บทที่ 593 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกรังเกียจ 1
“เจ้า คิดจะทำให้เปิ่นจุนผิดนัดหรือ?”
“หือ?” กู้ซีจิ่วไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
“วันนั้นเปิ่นจุนรับปากเจ้าว่าอีกหกวันจะตรวจการบ้านเจ้า วันนี้เป็นวันที่หกแล้ว เปิ่นจุนมิสูญเสียความน่าเชื่อถือหรอกหรือ?”
กู้ซีจิ่วเปิดปากเอ่ย “…เอ่อ ซีจิ่วเพียงเกรงว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะเหนื่อยเกินไป…”
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ท่านผิดนัดก็ไม่สำคัญหรอก จริงๆ นะ!
“รู้จักเอาใจใส่เปิ่นจุนเป็นเรื่องดี” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เหมือนจะพอใจมาก เขากวาดตามองรอบข้างแวบหนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “เรือนนี้สกปรก เปิ่นจุนไม่มีแม้แต่ที่จะให้นั่ง…”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ตามสถานการณ์ปกติ มิใช่ว่าท่านโบกแขนเสื้อพรึบเดียวก็สะอาดหมดจดแล้วมิใช่หรือ?
เพียงแต่เขากล่าวมาเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เธอทำความสะอาดให้เขา
เพื่อให้เขาผ่อนปรนในการตรวจสอบการบ้านที่รอคอยอยู่ กู้ซีจิ่วจึงฉลาดพอที่จะไม่โต้แย้งเขา พับแขนเสื้อขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ “ซีจิ่วจะทำความสะอาดให้เจ้าค่ะ”
เธอรู้ความและเข้าใจเจตนาของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มากจริงๆ
เขาพยักหน้านิดพลางเอ่ยว่า “เจ้าเก็บกวาดที่นี่ไป เปิ่นจุนจะไปพักผ่อนในเรือนของเจ้าชั่วคราวก่อน”
พลันหันหลังหายลับไป
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก น้ำตาเธอไหลรินเป็นสาย
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เจ้าขา รูหนูของข้าสกปรกกว่าที่นี่เสียอีก…
….
ประตูถูกผลักให้เปิด เงาสีม่วงกลุ่มหนึ่งถลาเข้ามา “แง้ว…”
เจ้าหอยยักษ์ก็พุ่งเข้ามาเช่นกัน “เจ้านาย ท่านกลับมาแล้วเหรอ…”
เงาสีม่วงคือเจ้าลู่อู๋ มันยังพุ่งไปไม่ถึงอ้อมอกคนก็ถูกแขนเสื้อเหวี่ยงออกไป
เจ้าหอยยักษ์ก็ถูกเท้าข้างหนึ่งเหยียบเปลือกไว้ ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
เจ้าลู่อู๋ไม่รู้ไปมาอย่างไร ลอยละลิ่วกลับมาก็ถูกผ้าห่มคลุมไว้ หล่นลงพื้นดังตุ้บ สี่เท้าชี้ฟ้า หางทั้งเก้าพันกันวุ่นวาย เป็นครั้งแรกที่มันเสียเปรียบมากถึงเพียงนี้แต่กลับไม่กล้าระเบิดโทสะ เมื่อถูกผ้าห่มคลุมไว้ก็คู้ร่างขึ้นมองคนผู้นี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างระแวดระวัง…
มิใช่เจ้านาย เป็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์!
เจ้าหอยยักษ์ รู้สึกว่าเปลือกหอยทั้งร่างล้วนแข็งทื่อหมดแล้ว กล่าวเสียงสั่น “ท่าน…ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์…”
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เยื้องย่างเข้ามาด้านใน มองเพียงแวบเดียวก็เห็นลักษณะทั้งหมดภายในห้องแล้ว
บนเตียงเละเทะเล็กน้อย เจ้าลู่อู๋ที่หมอบอยู่ในรังโผล่แค่ดวงตากลมโตคู่หนึ่งออกมาจ้องมองเขา
มุมซ้ายของห้องมีรังกลมมนรังหนึ่งอยู่ ด้านในปูเบาะนุ่มๆ ไว้ บนเบาะมีรอยยุบขนาดคล้ายจานใบหนึ่งอยู่ เห็นได้ชัดเจนยิ่งนัก นี่คือรังของเจ้าหอยยักษ์
มุมห้องด้านขวาก็มีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่รังหนึ่ง ในรังปูด้วยด้วยเสื่อที่สานจากหญ้า เพรียกวายุที่อยู่บนเสื่อเพิ่งจะลุกขึ้นมา บนเขาแขวนรองเท้ารูปทรงพิลึกพิลั่นคู่หนึ่งไว้
มันต่างจากลู่อู๋ที่ไร้เดียงสาเกาะติดคน และต่างจากเจ้าหอยยักษ์ที่หุนหันพลันแล่น มันเป็นสัตว์วิเศษตัวเดียวที่สุภาพ ทุกครั้งยามที่เจ้านายกลับมา มันจะก้าวเข้ามาอย่างสุภาพ ส่งรองเท้าแตะคู่หนึ่งให้เจ้านาย…
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองรังทั้งสองแห่งนั้นแล้วมองเจ้าลู่อู๋ที่อยู่ในเตียง รอยยิ้มตรงมุมปากหายไปแล้ว
สัตว์เลี้ยงทั้งสามล้วนเลี้ยงไว้ในห้องนอน ซ้ำยังมีตัวหนึ่งอยู่บนเตียงอย่างผ่าเผยด้วย…
สาวน้อยผู้นี้เลี้ยงสัตว์วิญญาณหรือว่าเลี้ยงแมวบ้านกันแน่?
คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวที่เย็นชาต่อผู้อื่นเสมอมาจะปฏิบัติต่อสัตว์วิญญาณดีเป็นพิเศษ รักใคร่เป็นล้นพ้น…
เมื่อชมชอบสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นจุดอ่อนอย่างง่ายดาย
กลายเป็นจุดอ่อนให้ผู้อื่นคร่ากุม จะสูญเสียความเที่ยงธรรมในการจัดการเรื่องราวต่างๆ ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นคนธรรมดาจัดการเรื่องราวอย่างไม่เป็นธรรมก็ไม่เป็นไร แต่นางไม่ได้…
เขาโบกแขนเสื้อเบาๆ พัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งให้หายไป แล้วนั่งลงมองทั้งสามตัวที่อยู่ในรัง เงียบงันอยู่พักหนึ่ง
เจ้าหอยยักษ์ถูกเขาจ้องจนเปลือกหอยเกิดอาการชา อดไม่ได้ที่จะประหม่า เวลาที่มันประหม่าจะปากไม่มีหูรูดได้ง่ายมาก “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านกลับมาทำไมหรือ? เดี๋ยวเจ้านายกลับมาต้องร้องไห้แน่…”
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์พูดไม่ออก
ดูเหมือนเขาจะถูกรังเกียจแล้วสินะ?
เขาถูกรังเกียจเสียแล้ว!