขึ้นมาแล้วพลิกดูด้านหน้า หัวใจพลันเต้นกระหน่ำ!

ด้านหน้าป้ายหยกสลักภาพเหมือนบุคคลไว้ ประหนึ่งสลักจากนํ้าแข็ง สูงส่งดั่งจันทราเดียวดาย รอบกายคล้ายมีเมฆหมอกพัวพัน ภาพเหมือนบุคคลที่อยู่บนป้ายหยกชิ้นนี้ก็สวมหน้ากากไว้เช่นกัน ลักษณะท่าทางคล้ายกับหยกสลักเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กู้ซีจิ่วเคยเห็นในความฝันทุกประการ!

เมื่อกู้ซีจิ่วกะพริบตา ก็ราวกับเห็นภาพบุคคลนั้นตวัดปลายนิ้ว วาดอาคมอะไรบางอย่าง แล้วซัดออกมาทันที!

มือกู้ซีจิ่วพลันสั่นระริก ดวงตาปิดลง ร่างกายเอียงพับผล็อยหลับไป

ป้ายหยกร่วงลงบนกระโปรงของเธอ ลำแสงอ่อนจางของหยกชิ้นนั้นโอบล้อมทั้งร่างเธอไว้…

……………………..

หอสูงตระการตา โดมโค้งเปล่งประกายดั่งฟ้าที่เต็มไปดาราพร่างพราว

แท่นสูงที่เสมือนจะเอื้อมหยิบดวงดาวได้ ตัวแท่นเป็นทรงดาวหกแฉก พื้นปูด้วยอิฐหยกโปร่งใส อิฐหยกขาวดำตัดกัน จัดเรียงดั่งค่ายกลโบราณที่แสนซับซ้อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version