Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 669

บทที่ 669 ซีจิ่ว เธอไม่เชื่อฉันเหรอ?

“ไม่แน่ว่าคนหนึ่งอาจทะลุไปยุคราชวงศ์ชิง อีกคนอาจทะลุไปยุคราชวงศ์หมิง ราชวงศ์หมิงมาก่อนราชวงศ์ชิง คนที่ทะลุมิติไปยุคราชวงศ์หมิงอาจกลายเป็นบรรพบุรุษของคนที่ทะลุไปยุคราชวงศ์ชิงก็ได้…พวกเราอย่างน้อยก็ทะลุมิติมายุคเดียวกัน ถึงแม้จะห่างกันหนึ่งร้อยปี แต่สุดท้ายก็ยังได้เจอกัน ซีจิ่ว ตอนที่รู้ว่าเธอคือคนที่ฉันตามหา ฉันดีใจมากจนแทบเป็นบ้าเลย เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันตื่นเต้นมากแค่ไหน…”

หลงซือเย่ยื่นมือมาวางทับมือน้อยๆ ของเธอไว้ “ซีจิ่ว ฟ้าลิขิตให้เธอกับฉันได้เจอในชาตินี้ บางทีนี่อาจเป็นเพราะสวรรค์เบื้องบนรับรู้ถึงความจริงใจของฉัน…”

กู้ซีจิ่วชัก มือกลับมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกสะเทือนใจ ไม่ใช่ว่าในใจไม่เกิดระลอกคลื่น แต่ถึงอย่างไรบาดแผลที่เคยได้รับก็สาหัสมาก เธอรู้สึกว่าตัวเองหาความรู้สึกไม่เจอไปชั่วขณะ…

การเคลื่อนไหวที่แสนซื่อตรงยิ่งนักของเธอทำให้นัยน์ตาหลงซือเย่หม่นหมอง มือของเขาแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น “ซีจิ่ว เธอไม่เชื่อฉันเหรอ?”

กู้ซีจิ่วส่ายหัว ข่าวที่เธอได้รับในคืนนี้มากมายเกินไป เธอต้องย่อยข้อมูลก่อนแล้วค่อยพูด เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันเอ่ยขึ้นมา “หลายปีมานี้คุณตามหาฉันมาตลอดเหรอ? แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่ด้วย? ยังไงซะอัตราความเป็นไปได้เรื่องการทะลุมิติก็มีน้อยมาก…”

“หยกประดับของเธอยังติดตัวฉันมาได้เลย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะไม่มาที่นี่ด้วยเหมือนกัน?” นํ้าเสียงหลงซือเย่ราบเรียบและแผ่วเบา “ฉันก็เลยเสี่ยงดวงดู! ฉันสังหรณ์อยู่ตลอดว่าเธอต้องมาแน่!”

ลางสังหรณ์ของเขาแม่นยำจริงๆ!

เพียงแต่ไม่รู้ว่าจริงหรือหลอก…

ดูเหมือนกู้ซีจิ่วจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “แล้วกู่ซีซี ลูกศิษย์ของคุณล่ะ?”

หลงซือเย่ถอนหายใจ “เมื่อก่อนฉันตามหาเธออยู่ตลอด แต่ผู้คนมากมายดั่งมหาสมุทร คิดจะตามหาตัวคนๆ หนึ่งจะง่ายดายได้ยังไง? โดยเฉพาะคนที่กลับมาชาติมาเกิดใหม่ แม้แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่แน่ว่าจะเหมือนเดิม ตอนที่เห็นกู่ซีซีครั้งแรก นางเป็นเด็กแปดขวบคนหนึ่ง หน้าตาคล้ายเธอมาก แถมยังบังเอิญมาก ชื่อของนางก็เรียกว่ากู่ซีจิ่วเหมือนกัน ออกเสียงเหมือนเธอแต่เป็นอักษรคนละตัวกัน นางมีนิสัยเยือกเย็นและคล้ายกับเธออยู่หลายส่วน ด้านวิชาแพทย์ก็มีไหวพริบมากเหมือนกัน แน่นอน นางไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเธอ ฉันนึกว่านางคือเธอ ฉันนึกว่าในที่สุดสวรรค์ก็มีตาแล้ว ให้ฉันหาเธอพบอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงรับนางเป็นศิษย์ ถ่ายทอดวิชาแพทย์ให้นาง คิดว่าต่อให้เธอลืมฉันไปแล้วก็ไม่เป็นไร ขอเพียงให้ฉันได้พบอีกครั้ง ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็พอ”

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไร เธอก้มหน้าจิบชาอึกหนึ่ง “ถ้างั้น…ทำไมคุณถึงพบว่านางไม่ใช่ฉัน?”

หลงซือเย่ถอนหายใจอีกครั้ง “ความจริงก็สังหรณ์ใจมานานแล้วว่านางไม่ใช่ เนื่องจากพอค่อยๆ โตขึ้นก็พบว่าความจริงแล้วนิสัยของนางต่างกับ เธอลิบลับนอกจากนิสัยเยือกเย็นที่คล้ายเธออยู่บ้าง อย่างอื่นก็ไม่เหมือนกันเลยสักนิด ท้ายที่สุดแล้วในตอนนั้นเป็นฉันที่ตามหาจนหน้ามืดตามัวโกหกตัวเองว่าอาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน เลยทำให้ตัวคนแตกต่างไป ดังนั้นถึงนางจะต่างกับเธอมากแค่ไหน ลึกๆ ในใจฉัน ก็ยังปิดหูปิดตาหลอกตัวเองอยู่ กลัวว่าตัวเองจะต้องสิ้นหวังอีกครั้ง เลยหลอกตัวเองมาตลอด ไม่กล้าเผชิญหน้า ไม่กล้าพิสูจน์ จนกระทั่งนางอายุได้สิบสองปี ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอีก็มาเยี่ยมเยือน…”

ทันทีที่ได้ยินนามนี้ กู้ซีจิ่วพลันแข็งทื่อไปเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้นพลางเอ่ยถาม “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปหาคุณทำไม?”

หลงซือเย่ส่ายหัว ยิ้มขื่นๆ “คนๆ นี้ทำอะไรลึกลับซับซ้อนอยู่เสมอ ฉันกับเขาไม่ได้สนิทสนมกันลึกซึ้ง ถึงแม้จะเป็นสานุศิษย์สวรรค์เหมือนกัน แต่ฉันก็เข้ากับเขาไม่ได้ ปกติก็แทบจะไม่ได้ไปมาหาสู่อะไรกัน มีแค่ตอนที่สานุศิษย์สวรรค์ต้องร่วมประชุมถึงจะได้พบกันสักครั้ง แต่ก็เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นการที่เขาเป็นฝ่ายมาเยี่ยมถึงหน้าประตูหนนั้นก็ทำให้ฉันประหลาดใจมาก เขามาหาฉันเพื่อร่ำสุรา คนๆ นี้ลูกไม้เยอะ ติดนิสัยวางแผนกลั่นแกล้งคนอื่น ดังนั้น ฉันเลยระแวดระวังเขามากมาตลอด”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version