บทที่ 874 เจ้าไปไหนข้าไปด้วย
แถมความคิดของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นยังซับซ้อนจนน่ากลัวจริง ๆ เขาใช้ประโยชน์จากความรู้สึกผิดของหลงซีล่อให้เขาเข้าไปเป็นครูฝึกในค่ายฝึกนักฆ่า ให้มาปกป้องผลงานชิ้นที่สมบูรณ์แบบที่สุดอย่างเธอ หลายปีต่อมาก็กลายเป็นปรมาจารย์กู่ เพื่อถ่ายทอดวิชากู่ให้เธอ…
เธอนั่งอยู่ครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ล้วนผ่านพ้นไปหมดแล้ว!
ไม่ว่าเธอจะใช่เด็กโคลนนิ่งคนนั้นหรือไม่ อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้เธอคือกู้ซีจิ่ว!
เธอลุกขึ้นมาเรื่องแรกที่ทำก็คือไปหาเชียนหลิงอวี่กับหลานไว่หู บอกพวกเขาว่าตนคิดจะย้ายห้องเรียน
เธอเคยใคร่ครวญแล้ว ด้วยคุณสมบัติของเธอในตอนนี้ฝึกฝนวิชาเหินหาวนั้นกินแรงมากจริงๆ มิใช่สิ่งที่มานะทุ่มเทแล้วจะสามารถทำได้ และเธอก็ไม่ต้องการ ‘การดูแลเป็นพิเศษ’ ของเขาผู้นั้นอีก ดังนั้นการย้ายห้องคือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
หลานไว่หูแทบจะไม่คิดสักนิดเลย “ซีจิ่ว เจ้าย้ายข้าก็ย้าย! เจ้าไปไหนข้าไปด้วย!”
เชียนหลิงอวี่ก็ไม่คิดเลยเช่นกัน “ข้าก็ย้ายด้วย!”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “จิ้งจอกน้อยย้ายไปกับข้าได้ หลิงอวี่ เจ้าไม่ควรย้าย”
ยามต่อสู้หลานไว่หูต้องได้รับการชี้นำจากเธอ ถ้านางติดตามผู้อื่นเป็นไปได้ว่าจะแสดงศักยภาพออกมาเช่นที่ควรไม่ได้ แต่เชียนหลิงอวี่มีพลัง วิญญาณขั้นแปดแล้ว อยู่ในชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่งดั่งมัจฉาได้วารี เขาไม่จำเป็นต้องย้ายห้องไปด้วยเลย
กู้ซีจิ่วกล่าวกับเชียนหลิงอวี่อย่างเฉียบขาด เชียนหลิงอวี่ส่ายหัวเหมือนกลองป๋องแป๋ง “ไม่ได้! จะย้ายก็ต้องย้ายกันหมด! พวกเราสามคนผูกพันแน่นแฟ้น ผู้ใดก็อย่าได้หมายจะพรากพวกเราออกจากกัน!”
กู้ซีจิ่วรู้สึกปวดหัวนัก “หลิงอวี่ ใต้หล้านี้ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา เจ้าอยู่ห้องหนึ่งจะมีพัฒนาการดีขึ้นกว่าเดิม อีกอย่างต่อให้ย้ายห้องแล้ว พวกเราก็ยังเล่นด้วยกันได้เหมือนเดิม”
เธอพูดจนปากแทบฉีก ทว่าจนใจที่เจ้าเด็กเหลือขอเชียนหลิงอวี่ผู้นี้ดื้อด้านไม่ยอมเปลี่ยนใจจะย้ายตามไปด้วยให้ได้ กู้ซีจิ่วจนปัญญา ทำได้เพียงพาเจ้าสองตัวนี้ไปหากู่ฉานโม่ด้วยกัน
กู่ฉานโม่ยามที่ได้ยินเธอยื่นความจำนงดวงตาก็เบิกถลนยิ่งกว่าไข่ไก่ “กู้ซีจิ่ว เหล่าศิษย์ในยามนี้ล้วนปรารถนาจะลับหัวสมองให้แหลมคมแล้วพุ่งทะลวงสู่ชั้นเมฆ่าม่วงห้องหนึ่งใจจะขาดกันทั้งนั้น พวกเจ้าคิดอะไรออกมา? ทำไมเล่า?”
กู้ซีจิ่วใคร่ครวญเหตุผลไว้ล่วงหน้าแล้ว “อาจารย์ใหญ่ ซีจิ่วพลังวิญญาณต่ำต้อย เล่าเรียนอยู่ห้องหนึ่งเปลืองแรงยิ่งนัก มีหลายหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับระดับความเชี่ยวชาญและระดับสูงตํ่าของพลังวิญญาณโดยตรง มิใช่สิ่งที่ซีจิ่วเพียรพยายามแล้วจะบรรลุได้ ซีจิ่วศึกษาหลักสูตรของชั้นเมฆาม่วงห้องสองดูแล้ว รู้สึกว่าบทเรียนของชั้นนั้นค่อนข้างเหมาะสมกับข้า มีเพียงบทเรียนที่เหมาะสมกับตนถึงจะได้ผลดีที่สุด ถึงจะแสดงความได้เปรียบออกมามากที่สุด ดังนั้นซีจิ่วใคร่ครวญดูหลายตลบแล้ว ยังคงตัดสินใจจะย้ายห้อง ขออาจารย์ใหญ่โปรดอนุเคราะห์ด้วย”
ถ้อยคำที่กู้ซีจิ่วพูดมาทั้งหมดมีเหตุผลยิ่งนัก คนมิได้มีความสามารถรอบด้าน ย่อมมีสิ่งที่ถนัดเป็นพิเศษและไม่ถนัดเป็นพิเศษ ในการศึกษาเสริมจุดเด่นเลี่ยงจุดด้อยก็ถูกต้องจริงๆ
พลังวิญญาณของกู้ซีจิ่วตํ่าต้อยเป็นความจริงที่แย้งไม่ได้ และไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ เด็กคนนี้เยี่ยมยอดมากแล้ว สร้างปาฏิหาริย์มามากมาย เด็กเช่นนี้สมควรได้รับการสั่งสอนที่เหมาะสมที่สุด ทำให้นางเติบใหญ่อย่างแท้จริง…
กู่ฉานโม่มิได้หูตึงมิรับรู้ข่าวสาร เขาคือตาเฒ่าที่ผ่านโลกมามากคนหนึ่ง มีสายตาที่เข้าใจเรื่องทางโลกอย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่กู้ซีจิ่วประสบที่ชั้นเรียนเมฆาคล้อยห้องหนึ่งในหลายวันมานี้เขาก็ทราบอย่างคร่าวๆ เช่นกัน ทราบว่าในห้องหนึ่งนางได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เสมอภาคจากตี้ฝูอี ทราบว่าหลงซือเย่โปรดปรานนาง
ถึงแม้ในวันที่เผาหุ่นเชิดชุดม่วงตัวนั้นหลงซือเย่จะอธิบายแล้วว่าความรักหวานแหววของตี้ฝูอีกับกู้ซีจิ่วในหลายวันที่ผ่านมาเป็นเพียงการเล่นละครเท่านั้น แต่ในใจเขากลับรับรู้ได้รางๆ ว่ามิใช่ง่ายดายปานนั้น หลังจากจบเรื่องเขาใคร่ครวญดูรู้สึกว่าความรู้สึกของตี้ฝูอีคือการแสดงจริงๆ แต่ระหว่างตี้ฝูอีและกู้ซีจิ่วกลับมิคล้ายว่าเป็นการแสดงไปเสียทั้งหมด ระหว่างสามคนนี้มิได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น!