Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 785

บทที่ 785 มิสู้รับเจ้าเป็นบุตรสาวบุญธรรมเสีย

“ถึงอย่างไรชายหญิงก็มีข้อแตกต่าง อยู่ร่วมเรือนเช่นนี้เกรงว่าจะถูกคนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายนั้นไม่เท่าไหร่ ผู้อื่นเพียงรํ่าลือว่าเป็นเรื่องสำราญหวานซึ้ง เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลต่อชื่อเสียงของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมากนัก แต่ซีจิ่วนั้นไม่ได้ เกรงว่าพอผ่านเรื่องนี้ไป ชื่อเสียงของนางจะมัวหมอง เป็นเรื่องเล่าขานที่ไม่น่าฟัง” วาจาจริงใจประโยคนี้ของหลงซือเย่เต็มไปด้วยความจริงจัง

อันที่จริงเขากล่าวได้มีเหตุผลยิ่งนัก ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะลอบพยักหน้าเห็นด้วย กู่ฉานโม่ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เสนอความคิดเห็นอันชาญฉลาด “ข้าผู้เฒ่าจำได้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเคยมีสัญญาหมั้นหมายกับกู้ซีจิ่วใช่หรือไม่? หากว่ารื้อฟื้นสัญญาหมั้นหมายนี้เสีย เช่นนี้ก็ไม่ต้องเกรงคำคนครหาแล้ว”

ฝูงชนพากันคล้อยตาม

หลงซือเย่เงียบงัน เขานึกไม่ถึงว่าวาจาโจมตีของตนจะชักนำให้กู่ฉานโม่กล่าวเช่นนี้ออกมา จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

กู้ซีจิ่วก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เธอคิดแค่เรื่องที่จะสลับร่างคืนเท่านั้นจริงๆ เรื่องอื่นไม่อยู่ในความคิดของเธอเลย แต่ยามนี้สายตาทั้งหมดล้วนมองมาที่เธอ คล้ายจะรอให้เธอตัดสินใจ

กู้ซีจิ่วร้อนรนอยู่ในใจ จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา รีบส่งสายตาให้ตี้ฝูอีทันที แววตาเอื้อเอ็นดูรางๆ “กู้ซีจิ่วถึงแม้ข้าจะเคยมีสัญญาหมั้นหมายกับ เจ้า แต่ถึงอย่างไรก็ล้มเลิกไปแล้ว เดิมทีเจ้ากับข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว แต่เห็นแก่ที่เจ้าเป็นศิษย์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เจ้าบาดเจ็บสาหัส ข้าไม่อาจนิ่งดูดายได้ ข้าบริสุทธิ์ใจไม่แยแสคำครหาของคนเหล่านั้น แต่เจ้านั้นถึงอย่างไรก็เป็นสตรี…อืม มิสู้เอาเช่นนี้ ข้าอายุมากกว่าเจ้า หลายสิบปี มากเกินพอจะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเจ้า มิสู้รับเจ้าเป็นบุตรสาวบุญธรรมเสีย เช่นนี้ก็หลีกเลี่ยงคำติฉินนินทาเหล่านั้นได้แล้ว”

ฝีเท้าของตี้ฝูอีซวนเซนิดๆ มองเธออย่างยิ้มมิเชิงยิ้ม “บุตรสาวบุญธรรม?”

กู้ซีจิ่วพยักหน้าแข็งขัน “มิผิด”

ด้วยเกรงว่าเขาจะปฏิเสธทันทีอีก เธอจึงส่งกระแสเสียงไปหาเขาอีกครั้ง ‘ตี้ฝูอี เพื่อชื่อเสียงของข้า ก็มีแต่ต้องเป็นเช่นนี้ไปก่อน’

ตี้ฝูอีส่งกระแสเสียงกลับมา ‘เจ้าคิดจะทำให้ชื่อเสียงข้าวุ่นวายในอนาคตสินะ?’

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว ‘ตี้ฝูอี ข้าเคยบอกแล้วไงว่าคนที่ข้าอยากแต่งให้คือหลงซือเย่ การลงเรือลำเดียวกับท่านในยามนี้มิใช่ความตั้งใจเดิม เมื่ออยู่บนพื้นฐานที่ไม่อาจบอกกล่าวสาเหตุที่แท้จริงได้ ก็มีแต่ต้องอาศัยชื่อเสียงเช่นนี้มาปิดบังไปก่อน ข้าไม่อาจทำร้ายเขาจนเกินไปได้!’

เขาจากปากของเธอย่อมหมายถึง หลงซือเย่

ตี้ฝูอีนิ่งไปครู่หนึ่ง ‘ได้ แล้วแต่เจ้า!’

กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้เธอมีแต่ต้องทำเช่นนี้แล้ว เช่นนี้เธอก็มีคำอธิบายใหหลงซือเย่แล้ว

สำหรับการใช้ชีวิตร่วมห้องกันในอนาคตนั้น กู้ซีจิ่วมิได้หวั่นเกรงเล่ห์กลของตี้ฝูอีเลย ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็เป็นผู้ชาย ความได้เปรียบอยู่ในมือเธอ

ขอเพียงเธอกุมไว้ให้มั่น ตี้ฝูอีคงไม่อาจควบคุมร่างกายของกู้ซีจิ่วมาข่มเหงเธอได้กระมัง?

บุรุษข่มเหงสตรีนั้นง่ายดายนัก ทว่าสตรีคิดข่มเห่งบุรุษนั้นไม่ง่ายเลย…

ในเมื่อต้นเรื่องทั้งสองคนล้วนเห็นพ้องต้องกัน คนอื่นย่อมไม่พูดเป็นอื่นเช่นกัน

หลงซือเย่มองคนนี้ที มองคนนั้นที ความคิดลุ่มลึกพาดผ่านนัยน์ตา เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดเป็นอื่นอีกเช่นกัน เรื่องนี้จึงจบลงด้วยประการฉะนี้

ด้วยเหตุนี้ในช่วงเย็น ในที่สุดตี้ฝูอีในร่างของกู้ซีจิ่ว ก็ได้หอบข้าวหอบของกลับไปนอนที่เรือนของตน นอนหลับบนเตียงใหญ่ของตน

วิธีฝึกฝนของตี้ฝูอีต้องฝึกแค่ยามพลบคํ่าเท่านั้นถึงจะได้ ตอนกลางวันสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นกู้ซีจิ่วในร่างตี้ฝูอีจึงไปสอนที่ชั้นเรียนเมฆาม่วง ตี้ฝูอีก็มีนํ้าใจยิ่งนัก ตอนเย็นได้บรรยายให้เธอฟัง ให้เธอท่องจำเพื่อที่จะได้นำไปหลอกศิษย์ของชั้นเรียนเมฆาม่วงเหล่านั้นในวันพรุ่งนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version