บทที่ 87
เมื่อข้าตื่นแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย
อีกอย่างคือเธอยังไม่ได้เรียนรู้วิธีหลอมยาของยุคนี้เลย!
สายตาขององค์หญิงคนงามจับจ้องไปที่ขวดหยกเล็กๆ ในมือเธอ นัยน์ตาสาดแสงแวบหนึ่ง คล้ายอยากจะเอ่ยบางอย่าง แต่ถูกอุดปากเอาไว้นางเลยพูดไม่ได้
ยาวิญญาณนี้จะต้องนั่งสมาธิเข้าฌานเพื่อย่อยสลายและดูดซึม ดังนั้นหลังจากกู้ซีจิ่วกลืนยาลงไปแล้วจึงเริ่มนั่งสมาธิ
ยานี้ค่อนข้างจะมีประสิทธิ์ภาพทีเดียว กู้ซีจิ่วนั่งสมาธิอยู่ราวหนึ่งเค่อกว่าๆ ในที่สุดความปวดร้าวในทรวงอกก็ทุเลาลงไปไม่น้อย น่าจะพอใช้วิชาเคลื่อนย้ายได้บ้างแล้ว
เธอลืมตาขึ้น และสบเข้ากับดวงตาคู่สวยขององค์หญิงคนงามพอดี
กู้ซีจิ่วชะงักไปเล็กน้อย ขณะกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพเสียงหนึ่งลอดเข้ามา “องค์หญิง ปลอดภัยดีอยู่ใช่หรือไม่?”
เสียงนั้นเป็นเสียงของชายหนุ่ม คาดว่าน่าจะเป็นองครักษ์ขององค์หญิงผู้นี้ คงเห็นว่านานแล้วแต่องค์หญิงไม่ออกไปสักทีเลยส่งเสียงถามไถ่
องค์หญิงคนงามมองหน้ากู้ซีจิ่ว นัยน์ตาแฝงแววขบขันน้อยๆ รอให้เธอดึงเศษแขนเสื้อที่อยู่ในปากนางออกเพื่อจะส่งเสียงตอบ
แต่ไม่นึกเลยว่าองครักษ์ผู้นั้นเพิ่งจะพูดยังไม่ทันขาดคำ กู้ซีจิ่วก็รีบตอบกลับไปทันควัน “ยังอยู่ดี”
ด้วยเสียงที่เหมือนองค์หญิงคนงามเปะ แม้แต่โทนเสียงก็ไม่ผิดเพี้ยนเลยสักนิด
องค์หญิงคนงามจ้องมองเธอ ดวงตาฉํ่าวาวฉายแววประหลาดใจแวบหนึ่ง
คล้ายคิดไม่ถึงว่าเธอจะสามารถปลอมเสียงได้ด้วย ช่างเป็นการเลียนเสียงผู้อื่นที่ เลียนได้เหมือนถึงเพียงนี้!
กู้ซีจิ่วลุกขึ้นแล้วดึงแขนเสื้ออกจากปากนาง “ท่านรู้ความลับของข้ามากเกินไป ข้าคงต้องฆ่าท่านจริงๆ ซะแล้ว! ”
องค์หญิงคนงามรีบเอ่ยเร็วจี๋ “ข้ารับประกันว่าจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เหตุการณ์ในวันนี้เป็นเพียงฝันตื่นหนึ่ง เมื่อข้าตื่นแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย!”
องค์หญิงผู้นี้ช่างรู้ความยิ่งนัก! เกรงว่าประโยคต่อไปของเธอคงพูดต่อไม่ได้แล้ว
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วหยิบขวดเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ เทยาลูกกลอนสีแดงสดใสเม็ดหนึ่งออกมาจากขวดหยกใบเล็ก แล้วยัดใส่ปากขององค์หญิงคนงามผู้นั้นโดยไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังกดคอนางเพื่อให้นางกลืนยาลูกกลอนลงไปพลางกล่าวอย่างเย็นชา “นี่คือพิษกร่อนลำไล้ เมื่อกินลงไปจะไม่รู้สึกอันใด แต่หากไม่มียาถอนพิษ พิษก็จะแสดงออกมาภายในระยะเวลาหนึ่ง เดือน กระเพาะจะเปื่อยยุ่ยลำไล้จะทะลุและตาย”
ดวงตาขององค์หญิงคนงามส่องประกายดุจระลอกคลื่น “หากว่าข้าไม่เล่าอะไรให้คนนอกฟัง เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะมอบยาถอนพิษให้ข้าใช่หรือไม่?”
“ฉลาดนัก! ขอเพียงท่านว่านอนสอนง่าย เมื่อถึงวันที่ 28 ยามคํ่า ข้าจะส่งคนมามอบยาถอนพิษให้แก่องค์หญิง”
“ข้าจะเชื่อฟัง” องค์หญิงคนงามรับประกัน
กู้ซีจิ่วพยักหน้าน้อยๆ แล้วใช้กริชบากเศษผ้าที่มัดองค์หญิงคนงามไว้จนเป็นรอยเล็กๆ หลายรอย
“ทำไมเจ้าไม่ปล่อยข้าโดยตรงเลย?” องค์หญิงคนงามข้องใจ
“ท่านใช้เรี่ยวแรงมากที่สุดของตนดิ้นเอาเองเถิด ชั่วระยะหนึ่งก้านธูปก็คงแกะออกได้แล้ว”
“อื้อ” องค์หญิงคนงามเริ่มโยกซ้ายโยกขวาอยู่บนเก้าอี้ กู้ซีจิ่วก็ไม่สนใจนาง หมุนตัวไปรอบๆ ใช้น้ำหอมพิเศษชนิดหนึ่งกำจัดกลิ่นอายของตัวเองในที่แห่งนี้ทิ้งเท่าที่จะทำได้ เมื่อแน่ใจว่าไม่เหลือร่องรอยใดแล้วก็หมุนตัวอย่างสวยงาม เตรียมจะใช้วิชาเคลื่อนย้าย แต่จู่ๆ กลับชะงักฝีเท้าลงมองไปที่องค์หญิงคนงามผู้นั้น
องค์หญิงคนงามเองก็มองกลับมาที่เธอเช่นกัน สายตาของคนทั้งสองประสานกันกลางอากาศ กู้ซีจิ่วได้แต่ร้องด่าอยู่ในใจ!
องค์หญิงคนงามผู้นี้ที่แท้เป็นอะไรกลับชาติมาเกิดกันแน่ ถึงได้มีดวงเนตรประหนึ่งสระนํ้าลึกที่คล้ายจะสามารถดึงดูดผู้คนได้ทำให้คนที่สบตานางใจสั่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด! ทำร้ายนางไม่ลง ปรารถนาจะทำทุกสิ่งเพื่อนางด้วยความเต็มใจ
หรือนี่จะเป็นนัยน์ตาอันแสนเย้ายวนในตำนาน?
กู้ซีจิ่วนิ่งอยู่สักพักค่อยเอ่ยปากขึ้น “น้ำแกงมะละกอ อุ้งเท้าหมู นํ้าเต้าหู้ ถั่วลิสง…ควรกินให้มากหน่อย’’
เมื่อเห็นนัยน์ตาขององค์หญิงคนงามฉายแววสงสัย เธอจึงกล่าวเสริมอีกประโยค “สิ่งเหล่านี้ช่วยบำรุงหน้าอก!”
เมื่อกล่าวจบเธอก็หายตัวไปในพริบตา