Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 683

№ 683 จับมือกันเดินไป

ได้ยินเช่นนี้ทุกคนต่างอึ้งไป นักเรียนระดับสวรรค์คนหัวหน้านั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเอ่ยถามว่า “ของล้ำค่าอะไร?”

“อยากขอคำแนะนำจากข้าไม่ใช่หรือ? ไม่มีของล้ำค่าแต่อยากให้ข้าชี้แนะเจ้า?” เฟิ่งจิ่วชายตามองชายคนนั้นด้วยท่าทียียวน น้ำเสียงทั้งหยิ่งผยองและซุกซน “อยากจะสู้กับข้าต้องเตรียมของล้ำค่ามาก่อน มิเช่นนั้นใครจะว่างมาเล่นกับเจ้าเล่า?”

สิ้นเสียง เธอมองทุกคนที่หลังจากได้ยินคำพูดเธอก็มองมาด้วยสายตาโกรธเคือง ยิ้มบอกว่า “พวกเจ้าก็เหมือนกัน อยากสู้กับข้าต้องเตรียมของล้ำค่าดีๆ มา หากข้าแพ้แน่นอนว่าจะไม่รับของล้ำค่าพวกเจ้า แต่หากข้าชนะ แหะๆ พวกเจ้าคงเข้าใจแล้ว”

ขณะมองเหล่านักเรียนแต่ละคนนวดกำปั้นพลังวิญญาณพุ่งพล่าน รอยยิ้มบนใบหน้างดงามก็ถูกเก็บไป ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง กล่าวเตือนพลางยกมุมปากเล็กน้อย “อย่าคิดอยากสู้โดยไม่มีของล้ำค่า หากพวกเจ้ากล้าสู้ข้าจะบอกท่านรองเจ้าสำนัก เชื่อว่าพวกเจ้าก็รู้ว่าท่านรองเจ้าสำนักเป็นผู้สนับสนุนข้า ถ้ากล้าก็มาท้าเลย”

เยี่ยจิงข้างๆ ที่โดนพวกผู้เล่าเรียนหญิงรั้งไว้ได้ยินคำพูดนี้ ก็เผยรอยยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ อ้างรองเจ้าสำนักออกมาเช่นนี้เขามั่นใจจริงๆ หรือว่าหลังจากรู้เรื่องรองเจ้าสำนักจะไม่วิ่งเต้น?

เดิมทีคนในสำนักศึกษาคิดว่าคะแนนคุณงามความดีของเขาได้มาอย่างแปลกๆ ตอนนี้เขาเอ่ยไปเช่นนี้ แต่ละคนต้องคิดว่ารองเจ้าสำนักแอบจัดการแน่ๆ

นักเรียนพวกนั้นแต่ละคนต่างตกตะลึง ไม่นึกว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะกล่าวคำพูดกวนอารมณ์เช่นนี้ออกมา อยากสู้กับเขาต้องนำของล้ำค่ามา? หากนำของล้ำค่ามาไม่ได้เขายังจะไปฟ้องรองเจ้าสำนักอีก?

นะ นี่… จะน่าไม่อายเกินไปแล้ว!

“ว่าอย่างไร? ใจไม่กล้าข้าก็ต้องไปแล้ว” เธอพูดจบก็มองเหล่าผู้เล่าเรียนหญิงที่รั้งเยี่ยจิงไว้ แล้วเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา “พี่สาวคนสวยทั้งหลาย พวกท่านอย่ารั้งสาวงามเยี่ยจิงของข้าไว้เลย!”

ผู้เล่าเรียนหญิงพวกนั้นตกใจ เห็นเด็กหนุ่มมองมาทางพวกนาง นัยน์ตามากเสน่ห์คู่นั้นเผยรอยยิ้ม ราวกับวังวนแสนมัวเมาทำให้พวกนางตาค้างไปทันที

เยี่ยจิงเม้มปากยิ้ม เดินเข้ามาจับมือเฟิ่งจิ่วอย่างเป็นธรรมชาติพลางเอ่ยว่า “ไปเถอะ! ข้าจะพาเจ้าไปดูรอบๆ เสียหน่อย ครั้งหน้าเจ้าจะได้รู้จักสถานที่แห่งนี้”

คนอื่นๆ มองทั้งสองจากไป แต่ละคนมองไปยังนักเรียนระดับสวรรค์คนหัวหน้านั้น เห็นเขาไม่พูดไม่จา พวกเขาจึงเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “รุ่นพี่หลี่ ทำอะไรเขาไม่ได้แล้วหรือ?”

ชายแซ่หลี่คนนั้นจ้องมองเยี่ยจิงจับมือเด็กหนุ่ม กัดฟันกรอด “หึ! นำของล้ำค่ามาเพื่อสู้กับเขา? จะเสียเปรียบเขาเกินไปแล้ว ข้าจะไปหาพวกรุ่นพี่โอวหยาง กล้ามายุ่งกับรุ่นน้องเยี่ยจิงที่รุ่นพี่โอวหยางชอบ เจ้าหนูนี้อยากตายเสียแล้ว!”

ทุกคนได้ยินดวงตาก็เป็นประกาย เขาอยากให้สิบผู้มีพรสวรรค์ของสำนักศึกษาลงมือ? เช่นนี้แม้เป็นรองเจ้าสำนักพวกเขาคงจะไม่พูดอะไรอีกกระมัง?

หากพวกรุ่นพี่โอวหยางลงมือ เจ้าหนูนี่ต้องโดนจัดการอย่างน่าเวทนาเป็นแน่! นึกถึงตรงนี้แต่ละคนก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ส่วนเฟิ่งจิ่วที่ตามเยี่ยจิงออกไปยามนี้ยังก้มหน้ามองมือที่โดนจับไว้ เลิกคิ้วขึ้นทันใด มองไปทางเยี่ยจิงเห็นนางก็มองมาเช่นกัน นัยน์ตายิ้มแย้มและมีประกายที่เธอมองไม่เข้าใจ

ระหว่างทางพบนักเรียนไม่น้อย นางก็ไม่ได้ปล่อยมือที่จับไว้ออก ทำให้เฟิ่งจิ่วแปลกใจไม่สิ้นสุด สาวงามเยี่ยจิงคนนี้ทำไมถึงใจกล้าเพียงนี้? ไม่กลัวคนเข้าใจผิดหรือ?

ในใจนึกสงสัย ขณะกำลังจะเอ่ยถามไปก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังมา

“อาจิง”

หญิงชุดขาวคนหนึ่งยืนมองทั้งสองอยู่ไม่ไกล สายตาหยุดลงบนสองมือของสองคนที่จับกันไว้ แววตาสั่นไหวเล็กน้อย

………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version