Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 675

บทที่ 675 เธอตั้งตารอฉันมาเหรอ?

“ไม่ผ่านเกณฑ์แล้วจะเป็นยังไง?”

“ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์จะถูกโยนเข้าไปรับโทษในแดนต้องห้าม เชื่อฉันเถอะ แดนต้องห้ามแห่งนั้นเข้าไปเพียงครั้งเดียวก็กลายเป็นฝันร้ายของเธอ ไม่อยากเข้าไปอีกตลอดกาล!”

ที่แท้การเป็นสานุศิษย์สวรรค์ก็น่ากลัวมากขนาดนี้!

กู้ซีจิ่วลอบส่ายหน้า ทว่าหัวใจกลับสั่นไหว อดไม่ได้ที่จะซักถาม “ในเมื่อเป็นการรับโทษ แถมคุณยังบอกว่าที่นั่นน่ากลัวมาก ถ้างั้นหลังจากรับโทษเสร็จก็จะขยับเขยื้อนไม่ไหวใช่ไหม?”

กู้ซีจิ่วเอ่ยข้อสงสัยของตนออกมา

หลงซือเย่ส่ายหน้า “แดนต้องห้ามแห่งนั้นทำให้คนเหมือนตกนรกทั้งเป็นก็จริง แต่ก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเนื้อหนังมังสาเท่านั้น ถ้าอยู่ในนั้นแล้วฝึกฝนให้ดีวรยุทธ์ก็ก้าวหน้าขึ้น เมื่ออกมาแล้ว ก็ไม่ถึงกับขยับไม่ไหว อย่างมากก็แค่สีหน้าไม่ค่อยดีนิดหน่อย อีกอย่างก่อนเขาจะลงโทษคนจะมอบโอสถวิญญาณเม็ดหนึ่งให้กินก่อนทุกครั้ง โอสถวิญญาณเม็ดนั้นจะทำให้คนอยู่ข้างในได้รับความทรมานเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่ก็รับประกันได้ว่าไม่ตายอยู่ในนั้นแน่นอน ไม่ทำให้พลังชีวิตเสียหายจริงๆ…”

กู้ซีจิ่ว นึกถึงอวิ๋นชิงหลัวขึ้นมา

อวิ๋นชิงหลัวถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายส่งคนมารับตัวไปกว่าหนึ่งเดือน เป็นไปได้ไหมที่ถูกเขาทดสอบแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ เลยถูกโยนเข้าไปรับโทษในแดนต้องห้ามอะไรนั้นทันที?

สีหน้ายามที่นางกลับมาก็ดูไม่ค่อยดีจริงๆ…

หากกู้ซีจิ่วได้ยินคำบอกเล่าเหล่านี้จากหลงซือเย่เมื่อหลายวันก่อน อาจจะคิดว่าตี้ฝูอีกพาอวิ๋นชิงหลัวไปเพื่อทดสอบและรับโทษจริงๆ

แต่เมื่อได้เห็นท่าทางอิงแอบคลอเคลียของอวิ๋นชิงหลัวกับเขาในคืนนี้ เธอก็ส่ายหน้าอีกครั้ง

ถ้าเขารักอยู่กับอวิ๋นชิงหลัว เกรงว่าคงหักใจให้นางได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนั้นไม่ลงกระมัง?

อวิ๋นชิงหลัวก็คงชิงชังความใจดำของเขา แต่ดูจากท่าทางของอวิ๋นชิงหลัวในวันนี้ สีหน้าเปี่ยมด้วยความอาวรณ์และเทิดทูน ไม่มี

วี่แววว่าจะเคียดแค้นชิงชังเลยสักนิด แต่ก็พูดยาก บางทีตี้ฝูอีอาจลงโทษนางตามกฎเหมือนเดิม ซ้ำยังสงสารนางจับใจ ดังนั้นคืนนี้จึงมาเดินเที่ยวกับนางเพื่อชดเชยให้…

“ซีจิ่ว ซีจิ่ว …ใจลอยอีกแล้วเหรอ?” หลงซือเย่เรียกให้เธอได้สติอีกครั้ง

กู้ซีจิ่วเหงื่อตกเล็กน้อย ความคิดตนประหวัดไปหาตี้ฝูอีอีกแล้ว!

คำถามนี้ที่ตนอยากทำให้กระจ่างชัดเจนดูเหมือนว่าจะทำให้กลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว

กู้ซีจิ่วส่ายศีรษะ ตัดสินใจสลัดคำถามทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตี้ฝูอีทิ้ง แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ใช่แล้ว ตอนนั้นคุณบอกว่าจะไปสอนที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ แล้วทำไมถึงไม่มาล่ะ?”

ดวงตาหลงซือเย่ส่องประกายแวบหนึ่ง “เธอตั้งตารอฉันมาเหรอ?”

“ฉันแค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้น วันนั้นคุณไปส่งองค์ชายแปดลงเขาแล้วไม่กลับมาอีกเลย ฉันยังนึกว่าองค์ชายหรงเช่อเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นเสียอีก กังวลใจอยู่ตั้งหลายวัน อ่อใช่ องค์ชายหรงเช่อเป็นยังไงบ้าง? หายดีหรือยัง?”

แววตาหลงซือเย่หมองลงเล็กน้อย แต่ว่ายังคงตอบคำถามเธอ “ตอนนั้นเขาอ่อนแรงอย่างหนัก อย่าว่าแต่เดินเลย จะคลานก็ยังคลานไม่ไหว หลังจากฉันพาเขาลงเขาไป ตอนแรกก็คิดจะหารถม้าให้เขาสักคัน ต่อมาเห็นเขาอ่อนแอมากจริงๆ ฉันกลัวเขาจะเกิดเรื่องขึ้นระหว่างทาง ก็เลยไปส่งเขากลับด้วยตัวเอง จากนั้น…อืม ถึงยังไงพลังยุทธ์ของเขาก็อ่อนแอเกินไป ตอนป่วยอาการกำเริบ ฉันเลยทิ้งไม่ได้จนมาถึงตอนนี้”

“เขาบาดเจ็บหนักขนาดนี้เชียว! ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”

“ตอนนี้ร่างกายไม่เป็นไรแล้ว พลังยุทธ์ก็อยู่ในระยะฟื้นฟู เพียงแต่ถ้าอยากให้พลังยุทธ์ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามปี” หลงซือเย่วินิจฉัย

กู้ซีจิ่วทราบวิชาแพทย์ของเขาดี ย่อมรู้ว่าที่เขาพูดเป็นความจริง ในใจรู้สึกละอายใจต่อองค์ชายหรงเช่อ หากมิใช่เพราะเธอ องค์ชายหรงเช่อจะบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?

คนทั้งสองเดินชมทิวทัศน์บนถนนใหญ่แบบผ่านๆ พลางคุยกันเรื่อยเปื่อยไปด้วย ดั่งสหายธรรมดา นี่คือฉากที่กู้ซีจิ่วเคยใฝ่ฝันหา ยามนี้ในที่สุดก็เป็นจริงแล้ว…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version