Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 166

№ 166 ปรี่แย่งเป็นคนแรก!

เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ท่านปู่ ท่านดูสิ” เธอหยิบยาออกมาสามขวดวางไว้บนโต๊ะ

“นี่คืออะไรรึ?” ท่านผู้เฒ่าหยิบขึ้นมาดมๆ แค่รู้ว่าเป็นยา กลับไม่รู้ว่ามีสรรพคุณอะไร

“นี่เป็นยาบำรุงประสาทที่หลานปรุงให้ท่านปู่เจ้าค่ะ ขอแค่ทานไปช่วงหนึ่ง โรคความจำเสื่อมของท่านปู่ก็จะดีขึ้นเจ้าค่ะ”

“นี่ นี่ยังดีขึ้นได้รึ?” ท่านผู้เฒ่ามองนางอย่างตกตะลึงไปบ้าง

“อืม อาการท่านปู่ไม่ได้ร้ายแรงมาก ทานพวกนี้หมด ก็พอได้แล้ว” เธอยิ้มๆ หลังจากกำชับเรื่องบางอย่างกับเขา นั่งไปอีกสักพักถึงจะกลับเรือนไป

วันรุ่งขึ้นตอนที่ฟ้ายังไม่สว่าง เฟิ่งจิ่วก็พาเหลิ่งซวงออกไปเงียบๆ ไปยังตลาดมืด…

และเมื่อถึงเช้าตรู่ ขณะที่องครักษ์ทั้งแปดมาหาเฟิ่งจิ่วในเรือน ก็หาคนของนางไม่เจอแล้ว พวกเขาที่เดิมทีนึกว่าแค่ออกไปข้างนอกจึงไม่คิดอะไรมาก ใครจะรู้ ว่าที่พลาดครั้งนี้ต้องรอนานอีกหลายเดือน

เมื่อเรือบินลำหรูหราลอยมาเหนือน่านฟ้าเมืองอวิ๋นเยวี่ย แทบทั้งเมืองต่างก็อึกทึกครึกโครม แม้แต่เจ้าแคว้นมู่หรงป๋อในพระราชวัง ยังรีบส่งคนไปสอบถาม ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ต้องรู้ไว้ ว่าแม้แต่แคว้นแสงสุริยันของพวกเขาก็ไม่อาจมีเรือบินสักลำ และแคว้นที่มีได้ อย่างน้อยต้องเป็นแคว้นระดับหกขึ้นไป หรือเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งถึงจะครอบครองพาหนะบินเช่นนั้นได้

หลังจากได้ยินข่าวคราว ทหารอารักขาพระราชวังก็ลนลานมารายงาน “เรียนท่านเจ้าแคว้น เรือบินลำนั้นหยุดอยู่หน้าประตูตลาดมืด บอกกันว่ามารับภูตหมอออกไปขอรับ”

“รับภูตหมอรึ?”

มู่หรงป๋อตกใจ ตัวลุกยืนขึ้นมา ก้าวยาวเดินออกไปทันใด ขณะเดียวกันก็ตะโกนว่า “รีบไปเตรียมม้าซะ!” เขายังไม่ทันได้ขอยาจากภูตหมอ จะยอมให้เขาไปได้อย่างไรเล่า? ยิ่งไปกว่านั้น เขาไปครั้งนี้ จะมาอีกเมื่อไหร่?

หลังมู่หรงอี้เซวียนรู้ข่าว ก็ตื่นตระหนก ‘ภูตหมอ? ชายหนุ่มชุดแดงที่เปิดเผยชั่วร้ายในคืนนั้นรึ?’ ทันใดนั้น เขาพลันคืนสติก้าวยาวออกไป

เขาต้องไปขอยา! ไปขอพวกยาทิพย์จิตวิญญาณที่รักษาบาดแผลบนใบหน้าได้กับเขา!

จวนตระกูลเฟิ่ง

เฟิ่งเซียวออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน คนรับใช้เห็นจึงรีบออกหน้าขวางไว้พลางถาม “ท่านผู้นำตระกูล ร่างกายท่านยังไม่คล่องแคล่วดี! นี่จะไปไหนรึขอรับ?”

“หรือว่าเจ้าไม่เห็นเรือบินเมื่อครู่รึ? บอกกันว่ามันส่งมารับภูตหมอ ข้าต้องรีบเข้าไปที่ตลาดมืด ก่อนที่เขาจะจากไป ต้องขอพวกยาทิพย์จิตวิญญาณที่รักษาแผลเป็นได้จากเขามาให้ชิงเกอ!”

เขาผลักคนใช้เดินออกไป แล้วกำชับโดยไม่หันหน้ากลับมา “หากท่านผู้เฒ่าถาม เจ้าก็บอกว่าข้าจะรีบกลับมา”

“ท่านผู้นำ! ท่านผู้นำตระกูล! เฮ้ พวกเจ้า รีบตามท่านผู้นำตระกูลไปหน่อย ข้าจะไปแจ้งท่านผู้เฒ่า!” คนรับใช้รีบร้อนเรียกทหารอารักขาให้ตามไป ส่วนตัวเองก็เร่งฝีเท้าวิ่งไปเรือนหลัง

“อะไรนะ? เขาวิ่งไปขอยากับภูตหมอรึ?” ท่านผู้เฒ่าเบิกดวงตากว้าง สีหน้าตกตะลึง

“ขอรับ! ร่างกายท่านผู้นำยังไม่คล่องแคล่วดีเลย! วิ่งออกไปแบบนี้ กระผมก็รั้งเขาไว้ไม่อยู่” คนรับใช้บอกอย่างกังวลใจ

“เร็ว ไปพาเขากลับมาให้ข้า!” ท่านผู้เฒ่าตะโกน กลับคิดว่าให้พวกเขาไปเดาว่าคงเรียกกลับมาไม่ได้ ดังนั้น ตัวเองจึงสาวก้าวเดินออกไป “ไปเตรียมรถ เร็วหน่อย!”

เมื่อแต่ละคนต่างรีบไปตลาดมืด ที่ห้องส่วนตัวในตลาดมืด มีสองสามคนกำลังนั่งอยู่ พินิจมองกันและกัน

“นึกไม่ถึงว่าภูตหมอจะเป็นคุณชายอายุน้อยที่สง่างามหาที่เปรียบไม่ได้เช่นนี้ เรียกว่าได้ยินชื่อเสียงไม่สู้ได้พบหน้าจริงๆ”

ชายวัยกลางคนที่มารับคนกล่าวด้วยเสียงทุ้มเข้ม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมองเฟิ่งจิ่วที่เอนตัวอยู่ คาดไม่ถึงเล็กน้อยกับความโดดเด่นของคนตรงหน้า

……………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version