Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 732

บทที่ 732 ยิ่งดิ้นอ้อมกอดก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น

หัวใจกู้ซีจิ่วคล้ายถูกอะไรบางอย่างซัดเข้าอย่างจัง “อะ…อะไรนะ?”

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เม้มปากมองเธอ

กู้ซีจิ่วถูกเขามองจนหนังหัวชาหนึบแล้ว ประกอบกับริมฝั่งหนาวเย็นนัก ถึงแม้คนทั้งสองจะกอดกันกลมดั่งมัจฉาผสานร่างก็มอบความอบอุ่นเล็กน้อยให้แก่กัน แต่วันนี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผิดปกติยิ่งนัก เขายังมีชีวิตอยู่ชัดๆ เป็นคนเป็นคนหนึ่ง แต่ร่างกายกลับเย็นเฉียบเหมือนคนตายอยู่เช่นเดิม ยามนี้กู้ซีจิ่วไม่มีพลังวิญญาณคุ้มกาย เมื่ออยู่ในอ้อมกอดเขาจึงหนาวจนตัวสั่น

คนผู้นี้คงดื่มจนเมาแล้วพูดออกมาด้วยความเมากระมัง?

เขารู้บ้างไหมตัวเองพูดอะไรอยู่?

กู้ซีจิ่วดิ้นรนไม่ออกไปชั่วขณะ นอนกองอยู่บนร่างเขา มองเขาอย่างจริงจัง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ทราบหรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด?”

ตี้ฝูอียังคงมองเธอเงียบไม่พูดไม่จา ในดวงตาของเขาสะท้อนเงาร่างของเธอออกมา ฉากหลังของเธอคือท้องฟ้าที่กลาดเกลื่อนด้วยหมู่ดาว

“นี่ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านมีมีสติอยู่หรือเปล่า?” กู้ซีจิ่วโบกมือไปมาเบื้องหน้าเขาอย่างเอาจริงเอาจัง

ริมฝีปากบางของตี้ฝูอีเม้มแน่นยิ่ง ดวงตาแดงกํ่าเช่นเดิม จ้องมองเธออย่างเลื่อนลอย

เมาจริงๆ ด้วย!

ไม่มีสติเลย!

ผู้อื่นดื่มจนเมาแล้วอาจจะง่วงหรืออาละวาดเล็กน้อย แต่อาการเมาท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ไม่เหมือนผู้อื่น เขาดำลงไปใต้น้ำ แล้วฝึกวิชาลมหายใจเต่า ทำให้เธอว่าเขาจะจมนํ้าเสียแล้ว!

ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะถามหาสาเหตุกับคนเมา กู้ซีจิ่วย่อมไม่คิดจะสืบสาวราวเรื่องกับเขา

เขาเหมือนเด็กน้อยที่ไขว่คว้าของเล่นมาอย่างยากลำบาก กอดเธอเอาไว้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย

วรยุทธ์ของเขาสูงเกินไป วรยุทธ์ของเธอต่ำเกินไป แถมยังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอด้วย ยามนี้ฝืนดิ้นรนย่อมไม่เป็นผลดี และดิ้นไปก็ไม่หลุด

ถึงขั้นที่ว่ายิ่งดิ้นอ้อมกอดก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น…

กู้ซีจิ่วเชี่ยวชาญในการรับมือกับคนเมายิ่งนัก ชาติก่อนหากว่าเพื่อนของเธอดื่มจนเมา ปกติแล้วเธอใช้น้ำเย็นแก้วเดียวก็ทำให้สร่างได้แล้ว…

แต่ตอนนี้เธอเพิ่งลากเขาขึ้นมาจากนํ้าเย็นเฉียบ แล้วนํ้าเย็นแก้วหนึ่งจะทำให้เขาสร่างได้อย่างไร?

กู้ซีจิ่วสงสัยในความเป็นไปได้นี้อย่างจริงจัง

ยามนี้เธอและเขานอนอยู่ริมสระ มีระยะห่างจากสระสองฉื่อ

กู้ซีจิ่วดิ้นไปดิ้นมา ดิ้นมาดิ้นไปอย่างไรก็ไม่หลุดจากอ้อมกอดเขา จึงเริ่มหาวิธีเคลื่อนย้ายไปทางสระนํ้า…

ร่างกายเธอดิ้นยุกยิกอยู่ในอ้อมแขนเขา จากนั้นก็พบว่าร่างกายที่อยู่ใต้ร่างดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาขึ้นมา ไม่เย็นยะเยือกอีกต่อไป อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาเพียงสามสี่นาทีก็ทำให้กู้ซีจิ่วรู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนตนทับอยู่บนเตาย่างที่ถูกแดดแผดเผา…

เธอไม่หนาวเหน็บแล้ว ทว่าในใจกลับเริ่มสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา!

เนื่องจากเธอพบว่าร่างกายของตี้ฝูอีมีปฏิกิริยาพิเศษบางอย่างขึ้นมา…ปฏิกิริยาของเพศชาย

บางแห่งเริ่มแข็งเป็นลำขึ้นมาปานแท่งเหล็ก ขวางกั้นไว้ด้วยอาภรณ์บางๆ ของทั้งสองฝ่าย ดุนดันหน้าท้องเธอ เธอคอแห้งขึ้นมา ทำให้เธออยากมองข้ามก็ทำไม่ได้!

เธอตื่นตระหนกอยู่บ้าง ตี้ฝูอีที่อยู่ใต้ร่างนอกจากร่างกายที่ซื่อสัตย์แล้ว ส่วนอื่นดูคล้ายว่าปิดการทำงานไปหมดแล้ว

เธอพูดคุยกับเขา ดิ้นรน อ้อนวอน ข่มขู่ ถึงขั้นหยิบกระบี่สั้นเล่มหนึ่งออกมาจ่อคอเขา…

ใช้กลอุบายไปสารพัดแล้ว แต่กลับเป็นดั่งวัวดินจมสมุทร ไม่เป็นผลเลย แถมเขายังนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดวงตาคู่นั้นมองดูเธอ เริ่มแรกยังดูเจ็บปวดและสับสน ต่อมาคล้ายเพ่งพินิจพิจารณา จากนั้นแววตาก็เปลี่ยนลุ่มลึก ลึกลํ้าขึ้นเรื่อยๆ…

แขนข้างหนึ่งของเขารัดเอวเธอไว้ ทำให้ร่างกายเธอแนบชิดกับเขา ระหว่างคนทั้งสองมีเพียงเสื้อผ้าบางๆ สองชั้นขวางกั้นไว้ไม่มีช่วงว่างเลยสักนิด

เขารูปร่างสูง เมื่อเทียบกับเขาแล้วกู้ซีจิ่วดูตัวเล็กกะทัดรัด ไปเลย ทั้งตัวถูกร่างกายเขาโอบล้อมไว้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version