Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 718

ตอนที่ 718 ขบวนพ่อค้าบนทุ่งหญ้านอกด่าน

ขบวนพ่อค้ามายังทุ่งหญ้านอกด่านมักจะรวมตัวกันมา ขบวนค้าของเจ้ากระสอบอ้วนก็มาพร้อมกับขบวนพ่อค้าอื่น เจ้ากระสอบอ้วนนำรถใหญ่มา 20 กว่าคัน รถของคนอื่นก็อีกราวสิบคันบ้าง สามคันบ้าง

ขบวนค้าเจ้ากระสอบอ้วนมีชายฉกรรจ์คุมรถอยู่ราวคันละสามคน พกดาบและทวนยาว และยังมีปืนไฟอีกสี่กระบอก เสบียงอาหารและอาวุธถึงกับใช้รถใหญ่สองคันบรรทุกมา

กองอารักขาเกือบร้อย ครึ่งหนึ่งขี่ม้า มีคนสั่งการ กองคาราวานเช่นนี้ไม่ธรรมดา ตอนออกนอกด่าน ขบวนพ่อค้าสองสามกลุ่มที่รอสมทบก็ตามกันออกมา ตกลงกันแล้วว่าหากพ้นเขาเขียวนี้ไปถึงเมืองกุยฮว่าเฉิง รถหนึ่งคันก็จะมอบให้เจ้ากระสอบอ้วนห้าตำลึง

เจ้ากระสอบอ้วนมานำขบวนพ่อค้าชาวฮั่นบนทุ่งหญ้านอกด่านเป็นเรื่องปกติ ขบวนพ่อค้าที่ตามมาก็แค่รถ 20 คัน ล้วนบรรทุกสินค้าทั่วไป ไปครั้งหนึ่งได้ร้อยตำลึง อย่างน้อยกลับมาก็มีเงินกินอยู่ไปอีกสักพัก ประหยัดเงินแล้วยังได้เงินมาเพิ่ม คนมาเพิ่มก็ดูแลกันได้ มีอันใดไม่ยินดี

พอออกนอกด่านมา ขบวนค้าเจ้ากระสอบอ้วนก็มีแค่คนพกดาบพัวเตาไว้ป้องกันตัว ทหารชายแดนจึงไม่ได้ตรวจสอบอันใด พอพ้นด่านมา ก็ค่อยคว้าเอาธนู ทวนยาวและปืนไฟออกมา พวกขบวนพ่อค้าอื่นที่ตามมาด้วยล้วนสีหน้าซีดเผือด พวกเขาก็มีกองคุ้มกัน แต่ก็แค่สิบกว่าคนเท่านั้น หากเจ้ากระสอบอ้วนคิดการไม่ซื่อบนทุ่งหญ้านอกด่าน ทุกคนคงไม่อาจได้กลับบ้านแล้ว

เดินทางไปใจก็หวาดระแวงเต้นแรงไปจนถึงค่ำ ก็เห็นขบวนค้าเจ้ากระสอบอ้วนเอาแต่ใส่ใจขบวนสินค้าตนเอง ไม่สนใจของคนอื่น ทุกคนจึงได้วางใจ

ที่จริงแล้วจากด่านเมืองต้าถงออกไปเมืองกุยฮว่าเฉิง เส้นทางนี้ทุ่งหญ้าไม่ได้ขึ้นเต็มทุ่ง ไม่เห็นควันไฟหุงต้มจากครัวเรือนสักเท่าไร ไม่ต่างจากสถานีพักม้าบนเส้นทางของแผ่นดินหมิง ราวการเดินทางหนึ่งวัน ก็จะมีเผ่ามองโกลเล็กๆ ตั้งอยู่ เผ่าเล็กๆ พวกนี้ก็มีคนราว 100 หรือ 200-300 คน อาศัยทำการค้าเล็กน้อยกับบรรดาพ่อค้าขึ้นเหนือล่องใต้พวกนี้ยังชีพ

ตกค่ำทั้งหมดก็ตั้งกระโจมพัก พวกพ่อค้าที่มากับเจ้ากระสอบอ้วน มีพ่อค้าคนหนึ่งที่มีรถมาสิบคันหารือกับคนอื่นๆ ทุกคนหารือกันแล้วก็ให้ไปซื้อหาแพะสองตัวจากเผ่าเล็กๆ ใกล้ๆ ให้จัดการฆ่ามาให้เรียบร้อย ว่าจะเอาแพะมาย่างไฟ แล้วก็ตุ๋นซุป เรียกให้คนเจ้ากระสอบอ้วนมากินด้วยกัน

เดินทางมาวันหนึ่ง ตอนกลางวันต้องกินอาหารแห้งและแข็งกระด้างประทังหิว พอได้กลิ่นเนื้อ เจ้ากระสอบอ้วนกับลูกน้องก็อดไม่ได้ ทำทีปฏิเสธเกรงใจสักพักก็นั่งลง

เจ้ากระสอบอ้วนไม่ขี้เหนียว ให้ลูกน้องยกไหสุราเฝินเหอลงมาไหหนึ่ง พร้อมเครื่องเทศส่งให้ สุราไหนั้นเป็นสุราชั้นดี พอทาเครื่องเทศบนตัวแพะย่าง บางส่วนโยนลงหม้อต้ม กลิ่นหอมนำพาคนเผ่าเล็กละแวกนั้นโผล่มาด้วย แพะยังย่างไม่เสร็จ หัวหน้าเผ่าเล็กนั่นก็นำสุรานมม้าถุงหนึ่งมาต้อนรับแขก

เจตนาเขานั้น เจ้ากระสอบอ้วนเข้าใจดี จึงยิ้มกล่าวว่า

“เพื่อนเอ๋ย สุรานมม้ากลิ่นฉุนของเจ้าใครอยากลิ้มลองกัน เจ้าอยากดื่มสุราเฝินเหอร้อนของข้าล่ะสิ คนมากมายก็ต้องการดื่ม เจ้าดื่มได้แค่ชามเดียวนะ ไม่มีมากกว่านี้”

คนผู้นั้นยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยเข้ามารับไปชามหนึ่ง จิบไปสองคำ หรี่ตาอยู่นานกว่าจะลืมขึ้น ท่าทางพึงพอใจ จากนั้นก็กล่าววาจาตามมารยามก่อนจะกลับไป

มีสุรามีเนื้อ ทุกคนแม้ไม่คุ้นเคยแต่พอสุราแรงลงท้องไป ก็เริ่มคุ้นเคยสนิทสนมกันขึ้นมาทันที หัวหน้าขบวนพ่อค้าต่างพูดจากันคนละคำสองคำ ต่างก็พากันเยินยอเจ้ากระสอบอ้วน สุราเฝินเหอร้อนนี้เมื่อลงคอได้ฉายาว่า ‘เข้าปากหวานล้ำ ลื่นลงคอราวไหม ไหลลงท้องราวไฟ’ ก็คือสุราแรง ดื่มมากไปแล้ว เจ้ากระสอบอ้วนก็เริ่มพูดมาก

“อย่าได้เห็นว่าเจ้ามองโกลนั่นขี้เกรงใจไป เพราะมากับข้าหรอกนะ รถสี่คันของพวกเจ้าหากมากันเอง ตกดึกสังหารพวกเจ้าทิ้ง โยนศพไว้นอกเมืองสามลี้ให้สุนัขกัดแทะ รถกับสินค้าเอาไปขายที่เมืองกุยฮว่าเฉิง แม้แต่ฟ้องร้องเจ้ายังไม่มีโอกาสเลย”

“ไม่เช่นนั้นเราจะมารบกวนนายท่านหรือ การค้าเล็กๆ ขายผ้าแพรกับผ้าดิบจากเจ๋อโจวเท่านั้น จ้างคนมาคุ้มครองไม่ไหวหรอก!”

เจ้ากระสอบอ้วนหยิบดาบสั้นพกติดตัวออกมาตัดเนื้อแพะ ก่อนจะจิ้มน้ำจิ้มตรงหน้า ส่งเข้าปากจากนั้นก็ดื่มสุราตาม กล่าวอย่างไม่ยี่หระว่า

“ผ้าซานซีเราขายที่ไหนไม่ได้ราคา ตอนนี้มาขายเมืองกุยฮว่าเฉิงก็ไม่ได้แล้ว คนชั้นสูงที่นั่นชื่นชอบผ้าจากทางใต้มากกว่า”

“พวกท่านรู้เรื่องพวกนี้ด้วยหรือ!?”

“น้องชายท่านนี้ดูท่าไม่เคยไปมาก่อน คนเมืองกุยฮว่าเฉิงทางนั้นไม่ได้รวยน้อยกว่าคนเมืองต้าถงเราเลย พิถีพิถันมาก เรื่องการกินเรื่องเสื้อผ้าล้วนกล้าใช้จ่าย พวกเขามีเงินด้วยนะ!”

ถามตอบกันไปมา เจ้ากระสอบอ้วนเริ่มมีน้ำเสียงอ้อแอ้ ยิ้มกล่าวว่า

“พวกเจ้ารู้ไหมว่าข้าไปส่งสินค้าอันใด? ผ้าไหมซูโจวหังโจวเลยนะ เครื่องเทศตะวันตก ยังมีเครื่องประดับจากเมืองหลวงและเทียนจิน เอาไปขายที่นั่นได้เงินมากมายมหาศาลเชียวนะ!”

ทุกคนพากันเยินยอ กล่าวว่า

“สินค้าพวกนี้คงมีแต่นายท่านเท่านั้นที่จะเอาไปขายได้ พวกเราการค้าเล็กๆ จะทำการค้าเช่นนี้ไหวที่ไหนกัน”

ยกยอกันจนพองโต อย่างไรก็ต้องเปิดอีกไห ทุกคนรู้กระจ่างใจดี สุราแรงนี้ทำเงินได้มากหากมาถึงนอกด่าน เจ้ากระสอบอ้วนก็ช่างใจกว้างจริง

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็เดินทางตามปกติ เจ้ากระสอบอ้วนดื่มสุราคอไม่แข็งท่าไร พอเช้ามาก็กุมศีรษะรู้สึกไม่สบาย แต่ขบวนการค้าก็ต้องเดินทางต่อ พอออกจากเผ่านั้นมาได้ราวครึ่งชั่วยาม ก็เห็นช่องเขาทางเหนือ ผ่านช่องเขานี้ไป ก็คือเมืองกุยฮว่าเฉิง แต่ต้องเดินทางผ่านเขาอีกสองวัน

เจ้ากระสอบอ้วนนอนอยู่ในรถกำลังกรนคร่อกฟี้ฝันหวาน พวกคุ้มกันขี่ม้าเข้ามา ถามเสียงเยียบเย็นว่า

“เจ้าอ้วน เจ้าดื่มมากไปเมาแล้วอย่าก่อเรื่องล่ะ เห็นแก่เป็นพี่น้องกันมาหลายปีขอเตือนเจ้าก่อน หากเกิดเรื่องขึ้น การค้าพังขึ้นมา ข้าไม่ไว้เจ้าแน่”

เจ้ากระสอบอ้วนขยี้ท้ายทอย กล่าวไม่พอใจว่า

“ยังต้องให้เจ้ามาสอนหรือไง การค้านี้ข้าทำมาหลายครั้งแล้ว จะไม่รู้หนักเบาได้อย่างไร เมื่อวานก็แค่พูดเรื่องเครื่องเทศและผ้าแพรพรรณเอง ด่านเมืองเซวียนฝู่มณฑลซานซีไม่รู้เรื่องนี้หรอก เรื่องอื่นไม่ได้พูดไป พวกที่ตามเรามาพวกนั้นก็ไม่ได้ดูแปลกอันใดนี่?”

“ไม่แปลกตรงไหน เมื่อคืนพวกเขาจัดเวรยามได้แน่นหนา น่าจะเป็นพวกทำการค้า”

“จะมีใครก่อเรื่องกลางทางหรือไง?”

“ไม่น่ามีอันใด มีผู้คุ้มกันมากับรถสินค้าด้วย ดูแล้วก็มีฝีมือ หากคนเราตายไปก็คงไม่จบเรื่องง่ายๆ ครั้งนี้ก็แล้วไปละกัน”

สองคนโต้ตอบ เจ้ากระสอบอ้วนกลับนอนกรนคร่อกอยู่บนรถต่อ

ด้านหลังกองคาราวาน รถขบวนพ่อค้าเล็กมีของมามาก ม้าธรรมดา ดังนั้นจึงเดินรั้งท้าย ก็เป็นเรื่องปกติของขบวนพ่อค้าเล็ก เมื่อคืนดื่มกินด้วยกัน ทุกคนเริ่มคุ้นเคย ยอมแซวกันเล่น มีหนุ่มคนหนึ่งหยิบกระจกทองแดงออกมาเล่น มีคนล้อว่า

“ทุ่งหญ้านอกด่านไม่มีแม้แต่น้ำล้างหน้า ชายชาตรีอย่างเจ้าจะส่องกระจกทำไมกัน?”

“เจ้าจะไปรู้อันใด กระจกนี้ไปขายเมืองกุยฮว่าเฉิงได้อย่างน้อยสามตำลึง ซื้อปิ่นปักผมกลับไปฝากนังเมียได้เลย พวกเจ้าไปก่อน ข้าหาทีปลดทุกข์ก่อน!!”

“ระวังหน่อย อย่าถูกจิ้งจอกคาบไปกิน ซื้อปิ่นปักผมไปก็ไม่มีประโยชน์!!”

ทุกคนพากันหัวเราะดังลั่น ชายหนุ่มผู้นั้นหัวเราะด่าตาม ไปรั้งท้ายขบวน เดินเลาะทุ่งหญ้าออกไป ค่อยๆ ปลดกางเกงออกอย่างไม่รีบร้อน เงยหน้ามองไปทางแสงตะวัน ยกกระจกทองแดงส่องกระทบแสง สะท้อนแสงวิบวับไปสองสามที จากนั้นก็เก็บเข้าอกเสื้อ รีบตามขบวนไป

ดื่มน้ำไปมาก ดื่มซุปแพะไปมาก วันนี้ปลดทุกข์บ่อยก็ไม่แปลก ชายหนุ่มเดินทางมาได้ระยะหนึ่งก็ออกไป ‘ปลด’ ทีหนึ่ง ทำเอาทุกคนหัวเราะล้อเลียนกันยกใหญ่

เดินผ่านแหล่งน้ำบนเขา ก็คิดตั้งกระโจมพัก ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ใบหญ้าแห้ง ไม่ขาดเชื้อเพลิง แต่ไม่ได้มีเนื้อแพะให้อร่อยเหมือนเมื่อวาน ทุกคนได้แต่ควักเอาอาหารแห้งออกมากินตามด้วยน้ำในแม่น้ำ จากนั้นต้มน้ำ กินอาหารแห้งกับผักดอง เตรียมเข้านอน

แม่น้ำในหุบเขาไหลนิ่ง ต้นไม้นับว่ายังโตสูงใหญ่ ไม่รู้ได้ยินเสียงนกและสัตว์ป่าร้องคำรามมาจากทางไหน ทำให้ผู้ที่มาครั้งแรกรู้สึกไม่สบายใจนัก

“วันนี้ไม่บังเอิญเลย หากเราได้พบขบวนพ่อค้าจากเมืองกุยฮว่าเฉิง พวกเขามักจะมีแพะมาด้วยฝูงหนึ่ง พวกเราก็จะได้กินเนื้อกันแล้ว……อย่าชะเง้อมองไป เขานี้ว่ากันว่ามีหมี สัตว์ป่ากลัวไฟ ไม่กล้าเข้าใกล้เรา เจ้านอนไปเถอะ!!”

ความรู้สึกตื่นเต้นที่เพิ่งมาถึงทุ่งหญ้านอกด่านหายไปสิ้น เดินทางมาทั้งวัน ทุกคนเริ่มเหนื่อยเมื่อยล้า พักผ่อนเช้าหน่อยก็ดี พวกเจ้ากระสอบอ้วนยังคงทำหน้าที่ แบ่งเวรกันเฝ้า

รถล้อมรอบ ตรงกลางมีกองไฟกองหนึ่ง ทุกคนอยู่ใกล้กับกองไฟ ผิงไฟไปก็เฝ้าเวรยามไป ฤดูใบไม้ร่วงบนเขา อากาศหนาวสะท้านไม่เบา ยังไงก็ต้องมีกองไฟ

ผ่านไปสองวันหนึ่งคืน คนของเจ้ากระสอบอ้วนกับขบวนพ่อค้าที่มาด้วยกันก็เลิกระแวงกัน ไม่ค่อยได้สนใจกันและกันอีก

คนคุ้มกันที่มีปืนไฟก็อยู่วงใน ปืนไฟยิงได้ทะลุเกราะในระยะ 60 ก้าว ร้อยก้าวสังหารคนได้ เป็นอาวุธร้ายแรง แต่การใช้นั้นมีขั้นตอนยุ่งยาก พวกที่ใช้ปืนไฟได้ก็เป็นพวกที่มีระดับสูงกว่า ตกค่ำก็เพียงแค่มาล้อมอยู่ในตัวรถก็พอ ไม่ต้องออกไปเฝ้าเวรยาม

มีไฟให้ผิง แม้ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าเข้านอนอย่างดี แต่อย่างไรพวกคุ้มกันก็เป็นคนฝึกยุทธ์มา ความตื่นตัวก็ย่อมมากกว่าคนธรรมดา ได้ยินเสียงกระทบหู ปฏิกิริยาแรกก็คืองู แม้ว่ายามนี้ทุ่งหญ้านอกด่านไม่ควรมีงู ท่ามกลางสติที่ยังไม่เต็มที่ก็คิดได้ทันที ลืมตาผึงขึ้น

พอลืมตาขึ้นก็รู้สึกว่ามีมือใหญ่กดไว้แน่น กำลังคิดดิ้น ก็รู้สึกว่าคอถูกวัตถุเย็นจี้อยู่ ตัวแข็งค้างทันที มองไปยังพวกเดียวกันที่พกปืนไฟ ทางนั้นก็ถูกจับแล้ว

มีคนอุ้มตัวคนถือปืนไฟสี่คนออกไป ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังขึ้น ได้ยินชัดเจนว่าเป็นเสียงปืนไฟดัง

ไม่รู้ว่าถูกเสียงปืนดังทำให้ตกใจหรือไร ได้ยินเสียงนกกระพือปีกบินอย่างตกใจ คนทั้งคาราวานพากันตกใจ ได้ยินเสียงคนคุ้มกันรอบนอกตะโกนดังขึ้นว่า

“บนเขามีคน บนเขามีคนลงมาแล้ว!!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!