บทที่ 674 แล้วทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายล่ะ?
เยี่ยนเฉินกระอักแล้ว!
เขาสะบัดหน้าจากไปทันที เขาก็ต้องการเวลาส่วนตัวเหมือนกัน เขาก็อยากคิดอะไรเงียบๆ บ้าง!
….
“พอแล้ว อย่ามองเลย พวกเขาไปกันแล้ว”
เงาร่างคนทั้งสองหายลับไปในฝูงชนแล้ว ทว่าสายตาของกู้ซีจิ่วยังคงมองไปยังทิศทางนั้นอยู่
มือของหลงซือเย่โบกอยู่ตรงหน้าเธอ ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัว กู้ซีจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง “คุณก็รู้จักพวกเขาเหรอ?”
“พวกเขาเป็นเพื่อนของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันต้องรู้จักอยู่แล้ว แถมเยี่ยนเฉินคนนั้นก็มีชื่อเสียงขนาดนั้น” หลงซือเย่ตอบด้วยท่าที
สบายๆ
“คุณคงไม่ได้จับตามองความเคลื่อนไหวของฉันอยู่ตลอดใช่ไหม?”
ข้อสงสัยนี้ของกู้ซีจิ่วมีความเป็นไปได้ยิ่งนัก!
ไม่งั้นเขาจะรู้มากขนาดนี้ไดยั้งไง?!
หลงซือเย่นวดคลึงหว่างคิ้ว “เธอคิดมากไปแล้ว ฉันสนิทกับกู่ฉานโม่อยู่บ้าง ระยะนี้เขาเล่าเรื่องเธอให้ฉันฟังตั้งเยอะ และภูมิใจในตัวเธอมาก เขายังบอกด้วยว่าเธอปล้นหินวิญญาณเขาไปไม่น้อย…”
ยามที่เอ่ยประโยคหลังออกมามุมปากก็หยักเป็นรอยยิ้ม เอ่ยเสริมอีกประโยคหนึ่ง “แน่นอนว่าฉันก็ภูมิใจในตัวเธอด้วยเหมือนกัน”
“คุณสนิทกับกู่ฉานโม่มากเหรอ?” กู้ซีจิ่วนึกไม่ถึงว่ากู่ฉานโม่ก็มีช่วงเวลาที่พูดมากเหมือนกัน
“ฉันเคยเป็นลูกศิษย์ที่เขาภาคภูมิใจที่สุด” หลงซือเย่ก็ไม่ปิดบังเช่นกัน
กู้ซีจิ่วตะลึง ไม่คิดว่าเขาก็สำเร็จการสึกษาจากที่นี่เหมือนกัน เธอนึกถึงคำถามข้อหนึ่งขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม “สานุศิษย์สวรรค์ต้องมาที่นี่ทุกคนใช่ไหม?”
“เท่าที่ฉันรู้มา เป็นแบบนั้นจริงๆ”
“แล้วทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายล่ะ?” กู้ซีจิ่วหลุดปากถามออกมา
“เขา…” หลงซือเย่ขมวดคิ้ว ส่ายศีรษะพลางตอบ “เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้ เขาอายุมากกว่าพวกเราทั้งหมด มีชื่อเสียงมานานแล้ว แถมเขายังทำอะไรลึกลับซับซ้อน ดังนั้นเลยไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของเขา”
“ที่แท้เขาก็อายุมากที่สุดในบรรดาพวกคุณ มิน่าล่ะเขาถึงเป็นผู้ถ่ายทอดคำสั่งของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ประจำ การทดสอบสานุศิษย์สวรรค์ก็เป็นหน้าที่ของเขา” กู้ซีจิ่วเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
หลงซือเย่ยิ้มขื่น “อันที่จริง คนที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไว้ใจที่สุดก็คือเขา บางครั้งคนบัดซบผู้นี้ก็ทำตัวเป็นจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ…”
“ฉันได้ยินว่าเขาเป็นคนทดสอบฐานะสานุศิษย์สวรรค์ของคุณใช่ไหม?”
หลงซือเย่ถอนหายใจ “อันที่จริงฉันก็เหมือนเธอนั่นแหละ เนื่องจากฉันมีความทรงจำมาตั้งแต่เกิด ก็เลยมีความสามารถพิเศษ ความรู้ทั้งหมดก็ไม่ใช่สิ่งที่โลกใบนี้สมควรรู้ เลยถูกเอาไปลือกันแปลกๆ ตอนนั้นฉันอายุยังน้อย เกิดในสถานที่อันห่างไกล ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าสานุศิษย์สวรรค์คืออะไร พอมีคนเค้นถามว่าฉันเรียนรู้ทุกอย่างมาจากไหน ฉันร้อนรนไปชั่วขณะเลยตอบไปว่าเป็นพรสวรรค์ฟ้าประทาน ผลคือ…เกิดข่าวลือแพร่ออกไป! ไม่กี่วันต่อมาเขาก็มาเยือนถึงหน้าประตู จับฉันไปทดสอบด้วยตัวเอง…”
“เขาเคยทรมานคุณไหม?”
“ยิ่งกว่าทรมานเสียอีก…” หลงซือเย่ยิ้มขื่น เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ความทรงจำที่ดีนัก คิ้วเขาขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ “สานุศิษย์สวรรค์ทุกคนเคยถูกเขาทรมานจนเกือบตายมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะหลังจากทดสอบสำเร็จ ต่อไปก็เป็นการฝึกนรกทันที ทำผิดนิดหน่อยก็จะถูกลงโทษ บทลงโทษรุนแรงมาก ตอนนั้นฉันหวังจะให้ตัวเองไม่ถือกำเนิดขึ้น มาใจจะขาด…เพียงแต่วิธีนี้ของเขาก็เป็นวิธีที่ฝ่าทะลวงขั้นได้รวดเร็วที่สุดจริงๆ เรื่องที่คนอื่นฝึกฝนมาเป็นร้อยปีก็ยังไม่แน่ว่าจะทำได้ ทว่าเหล่าสานุศิษย์สวรรค์ใช้เวลาแค่ยี่สิบปีก็ทำได้แล้ว…”
นี่อยู่เหนือความคาดหมายของกู้ซีจิ่วอยู่บ้าง “วรยุทธ์ของพวกคุณล้วนเป็นเขาสอนให้หรือ?”
หลงซือเย่ส่ายหน้า “เขาไหนเลยจะมีเวลาขนาดนั้น? ทักษะบางอย่างของพวกเราก็มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ความสามารถหลักจะใช้เป็นเองอย่างน่าประหลาด แถมพวกเราก็ได้รับคำชี้แนะจากท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ในความฝันด้วย ได้รับตำราล้ำค่าที่เกี่ยวข้อง ตี้ฝูอีคือผู้ดูแล ส่วนใหญ่เขาจะมาตรวจสอบพวกเราเดือนละครั้ง หากผ่านเกณฑ์ก็กลับไปฝึกฝนที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ต่อ หากไม่ผ่านเกณฑ์… ”