Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 473

№ 473 เตรียมการลงมือ!

เห็นเขามองเงื่อนผีเสื้อในมือ เฟิ่งจิ่วก็สบโอกาสคิดจะหนีไป “เรียบร้อย ข้ายังมีธุระอีก ต้องไปแล้ว”

เจ้าตำหนักยมราชเงยหน้ามองไป กลับเห็นว่าร่างสาวน้อยนางนั้นจากไปแล้วราวสายลม เห็นเช่นนี้เขาจึงแอบส่ายหัว ก่อนจะสาวก้าวเดินหน้าต่อไป

เวลาเดียวกันนี้ ภายในพระราชวัง มู่หรงป๋อที่ร่างกายชราลงทุกวันอารมณ์ยิ่งเดือดดาลขึ้นทุกทีท่ามกลางความตื่นตระหนก เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วันก็สังหารทหารอารักขาไปไม่น้อย ทำเอาคนพวกนั้นที่เดินไปมาต่อหน้าเขาต่างขวัญหนีดีฝ่อและกระวนกระวายยากจะสงบใจ

ไม่อาจหาวิธีรักษาได้ ตามหาเบาะแสภูตหมอไม่พบ และทุกวันเว้นวันร่างกายเขายังแก่ลงไปสิบปี ผ่านไปเพียงสองสามวัน ร่างกายเขาก็เปลี่ยนไปมากแล้ว เกรงว่าหากเฟิ่งจิ่วอยู่ที่นี่ก็จำเขาไม่ได้

“เรียกรวมพลให้หมด! คืนนี้ไปล้อมโจมตีจวนตระกูลเฟิ่ง จู่โจมพวกเขาเสีย! จับเฟิ่งชิงเกอได้ก็จับมา หากจับนางไม่ได้ก็จับเฟิ่งเซียวที่หลับไม่ฟื้นมา! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาตกอยู่ในกำมือข้าแล้วจะไม่ยอมส่งยาแก้ให้!”

เขาร้องสั่งอย่างเกรี้ยวกราด น้ำเสียงทั้งแก่ชราและแหบแห้งปานตาเฒ่าที่จวนจะลงโลง กำลังวังชาทั่วร่างเหือดหายไปแล้ว ประหนึ่งจะสิ้นลมเมื่อไหร่ก็ได้

แต่การส่งเสียงบันดาลโทสะก็ทำให้ร่างกายเขารับไม่ไหวจนไอทันใด เหล่าแม่ทัพและทหารอารักขาชุดดำที่คุกเข่าด้านล่างมองอย่างหวั่นๆ ใจ

คนผู้หนึ่งลังเลสักพัก เอ่ยว่า “ท่านผู้ครองแคว้น เกรงว่าคงไม่เหมาะสม ยามนี้จวนตระกูลเฟิ่งมีผู้แข็งแกร่งคอยพิทักษ์ กลัวว่า…ผัวะ! เคร้ง!”

ยังไม่ทันพูดจบ ถ้วยชาใบหนึ่งก็ปะทะหน้าผากเขา จากนั้นร่วงลงพื้นแตกเป็นเสี่ยง เลือดอุ่นๆ ไหลออกมาจากบริเวณหน้าผากคนผู้นั้น เขาไม่กล้าเช็ด เพียงรีบก้มหน้าลงไม่พูดอะไรอีก

“พูดมา! ลองห้ามดูอีกสิ!”

มู่หรงป๋อจ้องมองทุกคนเบื้องล่างด้วยแววตาดุร้าย “ใครกล้าขัดขวางอีก ข้าจะฆ่ามันก่อน!”

“กระหม่อมจะเร่งไปรวมพลล้อมโจมตีจวนตระกูลเฟิ่งคืนนี้! และจะจับกุมเฟิ่งชิงเกอกับเฟิ่งเซียวกลับมามอบให้ท่านผู้ครองแคว้นจัดการพ่ะย่ะค่ะ!” ด้านล่างมีคนรีบเอ่ยขึ้น ไม่กล้าขัดความตั้งใจเขาอีก

อันที่จริง ทุกคนต่างรู้ว่าจวนตระกูลเฟิ่งยามนี้ไม่อาจแตะต้องได้ แต่ผู้ครองแคว้นมีบัญชาลงมา พวกเขาจะไม่ทำได้อย่างไร? หากไม่ทำตามถึงเวลาไม่ต้องถูกฆ่าตาย เกรงว่าคงโดนเขาฆ่าเสียตรงนี้แล้ว

สำหรับการล้อมโจมตีจวนตระกูลเฟิ่ง ทุกคนเหมือนจะจินตนาการถึงภาพนั้นได้ นั่นคือทั้งกองทัพพินาศสิ้น!

ตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณก็มากพอจะบดขยี้ทั้งแคว้นแสงสุริยันได้แล้ว ยิ่งกว่านั้นผู้แข็งแกร่งที่แค่ดีดนิ้วก็คร่าชีวิตตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณนั่นได้ยังอยู่ในจวนตระกูลเฟิ่ง สั่งพวกเขาไปล้อมโจมตี ถือว่ารนหาที่ตายชัดๆ เลยไม่ใช่หรือ?

ผู้ครองแคว้นทรมานเพราะโรคนั้นจนเสียสติถึงได้คิดเพ้อฝันเช่นนี้ พวกเขาทำไม่ได้ และเข้าใจชัดเจนว่าจุดจบจากการล้อมโจมตีจวนตระกูลเฟิ่งคืออะไร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น…

ความคิดหนึ่งก่อตัวขึ้นในใจพวกเขา แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าพูด ยังคงคุกเข่าอยู่กลางท้องพระโรงด้วยความเคารพ ตั้งใจฟังคำสั่งการและกำชับจากมู่หรงป๋อด้านบน

“พอแล้ว ถอยออกไปให้หมด! คืนนี้ตามไปพร้อมกับข้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่าลำพังแค่จวนตระกูลเฟิ่งกับผู้แข็งแกร่งคนเดียวจะต่อต้านทหารองครักษ์นับพันนับหมื่นของข้าได้!” น้ำเสียงเขาคร่ำเครียด โบกๆ มือส่งสัญญาณให้ทุกคนเบื้องล่างแยกย้ายไป

ผู้คนเบื้องล่างเดิมทีคุกเข่าไม่กล้าขยับเขยื้อน ยามนี้ได้ยินคำพูดเขาต่างก็พากันขานรับด้วยความยำเกรง หลังจากคารวะถึงจะลุกขึ้นถอยไป ออกจากท้องพระโรงมายังด้านนอก แล้วจึงถอนหายใจเบาๆ

พวกเขาหันกลับไปมองท้องพระโรง ต่างแอบทอดถอนใจพร้อมส่ายหน้า และจากไปตามๆ กัน…

……………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!