Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 448

№ 448 เบาะแสท่านปู่

ฟังนางอธิบาย กวนสีหลิ่นก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ สำหรับคาถาของผู้ฝึกวิชาเซียนอะไรนั่นเขาไม่เข้าใจเท่าไหร่จริงๆ พูดไปก็รู้แค่บางส่วนในความพร่ามัว ดังนั้นจึงมองไปที่ภาพนั้นแล้วถามว่า “งั้นความหมายแฝงที่เจ้าว่าคืออะไร? ภาพสาวงามนี้แม้รูปแบบการวาดจะแปลกไปหน่อย ดูแล้วก็ไม่มีความหมายอะไรนี่!”

“อืม หากเป็นนกชนิดอื่นยังดี แต่ในภาพกลับเป็นหงส์ตัวนี้ ท่านไม่ลองคิดดูเล่า ตระกูลเฟิ่งเราเป็นแซ่เฟิ่งพอดี ข้าเดาว่า แน่นอนว่าเป็นเพียงการคาดเดานะ หงส์ตัวนี้ที่ตีปีกจะบินคงหมายถึงใครคนหนึ่งในตระกูลเฟิ่งเรา” แววตาเธอยิ้มแย้ม มีความสงสัยอยากรู้อยากเห็นบางส่วนรางๆ

หากจริงอย่างที่นางคิด งั้นเรื่องท่านปู่โดนจับตัวไปเดาว่าคงน่าสนใจยิ่ง แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดา รายละเอียดเป็นยังไง รอถึงเวลานั้นจริงๆ เมื่อตรวจสอบชัดเจนถึงจะรู้ได้

ฟังนางพูดครึ่งหนึ่งไม่พูดอีกครึ่ง กวนสีหลิ่นก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร “เจ้าพูดเสียตั้งนานข้ายังไม่เข้าใจ ท่านปู่โดนใครจับตัวไปกันแน่?”

“ข้าเดาว่าคงไม่มีทางไม่เกี่ยวข้องกับนาง” นิ้วมือนางชี้ลงไปยังตราประทับตรงมุมด้านล่าง

“แคว้นมหาสันติ ซู่ซี?” อ่านถึงสองคำนี้กวนสีหลิ่นก็ผงะไป “มีแค่ชื่อนี้จะหมายถึงอะไรได้?”

ได้ยินเช่นนี้เฟิ่งจิ่วจึงมองเขาตาเขม็ง “ข้าว่าสมองพี่คงคิดกลับไปกลับมาไม่เป็นเสียแล้ว! ทำไมท่านปู่ถึงแขวนภาพสาวงามนี้ไว้ในห้อง? ทำไมบนภาพสาวงามถึงมีหงส์? ในภาพนี้นอกจากตราประทับวิญญาณ ยังมีตัวอักษรเล็กๆ จารึกไว้ตรงตราประทับว่าแคว้นมหาสันติ ซู่ซีหนำซ้ำแผ่นหยกที่หล่นอยู่ก็ชี้ชัดไปที่แคว้นมหาสันติ แคว้นรุ่งเรืองระดับสาม ข้อมูลมากมายเพียงนี้นำมารวมกันยังคิดไม่ออกอีกหรือ?”

“เช่นนั้นตอนนี้ท่านปู่อยู่ในแคว้นมหาสันติ หนึ่งในแคว้นรุ่งเรืองระดับสาม? และผู้หญิงที่ชื่อซู่ซีก็ส่งคนมาจับตัวไป? เป็นไปไม่ได้กระมัง?” ผู้หญิงจะจับคนไปปกติก็ควรจับคนที่อายุน้อยหน่อย แต่ไม่นึกว่าจะจับตัวผู้เฒ่าไป คิดยังไงก็แปลกๆ?

เฟิ่งจิ่วเก็บม้วนภาพ บอกอย่างยิ้มแย้มว่า “ดังนั้นข้าจึงไม่กังวลว่าท่านปู่จะมีอันตรายถึงชีวิต ข้าเคยบอกเรื่องนี้กับท่านพ่อแล้ว ว่าไม่ต้องเป็นห่วงท่านปู่หรอก รอจัดการเรื่องที่นี่เสร็จ ค่อยหาโอกาสไปดูที่นั่นเสียหน่อย”

“ในเมื่อรู้ว่าท่านปู่จะไม่มีอันตรายก็วางใจได้ แต่เจ้าตำหนักยมราชที่พักอยู่ที่นี่ตอนนี้ล่ะจะทำยังไง? ดูแล้วท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรนัก เขาคิดจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน? คงไม่พาเจ้าไปด้วยหรอกนะ?” กวนสีหลิ่นท่าทางแปลกๆ นึกถึงเจ้าตำหนักที่สวมชุดคลุมสีดำน่าเกรงขามไร้คนเทียบก็ผวาอยู่บ้าง

แรงกดดันจากคนคนนั้นแข็งแกร่งเกินไป แค่มองไกลๆ แวบเดียวยังรู้สึกได้ถึงความน่ากลัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่เห็นเขาสังหารตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณด้วยตาตนเอง

“อืม เจ้าหมอนั่นรับมือยากจริงๆ ข้าขอบอกท่าน ว่าข้ารู้สึกผิดต่อเขานิดหน่อย เพราะข้าก็ขโมยของเขามาไม่น้อย เฮ้อ! ทำเรื่องแย่ๆ ไว้เยอะเกินไป ตอนนี้เจ้ากรรมมาหาใจข้าก็สั่นๆ จะพูดยังไม่กล้าเลย”

สีหน้าเธอหมดหนทาง ในใจยิ่งหวาดกลัว นึกถึงโสมพันปีที่ขโมยมาจากเขา ยังมีของพวกนั้นที่เอามาจากหอสมบัติครั้งนั้นอีก คิดๆ แล้วเธอก็เกรงใจนิดหน่อย

แม้เธอไม่ขาดเงิน แต่ด้วยกำลังทรัพย์ตนจะซื้อของพวกนั้นกลับไม่อาจทำเช่นเขาที่โบกมือให้เธอเลือกหยิบเก็บเข้าห้วงมิติตามใจชอบได้ ตอนนี้ดีแล้ว เอาเปรียบเขามากเกินไป พอเห็นเขาถึงอยากจะหาที่หลบขึ้นมาราวกับหนูเจอแมว

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!