Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 915

บทที่ 915 ลางสังหรณ์นี้ช่างแม่นยำโดยแท้!

ตี้ฝูอีก็ไม่รบกวนเธอ เขาก็มองดวงดาวบนฟากฟ้าเช่นกัน สายตาของเขาหยุดตรงหมู่ดาวตัวแทนทางฝั่งตะวันออก ที่นั่นมีดวงดาวที่ไม่โดดเด่นเลยดวงหนึ่ง ท่ามกลางหมู่ดาวตรงนั้นมันถึงขั้นมิใช่ดวงดาวที่สว่างไสวสักเท่าใด ให้ความรู้สึกกลืนหายไปในหมู่ดาว แต่ความสว่างของตัวมันค่อนข้างประหลาด สมควรเป็นดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดชัดๆ แต่มันกลับถูกฝุ่นละอองปกคลุมไว้ทั้งดวง เห็นได้ชัดเจนนักว่าซ่อนเร้นความสามารถของคนที่มันเป็นตัวแทนเอาไว้ และฟากฟ้าส่วนที่มันอยู่นั้นมืดมิดเป็นพิเศษ…

หากเขาเดาไม่ผิด คนที่มันเป็นตัวแทนก็คือมือมืดที่วางแผนเล่นงานเขามาโดยตลอด ดาวดวงนั้นยังไม่ร่วงหล่นไป เป็นหลักฐานว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เก็บซ่อนแผนใหญ่บางอย่างไว้ดำเนินการต่อ ขั้นต่อไปคนผู้นั้นจะทำอะไร?

ครานี้คนผู้นั้นเสียเปรียบเขาครั้งใหญ่ น่าจะไม่พุ่งเป้ามาที่เขาสักพัก หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เป้าหมายของเขาน่าจะเป็นสานุศิษย์สวรรค์คนอื่น ผู้ใดเล่าที่เป็นเป้าหมายรายต่อไปของเขา?

สายตาของตี้ฝูอีหันเหไปทางกลุ่มดาวที่แทนตัวสานุศิษย์สวรรค์ ทุกดวงล้วนเป็นปกติยิ่ง

โหราศาสตร์ไม่อาจสะท้อนเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ได้ มีเพียงยามที่เกิดภัยคุกคามชีวิตของผู้นั้น ดวงดาวที่แทนตัวเขาถึงจะหม่นแสงลง หรือจวนเจียนจะร่วงหล่น ถึงจะเกิดความผิดปกติต่างๆ ขึ้น และเขาไม่จำเป็นต้องไปสอดส่องสานุศิษย์สวรรค์เหล่านี้โดยเฉพาะ นั่งมองดวงดาวอยู่ที่นี่ก็สามารถสอดส่องได้เช่นกัน และสามารถส่งคนไปช่วยเหลือได้ทันกาลด้วย…

สานุศิษย์สวรรค์ต้องได้รับการหล่อหลอมฝึกฝน และเป็นธรรมดาที่ต้องประสบพบเจอเรื่องยากลำบากต่างๆ หากไม่มีอันตรายถึงชีวิตจริงๆ เขาไม่อาจสอดมือไปยุ่งเกี่ยวได้

สายตาของเขาเลื่อนไปที่ดาวราชาดวงใหม่ดวงนั้นอีกครั้ง ดาวดวงนั้นเติบโตเป็นอย่างดี และรอบกายมันเริ่มปรากฏดาวผู้พิทักษ์ขึ้นมาแล้ว ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวเพียงดวงเดียวอีกต่อไป…

ดาวราชาดวงใหม่นั้นเดิมทีอยู่ในซอกมุมหนึ่งซึ่งไม่สะดุดตานัก แต่ตอนนี้มันค่อยๆ เคลื่อนตัวมาอยู่กลางนภาแล้ว แน่นอนว่าประกายแสงของมันยังคงมืดสลัวยิ่งนัก ถึงขั้นที่สว่างสู้ดาวผู้พิทักษ์เหล่านั้นของมันไม่ได้ด้วยซํ้า แสงดั้งเดิมของมันก็เป็นสีรุ้งเช่นกัน แต่เนื่องจากประกายแสงสีรุ้งของดาวใหญ่ดวงนั้นเจิดจรัสเกินไปจึงกลบแสงสีรุ้งของดาวราชาดวงใหม่ไปเสีย ทำให้มันดูธรรมดายิ่งกว่าเดิม…

ลมหายใจของเด็กสาวข้างกายกระจ่างบางเบา บนร่างนางมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์จางๆ ทำให้คนที่ได้กลิ่นดื่มดํ่ามัวเมา แต่กลิ่นอายเช่นนี้ของนางก็มีเพียงเขาที่ได้กลิ่น ดังนั้นไม่ว่านางจะแปลงโฉมเป็นผู้ใดเขาล้วนหาตัวนางพบอย่างแม่นยำ…

นึกถึงยามนั้นที่สาวน้อยใช้สารพัดวิธีเพื่อหลบหนีเขา ใช้กลอุบายต่างๆ นานา อยู่ตลอด แต่ก็สลัดเขาไม่พ้น ยามนั้นสาวน้อยแทบจะคลั่งแล้ว แต่ยิ่งคลั่งเขากลับยิ่งสนุก ตอนนั้นเขาแค่เห็นนางเป็นสิ่งสร้างความบันเทิงให้ตนเท่านั้น ถึงขั้นเห็นเป็นหมากตัวหนึ่ง ไม่ทราบว่าเขานำหัวใจทั้งดวงไปผูกไว้ที่นางตั้งแต่ยามไหน พอเขารู้สึกตัวอีกทีก็สายเกินกว่าจะถอนตัวแล้ว…

หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิตระหว่างเขาและนาง?

บางทีนี่อาจเป็นสวรรค์จัดสรรให้โดยเฉพาะ?

ทำให้เขาชอบนาง ให้ปกป้องคุ้มครองนาง…

ขณะที่เขาอยู่ในภวังค์ความคิด ทันใดนั้นกู้ซีจิ่วที่อยู่ข้างกายก็ชี้ไปที่ดาวดวงหนึ่งบนฟ้า “ดาวดวงนั้นใช่ข้าหรือเปล่า?”

ตี้ฝูอีมองตามนิ้วมือนาง หัวใจพลันเต้นแรง ดาวที่นางชี้คือดาวราชาดวงใหม่!

นางหาพบจริงๆ…

กล่าวกันตามเหตุผลแล้วด้วยพลังยุทธ์ของนางในยามนี้ไม่น่าจะหาดาวดวงนี้พบ สาวน้อยผู้นี้ทำให้เขาประหลาดใจได้เสมอ!

“เพราะอะไรถึงคิดว่าดาวดวงนั้นคือเจ้าล่ะ?” ตี้ฝูอีถามเรียบๆ

“ลางสังหรณ์” กู้ซีจิ่วตอบสั้นๆ

ลางสังหรณ์นี้ช่างแม่นยำโดยแท้!

ตี้ฝูอียิ้มแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรอีก นี่เกี่ยวข้องกับลิขิตฟ้า ลิขิตฟ้าไม่อาจเปิดเผย และมิอาจกล่าวลอยๆ ได้ ถ้าเผยออกมาเกรงว่าจะชักนำเภทภัยมาสู่ตัวนางได้…

อันที่จริงกู้ซีจิ่วก็บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร เธอแค่รู้สึกสนิทสนมกับดาวดวงนั้นเป็นพิเศษ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version